|
|
|
|
|
|
|
|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
5 มีนาคม 2552 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
รักทวนเข็ม ตอนที่ 1 สมุดบันทึก
~..AnTiCLocKwisE..~ รักทวนเข็ม!!
PoiNteR 1 : สมุดบันทึก
---*---*---*---*---*---*---*---*---
หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงควักหมวกแก๊บใบเก๋มาใส่พร้อมกับแว่นกันแดดสีชา...ทำไมวันนี้มันร้อนอย่างนี้น้า...หน้าหนาวแท้ๆ เธอคิด ก่อนจะรีบสาวเท้าเร็วๆไปตามทางเดินฟุตบาทที่ไม่ค่อยจะพลุกพล่านนัก เนื่องจากเวลาในตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเวลาของการทำงานของคนส่วนใหญ่ กระดิ่งสีเงินใบจิ๋วส่งเสียงร้องทันทีที่เธอก้าวเข้าไปร้านขายยาร้านเล็กตรงมุมถนน เธอเดินตรงไปสะกิดเพื่อนที่นั่งสัปหงก....ปล่อยให้โทรทัศน์นั่งมอง...เปลืองไฟดีแท้
ยัยขลุ่ย!! หัวที่เอนโหงกเหงกกระแทกตู้กระจกข้างๆดังโป๊ก พร้อมกับสายตาโหดๆจะส่งมาให้เธอเป็นการคาดโทษ
ดีนะยะหล่อน เสียงหวานถูกดัดเป็นเสียงกระแหนะกระแหนจนคนฟังแอบขำ หายไปเกือบสัปดาห์ ปล่อยให้ฉันไปแบกหน้ารับความติ๊งต๊องให้ แล้วพึ่งโผล่หน้ามาเนี่ยนะ?!
ใจเย็นดิยัยขลุ่ย ฉันไปค้างบ้านพี่ทายมาย่ะ
บ้านพี่ทาย?...บ้านสวนที่ปทุมธานีอ่ะนะ
คนถามได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะได้รับคำอธิบายต่อ
ก็..เฮียดันโทรมาตอนนั้นพอดีนะสิ พอยัยนั่นเห็นฉันยังยกโทรศัพท์คุยอีก หลังจากโทรหาแก ก็รีบแย่งไปจากมือฉัน เทสาดเทเสียใส่เฮียเสียยกใหญ่ พอฉันกลับมารับสายอีกที เฮียทายก็ชิงวางสายไปแล้ว คราวนี้เลยกลายเป็นว่าฉันต้องไปนั่งแกร่วกับไอ้สำลีที่บ้านสวน มือทงมือถือเฮียก็ยึดไว้...บอกเดี๋ยวจะจัดการให้เอง
แล้วแกรู้มั้ย ..ไอ้พวกนั้นมันก็คงดวงชะตาคงซวยที่จะต้องชวดเงิน โทรเข้าโทรศัพท์มือถือฉันที่เฮียเก็บริบไว้เสียเรียบร้อยแทนที่จะโทรเข้าบ้านสวนที่ฉันจะสามารถรับได้ บอกจะมาฟ้องร้องค่าเสียหายบ้าบอคอแตกอะไรก็ไม่รู้ ...เหอะๆ แล้วเฮียทำอีท่าไหนอีกไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆโทรศัพท์ฉันก็เลิกสั่นสะเทือนโลกาไปอีกหลายวัน
สมิตานันนั่งฟังเพื่อนอย่างอึ้งๆ...แล้วภาพเหตุการณ์อันฉุกลหุกที่อพาธเม้นท์ของเพื่อนสาวก็ค่อยๆโผล่ขึ้นในความคิด ....มิน่าล่ะ.... เวลาที่เกิดเรื่องเป็นเวลาดึกของคืนก่อนวันคริสมาสต์ เธอโบกมือลาเพื่อนสาวที่เดินลงจากรถของเธอเอง พอเห็นเพื่อนเธอเดินขึ้นไปบนอพาธเม้นท์จนลับสายตา เธอก็ตัดสินใจสตาร์ทเครื่อง...ขับรถกลับบ้านเธอบ้าง
แต่พอกลับมาถึงบ้านปุ๊ป...ก็ต้องได้ยินเสียงโทรศัพท์ร้องกระหน่ำ...เธอรีบวิ่งเข้าไปรับ ก่อนจะพบว่ามันเป็นโทรศัพท์ของเพื่อนสาวที่เธอพึ่งไปส่งมาแหม็บๆ!!
