รักทวนเข็ม บทที่ 3 : วันว่าง...ว่างงาน
~..AnTiCLocKwisE..~ รักทวนเข็ม!! PoiNteR 3 : วันว่าง...ว่างงาน---*---*---*---*---*---*---*---*---หลังจากตัดสินใจได้ว่าให้หญิงสาวผู้แปลกหน้านั้นอยู่บ้านเขาไปก่อน แล้วค่อยพาเธอไปหาพี่สาวเขาเมื่อร้านเปิดหลังเทศกาลปีใหม่อีกทีนึง ภูชิสส์ก็จัดการส่งตนเองขึ้นรถประจำทางไปหาเพื่อนที่มหาวิทยาลัยทันที...เป็นเดือนสุดท้ายก่อนจบที่จะได้ไปมหาวิทยาลัยทุกวันๆ ไอ้ปุ้นๆ ทางนี้ๆ ภูชิสส์เห็นมือไหวๆของเพื่อนของตน เขาก็รีบเดินไวๆก่อนจะไปนั่งฝั่งตรงข้ามของกฤตัชญ์ เออดี วันนี้จะเริ่มทำของตกแต่งซุ้มยัง บ่ายนี้แหละ ยัยตาลนัดแหนะเพื่อนหมดแล้ว แกอย่าเบี้ยวนะเว้ย เออไม่เบี้ยวอยู่แล้ว ...เลิกไม่ดึกใช่มั้ย ไม่ดึกหรอก วันแรกๆอ่ะ แกจะรีบกลับบ้านทำไมว่ะ งั้นอย่างงี้ก็อดดริ๊งค์ต่ออ่ะดิ เปล่าเว้ย เปล่า แค่อยากลดๆหน่อยว่ะ ก่อนหน้านี้หนักไปหน่อย ลดๆบ้างก็ดี ว่าไปนั่น..ทำได้จริงๆก็ดีแกอ่ะ กฤตัชญ์หยุดเว้นจังหวะคิดเล็กน้อย ...แต่...แกไม่ต้องถามถึงเรื่องอื่นเลย สารภาพมาซะดีๆดีกว่าว่ะ สารภาพอะไรวะไอ้เจ้าคุณ คำเรียกขานของภูชิสส์ทำให้กฤตัชญ์คิ้วกระตุกอย่างห้ามไม่อยู่ ...ที่เขาเรียกมันว่าไอ้ปุ้นทั้งๆที่มันไม่ชอบก็เพราะเหตุนี้แหละ สมัยม.ปลายที่ห้องมีการแสดงของวิชาภาษาไทย ถ้าไม่ใช่เพราะภูชิสส์ยกมือเสนอชื่อเขา เขาก็คงไม่ต้องรับบทเจ้าคุณหรอก!! ใช่...บทเจ้าคุณที่แก่หงำเหงือก และหลังจากนั้น...มันก็เรียกเขาว่าเจ้าคุณ เจริญพรเถิดเพื่อนรัก!!! แกไม่ต้องมาทำไขสือ ผู้หญิงที่มาอยู่ห้องแก...ใครวะ ฉันโทรไปหาแกแล้วเขารับ แล้วเขาตอบแกว่าไงล่ะ เขาว่าเป็นเพื่อนของพี่สาวแก เขาว่าไงก็คงเป็นงั้น หญิงสาวตอบคำถามได้ดี...ขืนตอบว่าเป็นรุ่นพี่ เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ตั้งแต่สมัยมัธยมอย่างกฤตัชญ์ก็คงไม่เชื่อหรอก แกแน่ใจ...เขาเป็นเพื่อนพี่ข้าว แต่มาอยู่ห้องแก...ไม่แปลกไปหน่อยเหรอว่ะ คำถามนี้ภูชิสส์อยากจะแย้งหนักหนา...เขาไม่ได้ให้เธอเข้ามา แต่ไอ้สมุดบ้า(ที่เขางกไปซื้อมาตอนลดราคา)พาเธอมาต่างหากเล่า!!? เหอะๆ มันจำเป็นเถอะว่ะ จำเป็นอะไรของแก? ท่าจะบ้า เอาน่า อีกซัก...3 เดือนเป็นไง.... อีก 3 เดือน ฉันจะเล่าให้แกฟัง---*---*---*---*---*---*---*---*--- ว่างสุดๆ...และก็ไม่มีอะไรให้ทำเสียด้วย กุศลินปิดโน้ตบุ๊คที่เจ้าของห้องคนเก่าอนุญาติให้เธอใช้แก้เหงาก่อนจะพ้นวันที่ 5 มกราคม หลังจากค้นเว็บนู้น...