Group Blog
 
<<
มีนาคม 2567
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
12 มีนาคม 2567
 
All Blogs
 

ผนึกสวรรค์สยบมารสะท้านเทพ(ภาค1-ภาค5)


(ฉบับอออนไลน์)
Eugen : เขียน
Huichen : แปล

💥เรื่องนี้ให้อดทนอ่านไปจนถึงตอนเมิ่งฮ่าวเข้าไปอยู่เป็นศิษย์ฝ่ายในของสำนักเอกะเทวะถึงจะเริ่มสนุกจริงจัง สำนวนการแปลโอเคอยู่นะ

💥อ่านสู่วิถีอสุรากับหนึ่งความคิดจบ พอมาอ่านเรื่องนี้เข้าใจยากกว่าสองเรื่องที่ว่ามามากเลย มันมีฉากที่อยู่ๆก็โผล่มาแล้วไปฉากอื่นเยอะเหมือนกัน แล้วการเฉลยเนื้อหาบางจุดมันไม่เหมือนการเล่าแบบตรงๆแต่คนอ่านต้องเชื่อมโยงบางเหตุการณ์ที่เคยอ่านมาแล้วถึงจะเข้าใจเนื้อหาในช่วงนั้น

🍂ภาคหนึ่ง : ปรมาจารย์เอกะเทวะ

เมิ่งฮ่าวบัณฑิตสอบตกที่มีเพียงความคิดอยากร่ำรวยจึงจะมีชีวิตที่สุขสบาย เขาถูกคนของสำนักเอกะเทวะจับตัวไปเป็นข้ารับใช้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของชะตาชีวิตที่พลิกผัน จากศิษย์สายนอกธรรมดา ผ่านการเอารัดเอาเปรียบดูถูกเหยียดหยามกระทั่งหมายเอาชีวิต เขาไต่เต้าจากวันคืนเหล่านั้นจนกลายเป็นหนึ่งในสามศิษย์สายในของสำนักเอกะเทวะ หลายเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป เขาต้องการเป็นผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง มีเพียงผู้แข็งแกร่งจึงไม่ถูกเหยียบย่ำ เขาได้รับวาสนากินแกนอสูรมังกรปีกวารีเปิดเส้นทางแห่งเต๋าโดยไม่รู้ตัวทั้งยังได้รับคัมภีร์สุดยอดลมปราณทำให้การฝึกของเขาก้าวหน้าอย่างคาดไม่ถึง (คัมภีร์สุดยอดลมปราณในอดีตมีเจ็ดเล่มปัจจุบันเหลือเพียงสามเล่ม สี่เล่มหายสาบสูญ)

ต่อมาสำนักเอกะเทวะล่มสลาย มันกลายเป็นศิษย์คนเดียวที่ปรมาจารย์เอกะเทวะเลือกเป็นผู้สืบทอดแต่อีกฝ่ายต้องกักตนต่อ ดังนั้นเมิ่งฮ่าวจึงออกเดินทางไปเมืองหลวงของแคว้นจ้าว 

เพราะเมิ่งฮ่าวมีสมบัติวิเศษติดตัวมากเกินไปจึงถูกบรรดาศิษย์ของสำนักต่างๆไล่ล่า จนกระทั่งมันย้อนกลับมาหาปรมาจารย์เอกะเทวะที่ถ้ำเซียน ทำการปล้นปรมาจารย์จนหมดตัว กลายเป็นบุคคลแรกที่เข้าสู่การรวบรวมลมปราณขั้นที่สิบสามในตำนานและได้ครอบครองหยกโบราณที่มีอักษรสำนักผนึกอสูร(เดิมทีที่ตั้งสำนักเอกะเทวะเป็นสำนักผนึกอสูร)บนแผ่นหยกได้บันทึกเต๋าโบราณเอาไว้ ทั้งยังขโมยตะเกียงอสูรที่มีวิญญาณแรกก่อตั้งของร่างจำแลงของเทียนจีซ่างเหรินมาด้วย

เพราะเหตุนี้ร่างจริงของเทียนจีซ่างเหรินจึงตามเอาตะเกียงคืนเพราะเข้าใจว่าปรมาจารย์เอกะเทวะคิดทำลายตะเกียง แต่เขาเจอเมิ่งฮ่าวเสียก่อนจึงคิดสังหารอีกฝ่ายบีบให้ปรมาจารย์เอกะเทวะออกมาจากที่ซ่อน ความตายอยู่ห่างจากเขาเพียงคืบโชคดีที่มีบุคคลปริศนาช่วยเขาเอาไว้จากการโจมตีของเทียนจีซ่างเหริน ตามด้วยการปรากฏกายของปรมาจารย์เอกะเทวะในร่างจริงซึ่งเป็นเต่าดำในตำนาน 

แคว้นจ้าวทั้งแคว้นเป็นเพียงดินแดนที่อยู่บนกระดองของมัน ร่างมนุษย์ของปรมาจารย์เอกะเทวะที่พวกเขาเคยเห็นที่แท้เป็นร่างจำแลง มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในทะเลเทียนเหอ เมื่อมันมาเยือนผืนพิภพมันถูกหลอกลวงครั้งแล้วครั้งเล่ากระทั่งถูกคนของสำนักผนึกอสูรผนึกไว้ จึงแบ่งจิตออกมาเป็นร่างจำแลงทำการกวาดล้างสำนักผนึกอสูร แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักเอกะเทวะ ร่างจำแลงของมันฝึกถึงขั้นตัดวิญญาณ เช่นนั้นร่างจริงของมันจะแข็งแกร่งระดับไหน(ทุกคนในเหตุการณ์อึ้งกิมกี่ไปเลย😂) แต่ที่ร่างจริงของปรมาจารย์เอกะเทวะหลุดจากผนึกมาได้เพราะฝ่ามือขนาดครึ่งแผ่นฟ้าที่เทียนจีซ่างเหรินฟาดลงมาโจมตีเมิ่งฮ่าวนั่นเอง

เทียนจีซ่างเหรินถูกเขมือบภายในคำเดียว(มาอย่างเทพ ตายอย่างเขียดจริงๆ😂) รายต่อไปที่มันคิดจัดการคือเมิ่งฮ่าว แต่เมิ่งฮ่าวอ่านข้อความเต๋าโบราณที่อยู่บนแผ่นหยกสำนักผนึกอสูร  ทำให้เครื่องหมายผนึกอสูรปรากฏบนหน้าผากของเต่ายักษ์ แม้ผนึกถูกทำลายแต่เครื่องหมายกลับประทับในจิตวิญญาณของมัน มันไม่อาจทำลายหน้าที่ผู้คุ้มครองเต๋าแห่งผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้าได้ ซึ่งก็คือเมิ่งฮ่าว(คนของสำนักผนึกอสูรเตรียมการไว้ล่วงหน้าเกี่ยวกับผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้า ต่อให้ต้องแลกกับการถูกล้มล้างสำนักก็ตาม เพราะว่าผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้าตามคำทำนายจะเป็นผู้ท้าทายกฏสวรรค์) เท่ากับเมิ่งฮ่าวเป็นเจ้านายของปรมาจารย์เอกะเทวะ

เต่ายักษ์ไม่ยินยอมอย่างยิ่ง จึงตัดสินใจกลับทะเลเทียนเหอ นับตั้งแต่นี้แคว้นจ้าวได้หายไปจากอาณาเขตหนานซาน ส่วนเมิ่งฮ่าวมุ่งหน้าไปยังแดนใต้


(ร่างแท้ของปรมาจารย์เอกะเทวะ)

🍂ภาคสอง : ตัดแบ่งดินแดนด้านใต้

การเดินทางไปดินแดนด้านใต้ของเมิ่งฮ่าวใช้ระยะเวลาหลายปี ระหว่างทางเขาได้พบร่างจำแลงของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่แปด ได้รับเวทผนึกอสูรรุ่นนี้ ซึ่งแต่เดิมสำนักผนึกอสูร เรียกกันว่าสมาพันธ์ผนึกอสูร แต่ละรุ่นที่สืบทอดเป็นผู้ผนึกอสูรจะต้องสร้างเวทผนึกอสูรของตัวเองขึ้นมามันเหมือนเป็นกฏ เวทผนึกอสูรรุ่นที่แปดนี้สามารถผนึกร่าง,วิญญาณ,เซียน,เทพโชคชะตาจากสวรรค์และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดโลกใบนี้ 

วันหนึ่งเมื่อเขามาถึงดินแดนด้านใต้ ข่าวซากศพแห่งเซียนที่ตกลงมาเหนือท้องฟ้าแดนใต้เมื่อหลายปีก่อนสร้างความสนใจให้เมิ่งฮ่าวเพราะข่าวลือเกี่ยวกับลักษณะของซากศพนั้นเขาเคยเห็นผ่านวังน้ำวนเหนือเจดีย์ถังที่แคว้นจ้าวมาก่อน เขาจึงอยากไปเห็นซากศพแห่งเซียนด้วยตาตัวเอง(อ่านจากภาคก่อนเหมือนเป็นภาพนิมิตที่เมิ่งฮ่าวเห็น ตอนอ่านก็งงอยู่เหมือนกันเพราะไม่มีที่มาที่ไป ทำไมอยู่ๆเมิ่งฮ่าวจึงเห็นภาพเหล่านี้) 

ต่อมาคุนเผิงจากทะเลเทียนเหอหลุดออกมาจากโลงใต้ทะเลเทียนเหอ(ถ้ำนรกดำ??)มันบินมายังแดนใต้ผ่านช่วงเวลาที่เมิ่งฮ่าวกับฉู่อวี้เยียน(ลูกสาวเจ้าสำนักชะตาม่วง,ศิษย์เจ้าโอสถจอมปีศาจ,คู่หมั้นหวังถิงเฟย(คู่แค้นของเมิ่งฮ่าว))ต่อสู้กัน แกนอสูรปีกมังกรวารีในร่างเมิ่งฮ่าวเกิดปฏิริยากับคู่ต่อสู้ทางธรรมชาติ ทำให้คุนเผิงหันเหทิศทางมายังเขา ผลก็คือทั้งสองถูกพายุจากการบินของมันพัดไปตกในส่วนลึกของปล่องภูเขาไฟและไม่สามารถออกมาได้เพราะปากปล่องถูกเวทผนึกเอาไว้ ที่นี่เป็นหนึ่งในเก้าประตูทางเข้าขุมทรัพย์เซียนโลหิตของชนเผ่าโบราณไท่เอ้อ มีเพียงผู้ฝึกตนขั้นพื้นฐานลมปราณเท่านั้นถึงจะผ่านประตูไปได้ หลายหมื่นปีมานี้ประตูขุมทรัพย์เซียนโลหิตเคยเปิดมาแล้วเจ็ดครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่แปด ประตูที่แปดยังไม่เคยมีใครค้นพบที่แท้มันซ่อนอยู่ใต้ปล่องภูเขาไฟนี่เอง

เมื่อประตูขุมทรัพย์เซียนโลหิตทั้งแปดบานเปิดออก การแข่งขันล่าขุมทรัพย์จึงเริ่มต้นขึ้น ผู้เข้าร่วมล่าขุมทรัพย์ต้องผ่านด่านอาคมเก้าด่าน หากผ่านไปได้ก็จะกลายเป็นเซียนโลหิตรุ่นที่สอง ก่อนเข้าด่านผู้ล่าขุมทรัพย์ต้องสละโลหิตเพื่อสร้างโลหิตศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา โลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าวเป็นสุนัขตัวจิ๋วที่เล็กกว่าฝ่ามือเขาเรียกมันว่าอ๋าวเฉี่ยน 

ทางด้านฉู่อวี้เยียน นางถูกเมิ่งฮ่าวบีบบังคับให้หลอมยาเม็ดเจ็ดสายฟ้า จึงได้แต่รออยู่ด้านนอกประตู นางไม่รู้ว่าที่จริงยาเม็ดเจ็ดสายฟ้าเป็นยาที่สามารถทำให้เสาแห่งเต๋ากลายเป็นระดับขั้นพื้นฐานสมบูรณ์ ซึ่งฟ้าดินในโลกนี้ไม่ยอมรับ ดังนั้นจะเกิดทัณฑ์สวรรค์ เขาจะอาศัยสายฟ้าจากทัณฑ์สวรรค์ทำลายเวทอาคมที่ผนึกปล่องภูเขาไฟนี้ไว้ ซึ่งในที่สุดนางก็ปรุงยาพื้นฐานสมบูรณ์สำเร็จ เมื่อเมิ่งฮ่าวกินเข้าไป เสาแห่งเต๋าเขาก็ปราศจากรอยร้าวอีก เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากกินยาพื้นฐานสมบูรณ์ลงไป เซียนโลหิตได้เลือกเขาเป็นผู้สืบทอดขุมทรัพย์ทันที เมื่อเมิ่งฮ่าวได้สืบทอดขุมทรัพย์เซียนโลหิต(มันคือหน้ากากใบหนึ่งกับวัชรโลกันตร์เก้างานศพซึ่งเป็นธงสามแฉกผืนหนึ่ง) ด่านทั้งเก้าก็พังทลายลงและหายไปตลอดกาล เมิ่งฮ่าวออกมาพร้อมอ๋าวเฉี่ยนที่จำศีลและกลายเป็นอาวุธวิญญาณ  