เสียงของเพื่อนสาวเธอพูดระรัวด้วยอารมณ์โกรธๆ ยัยขลุ่ย เธอรีบขับรถมารับฉันไปบ้านเธอที ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วแหละ!! พอได้ยินเท่านั้น สมิตานันก็รีบขับรถวนกลับไปหาเพื่อนเธอ แต่พอกลับไป...เธอก็เจอแต่เจ้าของอพาธเม้นต์นั้น ที่หันมามองเธอขวับ
เธอ!!! เธอเป็นเพื่อนยัยกุศลินห้อง 612 ใช่มั้ย เธอพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงตอบ...และเริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีด้วยการที่คิ้วขวากระตุกเป็นสัญญาณเตือนถึงสองทีแรงๆ
เธอไปบอกเพื่อนเธอเลยนะ ว่าเพื่อนเธอต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฉัน!!
ชดใช้....ค่าเสียหายหรอคะ? หญิงสาวถามกลับอย่างงงๆ
ใช่!!!! น้ำเสียงที่ตอบกลับมาเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เธอดูนี่ ว่าแล้วเจ้าของอพาธเม้นท์ซึ่งเป็นหญิงวัยเกือบสี่สิบก็ชี้นิ้วที่สั่นระริกๆด้วยความโกรธไปยังร่างของสามีที่นั่งกองอยู่กับพื้นข้างๆตัวเธอ
เธอเห็นรอยแผลนี้มั้ย เพื่อนเธอ...ฟาดสามีฉันด้วยกระเป๋าถือซะกระเด็น ...ทั้งๆที่เขาแค่จะไปเอากุญแจห้องอันใหม่ไปให้เพื่อนเธอ!!!
ได้ฟังแค่นั้น ...สมิตานันก็สามารถเดาเรื่องที่เหลือได้ทันทีว่า....เรื่องมันมีความเป็นมายังไง นายลัชเป็นสามีของคุณนายโสมเจ้าของอพาธเม้นท์ ...ที่กุศลินชอบมาเล่าให้เธอฟังว่า ...ชอบมองเธอแปลกๆ... ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่แน่ใจซักเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกระหวาดระแวงนายลัชเป็นหนักหนา อารมณ์เหมือนคนตีตนไปก่อนไข้
แล้วคืนนี้.... ในเวลาเกือบขึ้นวันใหม่แล้ว จู่ๆนายลัชก็คงเดินมาสะกิดหลังเพื่อนเธอเข้า...ผู้ที่มีต่อมรับสัมผัสอย่างเร็วยิ่งยวด...เรียกว่าเร็วเกินไปก็ว่าได้ ..คาดว่าพอนายลัชสะกิดเพื่อนเธอปุ๊ป....กุศลินก็คงฟาดกระเป๋าใบเขื่องขวับลงบนหน้านายลัชทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย...เก่งจริงเลยเพื่อนฉัน!! อีเรื่องอื่นมันเคยเก่งแบบนี้มั้ยเนี่ย!!!
แล้วยัยลินล่ะคะ เธอถามอย่างอ้อมแอ้ม...
ยัยนั่นนะหรอ ขึ้นไปเก็บของแล้วหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้!!! พอได้คำตอบเธอก็รีบก้มหัวปะหลกๆ...ก่อนรีบชิ่งรถกลับ แล้วตั้งแต่วันนั้น...ไม่ว่าจะโทรศัพท์ไปยังไง เพื่อนเธอก็ไม่เคยรับสายเลย จนวันนี้....ที่ล่วงเลยไปถึงวันสุดท้ายของปีแล้ว
แล้วตอนนี้เธอหาห้องใหม่ได้รึยังล่ะ กุศลินมองเพื่อนสาวที่จ้องมองเธออย่างคาดโทษ...ที่เจ้าตัวได้แต่บ่นอุบอิบในใจ...ฉันไม่ได้ทำซักหน่อย เฮียทายต่างหาก
ยัง คำตอบสั้นๆของเพื่อนทำเอาสมิตานันยิ้มหวานจนกุศลินรู้สึกเสียวไส้... ยัยขลุ่ยยิ้มทีไร ไม่เค้ยไม่เคยที่จะมีเรื่องดี!
งั้นมาอยู่กับฉัน
และทันทีที่ได้ยินคำสั่ง คำตอบจากกุศลินก็สวนกลับฉับ ไม่!!!