คลิ๊กเว็บนี้...อารามเบื่อก็ครอบงำจัด เข้าบล็อกตัวเองก็เจอแต่เรื่องเก่าๆบ๊องๆที่ย้อนกลับมามองแล้วสงสัยตัวเองว่าตอนนั้นท่าจะบ้าจริงๆ ...เลยยิ่งไม่มีอะไรทำเข้าไปใหญ่ ไปช้อปปิ้งอาจจะเวิร์คก็ได้...ไหนๆตอนนี้ก็ไม่มีอะไรติดตัวแล้วหนิ!! เปิดประตูออกไปปุ๊ป...ก็ได้ฤกษ์สะดุ้งปั๊ป คนอะไร้...มาไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วเธอก็ได้แต่ค้อนลมค้อนอากาศก่อนหันมามองหน้าชายหนุ่มที่เหงื่อซก จะไปไหนหรอพี่สาว? ถึงเธอจะแนะนำชื่อไปแล้ว...แต่เขาก็ยังคงเรียกเธอว่าพี่สาว ไปซื้อของที่ซูเปอร์แถวนี้ล่ะ เดี๋ยวผมไปด้วย จะของสดหน่อย ของในตู้เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวมื้อเย็นผมโชว์ฝีมือเอง นายทำเป็น? เป็นสิครับ เดี๋ยวขอผมอาบน้ำแปปนะพี่สาว แล้วเราค่อยไปซื้อของกัน...จริงๆวันนี้มีตลาดนัดด้วย พี่สาวว่าไง? ไปห้างก่อน ฉันจะซื้อของใช้ แล้วค่อยกลับมาเดินตลาดนัด โอเคครับผม---*---*---*---*---*---*---*---*--- กุศลินรู้สึกแปลกๆ...ใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว จะหันไปมองผู้ชายที่ใส่กางเกงขาข้างละสีข้างๆกายบ่อยๆก็ไม่กล้า มาเดินข้างๆแล้วใจหวั่นๆชะมัด จะห้ามยังไงก็ไหวไปซะทุกครั้งที่เขาขยับ พอชายหนุ่มถามอะไร...หญิงสาวก็เออๆออๆไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะเขา...เหมือนเขาคนนั้นมากเกินไป ชอบทำอาหารให้เพราะรู้ว่าเธอเกลียดเตาแก๊ส ชอบโผล่มาไม่ให้เวลาตั้งตัวอยู่บ่อยครั้ง ลักษณะการพูดก็คล้ายกัน...ของที่ชอบก็คล้ายกัน... แต่ก็ไม่ใช่คนเดียวกัน พี่สาว...พี่สาว...พี่ลินครับ!!! ถูกเรียกจนแทบตะโกนหญิงสาวก็สะดุ้ง ขาขวิดกันจนต้องคว้าไหล่ชายหนุ่มข้างกายไว้ แถมคนช่วยยังมาหัวเราะกลั้วคอเสียอีก! ฮะฮะ วันนี้ดูพี่สาวเบลอๆนะฮะ เบลอสิยะ!!! ย้อนยุคมาก็เบลอแหงแซะ นายลองบ้างมั้ยล่ะ พอถูกทักจนเสียศูนย์...พอถามอะไรก็พาลหงุดหงิดไปตามอารมณ์ ไม่เอาดีกว่าฮะ แค่เจอคนที่กลับมาจากอนาคตก็พอแล้ว แล้วพี่สาวอยากได้อะไรอีกมั้ยฮะ? ชายหนุ่มไม่ถือสา กลับถามต่ออย่างอารมณ์ดี ไม่ล่ะ เกรงใจนายที่ต้องหิ้วเยอะ มาแบบบ่อยๆ หิ้วทีละน้อยดีกว่า เกรงใจไงกันเนี่ยพี่สาว!! เกรงใจในแบบฉบับกุศลินสิยะ แหมๆ ผู้ชายก้ามโตจะบ่นอะไรมาก เอ้า...เดินเร็วๆเข้า จะกินข้าวเย็นนะจ๊ะไม่ใช่ข้าวค่ำ คร้าบคุณผู้หญิง กุศลินก้าวเท้าเร็วๆโดนไม่รอชายหนุ่มที่โอดครวญอยู่ข้างหลัง แล้วพอถึงบ้านปุ๊ป...