เวทผนึกบนปากปล่องภูเขาไฟสลายไปแล้วเขารีบพาฉู่อวี้เยียนที่สลบจากไปถึงรู้ว่าวัดโบราณไท่เอ้อถึงกลับลอยขึ้นมารับทัณฑ์สวรรค์แทนเขาขณะที่เขาเข้าไปอยู่ในเขตขุมทรัพย์

หลังจากแยกทางกับฉู่อวี้เยียน แม้เขาจะมีพื้นฐานสมบูรณ์ก็จริงแต่เขาไม่สามารถดูดปราณจากโลกใบนี้เข้าสู่ร่างอีกมีเพียงใช้เม็ดยาช่วยยกระดับขั้นเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวคิดถึงศิษย์พี่สวีชิง เขาจึงเดินทางไปยังสำนักชิงหลัวที่รับนางเข้าสำนักหลังสำนักเอกะเทวะล่มสลาย เขาเข้าไปในสำนักชิงหลัวในฐานะกลุ่มผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่เข้าช่วยเหลือสำนักค้นหาสถานที่โบราณแลกกับผลตอบแทนเป็นเม็ดยาหลัวตี้ 

เมิ่งฮ่าวและกลุ่มผู้ฝึกตนเร่ร่อนเข้าไปยังดินแดนสงบสุข เขาได้พบกับศิษย์พี่สวี่ชิง เขารู้ว่าเขารักนาง แม้ต้องจำใจจากอีกครั้ง อนาคตพวกเขามั่นใจว่าต้องพบกันอีกแน่นอน

ต่อมาเมิ่งฮ่าวไปรวมตัวกับกลุ่มกับพวกหานเป้ยที่ตามหาต้นแบบของกาลเวลา  เมิ่งฮ่าวได้ต้นแบบกาลเวลาของตระกูลหานไปส่วนหนึ่ง มีเพียงเขากับหานเป้ยรอดชีวิตก่อนแยกย้ายออกจากจุดนี้

ดินแดนสงบสุขเป็นหลุมพรางที่สำนักชิงหลัวหลอกให้ผู้ฝึกตนเร่ร่อนขั้นพื้นฐานลมปราณมารวมตัวกันเพื่อต้องการเสาแห่งเต๋าในกายของพวกเขาสร้างหอร้อยวิญญาณเพื่อล่อสุดยอดความรำคาญออกมา(ชื่อเนาะ😂) แต่ใครจะคิดว่านอกจากคนของสำนักชิงหลัวจะล้มเหลวกับแผนการจับมัน มันดันเกาะหนึบกับเมิ่งฮ่าวผูกมัดเมิ่งฮ่าวเป็นเจ้านายต่อหน้าต่อตาทุกคนก่อนเครื่องรางนำโชคที่มีเวทเคลื่อนย้ายของปรมาจารย์เอกะเทวะทำงานพาทั้งสองหายไปในพริบตา (สุดยอดความรำคาญพอมันแปลงร่างเป็นหมวก นึกถึงหมวกคัดสรรค์ในเรื่องแฮรี่พอร์ตเตอร์เลยอ่ะ)

จนถึงตอนนี้เมิ่งฮ่าวก็ยังไม่สามารถกำจัดพิษดอกปี่อ้านสามสีที่ถูกเทียนจีซ่างเหรินวางไว้ในร่างขณะอยู่ตำหนักเซียนของปรมาจารย์เอกะเทวะลงได้ หลังจากออกมาจากดินแดนสงบสุขเป้าหมายของเขาตอนนี้อยู่ที่ตระกูลซ่งหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ที่จัดงานเลือกลูกเขยโดยหนึ่งในนั้นมีไข่มุกที่สามารถขจัดพิษแปลกพิสดารต่างๆได้ หากใครชิงไข่มุกลูกนี้ไปได้ก็จะกลายเป็นเขยของตระกูลซ่ง เมิ่งฮ่าวมุ่งหวังว่าไข่มุกเม็ดนี้หากเขาได้มาพิษปี่อ้านในร่างจะถูกขจัดไป  

เขาชิงไข่มุกมาได้ด้วยวิธีการที่ใครคาดไม่ถึง
ในงานนี้ทุกคนต่างรู้แล้วว่าคัมภีร์สุดยอดวิญญาณอยู่กับเขา เมิ่งฮ่าวจึงตกเป็นเป้าหมายไล่ล่าของสำนักและตระกูลในดินแดนด้านใต้

🌼หลังอ่าน🌼
ไม่เข้าใจเมิ่งฮ่าวภาคนี้ตอนเข้าไปยังดินแดนสงบสุขมันกลายเป็นคนย้ำคิดย้ำทำกับเครื่องรางนำโชคของปรมาจารย์เอกะอยู่นั่นละรำคาญจริงๆ

หยกผนึกอสูรกับข้อความในหน้ากากของเซียนโลหิตแต่ละประโยคเข้าใจยากมาก เล่นปริศนาอักษรคำใบ้กันเลย เป็นเรื่องที่อ่านแบบมึนๆงงๆ กับวิชาของพระเอกมากว่า ฝึกยังไง ฝึกตอนไหน แค่อ่านก็ใช้เป็นแล้วไรงี้เหรอ😂 บางช่วงอ่านไปเครื่องหมายคำถามลอยมาตรึมคือไม่เข้าใจอิหยังวะ แต่เนื้อหาโดยรวมสนุกน่าติดตาม ถึงจะอิหยังวะๆๆๆๆๆ ก็ไม่ท้อ😂

ภาคนี้แม่ของเมิ่งฮ่าวปรากฏกายออกมาแล้ว ตกลงเป็นอะไรกันแน่เซียนหรือไม่ใช่เซียน

แล้วก็นะแต่ละสำนักนี่ส่วนลึกที่สุดมันเหมือนจะมีคนตายก็ไม่ใช่คนเป็นก็ไม่เชิง ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่ดูเหมือนว่าแต่ละคนไม่ธรรมดาทั้งนั้น

แล้วก็ก่อนจบภาคนี้ ที่มีเสียงบอกว่าข้ามาเพื่อค้นหาโชคชะตา  เดาว่าเขาคือป๋ายเสี่ยวฉุนหรือเปล่านะ


(วิญญาณโลหิตอ๋าวเฉี่ยน เกิดมาจากโลหิตศักดิ์สิทธิ์ของเมิ่งฮ่าว เมื่อออกมาจากขุมทรัพย์เซียนโลหิตมาสู่โลกภายนอกจะกลายเป็นอาวุธวิญญาณ)

🍂ภาคสาม : ชื่อเสียงของเมิ่งฮ่าวในสำนักชะตาม่วง

เมิ่งฮ่าวใช้ไข่มุกที่ได้มาจากตระกูลซ่งแต่ไม่สามารถกำจัดพิษดอกปี่อ้านสามสีไปได้ เพียงทำลายกลีบดอกไปหนึ่งกลีบ ตอนนี้ในร่างของเมิ่งฮ่าวจึงมีพิษดอกปี่อ้านสองสีคงอยู่ วิธีที่จะกำจัดได้สมบูรณ์ตามความคิดของเมิ่งฮ่าวคือการแฝงตัวไปเป็นศิษย์ของสำนักชะตาม่วงที่เชี่ยวชาญด้านการปรุงโอสถ

สุดยอดความรำคาญได้ช่วยเมิ่งฮ่าวแปลงโฉมเข้าไปยังสำนักชะตาม่วง เขาต้องการหาวิธีกำจัดพิษดอกปี่อ้านน เรียนรู้การปรุงยาและศึษาลมปราณม่วงบูรพา 

เมิ่งฮ่าวใช้นามว่าฟางมู่ ผ่านการทดสอบของสำนักชะตาม่วง  เขาอยู่แผนกเม็ดยาบูรพา ด้วยพรสวรรค์โดนเด่นทำให้เขามีชื่อเสียงในสำนัก ทั้งยังได้ฝึกลมปราณม่วงบูรพา เขาเป็นตัวแทนของสำนักไปเยือนสำนักชิงหลัว จุดประสงค์ที่สำนักชิงหลัวเชิญเขามาเพราะต้องการให้เขาปรุงยากลั่นวิญญาณ(ยาที่ทำให้วิญญาณไร้ร่างครอบครองร่างของคนที่มันแฝงตัวอยู่ได้สมบูรณ์)

สำนักชิงหลัวซ่อนความลับอันน่าพรั่นพรึงเอาไว้ ในส่วนลึกของสำนักมีเหล่าวิญญาณไร้ร่างซึ่งเป็นปรมาจารย์ในอดีตที่ตายไปแล้วไม่ยอมไปผุดไปเกิดเพียงรอครอบครองร่างของเหล่าศิษย์ในสำนักเพื่อกลับมายังโลกใบนี้ เมิ่งฮ่าวรู้ว่าหานเป้ยในร่างมีสามวิญญาน วิญญาณนางเอง,วิญญาณไร้ร่าง,วิญญาณบรรพบุรุษตระกูลหานที่หลุดออกมาจากรูปปั้นตอนที่นางกับพวกเมิ่งฮ่าวเข้าไปยังดินแดนสงบสุข  

ขณะที่สวี่ชิงถูกวิญญานของเฟิ่งจู่ต้าเหริน(พญาหงส์ผู้ยิ่งใหญ่)ครอบครอง เมิ่งฮ่าวใช้ยากลั่นวิญญาณที่มีส่วนผสมของเลือดเขาที่เป็นผู้ผนึกอสูรเพื่อทำให้วิญญาณของสวี่ชิงตื่นขึ้นมากลืนกินวิญญาณไร้ร่างของพญาหงส์  เมื่อนางฟื้นตื่นขึ้นพวกปรมาจารย์จื่อหลัว คิดว่านางเป็นเฟิ่งจู่ต้าเหรินกลับคืนมาสู่โลก มีเพียงสวี่ชิงที่รู้ว่านางยังคงเป็นนาง เพียงแต่พลังฝีมือของนางสูงส่งอย่างยิ่ง เมื่อนางเห็นยาเม็ดคงโฉมที่ฟางต้าซือฝากมาให้นางก่อนเดินทางกลับสำนักชะตาม่วงนางก็รู้ว่าคนที่ช่วยนางเป็นเมิ่งฮ่าว อนาคตพวกเขาจะต้องพบกันอีกแน่นอน 

ระหว่างเดินทางกลับเกิดเหตุไม่คาดคิด เมิ่งฮ่าวต่อสู้กับคนของดินแดนสีดำเขาถูกคนที่สวมหน้ากากสีฟ้าทำร้ายบาดเจ็บสาหัส จึงเสาะหาสถานที่รักษาอาการบาดเจ็บและทะลวงขั้นให้สูงขึ้น  เขาสร้างกระบี่กาลเวลาขึ้นมา ผู้ถูกกระบี่จะถูกลดทอนอายุขัยให้สั้นลง เขาปรากฏกายอีกครั้งในฐานะบุรุษชุดฟ้านิรนาม ตระเวนไปต่อสู้กับคนของตระกูลต่างๆรวมทั้งเต้าจื่อของสำนักต่างๆเพื่อบ่มเพาะให้ระดับขั้นสูงขึ้นไป ต่อมาเขาได้เผชิญหน้ากับคนของดินแดนสีดำอีกครั้ง เขาตัดสินใจเปิดเผยฐานะฟางมู่ก่อนการต่อสู้กับคนจากต่างแดน ระหว่างการต่อสู้ขั้นเป็นตายเขากลับสามารถสร้างเสาแห่งเต๋าต้นที่สิบในตำนานขึ้นมาซึ่งเป็นเวลาที่ธงวัชรโลกันต์เก้าโลงศพที่เขาได้มาจากขุมทรัพย์เซียนโลหิตตื่นขึ้นมาเช่นกัน การต่อสู้ครั้งนี้แม้เมิ่งฮ่างจะชนะแต่วิญญาณของเขาก็ได้รับบาดเจ็บยังไม่สามารถรักษาได้