ทำไมยะ คนหวังเริ่มพูดออกแนวประชด อยู่กับฉันมันไม่ดียังไง
ไม่ดีตรงที่ฉันต้องไปเป็นผู้เคราะห์ร้ายนั่งฟังเธอพร่ำเพ้อถึงเฮียเลทุกวันทุกคืนน่ะสิยะ!! คราวนี้เสียงเข้มๆของกุศลินเริ่มกลายเป็นเสียงหัวเราะคิก...เมื่อเห็นแก้มเพื่อนสาวเริ่มออกแดงเรื่อๆ...
บ้า!!! ถึงแกจะมาฉันก็คงไม่ให้หรอกย่ะ เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องให้แกมาฟังฉันโทรศัพท์กับเฮียเลกันยะ ฉันหมายถึงห้องใหม่ของฉันต่างหาก ...ที่ฉันเคยบอกแกไง ว่าซื้อไว้...แต่ยังไม่ได้อยู่
อ๋อ....ไอ้ห้องที่แกดีใจนักหนาที่ในที่สุดเจ้าของห้องก็ยอมขายอ่ะนะ
แม่นแล้วจ๊ะ เพื่อนรัก...ห้องนั้นแหละ
...จะดีหรอแก ...ให้ฉันเข้าไปอยู่เปิดซิงก่อนแกอีก แกชอบนักไม่ใช่หรือไง..
เฮ้ย อย่าคิดมากน่า ฉันยังไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่จะได้ไปอยู่ห้องนั้น...เพราะฉะนั้น แกอ่ะ เข้าไปอยู่ก่อนได้เลย ไม่ต้องห่วง..
แน่ใจ?..
แน่ใจสิยะ
งั้นก็......โอเค!!!
ในเมื่อเจ้าของห้องอนุญาตอย่างใจกว้าง กุศลินก็พร้อมรับน้ำใจนั้นอย่างใจกว้างเหมือนกัน
---*---*---*---*---*---*---*---*---
ฝุ่นเยอะชะมัดเลย หญิงสาวพูดพร้อมๆกับเช็ดฝุ่นบนหิ้งออกด้วยผ้าขี้ริ้วชุบน้ำหมาดๆ
หลังจากเธอตกปากรับคำกับยัยขลุ่ยเพื่อนรักเป็นเสียเรียบร้อย เพื่อนเธอก็จัดการวาดแผนที่ทางมาอพาธเม้นท์ใหม่...พร้อมกับสาธยายความดีความงามของอพาธเม้นท์นี้อย่างกับเซลล์ขายที่ดิน (ทั้งๆที่จริงมันเป็นเภสัชกรหญิงผู้น่าร้ากน่ารัก)
แก...คิดดูนะ ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ไม้ประทับทั้งห้อง ดีไซน์ก็สุดยอด...ฉันได้ยินมาว่าเจ้าของห้องคนเก่าเขาทำเองแหละแก
จริงหรอ?
จริงสิ ที่สำคัญนะ...ระเบียงห้องก็ทำซะสวยเชียวแก...แบบว่า ฉันชอบสุดๆ แม้แต่เลขห้องก็ยังสวยเลย
604 เนี่ยนะ?
โอ๊ยแก...มองอะไรไม่เป็นศาสตร์เป็นศิลป์เล้ย!!
