ภาษาญี่ปุ่นแบบ กูก็ไม่รู้ (Non-Guru Japanese)
อยากศึกษาภาษาญี่ปุ่น อยากอ่านออก เขียนได้ ทำไงดีก็ไปเรียนภาษาญี่ปุ่นซิครับ หรือ จะซื้อหนังสือมาอ่านเองก็ได้ เลือกได้ทั้งแบบพูดได้ใน 7 วัน หรือเอาแบบด่วนๆ 72 ชม. ก็มี แต่พอไปเรียนเข้าจริงๆ มันไม่ง่ายแฮะ ไปไม่ถึงไหน เรียนที่โน่นที ที่นี่ที อ่านเล่มนู้น อ่านเล่มนี้ จนเต็มหัว แต่ไม่รู้ว่ารู้อะไร งงงง จับต้นชนปลายไม่ถูก มันคงยากสำหรับผมยากแรก..ไวยากรณ์ เพราะต้องเข้าใจการผัน Verb ของภาษาญี่ปุ่น ที่มีมากมายเป็นสิบแบบ สำหรับใช้ในสถานการณ์ต่างๆกันยากสอง...คำศัพท์แต่ละคำ เวลาใช้งานต่างวาระกัน ก็ต้องอ่านต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น ตัวเลข นี่แหละ นับเลข 1-10 ก็พอได้ แต่พอเรียกวันที่ คน หรือ จำนวนวันกลับต้องใช้อีกคำหนึ่ง Ichi, Hitori, Hitotsu, Ichi Nichi,Tsuitachi คือการอ่านของเลข 1 เพียงตัวเดียวได้แต่บอกตัวเองว่า...ไม่ต้องกังวล เขาพูดได้ เราก็พูดได้ เด็กญี่ปุ่นยังพูดภาษาญีุ่่่ปุ่นได้เลยคนญี่ปุ่น ก็บอกว่า ภาษาไทยยากเหมือนกั็นนั่นแหละยากสาม...คือ ตัว คันจิ อักษรจีนซึ่งญี่ปุ่นนำมาใช้ มีการอ่านได้ทั้งแบบจีน (On-Yomi) แบบญี่ปุ่นเอง (Kun-Yomi) และแบบเฉพาะ (์Nanori) บางตัวอ่านได้ 8-9 แบบ ไม่นับเวลานำไปเขียนเป็นชื่อ นั่นยิ่งมีคำอ่านเฉพาะมากขึ้นไปอีกโอย...อยากร้อง กรี๊ด แบบละครหลังข่าวตอนผมเรียนภาษาญี่ปุ่นเมื่อนานมาแล้ว สมัยนั้นเริ่มเรียนไวยากรณ์ก่อนโดยใช้ตัวอักษร Romanji ต่อมาเมื่อปรับมาเรียนตัว Hiragana และ Katakana ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเริ่มเข้า Kanji ก็เริ่มมีปัญหาอย่างออกนอกหน้า เนื่องจากพออ่านได้บ้างกระท่อนกระแท่น อ่านตัวอื่นได้หมดยกเว้น Kanji ที่อ่านได้เฉพาะบางตัว ก็เลยอ่านข้ามจนติดเป็นนิสัย และสุดท้ายก็ไม่ได้เรื่องอะไร อ่านป้ายบนห่อขนมยังไม่รู้เรื่องเลย เป็นอาการของคน "เกือบ" จะรู้มาวันนี้ ตั้งใจว่าจะเริ่มใหม่ครับ หาวิธีใหม่ (新法 - しんぽう - New Method) เริ่มด้วยการให้เสร็จไปเป็นเรื่องๆไป ฺBlog นี้จึงเป็นเหมือนบันทึกสำหรับตัวเองที่จะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นกันใหม่ และอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีอาการเดียวกันบ้าง เนื่องจากไม่รู้ว่าตัวเองรู้อะไร จึงเป็นที่มาของคำว่า "กูก็ไม่รู้" ครับ หน้านี้จะเป็นเพียงบทนำก่อนครับ เนื้อหาจะพยายามตามมาเรื่อยๆ นึกอะไรออกจะมาแปะก่อน ไม่ได้เรียงเป็นบทๆ ไม่ได้อ้างอิงบทก่อนหน้าและไม่ได้เป็นตำราครับ สะดวกอ่่านอะไรก่อนหลังก็ได้ตามสบายครับ(ถ้าอ่านตัวอักษร Hiragna และ Katakana ได้ก็จะดีครับ เพราะหลังจากนี้จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ตัว Romanji เนื่องจากมันทำให้ผมเสียนิสัยรวมทั้งมีผลต่อการจดจำคำต่างๆในระยะยาวครับ)