เมิ่งฮ่าวจำต้องกลับสำนักชะตาม่วงเขาต้องเข้าร่วมการคัดเลือกเทพกระถางม่วงของสำนัก ทว่าเมิ่งฮ่าวไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นเทพกระถางม่วง เขาถูกเจ้าโอสถจอมปีศาจรับเป็นศิษย์ผู้สืบทอดทายาท

เจ้าโอสถจอมปีศาจรู้แต่แรกแล้วว่าเมิ่งฮ่าวถูกพิษดอกปี้อาน เขาปรุงยาที่ใช้ระงับดอกปี้อานให้เมิ่งฮ่าวสามร้อยปี ในสามร้อยปีนี้เมิ่งฮ่าวต้องปรุงยาเพื่อขจัดพิษให้ตัวเอง นอกจากนี้เขายังมอบเปลวไฟอมตะ(คุ้นๆว่าจะเคยอ่านเจอธูปยักษ์ที่ไม่มอดดับจากเรื่องของซูหมิงอยู่นะ)ให้กับเมิ่งฮ่าวกับเวทเรียกวิญญาณ อนาคตเมื่อเมิ่งฮ่าวหลอมเปลวไฟอมตะเข้าจิตใจได้ ก็สามารถใช้ไฟนี้ปรุงยาโดยไม่ต้องใช้ไฟปฐพีอีก ส่วนเวทเรียกวิญญาณหากเมิ่งฮ่าวฝึกสำเร็จก็จะกลายเป็นเจ้าโอสถอีกคนหนึ่ง

สามปีต่อมาซากศพเซียนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าบริเวณใกล้เคียงกับถ้ำกำเนิดใหม่ของดินแดนด้านใต้เมื่อหลายปีก่อนจากที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปใกล้ได้ ปรากฏตัวอักษรเวทบนผิวหนังของมันแล้วสะท้อนขึ้นไปบนท้องฟ้า ตัวอักษรเหล่านั้นกลับมาจากหนึ่งในสามสุดยอดคัมภีร์ในตำนานที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันนั่นคือคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมันปรากฏขึ้นดูเหมือนผนึกบนร่างซากศพขนาดมหึมานั้นหายไป ทุกคนสามารถเข้าไปใกล้มันได้ มรสุมลูกใหม่บนดินแดนด้านใต้กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

ขณะที่เมิ่งฮ่าวมุ่งมั่นกับการสร้างแกนลมปราณ เสียงโบราณเก่าแก่จากซากศพเซียนก็เข้าสู่จิตของเขา มันเรียกร้องให้เขาไปหา หากเมิ่งฮ่าวต้องการรู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง พร้อมๆกับหลังมือของเขาปรากฏเครื่องหมายเวทสีเขียวขึ้นเหมือนที่ครั้งหนึ่งในอดีตที่เคยปรากฏขึ้นมาแล้วหายไป เพราะเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะไปหามัน

เมิ่งฮ่าวมายังบริเวณถ้ำกำเนิดใหม่พร้อมๆกับคนในสำนัก ภารกิจของสำนักเป็นการเก็บโลหิตซากศพเซียนตนนี้ เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ซากศพมากขึ้นมันขยับตัวและพวกเขาก็ถูกดูดเข้าไปยังเขาวงกตแห่งหนึ่ง จนกระทั่งวันหนึ่งเมิ่งฮ่าวก็ได้พบเจอจิตวิญญาณส่วนหนึ่งของร่างเซียนที่เรียกร้องหาเขา มันชื่อโฉ่วเหมินไถ มาจากขุนเขาที่เจ็ด บนดาวกรงพยัคฆ์(หู่เหลา) บาดเจ็บสาหัสมาจากการต่อสู้ในสงครามเต๋าระหว่างขุนเขาที่แปดและเก้า  ตอนที่เมิ่งฮ่าวเห็นอีกฝ่ายจากเจดีย์ถัง มันจึงรู้ตำแหน่งของเขาและเลือกที่จะตกลงมายังดาวสวรรค์ทิศใต้(หนานเทียน)-[แสดงว่าทวีปหนานซานคนโลกอื่นเรียกว่าดาวหนานเทียน] มันต้องการให้เมิ่งฮ่าวเป็นผู้สืบทอดขุนเขาก่อนที่มันจะตายไป

โฉ่วเหมินไถได้มอบเซียนชี้ทาง(มันเป็นแสงรูปทรงกลม)เข้าไปในร่างของเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวสามารถใช้เพื่อฝึกตนกระทั่งก้าวไปสู่ขั้นเซียนอมตะ มีเพียงเซียนในเก้าขุนเขาหนึ่งทะเลจึงจะสร้างเซียนชี้ทางขึ้นมาได้ 

ตามมาด้วยการมอบตำราเต๋าศักดิ์สิทธิ์นามสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ในตำนานให้กับเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวถึงได้รู้ว่ามีเพียงสองคนที่สามารถรวบรวมคัมภีร์เต๋าศักดิ์สิทธิ์และคัมภีร์สุดยอดวิญญาณฉบับสมบูรณ์ คนหนึ่งมีสมญานามว่าแดนเต๋า คือเต๋าศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขาแรก อีกหนึ่งเรียกว่าสุดยอดวิญญาณแห่งขุนเขาที่เก้า

ชิ้นที่สามเป็นปราณเซียนรูปลูกเกาลัดสีขาว ที่อีกฝ่ายมอบให้เมิ่งฮ่าวแต่ของชิ้นนี้เมิ่งฮ่าวต้องไปยังดาวกรงพยัคฆ์ถึงจะสามารถศึกษาค้นคว้ามันได้ มันได้ถูกเชื่อมเข้าไปในแกนลมปราณของเมิ่งฮ่าว

โฉ่วเหมินไถยังเตือนให้เมิ่งฮ่าวระวังสำนักชิงหลัวและผู้ยิ่งใหญ่ของดาวดวงแห่งดินแดนตะวันออกนี้ที่บรรลุเซียนอมตะ--(ยอมรับว่ามีงงนิดหนึ่ง เท่าที่อ่านในหนึ่งความคิดนิจนิรันดร์เซียนอมตะคนแรกคือหลัวเทียนไม่ใช่เหรอ คนที่สองคือป๋ายเสี่ยวฉุน แล้วคนที่ว่าคือใครอย่าบอกว่าเป็นหลัวเทียน ตอนเห็นระดับการฝึกในเรื่องมีขั้นเซียนอมตะยังคิดว่าในอดีตดาวดวงนี้เคยมีคนฝึกถึงขั้นนี้มาก่อนอะดิ)

ก่อนที่โฉ่วเหมินไถจะตายเขาบอกเมิ่งฮ่าวว่าความลับในถ้ำกำเนิดใหม่เหมือนจะเกี่ยวข้องกับทะเลเต๋าใต้ขุนเขาลูกที่เก้า

ขณะที่ดินแดนภาพลวงตาของซากศพเริ่มแตกร้าว เขาได้พบกับคนจากตระกูลจี้แดนตะวันออก มันถึงกับสามารถมองเห็นปราณเซียนลูกเกาลัดในกายของเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวรีบหนีขณะเดียวกันเขาก็ต้องการสร้างแกนลมปราณให้สำเร็จ ในช่วงเวลาวิกฤตินี้ ศิษย์พี่สวี่ชิงได้ออกมาคุ้มครองเขา เมื่อจี้หงตงไล่ล่ามาถึง นางสู้กับเขาได้รับบาดเจ็บจึงรีบพาเมิ่งฮ่าวหลบหนี

เมื่อเมิ่งฮ่าวสร้างแกนลมปราณสำเร็จ เขาละทิ้งตัวตนของฟางมู่เพราะไม่อยากลากสำนักชะตาม่วงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาเปลี่ยนใบหน้ากลับไปเป็นเมิ่งฮ่าว เพื่อสังหารหลี่เต้าอี(เต้าจื่อตระกูลหลี่)กับจี้หงตง เพราะทั้งสองต่างรู้ความลับของเขากับสวี่ชิง

เมิ่งฮ่าวใช้หน้ากากโลหิตเป็นครั้งแรก เวทที่ไม่ได้เห็นมานับหมื่นปีของชนเผ่าไท่เอ้อโบราณปรากฏขึ้นอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับจี้หงตงแม้ต้องเสียอายุขัยหลายสิบปีแลกกับการใช้หน้ากากเซียนโลหิตก็ตาม จี้หงตงตายอย่างอนาถ

นับแต่นี้เมิ่งฮ่าวไม่สามารถอยู่ในดินแดนด้านใต้ได้อีกเขาต้องจากไปทันทีเพราะนอกจากตระกูลหลี่จะตามล่าเขาแล้วตระกูลจี้ที่เห็นคนดินแดนด้านใต้เป็นเพียงมดแมลงย่อมออกตามล่าเขาเช่นกัน  เขาร่ำลาสวี่ชิงหนนี้ต่างไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะได้พบกันอีก

ทว่าเมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าจี้หงตงได้ส่งเจตจำนงสุดท้ายก่อนตายไปให้กับท่านปรมาจารย์จี้ฟางในตระกูลว่าเมิ่งฮ่าวคือฟางมู่แห่งสำนักชะตาม่วง ชายชราจึงเดินทางมายังดินแดนด้านใต้มรสุมลูกนี้ช่างยิ่งใหญ่นัก

ข่าวที่หนึ่งในบุตรแห่งจี้ถูกเมิ่งฮ่าวสังหารแพร่ออกมานอกซากศพเซียน แปดชายชราจากตระกูลจี้ ประมุขตระกูลหลี่ปิดผนึกสถานที่รอสังหารเมิ่งฮ่าวที่ออกมาจากดินแดนภาพลวงตาของซากศพ นอกจากนี้ยังไม่ยอมให้คนของสำนักและตระกูลต่างๆจากไป

ในถ้ำลาวาใต้ตระกูลหวังปรมาจารย์หวังรุ่นที่สิบออกมาจากโลงศพ มันจะไปช่วยเมิ่งฮ่าวเพื่อให้อีกฝ่ายมีชีวิตต่อไป(เป็นการหว่านเมล็ดกรรม)รอวันที่เมิ่งฮ่าวเป็นอาหารที่สมบูรณ์อย่างแท้จริงมันค่อยกลืนกินอีกฝ่าย(เป็นการชดใช้กรรมที่เมิ่งฮ่าวต้องมอบให้มัน)---(ผีตัวไหนละเนี่ย)

ปรมาจารย์จี้ฟางถูกเจ้าโอสถจอมปีศาจขัดขวางระหว่างเดินทางมาดินแดนด้านใต้ ในฐานะอาจารย์ท่านย่อมไม่ให้ใครมาสังหารศิษย์เขา

หญิงสาวตระกูลฟางที่มาจากแดนตะวันออกพร้อมจี้หงตงดักรอเมิ่งฮ่าวที่หนีไปทางถ้ำกำเนิดใหม่  นางฝีมือสูงส่งกว่าจี้หงตงมากนัก ต่อให้สวมหน้ากากเมิ่งฮ่าวคิดว่าคงสู้นางไม่ได้ แต่เพราะนางเห็นเครื่องหมายเวทสีเขียวบนหลังมือของเมิ่งฮ่าว นางถึงกับสติแตกไปชั่วขณะ เมิ่งฮ่าวจึงรีบหนีแต่สุดท้ายก็เผชิญหน้ากับเหล่าปรมาจารย์จากตระกูลจี้และตระกูลหลี่ ในจุดที่เขาไม่สามารถจะต่อสู้ได้อีกเขาเรียกอ๋าวเฉี่ยนออกมาจากหน้ากาก มันสังหารปรมาจารย์ไปเจ็ดคนในพริบตาก่อนกลับเข้าไปจำศีล เขาอาศัยจังหวะที่ทุกคนตกตะลึงรีบหนีไปในถ้ำกำเนิดใหม่ 

เมิ่งฮ่าวได้พบกับจิตวิญญาณคุนเผิงที่กลายเป็นเซียนอมตะ นางให้เขายืมพลังเพื่อหลบหนีออกจากที่แห่งนี้