พอเล่าสรรพคุณเสร็จ แม่คุณเธอก็ยัดกุญแจดอกเล็กใส่มือเพื่อนที่ยังหาความสวยของเลขห้องไม่เจอ
อ่ะ! แกลองไปตามแผนที่นี้ละกัน ...ไม่ยาก พอไปถึงก็เอาบัตรที่คล้องกับกุญแจให้ยามดูนะ โทษที...ฉันต้องดูร้านต่อ พอดีมีสำนักพิมพ์จะมาส่งหนังสือวันนี้พอดีเลย
สบายมาก ...ไม่เป็นไรหรอกแก แค่นี้ก็สุดจะแต๊งแล้ว
ระยะทางจากร้านของสมิตานันกับอพาธเม้นท์ไม่ไกลเท่าใดนัก คิดแล้วยังอดแปลกใจไม่ได้ ใกล้ขนาดนี้...ย้ายมาอยู่ที่นี่แทนจะไม่สะดวกกว่ารึยังไงนะยัยขลุ่ย?! ด้วยเหตุนี้หญิงสาวจึงเลือกที่จะเดินแทนการขึ้นรถประจำทางที่ยังไม่ทันหายใจให้ชุ่มปอดก็ต้องลงให้เปลืองหางตั๋ว
เธอเหลือบมองป้ายหน้าอพาธเม้นท์หลังเตี้ยเทียบกับชื่ออพาธเม้นท์ในแผนที่...ก่อนจะเดินเข้าไปยังด้านในอพาธเม้นท์เตี้ยๆที่ดูว่าจะมีแววสวยตามเค้าที่เจ้าของว่า
บ๊อก!!! บ๊อกๆๆๆ!!! ภาพหมาขนหยิกสีขาวทั้งตัวกระโดดเหย็งๆพร้อมกับเสียงเห่าราวกับเธอเป็นคนแปลกหน้าทำให้กุศลินออกจะนึกขำ ...ขนาดหมาที่ไม่รู้จักกันยังไม่ชอบหน้าเธอเลย เหอะๆ
ไอ้มุ่ย เงียบ!!! ยามร่างบึกรีบวิ่งตามหมาตัวจ้อยก่อนจะหันไปดุจนมันสงบปากสงบคำในที่สุด ก่อนที่ชายหนุ่มผิวสีเข้มจะผงกหัวให้เธอเป็นเชิงขอโทษ
หญิงสาวหันกลับไปมองเจ้าหมาสีขาวเปื้อนฝุ่นนั่นอีกครั้ง
ถ้าเธอมองไม่ผิด....เธอเห็นสายตาของมันเหมือนกับ...มีแววจะน้อยอกน้อยใจอย่างไงอย่างงั้น!!!!
---*---*---*---*---*---*---*---*---
กุศลินเดินขึ้นไปตามบันไดที่ยามหนุ่มชี้ ก่อนจะเหลือบดูแผนที่ในมืออีกเล็กน้อย ...ห้อง 604 สินะ แต่อพาธเม้นท์นี้ก็แปลก มีแค่ 6 ชั้น...ดูเตี้ยไปหน่อยรึเปล่า....คงไม่หรอกมั้ง? ทางเดินในชั้นปูด้วยกระเบื้องสีขาวสะอาด เธอเดินไล่ไปตามหมายเลขห้อง ...601....602...603.....
อ่า...ถึงและ
กุญแจดอกเล็กถูกเสียบเข้าไปไขโดยเร็ว ก่อนหญิงสาวจะรีบเปิดประตูเข้าไปในห้อง พร้อมโยนกระเป๋าวางกองไว้กับถอดรองเท้าไว้ที่ชั้น
ว้าววว!!! สวยจังเลยแฮะ คนพูดไม่พูดเปล่า ยังเดินสำรวจไปรอบๆห้องด้วย
ห้องห้องนี้เป็นห้องชุดขนาดกว้าง เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดทำจากไม้...แบบที่ดูก็รู้ว่าสั่งทำ เพราะทุกชิ้นล้วนพอดีกับขอบผนัง...มีทั้งไม้สีอ่อน สีแก่ที่ดูเข้ากันอย่างลงตัว ห้องครัวก็เป็นแบบเคาเตอร์ตัวยูทอดยาว มีตู้เก็บจานติดระหว่างเพดานกับผนังที่ทำจากบล็อกไม้สีซีด ส่วนตรงเคาเตอร์ก็เป็นตู้ไม้สีโอ๊ค...ทั้งมีเตาสีเงินวางเคียงอยู่กับตู้ระหว่างเคาเตอร์ ...บอกตรงๆ...ดูแล้วคนทำอาหารไม่ได้ดีเด่อะไรกับเธอ ...ชักอยากจะทำอาหารกับเขาแล้วบ้างสิ!