คุณเธอก็หยิบรีโมทเปิดโทรทัศน์...ทั้งๆที่รายการส่วนใหญ่เธอก็เคยดูแล้วทั้งนั้น ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนทำกับข้าวไปคนเดียวเปลี่ยวอารมณ์ไปตามยถากรรม ขณะที่ใช้กำลังวุ่นทำนู่นทำนี่...แต่ภูชิสส์ก็ยังมีกะจิตกะใจชะเง้อมองหญิงสาวที่จะหลับมิหลับแหล่ด้านหน้าโทรทัศน์เป็นระยะๆ ใบหน้าขาวจัดซุกอยู่ระหว่างเข่าชิด ใบหน้าออกแนวลูกสาวคนจีนนั้นขมวดยุ่ง...ทั้งๆที่เจ้าตัวกำลังหลับ มองไปมองมา...พอรู้สึกว่าเธอชักน่ารัก...ภูชิสส์ก็สะบัดหัวใส่ความคิดแรงๆ ท่าจะบ้าซะแล้วเรา!! แต่คงบ้าจริงๆ...เกิดอยากกลับมาทำกับข้าวที่ห้องเก่าซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ห้องใหม่ก็มีห้องครัวที่ขนาดไม่แพ้กัน รีบกลับบ้านจนเพื่อนตกอกตกใจ...แปลกใจสุดๆก็คงตัวเองนี่แหละ คิดนู่นมาก...ทำนี่เยอะ ในที่สุดก็เผลอเอานิ้วไปรองคมมีดเสียได้!! โอ๊ย!!! คราวนี้คนถูกแอบมองเลยดีดตัวขึ้นจากโซฟาให้คนแอบมองหันหน้ากลับทันทีเหมือนกดสวิตช์ ก่อนวิ่งพรวดเดียวมาถึงตัวชายหนุ่ม มือจับหมับอย่างคนเจ็บได้แต่คาดโทษ โอ๊ยพี่สาว!!! จับเบาๆสิครับ เฮ้ย โทษทีๆ ว่าแล้วเธอก็ปล่อยมือของชายหนุ่มข้างที่กำลังแดงเรื่อทิ้ง แล้วหันไปปิดเตาแก๊ส...แล้วจับมืออีกข้างดึงมานั่งที่เก้าอี้ไม้ใกล้ๆ กล่องยาอยู่ไหน? อ่า...อยู่ในห้องน้ำฮะ หายไปซักพัก หญิงสาวก็กลับมาพร้อมกับเบตาดีนขวดเล็ก,พลาสเตอร์ปิดแผลพร้อมไม้พันสำลี เธอหยิบยาด้วยท่าทางคล่องมือ...นำยาใส่ไม้พันสำลี ก่อนจะทำให้เขารู้ว่าลักษณะภายนอกบางอย่าง...มันก็เป็นเพียงเปลือกนอก เปลือกนอกจริงๆ!!! โอ๊ยยยยย พี่สาว ให้ผมทาเองดีกว่าครับ หื้อ ไม่ต้องหรอก เจ็บหน่อย..แต่เดี๋ยวก็หายแล้ว คงจริงอย่างที่เธอว่าล่ะ มือหนักขนาดนี้...ยาคงชุ่มซึมซับถึงเนื้อในอย่างแน่แท้! พี่สาว...รู้ตัวรึเปล่าว่ามือหนักมาก ภูชิสส์พูดขึ้นหลังจากการทำแผลที่สุดแสนจะปวด แล้วกลับไปทำอาหารให้คนทำแผลต่อ อยากลองทดสอบอีกทีรึเปล่าล่ะฮะ? บรื้อ!! ไม่ดีกว่าครับ แล้วหลังจากนั้น...ภูชิสส์ก็สาบาน...สาบานกับตัวเองเลย ว่าไม่ควรทำอะไรให้เธออารมณ์เสียเลยจริงๆ ขนาดคนเป็นแผลยังมือหนักขนาดนี้.... ถ้าปกติแล้วทำตัวไร้สาระไม่เข้าท่าเข้าทาง... ไม่ต้องคิดเลยดีกว่า!!! เฮ้อ... เมื่อกี้เขาคงตาฝาดที่เห็นเธอน่ารัก....น่าทะนุถนอม!!---*---*---*---*---*---*---*---*---