🌼หลังอ่าน🌼
โอ้ยเนาะคำว่าอ้ายยยกับอี๋...เนี่ยอ่านเจอทีไรขำทุกที ลองนึกว่าเวลาปรมาจารย์ของสำนักพูดดูสิ อ้ายยยย,อี๋ จะยังมีสง่าราศีอีกเรอะ😂ภาคนี้มันส์มาก

🍂ภาคสี่ : ความสมบูรณ์แบบห้าสี

เมิ่งฮ่าวหนีออกจากถ้ำกำเนิดใหม่ไปยังดินแดนสีดำ(โม่ถู่)--(ดินแดนที่ไม่ได้ถูกผนึกเป็นเขตแดนที่คั่นอยู่ระหว่างดินแดนด้านใต้กับดินแดนตะวันตกเกิดขึ้นหลังสงครามใหญ่ระหว่างสองดินแดนในอดีต)เพื่อหาสถานที่รักษาอาการบาดเจ็บ แผ่นหยกผนึกอสูรได้ถ่ายทอดวิชาผนึกความเที่ยงธรรมที่ใช้ปิดผนึกอสูรปีศาจให้เขา

เมิ่งฮ่าวรักษาตัวอยู่ในถ้ำเซียนจนอาการบาดเจ็บดีขึ้น เขาจึงเรียกนกแก้วในกระจกทองแดงออกมา มันเรียกตัวเองว่าอู่เหยีย(ท่านปู่ห้า)--(มันคงเป็นกระเรียนไร้ขนที่เคยติดตามซูหมิง นิสัยเหมือนกันเดะ แสดงว่าผู้เฒ่าเมี่ยเซิงยังตามหามันไม่เจอสินะ) พอนกแก้วออกมาจากกระจกทองแดง นับแต่นั้นผีโต้งที่พูดมากก็ไม่เคยเถียงนกแก้วได้เลยจริงๆ😂

เมิ่งฮ่าวได้พบกับจิตโบราณที่ถูกตระกูลจี้ผนึกไว้ ทำให้เขารู้บางเรื่องราวเกี่ยวกับเก้าขุนเขาหนึ่งทะเล เก้าขุนเขาแต่ละขุนเขามีโลกของตัวเองบนฟ้ามีพระจันทร์,ดวงตะวันและสี่ดวงดาว โลกหนานเทียน(ทวีปหนานซาน)ที่เมิ่งฮ่าวอาศัยอยู่เป็นเพียงหนึ่งดวงดาวของขุนเขาที่เก้า

ในอดีตราชันแห่งเก้าขุนเขาหนึ่งทะเลนั้นแซ่หลี่ต่อมาตายในสงครามระหว่างดวงดาว ตำแหน่งนี้จึงว่างลง กลุ่มลูกน้องของราชันหลี่คิดยึดครองตำแหน่งจึงเปลี่ยนแซ่ตัวเองเป็นจี้ พวกมันได้ครอบครองแก่นแท้ของขุนเขาทะเลที่เก้าและออกไล่ล่าสังหารกลุ่มแซ่โบราณตระกูลอื่นๆและปิดผนึกเหล่าเซียนเอาไว้ ตระกูลจี้มีอำนาจแผ่ไปทั้งสี่ดวงดาวในขุนเขาที่เก้า ตระกูลจี้ที่เมิ่งฮ่าวเป็นศัตรูด้วยเป็นแค่สาขาย่อยเท่านั้น(ปาดดดด) ส่วนผู้ผนึกอสูรรุ่นที่แปดมาจากขุนเขาที่หก มรดกของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เจ็ดอยู่ในขุนเขาที่หก

เมิ่งฮ่าวสร้างเม็ดยาแกนสีทองสมบูรณ์ออกมาหลังจากกินเข้าไป ทำให้เขามีร่างเซียนสมบูรณ์แบบซึ่งในอดีตมีเพียงท่านสุดยอดวิญญาณ(ไท่หลิงซุนเจ่อ)เท่านั้นที่มีร่างเช่นนี้ แกนปราณสีทองของเมิ่งฮ่าวมีรูปร่างเป็นสนามดวงดาว  เขามีชื่อเสียงในดินแดนสีดำในนามของปรมาจารย์จินกวง

ต่อมาเมิ่งฮ่าวได้เข้าไปอยู่ในเมืองหานเสวี่ย เขาได้ปกป้องเมืองจากผู้รุกราน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับผู้ตัดวิญญาณชุดดำ ปรมาจารย์รุ่นที่หกของตระกูลหานเสวี่ย..หานเสวี่ยเป้าที่ใกล้หมดลม,ปรมาจารย์รุ่นที่ห้าหานเสวี่ยติ่งผู้หายสาบสูญ,ปรมาจารย์รุ่นที่สี่หานเสวี่ยชางส่งมอบตราประทับแห่งการตัดวิญญาณให้เขา แต่เมิ่งฮ่าวก็ยังไม่อาจต่อสู้กับผู้ตัดวิญญาณชุดดำได้ 

ในช่วงความเป็นตายเครื่องหมายสีเขียวก็ได้ปรากฏบนหลังมือเขา พร้อมกับปรมาจารย์รุ่นที่สาม..ฉีหนานหนิง--(ฉีหนานเป็นชนชื่อชนเผ่าเดิมของเผ่าหานเสวี่ย) ปรมาจารย์รุ่นที่สองฉีหนานเทียน  ส่งมอบตราประทับตัดวิญาณให้เมิ่งฮ่าว แต่ตราประทับของรุ่นที่สองไม่ใช่ตราประทับตัดวิญญาณแต่เป็นตราประทับค้นหาเต๋า ปรมาจารย์รุ่นที่หนึ่งฉีหนาน มาจากทะเลที่เก้า ผู้หล่นลงมายังดาวหนานเทียน วันนี้ก่อนจากไปได้ส่งมอบพลังให้กับเมิ่งฮ่าวเข้าต่อสู้กับผู้ตัดวิญญาณชุดดำจนอีกฝ่ายสลายไป ก่อนเมิ่งฮ่าวจะสิ้นสติมารดาของเขา(ซึ่งไม่มีใครมองเห็น)ได้ช่วยเขาเอาไว้(นางสามารถช่วยได้เพียงสามครั้ง)

เมื่อฟื้นขึ้นเมิ่งฮ่าวได้รับตัวไหมหิมะเยือกเย็นกลายพันธ์ุซึ่งต่อมาเขาเปลี่ยนมันให้เป็นดักแด้ไร้ตา(เมื่อมีมันก็ไม่ต้องกลัวกับการรับทัณฑ์สวรรค์) บัดนี้ถึงเวลาที่เขาจะจากไป ส่วนตระกูลหานเสวี่ยตั้งใจจะเดินทางไปดินแดนด้านใต้เพื่อเข้าพึ่งพิงสำนักชะตาม่วง (เมิ่งฮ่าวติดหนี้รักอีกแล้ว สงสารผู้หญิงในเรื่องนี้หลายคนได้แต่รักชอบฝ่ายเดียว) 

เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าดักแด้ไร้ตาของตนถึงกับเป็นดักแด้สวรรค์เมื่อมันตื่นขึ้นได้เปล่งเสียงหนึ่งครั้งในชีวิต ทั่วทั้งดาวหนานเทียนแห่งนี้ผู้มีฝีมือสูงส่งในดินแดนต่างๆก็รับรู้ถึงการปรากฏตัวของมัน ส่วนเขากับมันได้เชื่อมโยงในระดับจิตวิญญาณไม่มีใครสามารถตัดการเชื่อมโยงนี้ได้ตลอดกาล 

และแล้วทัณฑ์สวรรค์ก็มาเยือนเมิ่งฮ่าวอย่างคาดไม่ถึงทั้งยังมาแบบห้าสีในรูปลักษณ์ของฝ่ามือ เมิ่งฮ่าวถึงกับใช้ผนึกอสูรรุ่นที่เก้าที่คิดค้นขึ้นณตอนนั้นเป็นฝ่ามือผนึกสวรรค์เพื่อต้านรับทัณฑ์สวรรค์ที่ประทับลงมา แม้แต่ทัณฑ์สวรรค์ก็ไม่อาจต่อกร แผ่นหยกผนึกอสูรรุ่นที่เก้าถือกำเนิดแล้วบนดาวหนานเทียน ส่วนเมิ่งฮ่าวได้รับการปกป้องจากรังไหมดักแด้ไร้ตา เมื่อเขาทลายรังไหมออกมา(ก็สำเร็จวิชาไหมฟ้าปาฏิหาริย์😂ล้อเล่น)เขาก็อยู่จุดสูงสุดขั้นสุดท้ายสร้างแกนลมปราณ(อดทนเอานะเมิ่งฮ่าวถ้าผ่านอีกสามขั้นก็จะเป็นขั้นเซียนอมตะแล้ว😂) ดักแด้ไร้ตาเปลี่ยนร่างเป็นวงแหวนสีขาวสวมบนนิ้วของเขา

ช่วงที่เมิ่งฮ่าวอยู่ในดินแดนสีดำที่ผ่านมาเกิดความวุ่นวายเมื่อชนเผ่าแห่งทะเลทรายตะวันตกคิดฮุบกลืนดินแดนสีดำ และเกิดการต่อสู้ภายในระหว่างพระราชวังดินแดนสีดำและเก้าสหพันธ์(เมืองหานเสวี่ยเป็นหนึ่งในนี้ได้อพยพไปแดนใต้เข้าร่วมกับสำนักชะตาม่วง)ขณะเมืองที่เหลือไม่อาจต่อต้านพระราชวังสีดำจึงเข้าร่วมกับอีกฝ่าย เมิ่งฮ่าวจึงจากดินแดนแห่งนี้ไปเข้าสู่ดินแดนทะเลทรายตะวันตกเพราะเขาต้องการภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าธาตุของชนเผ่าต่างๆในดินแดนแห่งนี้เพื่อนำมาปรุงเป็นวิญญาณแรกก่อตั้งห้าสีสำหรับเลื่อนขั้นการฝึกตน

เผ่าแรกที่เขาเข้าไปอยู่เป็นเผ่าอูต๋าแห่งชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ที่นี่เมิ่งฮ่าวได้รู้แจ้งในภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุไม้จากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ชิงมู่จุน ซึ่ง
เดิมทีอยู่เกาะกวงชิงในทะเลที่เก้า(จิ่วเหอ) ถูกผู้ผนึกอสูรรุ่นที่ห้าช่วยเหลือเอาไว้หลังเศษเสี้ยววิญญาณตกลงมายังดาวหนานเทียน

ดาวหนานเทียนนั้นถ้าให้พูดง่ายๆคือมีทั้งเซียนและอสูร  ตระกูลจี้เป็นตัวแทนของเซียน(ใช้ปราณแก่นแท้) อสูร(ผู้ผนึกอสูร-ใช้ปราณอสูร)ย่อมแบ่งเป็นเต๋าแห่งการปรุงยาในดินแดนด้านใต้ เต๋าแห่งยันต์อาคมในดินแดนสีดำ และภาพศักดิ์สิทธิ์ในทะเลทรายตะวันตก

หลังจากได้ครอบครองภาพศักดิ์สิทธิ์ต้นชิงมู่โบราณ เขาเข้าไปยังแดนสักการะอีกาศักดิ์สิทธิ์ ได้เจอกระบี่ไม้เล่มที่สาม และเผชิญหน้ากับเส้นใยกรรมแห่งตระกูลจี้  ผู้อาวุโสสุ่ยตงหลิวผู้วาดภาพในตระกูลซ่งแห่งดินแดนด้านใต้ได้เป็นผู้ทำลายเส้นใยกรรมให้เมิ่งฮ่าว(สุดยอดมากคนนี้ไม่คิดว่าจะเทพขนาดนี้) เมิ่งฮ่าวใช้ธวัชราชันดึงร่างจี้สือจิ่ว(ลำดับที่สิบเก้า)ออกมา และเก็บมันไว้ในหน้ากากโลหิตหวังสร้างมันเป็นหุ่นเชิดในอนาคต เวลาเดียวกันอาณาจักรต้าถังแห่งแดนตะวันออก แม่ของเมิ่งฮ่าวถึงกับบุกไปถล่มตระกูลจี้จนสาแก่ใจจึงกลับ(คุณแม่ทั้งห้าวทั้งดุเดือดมาก😂)