กุศลินเปิดประตูเข้าไปดูในห้องนอน ก่อนจะพบว่ามีเตียงเดี่ยวอยู่สองเตียง...แปลกแฮะ แทนที่จะเป็นเตียงคู่ ห้องนอนก็ยังมีแต่เฟอร์นิเจอร์ไม้เหมือนกัน ...แต่ดูเรียบกว่าห้องรับแขก ...เรียกว่าคลาสิกก็คงจะเหมาะ ส่วนห้องน้ำก็มีตู้กระจกแบบใส...ไว้ใช้อาบน้ำ ผนังถูกติดกระเบื้องแบบโมเลสสีเขียวเข้มเขียวอ่อนไล่กันไป ...ทั้งยังมีกระจกทรงเก๋วางเหนืออ่างล้างหน้าอีก ...พื้นห้องน้ำถูกปูด้วยไม้แนวบาหลี ...โอ๊ย...ห้องนี้เรียกว่าสวยจนไม่ค่อยอยากจะใช้
ก่อนที่หญิงสาวจะเดินไปยังระเบียงที่เพื่อนชมนักหนา ...ระเบียงนี้พื้นถูกโรยด้วยหินสีขาวทั้งหมด ...โดยเป็นระเบียงกว้างที่ทำทางเดินด้วยไม้ระแนงสีอ่อน...มีชิงช้าไม้วางอยู่ตรงสุดระเบียง ...พอเธอลองนั่งปุ๊ป เธอรู้สึกว่าท้องฟ้านี้ทอดไปได้ไกลเสียเหลือเกิน...สุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว
หลังจากเดินจนครบทุกห้อง....บอกได้คำเดียวว่า เธอชอบห้องชุดนี้มากๆ...แต่น่าสงสัยจริงๆ...ใครกันน้าเป็นคนแต่งห้องนี้
อยากจะเห็นคนตกแต่งห้องนี้เหมือนกันนะ...ไม่เสียดายหรือไงกัน ทำห้องซะสวย...แต่ไม่อยู่
ถ้าจะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่ชอบ...นั่นคงเป็นฝุ่นนั่นแหละ
ห้องๆนี้ถึงจะสวยสุดๆ....แต่มันก็มีฝุ่นเยอะสุดๆด้วยเหมือนกัน!!!
นี่ล่ะแย่....ขนาดปัดทียังฟุ้งซะหายใจแทบไม่ออก
หญิงสาวหยิบผ้าขี้ริ้วผืนใหม่ออกมาจากกระเป๋าด้านหน้า นำมันจุ่มน้ำในถังพลาสติกที่หาเจอจากในห้องน้ำแล้วบิดให้หมาด ก่อนจะเริ่มใช้มันเช็ดไล่ตั้งแต่ตู้เสื้อผ้า...เตียง...เคาเตอร์...โต๊ะ....เก้าอี้...โซฟาหน้าทีวีจอแบน...ไล่ไปยังพื้นห้อง จนพระอาทิตย์ที่ว่าร้อนนักร้อนหนาโบกมืออำลาบ๊ายบายไปนอนหลับพักผ่อน เธอก็ยังทำความสะอาดห้องไม่เสร็จดีด้วยซ้ำ!!
มือทั้งสองข้างที่ล้าแสนล้า เริ่มปัดนู่นปัดนี่สะเปะสะปะ ก่อนหนังสือเล่มเล็กจะร่วงลงพื้น
ตุ๊บ!!! กุศลินหันมามองของที่ตก ก่อนจะใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดตามปกหนังสือที่หุ้มด้วยปกสีครีมนวลตา โดยมีลายสลักแปลกๆ...คล้ายๆกับพระจันทร์แหละพระอาทิตย์ซ้อนกันอยู่ตรงหน้าปก ....แถมยังมีตัวหนังสือหยั่งกะอักขระโบราณเขียนไว้ตามขอบหนังสืออีก...ประหลาด...
หนังสืออะไรเนี่ย เธอค่อยๆเปิดหนังสือดูช้าๆ หลังจากดูตามตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยหมึกสีดำจนเต็มบรรทัดทุกบรรทัด ตรงหัวมุมกระดาษของทุกหน้ามีเลขวันที่เรียงกันไปเรื่อยๆทุกวันแบบไม่มีเว้นซักวัน
...มันคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากไดอารี่...ว่าแต่...ของใครกันล่ะ? เธอคิดพลางเปิดไปเรื่อยๆ ลายมือเป็นระเบียบถูกเขียนบรรจงลงในทุกๆหน้าของหนังสือ ....คนเขียนคงตั้งใจเขียนน่าดู