ต่อมาเมิ่งฮ่าวได้พบกับอีกาทองคำ ก่อนที่มันจะตายได้มอบภาพศักดิ์สิทธิ์สีทองให้กับเมิ่งฮ่าวดินแดนสักการะอีกาศักดิ์สิทธิ์พังทลาย เกราะป้องกันห้าชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์สลายไป ทำให้พวกมันตกอยู่ในสงครามกับเผ่าห้าพิษที่คิดเข้ามายึดครองเผ่าของพวกของมัน  เมิ่งฮ่าวรับปากที่จะปกป้องพวกมันเป็นเวลาหนึ่งปีเพราะเหตุนี้ห้าชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์รับปากเขาว่าพาเขาไปยังสะพานเซียนเดินหนในตำนานที่จะเปิดออกในอีกหนึ่งปีข้างหน้า มีเพียงเผ่าที่ยิ่งใหญ่ในอดีตจึงจะเข้าไปได้ ผู้ใดข้ามได้เก้าสะพานจะสำเร็จเป็นเซียน

สงครามระหว่างเผ่าครั้งนี้เผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์แทบจะเรียกได้ว่าดับสูญ ทว่าสุดท้ายบรรพบุรุษต้นชิงมู่ได้ตัดสินใจถ่ายทอดความศักดิ์สิทธิ์ให้เมิ่งฮ่าวทำให้เขากลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์โบราณคนต่อไป อีกทั้งเขาได้รับธาตุไฟจากเปลวไฟอมตะเพิ่มเข้ามา เมิ่งฮ่าวกลายเป็นผู้นำของเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ไปโดยปริยาย ระหว่างการต่อสู้เกิดฝนม่วงในตำนาน เดิมดินแดนแห่งนี้ในอดีตเป็นทะเลตะวันตกสีม่วงและบัดนี้วัฏจักรนั้นกำลังจะวนกลับมา สองเผ่าศักดิ์สิทธิ์ยุติสงคราม พยายามอพยพคนในเผ่าไปยังดินแดนสีดำก่อนทะเลทรายดินแดนตะวันตกจะกลายเป็นทะเล

แต่การจะเข้าไปได้นั้น พวกเขาต้องหาวิญญาณอสูรในดินแดนแห่งนี้ให้เจอถึงจะมีสิทธิ์เข้าไป---[ดินแดนสีดำตอนนี้จัดตั้งพันธมิตรศาลสวรรค์ ประกอบด้วยเผ่าผู้ติดตามสวรรค์ เผ่าเปลวไฟเถื่อน เผ่าผีเสื้อปีศาจ ดินแดนดังกล่าวถูกครอบครองในช่วงที่เมิ่งฮ่าวกำลังจะออกจากดินแดนสีดำ]

เมิ่งฮ่าวจึงเดินทางไปยังสะพานเซียนเดินหนเพื่อตามหาวิญญาณอสูรหวังพาห้าชนเผ่าอีกาศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ไปยังดินแดนสีดำ ที่นี่เขาได้พบกับวิญญาณเซียนอมตะจื่อเซียงนางต้องการวิญญาณอสูรเพื่อใช้เป็นกุญแจเปิดอาณาจักรแห่งเซียนอสูรโบราณ ในอดีตเคยเกิดสงครามระหว่างสำนักเซียนอสูรกับตระกูลจี้ หลังถูกตระกูลจี้ทำลายผู้รอดชีวิตได้สร้างสำนักเซียนอสูรขึ้นมาใหม่และนางเป็นศิษย์คนหนึ่งในสำนักเซียนอสูร แม้แต่ราชาแห่งจิ่วซานไห่ผู้เคยปกครองตระกูลจี้ก็เป็นคนในสำนักนี้เช่นกัน

เมิ่งฮ่าวกับจื่อเซียงจึงร่วมมือกันค้นหาวิญญาณอสูรเพื่อเข้าไปยังอาณาจักรแห่งเซียนอสูรโบราณที่จะเปิดออกอีกสองร้อยปีข้างหน้า เมื่อทั้งสองต่างได้ครอบครองวิญญาณอสูร จื่อเซียงก็จากไป อีกสองร้อยปีนางมุ่งหวังว่าตัวเองจะได้ครอบครองร่างเซียนอสูร ส่วนเมิ่งฮ่าวก็ออกไปจากโลกของสะพานเซียนเดินหนพร้อมกับสำเร็จภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุดินที่ได้รับจากสถานที่แห่งนี้อย่างไม่คาดคิด

เมิ่งฮ่าวพาห้าเผ่าอีกาคักดิ์สิทธิ์เดินทางไปบังเมืองสีดำระหว่างทางเผชิญศัตรูเก่าอย่างเผ่าห้าพิษ มันใช้โลหิตแห่งจี้สังหารเมิ่งฮาว แต่เมิ่งฮ่าวกลับหลอมรวมโลหิตแห่งจี้เป็นร่างจำแลงโลหิตของเขา แต่ว่ามันยังไม่สมบูรณ์ เขาจึงผนึกร่างจำแลงโลหิตไว้  เมิ่งฮ่าวได้ขุดรากถอนโคนเผ่าห้าพิษจนสิ้นซาก

ต่อมาได้เผชิญหน้ากับแปดเผ่าพันธมิตรที่คิดจะแย่งชิงวิญญาณอสูรจากเมิ่งฮ่าว ระหว่างการต่อสู้เขาได้รับเจตจำนงของหอกอสูรฮวงจ่ง มันถูกสร้างมาเป็นอาวุธของผู้ผนึกอสูรทุกรุ่น มันรอให้เขาไปหาที่อาณาจักรเซียนอสูรโบราณ แปดเผ่าพันธ์มิตรพ่ายแพ้ย่อยยับ

ตลอดการเดินทางไปยังดินแดนสีดำเป็นไปด้วยการต่อสู้กระทั่งถึงดินแดนสีดำแล้วพวกเขาก็ต้องต่อสู้กับคนของพันธมิตรศาลสวรรค์ที่ครอบครองพื้นที่สีดำเอาไว้ ในสงครามครั้งสุดท้ายนี้เมิ่งฮ่าวได้สำเร็จภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำ เขาใช้โลหิตในสนามรบ เปลี่ยนมันเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์โลหิต แต่สำหรับธาตุน้ำอนาคตเมิ่งฮ่าวต้องการหลอมรวมฝนม่วงกับโลหิตให้กลายเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำอย่างสมบูรณ์

หลังจากเมิ่งฮ่าวส่งมอบสัตว์ปีศาจทั้งหมดให้เผ่าอีกาทองคำ(เขาเปลี่ยนชื่อเมื่อมายังดินแดนสีดำ) มอบรากฐานที่มั่นคงให้พวกมันอยู่ในดินแดนแห่งนี้อย่างวางใจแล้วเขาก็จากไปถึงเวลาสร้างภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำให้สมบูรณ์เสียที 

ขณะที่ดินแดนทะเลทรายตะวันตกกลายเป็นทะเลตะวันตกอย่างแท้จริง

เมิ่งฮ่าวใช้เวลาร้อยห้าสิบปีอยู่ในทะเลม่วงจนรู้แจ้งในภาพศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำโลหิตม่วง ก่อนเลื่อนขั้นเป็นวิญญาณแรกก่อตั้งถึงหกดวงผ่านทัณฑ์สวรรค์จนปรากฏวิญญาณแรกก่อตั้งดวงที่เจ็ดซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของผู้ฝึกตน

เมิ่งฮ่าวกลับเข้ามายังเมืองสีดำได้ต่อสู้กับปรมาจารย์ฮูเหยียนขั้นตัดวิญญาณเขาใช้เจ็ดวิญญาณภาพศักดิ์สิทธิ์รวมเป็นหนึ่ง ส่งผลให้ร่างเซียนที่ตกลงมาจากฟากฟ้าและตายไปแล้วได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ขณะต่อสู้กับปรมาจารย์ฮูเยียน อาณาจักรเซียนอสูรโบราณได้เปิดออกแล้ว เขาจึงเคลื่อนย้ายทางไกลจากไปทันที

ทุกๆหนึ่งพันปีเมื่อๆอาณาจักรเซียนอสูรโบราณเปิดขึ้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปจะบรรลุขั้นเซียนอมตะ ดังนั้นคนจากตระกูลและสำนักต่างๆทั้งแดนดินด้านใต้,ดินแดนสีดำ,ดินแดนทะเลทรายทางเหนือและทางตะวันออก,ตระกูลจี้,ตระกูลฟางล้วนต่างส่งคนเข้าไป 

อาณาจักรเซียนอสูรโบราณแบ่งเป็นอาณาจักรแรก อาณาจักรที่สอง,ที่สามและที่สี่ ในอาณาจักรแรกผู้ที่เข้ามาต้องค้นหาร่างอาศัยที่ดีที่สุดให้ตัวเองเข้าครองร่างนั้นเพื่อเข้าไปยังอาณาจักรที่สอง  เมิ่งฮ่าวตัดสินใจเลือกไปค้นหาร่างอาศัยของเขาที่ยอดเขาลูกที่สี่ ทว่าเมิ่งฮ่าวกลับสามารถเข้าไปในอาณาจักรที่สองด้วยร่างของตัวเอง แต่เสมือนว่าเป็นร่างของเคอจิ่วซือหนึ่งในศิษย์ชั้นยอดแห่งสำนักเซียนอสูร โดยที่ความทรงจำไม่ได้ถูกลบไป เมิ่งฮ่าวเข้ามาได้เพราะเจตจำนงที่เหลือของเคอจิ่วซือที่รอคอยมาเก้าหมื่นปีเพื่อพบกับบิดาของมันโดยอาศัยเมิ่งฮ่าวเป็นสื่อกลาง เมิ่งฮ่าวได้พบกับฟางอวี๋อีกครั้ง(เมิ่งฮ่าวยังไม่รู้ว่านางเป็นพี่สาวแท้ๆของเขา)

ต่อมาได้พบกับสวี่ชิง และต่างจดจำกันได้ (ในที่สุดก็ได้พบกันซะที บทตัวประกอบเยอะกว่าบทนางเอกซะอีก😂) เมิ่งฮ่าวเข้าไปยังเจดีย์เซียนอสูรในชั้นที่เจ็ดสิบเขาเจอกับปรมาจารย์เอกะเทวะ รับเมล็ดพันธุ์แห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่เวทแห่งเต๋านามไม่จำเป็นต้องรู้แจ้งและเต๋าเดิมแท้เวทอสูรมอดไหม้ ผ่านชั้นที่แปดสิบได้รับเวททำลายล้างสวรรค์ทั้งเก้า แต่เมื่อไปถึงชั้นที่แปดสิบเก้า เมิ่งฮ่าวไม่อาจไปต่อได้ เค่ออวิ๋นไห่ผู้เป็นประมุขยอดเขาที่สี่และเป็นบิดาของเค่อจิ่วซือ(เมิ่งฮ่าว)ได้เข้ามายังเจดีย์ร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน(เค่ออวิ๋นไห่นี่ยกให้เป็นคุณพ่อแห่งชาติอ่านแล้วมีน้ำตาซึมหลายฉากเลย) เมื่อถึงชั้นที่เก้าสิบเมิ่งฮ่าวได้รับเวทผนึกร่างวิเศษสวรรค์ชั้นเก้า และเมื่อถึงชั้นสุดท้ายเก้าสิบเก้าเมิ่งฮ่าวก็ได้รับวิชาลับร่างศักดิ์สิทธิ์ที่เยี่ยจำลองขึ้นมา

หลังจากกลับออกมาจากเจดีย์เซียนอสูร เมิ่งฮ่าวได้พบกับจื่อเซียงอีกครั้งทำให้ได้รับทราบว่าสะพานเซียนเดินหนถูกสร้างโดยหานซาน(ที่บัดนี้กลายเป็นผู้ควบคุมทาสสะพานอยู่กับคนรักที่เขาตามหามาหลายหมื่นปีบนโลกของสะพานเซียนเดินหนที่พังทลายเขามีอีกฐานะหนึ่งในสำนักอสูรเซียนอสูรนั่นคือเป็นหนึ่งในสามจักรพรรดิเซียนอสูร...เซียนอสูรดินยะเยือกหานซาน

สำนักเซียนอสูร(อาณาจักรเซียนอสูรโบราณ)เป็นสำนักอันหนึ่งในยอดเขาที่เก้าแห่งเก้าขุนเขาหนึ่งทะเลก่อตั้งโดยราชันหลี่
มีสองขุนพล(ราชันจี้แห่งตระกูลจี้และตระกูลฟาง)และสามจักรพรรดิอสูร(เซียนอสูรดินยะเยือก,เซียนอสูรมอดไหม้,เซียนอสูรปะการังโลหิต)เป็นผู้ติดตาม สำนักนี้ประกอบด้วยสวรรค์สี่ชั้น(สี่อาณาจักร)  ชั้นแรกประกอบด้วยเจ็ดยอดเขา ชั้นสองมีสามภูเขาอสูร ชั้นสามสร้างมาจากสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์(สองขุนพลอยู่ในชั้นนี้) ชั้นที่สี่เป็นที่อยู่ของราชันหลี่และเหตุที่ดินแดนแห่งนี้ถูกทำลายเพราะเกิดสงครามระหว่างตระกูลจี้กับตระกูลฟางหลังราชันหลี่หายไปจากโลกใบนี้

มรกดตกทอดของสำนักที่ทุกคนต่างปรารถนาเป็นคัมภีร์ซ่านไห่จิงเก้าม้วน ซึ่งราชันหลี่ครอบครองเพียงม้วนที่เก้าม้วนเดียวและร่างเซียนอสูร 

จื่อเซียงไม่ได้ปิดบังเมิ่งฮ่าวว่านางต้องการร่างเซียนอสูร นางต้องการไปยังสระน้ำเซียนอสูรในยอดเขาที่เจ็ด เพื่อกลายร่างเป็นร่างเซียนอสูร เมื่อทั้งสองไปถึงสระน้ำเซียนอสูรเมิ่งฮ่าวรับหน้าที่คุ้มครองนางในระหว่างการกลายร่าง เมิ่งฮ่างเองอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวฝึกฝนวิชาเวทต่างๆที่ได้รับในอาณาจักรเซียนอสูรโบราณแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้เมิ่งฮ่าวถึงกับสร้างวิญญาณดวงที่แปดขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ จนมีร่างศักดิ์สิทธิ์ขั้นกายตัดวิญญาณ

ต่อมาปรมามาจารย์ฮูเหยียนได้มาดักรอสังหารเมิ่งฮ่าว โดยที่มันคิดไม่ถึงว่าฝีมือของเมิ่งฮ่าวก้าวหน้าพอที่จะสังหารมันได้ เมิ่งฮ่าวทำลายกายเนื้อของปรมาจารย์ฮูเหยียน ส่วนวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของมันถูกจื่อเซียงที่ออกมาจากสระน้ำเซียนอสูรจับไว้ก่อนดูดซับเข้าร่างเพื่อฟื้นฟูพื้นฐานฝึกตนของนางที่ถูกทำลายไปบางส่วน

ร่างเซียนอสูรของจื่อเซียงงดงามเกินกว่าที่หาสิ่งใดมาบรรยายได้(น่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเรื่องละ) นางมีนามว่าโจวจื่อเซียง เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งสำนักเซียนอสูรที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่แห่งขุนเขาทะเลที่เก้า เมื่อภารกิจบรรลุแล้วนางก็ร่ำลาเมิ่งฮ่าวก่อนจากไป(แต่ความจริงนางยังอยู่ติดตามดูเมิ่งฮ่าวห่างๆ)

เมิ่งฮ่าวเข้าไปยังอาณาจักรที่สี่พร้อมกับผู้ฝึกตนคนอื่นๆ เขาได้พบผู้ผนึกอสูรรุ่นที่สามที่อยู่ในผนึกของโลกใต้กระจกในอาณาจักรที่สี่ ด้านล่างเป็นสนามรบสมัยโบราณที่มีของวิเศษมากมาย  มรสุมแย่งชิงของวิเศษได้ระเบิดขึ้น
ระหว่างที่ทุกคนกำลังไล่ตามของวิเศษที่หลุดออกมาจากผนึก หานตันจื่อผู้เป็นเผ่าอสูรแปลงกายมาได้ปลดผนึกอสูรผู้ยิ่งใหญ่ออกมา มันต้องการทำให้ดินแดนนี้กลายเป็นของอสูรและต้องการเปลี่ยนทุกคนที่เข้ามายังอาณาจักรที่สี่ให้กลายเป็นอสูรเช่นกัน เมิ่งฮ่าวออกโรงปกป้องผู้ฝึกตนที่ตกอยู่ในอันตรายให้พวกมันหนีออกไปขณะที่เขายืนหยัดต่อสู้เพียงลำพัง เขาใช้กระจกซานไห่ดูดดินแดนในกระจกเข้าไปทั้งหมด และเพราะเหตุนี้จึงได้ไปปลุกเยี่ยให้ตื่นขึ้นมา ความจริงอันหน้าตกใจคืออาณาจักรอสูรโบราณทั้งหมดถึงกับเป็นเพียงศีรษะของเจินหลิงเยี่ย(วิญญาณราตรีที่แท้จริง)

เมิ่งฮ่าวไม่สามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของเยี่ยได้ มันต้องการให้เขาคืนดินแดนใต้กระตกกลับไป แต่เคอจิ่วซือซึ่งเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตหลังจากสงครามสองขุนพลผ่านไป มันอยู่เฝ้าที่นี่มาตลอดได้เข้ามาช่วยเหลือเมิ่งฮ่าวในฐานะที่เขาถือว่าเมิ่งฮ่าวเป็นน้องชาย    เพราะบิดาของเขาผู้เป็นประมุขยอดเขาที่สี่รับรองเมิ่งฮ่าวว่าเป็นบุตรในชาติภพนี้ของมัน ดังนั้นเคอจิ่วซือจึงเลือกเส้นทางที่สองให้เมิ่งฮ่าว เพราะราชันหลี่เคยประกาศว่าผู้ใดปลุกเยี่ยให้ตื่นทางเลือกที่สองนั้นจะได้เป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะครอบครองมรดกของราชันหลี่

การจะได้ครอบครองมรดกของราชันหลี่เมิ่งฮ่าวต้องได้รับการยอมรับจากสามภูเขาจักรพรรดิเซียนอสูร  ซึ่งเขาก็ได้รับการยอมรับทั้งหมดเพราะภูเขาลูกแรกเป็นของหานซานที่ช่วยเหลือเมิ่งฮ่าวหลายครั้งบนสะพานเซียนเดินหน  ภูเขาลูกที่สองกลับเป็นเซียนโลหิตที่เขาได้รับหน้ากากโลหิตมา ส่วนภูเขาลูกที่สามยอมรับคำตอบของเมิ่งฮ่าว เขาได้รับปราณอสูรมากมาย

เมิ่งฮ่าวกลับนำพลังทั้งหมดที่ได้รับมาสร้างวิญญานแรกก่อตั้งดวงที่เก้าเพราะมาจากปราณอสูรมันจึงกลายเป็นวิญญาณแรกก่อตั้งอสูรดวงที่เก้า

🍂ภาคห้า : หลุดพ้นการเกิดใหม่โลหิตคลุมนภา

การที่เมิ่งฮ่าวได้รับการยอมรับจากสามขุนเขาจักรพรรดิอสูรทำให้เขาสามารกเข้ารับการทดสอบรับมรดกของราชันหลี่ได้ในจำนวนไม่มีขีดจำกัด  แต่เขาไม่สามารถผ่านไปได้ ส่วนผนึกสำนักเซียนอสูรถูกทำลายต่อไปอาณาจักรเซียนอสูรจะเปิดทุกๆหนึ่งร้อยปี อีกหนึ่งร้อยปีเมิ่งฮ่าวจะกลับมาอีกครั้ง เขาและจื่อเซียงต่างออกมาจากสำนักเซียนอสูร เมิ่งฮ่าวกลับดาวหนานเทียนส่วนนางเดินทางกลับดาวตงเซิ่ง(ชัยชนะตะวันออก)

แต่เมิ่งฮ่าวยังไม่ทันได้ถึงดาวหนานเทียนเขาถูกร่างจำแลงของปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระหวังระดับค้นหาเต๋ามานานดักรอเพื่อครอบครองพื้นฐานเต๋าสมบูรณ์ของเขานอกดาวหนานเทียน

เมิ่งฮ่าวที่บาดเจ็บสาหัสหนีมาได้อย่างหวุดหวิดด้วยการช่วยเหลือของฉีหนาน อ๋าวเฉี่ยน นกแก้วและผีโต้ง เขามายังทะเลเทียนเหอ

นกแก้วบอกเขาว่าทุกวันนี้ผู้ฝึกตนที่บรรลุเซียนส่วนใหญ่เป็นเซียนเทียม โดยเฉพาะตระกูลจี้ล้วนเป็นเซียนเทียม(พวกที่ไม่สามารถบรรลุเซียนได้ จึงได้แต่ยึดครองพื้นฐานเต๋าของคนอื่นเพื่อกลายเป็นเซียน) หลังจากตระกูลจี้เปลี่ยนแปลงสวรรค์ การฝึกตนของคนรุ่นหลังจึงใช้วิธีการของเซียนเทียม ส่วนเซียนแท้(ผู้ฝึกคนที่บรรลุเซียนด้วยตัวเอง)หาได้น้อยมาก

ทะเลเทียนเหอนอกจากกว้างใหญ่ไพศาลยังมีเกาะแก่งมากมาย มีผู้ฝึกตนอาศัยอยู่เพื่อล่าหัวใจอสูรทะเลมาเพิ่มพลังปราณ ทะเลเทียนเหอแบ่งเป็นสี่เขตวงแหวนชั้นสี่(ชั้นนอก)ชั้นสามชั้นสองและชั้นใน

เมิ่งฮ่าวรักษาตัวอยู่ในเรือตระกูลจางที่กำลังจะเดินทางไปยังเกาะศักดิ์สิทธิ์ของสำนักเซียวเหยา เมื่อถึงเกาะเซียวเหยาเมิ่งฮ่าวคาดไม่ถึงว่าผู้เป็นปรมาจารย์เกาะกลับเป็นปรมาจารย์เอกะเทวะ เกาะเซียวเหยาแท้จริงเป็นแคว้นจ้าวในอดีต

ปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระกูลหวังตามมาถึงสำนักเซียวเหยา เมิ่งฮ่าวยังไม่หายดีเขาบีบบังคับให้ปรมาจารย์เอกะเทวะออกมาต่อสู้กับอีกฝ่ายในฐานะผู้พิทักษ์เต๋าของเขา ปรมาจารย์รุ่นที่สิบสนใจปรมาจารย์เอกะเทวะจนคิดนำอีกฝ่ายไปเป็นสัตว์อสูรพิทักษ์ตระกูลทำให้มันโกรธจนเผยร่างแท้ออกมา มันกินร่างจำแลงของปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระกูลหวัง ทั้งยังคิดกลืนกินเมิ่งฮ่าวแต่เพราะมีเวทผนึกอสูรในร่างของมันจึงทำอะไรเขาไม่ได้  เมิ่งฮ่าวได้แต่มองดูปรมาจารย์เอกะเทวะพาเกาะศักดิ์สิทธิ์จากไปพร้อมความเกลียดชังที่มีต่อเขา(เต่าเฒ่านี่ร้ายจริงๆ)


เมิ่งฮ่าวเข้าไปยังวงแหวนที่สามได้พบกับเรือยมโลกมองเห็นอดีตบางส่วนในวัยเด็ก และพบกับของวิเศษรถศึกที่เขายังไม่อาจทำความเข้าใจได้(เหมือนจะเกี่ยวข้องกับซูหมิงในสู่วิถีอสุราหรือเปล่า)มันพาเขาไปยังทะเลปีศาจในวงแหวนที่สอง เผชิญหน้ากับมารดาของดอกปี่อ้าน(เซียนรุ่งอรุณ)แต่หนีออกมาได้ 

ปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระกูลหวังกำลังเข้ามายังวงแหวนที่สามเพื่อตามหาเมิ่งฮ่าว  เมิ่งฮ่าวตัดสินใจไปยังวงแหวนที่สอง หวังล่ออีกฝ่ายตามมาเพื่อให้เซียนรุ่งอรุณจัดการ ทว่าก่อนเข้าไปยังวงแหวนที่สองเมิ่งฮ่าวได้พบกับผู้สูงส่งตะเกียงเงิน(หยินเติงซ่างเหริน)ที่ไม่อาจเอาชนะพิษดอกปี่อ้านในร่างได้ ทั้งๆที่อยู่ในขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า ชายชราจึงตัดสินใจให้วิญญานของตัวเองกลายเป็นดอกไป๋กู่ซึ่งเป็นศัตรูกับดอกปี่อ้าน

เมิ่งฮ่าวอาศัยการตัดวิญญาณครั้งแรกตัดพิษดอกปี่อ้านห้าสีในร่างโดยอาศัยดอกไป๋กู่สะกดข่มพลังของดอกปี่อ้านเอาไว้(จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าคุณเผิงในถ้ำกำเนิดใหญ่คือส่วนที่เป็นความดีของเซียนรุ่งอรุณ) ส่วนดอกปี่อ้านห้าสีกลายเป็นของวิเศษตัดวิญญาณของเขา

เมิ่งฮ่าวเผชิญหน้ากับร่างจริงของปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระกูลหวัง เขาถูกดูดพื้นฐานแห่งเต๋าไปจึงใช้กระบี่เซียนแทงร่างตัวเองจนทะลุไปถึงร่างของอีกฝ่าย ทำให้ความหวังของปรมาจารย์รุ่นที่สิบตระกูลหวังถูกทำลายลง  มันกลายเป็นคนวิกลจริตสังหารคนในตระกูลหวังบนดาวหนานเทียนทั้งหมดเพื่อกลืนกินวิญญาณหวังสำเร็จเป็นเซียน

ร่างของเมิ่งฮ่าวถูกชายชราบนเรือยมโลกช่วยเหลือเอาไว้พาเขาไปยังวงแหวนชั้นใน ผ่านไปร้อนปีเมิ่งฮ่าวฟื้นขึ้นโดยไม่มีพื้นฐานฝึกตนอีกเขากลายเป็นชายชราผู้หนึ่ง อาศัยอยู่บนเรือโยมโลกท่องไปยังแม่น้ำแห่งกาลเวลา ได้พบเห็นโลกอื่นมากมายและได้เห็นเก้าขุนเขาเก้าทะเลแห่งจิ่วซานไห่ 

เมิ่งฮ่าวใช้เวทกลืนภูเขากลืนกินจิ่วซานไห่เพื่อฟื้นฟูพื้นฐานฝึกตนของตัวเอง เมื่อออกมาจากเก้าขุนเขาก็ปรากฏไข่มุกขาวดำสองลูกที่บรรจุเต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งการเกิดและการตายเอาไว้ กระทั่งเรือยมโลกกลับมายังทะเลเทียนเหอ เมิ่งฮ่าวจึงตัดสินใจเข้าไปยังถ้ำกำเนิดใหม่ที่อยู่ในดินแดนด้านใต้เพื่อกำเนิดชีวิตที่สองของตัวเอง เขาได้พบกับสวี่ชิงที่ออกมาตาหาเขาและจดจำเขาได้ นางพาเขาไปยังถ้ำกำเนิดใหม่แม้เป็นหรือตายไม่แยกจาก แต่คุนเผิงได้ส่งสวี่ชิงกลับสำนักเพื่อให้นางนำยากำเนิดวิญญาณมาให้เมิ่งฮ่าว 

เมิ่งฮ่าวตายไปแล้วแต่วิญญาณยังคงอยู่ ร่างของเขาถูกใยไหมของดักแด้ไร้ตาห่อหุ้มไว้(นี่มันวิชาไหมฟ้าไม่ใช่เหรอ😂) คุนเผิงกับร่างเซียนที่ตกมาจากฟากฟ้าต่างรู้ว่าการกำเนิดใหม่ไม่มีอยู่จริง


สวี่ชิงไม่ได้กลับมาแต่เป็นเจ้าอ้วนที่เสี่ยงชีวิตนำยากำเนิดวิญญาณมาให้เมิ่งฮ่าวที่ถ้ำกำเนิดใหม่  คุนเผิงกลืนกินยาก่อนส่งมอบพลังชีวิตทั้งหมดของนางเพื่อเชื่อมสะพานแห่งชีวิตในร่างเมิ่งฮ่าวให้สมบูรณ์ แม้จะแลกมาด้วยความตายแต่นางก็ไม่เสียใจเพราะหัวใจนางตายไปนานแล้ว การมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องทรมานอย่างยิ่งสำหรับนาง การมาถ้ำเกิดใหม่เป็นความหวังในชาติภพใหม่ที่นางปรารถนาจะลบเลือนความเจ็บปวดในอดีต ทว่าเมื่อไม่มีการกำเนิดใหม่เรื่องราวทั้งหมดจึงเป็นเพียงความเพ้อฝัน

เมิ่งฮ่าวกลับมามีชีวิตแต่ไม่ใช่ด้วยการกำเนิดใหม่ เขายังคงเป็นเพียงคนธรรมดา ขณะเดียวกันการปรากฏตัวของสุ่ยตงหลิวผู้อาวุโสที่วาดภาพอยู่ในตระกูลซ่งคนที่เคยตัดเส้นใยกรรมของตระกูลจี้อย่างง่ายดายทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป  ชายชราได้มอบโอกาสการกำเนิดใหม่ให้กับคุนเผิง ส่งร่างเซียนของโฉ่วเหมินไถออกไปจากดาวหนานเทียน จากนั้นได้บอกเส้นทางอาณาจักรแห่งความเป็นนิรันดร์ให้เมิ่งฮ่าว ทำให้เขารู้ว่า เส้นทางของเขายังไม่สิ้นสุดที่ความสมบูรณ์แบบเพราะเหนือกว่านั้นยังมีขั้นผลไม้เต๋าและความเป็นนิรันดร์ เพราะการชี้แนะของผู้อาวุโส(คนนี้ฐานะที่แท้จริงเป็นใครกันแน่เนี่ย)เมิ่งฮ่าวจึงทำการตัดเต๋าครั้งที่สอง เมื่อผลไม้เต๋าของเขาปรากฏพื้นฐานฝึกตนของเขาจึงฟื้นฟูกลับมาอย่างอัศจรรย์

หลังจากนั้นเมิ่งก็รู้แจ้งในเวทแยกวิญญานที่ไม่มีวันตาย(เวทที่ต่อให้ตายก็จะฟื้นคืนร่างขึ้นมาใหม่เป็นวงจรของความเป็นนิรันดร์)เข้าสู่อาณาจักรความเป็นนิรันดร์

เมิ่งฮ่าวออกจากถ้ำกำเนิดใหม่ เขาเป็นห่วงสวี่ชิงด้วยสังหรณ์ใจว่านางคงประสบเรื่องราวที่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง สวี่ชิงถูกขังไว้ในสำนักโดยมีสามปรมาจารย์แห่งสำนักชิงหลัวใช้วิชาสกัดกลั่นกำเนิดใหม่แห่งฟ้าดินทำนางให้กลายเป็นเม็ดยาที่มีกลิ่นอายของถ้ำกำเนิดใหม่

เมิ่งฮ่าวบุกเข้าไปถึงสำนักฝ่ายในหลัวยิน(ฝ่ายนอกชิงหยางรวมกันเรียกสำนักชิงหลัว)สังหารวิญญาณไร้ร่างไปมากมาย เผชิญหน้ากับวิญญาณไร้ร่างปรมาจารย์หกเต๋าผู้บรรลุขั้นสูงสุดค้นหาเต๋า เมิ่งฮ่าวไม่อาจช่วยเหลือวิญญาณของสวี่ชิงได้ในชั่วชณะที่นางจะถูกทำลาย ปรมาจารย์อสูรโลหิตจากสำนักอสูรโลหิตได้เข้ามาช่วยเหลือเมิ่งฮ่าวกับสวี่ชิงแต่มันมีข้อแลกเปลี่ยนให้นับแต่นี้เมิ่งฮ่าวจะต้องกลายเป็นมารและรับตำแหน่งเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักอสูรโลหิต อนาคตเขาจะต้องผนึกสวรรค์แห่งจิ่วซานไห่ให้ได้

สวี่ชิงถูกทำลายวิญญาณไปบางส่วนทางเลือกของนางจึงมีไม่มากนัก นางเลือกจะอยู่กับเมิ่งฮ่าวเก้าสิบเก้าปีจากนั้นจะกลับไปยังวัฏจักรแห่งการเกิดใหม่เพื่อกลับมาฝึกตนจนสำเร็จเป็นเซียนแท้ วันใดที่นางสำเร็จเป็นเซียนแท้จะจดจำเรื่องราวในชาติภพก่อนของนางได้ทั้งหมด

เมิ่งฮ่าวได้รับมรดกแห่งปรมาจารย์อสูรโลหิต(อยากรู้เบื้องลึกจริงๆว่าเมิ่งฮ่าวมีความเกี่ยวข้องอะไรกับปรมาจารย์อสูรโลหิตถึงได้ช่วยเมิ่งฮ่าวหลายครั้งละ) ต่อมาเขาได้รับวิญญาณเซียนแท้ในทะเลสาบเต๋า เขาสร้างร่างจริงที่สองได้สำเร็จจึงใส่วิญญาณเซียนแท้ลงไป

สงครามดินแดนด้านใต้ปะทุขึ้นเมื่อสามสำนัก(ชิงหลัว,กระบี่เดียวดาย,จินซวง)หนึ่งตระกูลหลี่(ตระกูลซ่งไม่เข้าร่วม,ตระกูลหวังถูกปรมาจารย์รุ่นที่สิบทำลายล้างภายในคืนเดียว)ในดินแดนด้านใต้ได้ร่วมมือกันเข้าทำลายสำนักอสูรโลหิต

เมิ่งฮ่าวใช้ร่างอสูรอวตารรับมือกับผู้บุกรุก(อสูรอวตารร่างคงใหญ่โตพอๆร่างของบรรพบุรุษขุยแถมการควบคุมก็คล้ายๆกัน---จากเรื่องหนึ่งความคิด) แต่ไม่อาจต้านรับเขาจึงระเบิดร่างอสูรอวตารเพื่อช่วยเหลือศิษย์ในสำนักให้รอดชีวิต

สงครามครั้งนี้เต็มไปทะเลโลหิต โหดเหี้ยมอำมหิตอย่างแท้จริง แม้กระทั่งศึกระหว่างชนเผ่าในดินแดนทะเลทรายตะวันตกก็ไม่อาจเทียบเคียงได้ ในช่วงคับขันเมิ่งฮ่าวบรรลุเวทอสูรโลหิตระดับสี่ เขาสังหารผู้แข็งแกร่งค้นหาเต๋าและผู้อาวุโสตระกูลหลี่ ทำให้หุ่นเชิดสำนักจินซวงหลบหนีไปด้วยความหวาดกลัว สถานการณ์ในสำนักอสูรโลหิตเหมือนจะดีขึ้นแต่ร่างจำแลงของเซียนรุ่งอรุณ(มารดาแห่งดอกปี่อ้าน)กลับยื่นมือเข้ามาสอดแทรกทำให้ปรมาจารย์อสูรโลหิตต้องรวมร่างจำแลงเป็นหนึ่งเดียวเพื่อต่อสู้กับนาง ขณะที่นางสั่งให้ปรมาจารย์หกเต๋าแห่งสำนักชิงหลัวไปกวาดล้างสำนักอสูรโลหิต สังหารเมิ่งฮ่าวและทำลายร่างจริงของปรมาจารย์อสูรโลหิตที่หลับใหลอยู่

ทว่าปรมาจารย์หกเต๋าไม่สามารถรับมือกระบี่สังหารเซียนได้จึงตายไปในที่สุด  ปรมาจารย์ชุดเขียวสำนักกระบี่เดียวดายไม่อาจยอมรับที่กระบี่ไม้ศักดิ์สิทธิ์ของสำนักกลับถือเมิ่งฮ่าวเป็นนายดังนั้นมันจะต้องสังหารเมิ่งฮ่าวให้ได้ เพียงแต่เมื่อร่างจริงที่สองของเมิ่งฮ่าวปรากฏตัวขึ้นในระดับค้นหาเต๋าสูงสุด แต่ที่น่ากลัวเป็นพลังแม่น้ำแห่งกาลเวลาจากร่างจริงร่างที่สองของเมิ่งฮ่าว เพราะเหตุนี้ปรมาจารย์ชุดเขียวจึงใช้ไม้ตายสุดท้ายหุ่นเชิดเซียนเทียมเข้าต่อสู้กับอีกฝ่าย ศึกชี้ชะตาจึงอุบัติขึ้นทำให้ร่างจริงของอสูรโลหิตตื่นขึ้น  มันสังหารร่างจำแลงของเซียนรุ่งอรุณและปรมาจารย์ชุดเขียวของสำนักกระบี่เดียวดายในพริบตา ส่วนปรมาจารย์แห่งสำนักจินซวงและปรมาจารย์รุ่นที่สามตระกูลหลี่ถูกทำให้กลายเป็นผู้พิทักษ์กฎแห่งสำนักอสูรโลหิต ศึกครั้งนี้สำนักอสูรโลหิตเป็นฝ่ายมีชัย อีกหนึ่งเดือนเมิ่งฮ่าวจะพาศิษย์ในสำนักลงใต้เพื่อรวบรวมดินแดนด้านใต้เป็นหนึ่งเดียว

หนึ่งเดือนต่อมาเมิ่งฮ่าวพาเหล่าศิษย์บุกสำนักชิงหลัวที่กลายเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า มีเพียงภูติปริศนาตัวน้อยที่ดูร้ายกาจอย่างยิ่งแฝงตัวอยู่ เขาใช้เวทผนึกกรรมของผู้ผนึกอสูรรุ่นที่เจ็ดผนึกมันเก็บเอาไว้ ก่อนที่เขาจะเข้าไปยังดินแดนสงบสุขอีกครั้ง เขาไปยังกระถางสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่(กระถางสายฟ้า)เพื่อประทับตราเป็นเจ้าของและสำเร็จกายเนื้อค้นหาเต๋าที่มีเพียงหนึ่งเดียวบนดาวหนานเทียน

หลังจากออกมาจากสำนักชิงหลัว สำนักจินซวงและสำนักกระบี่เดียวดายยอมจำนน ส่วนตระกูลหลี่ถูกทำลายล้างจนย่อยยับ สำนักอสูรโลหิตกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งในดินแดนด้านใต้

เมิ่งฮ่าวจัดงานวิวาห์กับสวี่ชิงอย่างยิ่งใหญ่บริเวณที่เคยเป็นแคว้นจ้าวในอดีต ผู้นำสำนักและตระกูลต่างๆที่เหลืออยู่รวมถึงผู้ฝึกตนเร่ร่อนกระทั่งชนเผ่าในดินแดนสีดำก็มาร่วมงาน ขณะถึงช่วงสำคัญของพิธี เมิ่งฮ่าวและผู้เป็นอาจารย์ตานกุ่ยก็รับรู้ถึงการรุกรานของผู้ฝึกตนจากดินแดนทางเหนือที่ร่วมมือกับเซียนรุ่งอรุณและอสูรในทะเลเทียนเหอนำกำลังนับล้านมาบุกดินแดนด้านใต้ พวกมันนำธูปโลกันตร์เฉาเก้าเสื่อมโทรมที่สกัดกลั่นมาจากร่างเซียนแท้แฝงคำสาปร้ายแรง หากกระถางธูปนี้วางลงบนดินแดนด้านใต้คำสาปนี้ไม่อาจแก้ไขหรือหาโอสถใดๆมาเยียวยาและมันก็จะกลืนกินพลังฝึกตนของผู้ฝึกตนที่ต้องคำสาปทั้งหมด

เมิ่งฮ่าวและปรมาจารย์ต่างๆรวมทั้งผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้พยายามทุกวิถีทางขัดขวางไม่ให้ควันธูปจากกระถางศิลานั้นผ่านเข้ามาได้ พวกเมิ่งฮ่าวเผชิญหน้ากับกองกำลังแรกของดินแดนทางเหนืออันมีสี่ปรมาจารย์ขั้นค้นหาเต๋าสูงสุด แต่สุดท้ายก็ไม่อาจขัดขวางได้สำเร็จ เหตุที่ผู้ฝึกตนจากดินแดนด้านเหนือกล้ารุกรานดินแดนด้านใต้เพราะสำนักจักรพรรดิ(ตี้จง)แห่งตระกูลตี้ สามารถทำนายได้ว่าโชคชะตาเซียนแท้กำลังจะปรากฏขึ้นในดินแดนด้านใต้ พวกมันจึงทุ่มสุดตัวเพราะในอดีตตระกูลตี้เคยอยู่ในดินแดนด้านใต้มาก่อนกระทั่งตระกูลจี้ครองอำนาจพวกมันจึงถอนร่นไปอยู่ดินแดนทางเหนือแทน

เมิ่งฮ่าวไม่ใช่คนดาวหนานเทียนเขาจึงไม่ได้รับผลกระทบจากโลกันตร์เฉาเก้าเสื่อมโทรม เขาใช้ร่างกายดูดคำสาปแม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็เพียงพอที่จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ฝึกตนในดินแดนด้านได้มากนัก ขณะที่สวี่ชิงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจช่วยเหลือ 

กลุ่มผู้ฝึกตนดินแดนด้านใต้รับรู้ถึงการเสียสละของเมิ่งฮ่าวพวกมันจึงระเบิดความโกรธแค้นบุกไปเข่นฆ่าผู้บุกรุกอย่างบ้าคลั่ง

เมิ่งฮ่าวพาร่างใกล้ตายของสวี่ชิงกลับไปยังหุบเขาของสำนักอสูรโลหิต รอส่งนางกลับไปสู่วัฏจักรการเกิดใหม่ แต่ก่อนที่นางจะตายไปเขาได้ทำพิธีวิวาห์ต่อจนเสร็จสมบูรณ์

ขณะที่ดินแดนด้านใต้ไม่อาจต่อต้านกองกำลังระลอกแล้วระลอกเล่าจากดินแดนทางเหนือจนสูญเสียดินแดนไปเกินกว่าครึ่งจนกระทั่งร่นมาประชิดสำนักอสูรโลหิต

หลังจากสวี่ชิงกลับคืนสู่แม่น้ำลืมเลือนเมิ่งฮ่าวได้ปลดปล่อยจิตมาร เขาสังหารปรมาจารย์ค้นหาเต๋าไปสองคน ทำให้ร่างจำแลงของเซียนรุ่งอรุณปรากฏกายออกมาเพื่อสังหารเขา แต่นางกลับถูกเมิ่งฮ่าวใช้การระเบิดของหุ่นเชิดเซียนเทียมกำจัดนางไป

กองกำลังสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดจากดินแดนทางเหนือเดินทางมาถึงนำโดยผู้นำตระกูลสายโลหิตจักรพรรดิ(ตระกูลตี้) การมาถึงของพวกมันทำให้ทางฝ่ายเมิ่งฮ่าวเผชิญวิกฤตร้ายแรง แต่ที่คาดไม่ถึงคือกองกำลังจากเผ่าต่างๆที่เคยอยู่ในดินแดนทะเลทรายตะวันตกได้ยกทัพมาช่วยเหลือพวกเมิ่งฮ่าว สงครามสามกองกำลังจึงปะทุขึ้น

ทางด้านทะเลม่วงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมันไหลเข้าไปในทะเลเทียนเหอ ดอกปี่อ้านกำลังเปลี่ยนร่างตัวเองเป็นดอกบัวเขียวสวรรค์

เมิ่งฮ่าวถูกขังอยู่ในกรงที่มีร่างรูปปั้นบรรพบุรุษตระกูลตี้ เขาจึงทำการตัดเต๋าครั้งสามตัดจิตมารจนสำเร็จ ห้าคนขั้นค้นหาเต๋าสูงสุดจากดินแดนทางเหนืออาศัยจังหวะนี้ร่วมมือกันโจมตีเมิ่งฮ่าว เมิ่งฮ่าวจัดการคนทั้งห้าเพียงพริบตา 

เมื่อภาพแห่งธรรมของเขาปรากฏ อีกครึ่งก้าวก็จะกลายเป็นเซียนแท้ ในที่นี่ไม่มีใครสู้กับเขาได้อีก  ร่างจำแลงของดอกปี่อ้านมาปรากฏกายอีกครั้งนางต้องการหลอมรวมร่างของเมิ่งฮ่าวเพื่อกลายเป็นดอกบัวเขียวสวรรค์ แต่บิดามารดาของเมิ่งฮ่าวปรากฏกายขึ้นเสียก่อน ต่างเป็นสองผู้ยิ่งใหญ่ที่มาอยู่ดาวหนานเทียนเพราะคำสัตย์แสนปีเพื่อให้บุตรชายอย่างเมิ่งฮ่าวรอดจากทัณฑ์เจ็ดปี

ทุกสิ่งมีชีวิตบนดาวหนานเทียนสำหรับบิดาของเมิ่งฮ่าวเป็นเพียงมดปลวกที่สามารถบดขยี้ได้โดยง่ายดายอย่าว่าแต่เซียนรุ่งอรุณอันเล็กจ้อยนางนี้ สุดท้ายนางก็สลายไปจากโลกใบนี้พร้อมความโศกเศร้า สงครามระหว่างดินแดนจึงยุติลง 

ผู้ฝึกตนดินแดนทางเหนือไม่อาจจากไปตลอดกาล ส่วนดินแดนด้านใต้เหลือเพียงคนของสำนักชะตาม่วงและตระกูลซ่ง

เมิ่งฮ่าวได้เห็นอดีตในวัยเยาว์ของเขาทั้งหมด เขาเกิดที่ดาวตงเซิ่ง(ชัยชนะตะวันออก) แห่งตระกูลฟางที่ยิ่งใหญ่ที่สุด บิดาของเขาเป็นบุตรชายคนโตในตระกูล เขาจึงเป็นหลานชายสายตรง ที่สำคัญเขาเกิดมาพร้อมกับเครื่อง หมายเนี่ยผาน(นิพพาน)บนหลังมือซึ่งถือเป็นผู้ถูกเลือกของตระกูล เขายังสามาถสร้างผลเนี่ยผานในตำนานขึ้นมาได้ ส่วนมารดาเป็นบุตรสาวของราชันขุนเขาที่แปด ทว่าเมื่อเขาอายุเจ็ดปีได้พบกับทัณฑ์ทรมานเจ็ดปี

ใครก็ตามที่มีสัญลักษณ์ดอกเนี่ยผานสามารถเกิดใหม่ได้สี่ครั้ง เมิ่งฮ่าวผ่านการตายแล้วเกิดใหม่เมื่ออายุเจ็ดขวบสามครั้ง ท่านปู่และท่านตาของเมิ่งฮ่าวที่ออกไปจากตระกูลอย่างเป็นปริศนาวันหนึ่งได้ส่งคนมาบอกวิธีแก้ไข(อยากรู้จังว่าเป็นใคร) สรุปคือให้บิดามารดาของเมิ่งฮ่าวทิ้งเมิ่งฮ่าวไว้ที่ดาวหนานเทียน ไม่ยุ่งกับกรรมของเขาจนกว่าเขาจะถึงขั้นค้นหาเต๋า และยินยอมเป็นผู้พิทักษ์ขุนเขาที่เก้าเป็นเวลาหนึ่งแสนปี หากทำได้ตามนี้เมิ่งฮ่าวก็จะรอดชีวิต(ดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย)

💥หมายเหตุ : เรื่องราวของเซียนรุ่งอรุณ

เดิมเป็นดอกปี่อ้าน เมื่อเข้าไปอยู่ในร่างผู้ฝึกตนหากดอกบานครบเจ็ดสีจะกลายเป็นเซียน
ดอกปี่อ้านหลงรักร่างที่มันครอบครองอยู่(ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผนึกอสูรแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร)แต่หลังจากร่างที่มันครอบครองเข้าสู่การตัดวิญญาณ(หรือกลายเป็นเซียนกันแน่ตรงนี้ยอมรับว่ายังงงอยู่)เขาตัดความรู้สึกทุกอย่างที่มีต่อดอกปี่อ้านทิ้งไป ดอกปี่อ้านเสียใจจึงตัดส่วนดีฝังไว้ในโลงใต้ทะเลเทียนเหอ ต่อมากลายเป็นคุนเผิงที่บินไปยังถ้ำกำเนิดใหม่หวังเกิดใหม่เพื่อลืมเลือนชาติภพนี้ ส่วนดอกปี่อ้านส่วนชั่วร้ายกลายเป็นเซียนรุ่งอรุณ(มารดาแห่งดอกปี่อ้าน) นางไม่ได้ต้องการเป็นเซียนแท้ แต่อยากเป็นดอกบัวเขียวเพียงเพราะบุรุษที่นางรักเคยบอกว่าชอบดอกบัว(ความรักทำให้อสูรตาบอดจริงๆ บอกไม่ถูกว่าควรสงสารเห็นใจหรืออะไรดี เพราะถ้าไม่มีนางสงครามระหว่างดินแดนด้านใต้กับดินแดนทางเหนือคงยากที่จะเกิดขึ้น)

-จบภาค5-
 




 

Create Date : 12 มีนาคม 2567
0 comments
Last Update : 11 เมษายน 2567 8:54:43 น.
Counter : 346 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสทะเลคราม, คุณดอยสะเก็ด

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สมาชิกหมายเลข 6399378
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากมีชีวิตเป็นอมตะเพื่ออ่านหนังสือไปตลอดกาล
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 6399378's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.