เธอเปิดไล่ไปเรื่อยๆจนถึงหน้าสุดท้าย...ที่ดูท่าว่าจะสั้นที่สุดในบรรดาหน้าทั้งหลายที่เจ้าของไดอารี่นั้นเขียนมา พร้อมกับลงชื่อด้วยตัวลายมือแกมบรรจง
4 เดือนแล้ว เร็วจังว่ะ
แต่ 4 เดือนที่ผ่านมาก็ไม่เห็นเลวร้ายซักเท่าไหร่เลย (ถ้าไอ้ใหญ่มาเห็นคงด่าว่าไม่แย่ตรงไหน เดือดร้อนมันทุกวัน 55+) พูดไปงั้น ทำใจได้ แต่ก็คงไม่อยู่ที่ที่จะต้องซ้อนทับความจำต่อ ทั้งๆที่ตอนแรกไม่อาลัยอาวรณ์เขาแท้ๆ คิดแล้วแย่ พอๆๆๆๆ ถ้าสิ่งที่คิดถึงที่สุดก็คงเป็นห้อง ทั้งความพยายามของตัวเอง ทั้งการออกแบบ ช่างมันๆ ออกแบบใหม่ก็ได้เนอะ คนเราต้องก้าวต่อไป!! เก็บของเสร็จแล้ว ของไม่เยอะเท่าไหร่ ก็เขาเอาของๆเขาออกไปหมดแล้วนี่นะ จะเลิกจมปลักละ ก้าวต่อไป ผู้หญิงไม่ไร้เท่าใบพุทรา(หรือจริงๆมันต้องเขียนว่าผู้ชายกัน? ช่างมันๆ คิดสุภาษิตใหม่ให้ประเทศชาติ!!!) จบๆๆ วันนี้จะเขียนสั้นที่สุดเท่าที่ทำได้ ปล. ขอขอบคุณเพื่อนหลายๆไว้ ณ ที่ที่มันไม่เห็น 555+ ปล.2 เอาเข้าไปๆ สั้นตรงไหน แต่เสียดายห้องว่ะ...ได้ใช้แค่ 6 เดือนเอง ไม่เป็นไร ขายเอาเงิน!!!! 555+ ภูชิสส์
...ของเจ้าของห้องคนเก่าหรอ?....กุศลินได้แต่ถามตัวเอง คงใช่ละมั้ง ก็ยัยขลุ่ยบอกว่าเธอพึ่งซื้อห้องมาจากเจ้าของเก่า ...นี่ห้องนี้เคยมีคนอยู่แค่ 6 เดือนเองหรอ? เหอะๆ...แล้วเธอก็เป็นคนที่สองที่เข้ามาอยู่ ห้องหรู...แต่โดนปล่อยร้าง...น่าเศร้าจริงๆ ...
ไว้วันหลังค่อยมาอ่านต่อละกัน....เธอก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า...คนตกแต่งห้องนี้ มีนิสัยเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ดูแล้วจะแปลกๆแหม่งๆอยู่เหมือนกันล่ะ ดูนิสัยการเขียนไดอารี่สิ...ซ่าซะไม่มี!!!
หญิงสาวค่อยๆปาดเหงื่อออกด้วยแขนข้างที่ว่าง ...ก่อนมองไปรอบๆตัว
พอแค่นี้ก่อนดีกว่าเนอะ เธอพูดก่อนล้วงกระเป๋าไปหยิบกระเป๋าเงิน ส่วนผ้าขี้ริ้วก็รีบเอาไปไว้ที่ริมระเบียง...ที่มีราวตากผ้าไว้เรียบร้อย...
...เฮ้อ...หาอะไรเตรียมดื่มฉลองปีใหม่ดีกว่านะเรา....
---*---*---*---*---*---*---*---*---
ชน!!! หญิงสาวนำกระป๋องไวน์สีแดงชนกันเบาๆ ก่อนทอดสายตาออกไปไกล....เฮ้อ...จะขึ้นปีใหม่อีกแล้วนะเนี่ย
หลังจากลงไปหาอะไรกินเป็นข้าวเย็นรองท้องเสียเรียบร้อย เธอก็ลงไปแวะซื้อไวน์มา 2 กระป๋อง พร้อมกับขนมกรุบกรอบอีกนิดหน่อย ก่อนจะกลับมายังห้องน้ำ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมานั่งชิงช้าที่ระเบียงด้านนอก ....วิวดีจริงๆ
เธอคิดพร้อมยิ้มพราย ใบหน้าขาวกระจ่างเริ่มออกสีแดงเรื่อๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ก่อนเสียงเพลงโทรศัพท์จะดังลั่น..
โอ๊ยๆ...จะรับแล้วๆ รอหน่อยสิ เธอควานหาโทรศัพท์สีดำสนิทขึ้นมาก่อนกดรับ
สวัสดีค่า.... เสียงรับโทรศัพท์เริ่มออกยานๆด้วยฤทธิ์ไวน์แดงเพียงไม่กี่อึก
ยัยลิน!! เสียงเข้มออกแนวดุดังมาในโทรศัพท์ทำให้คนออกแนวเคลิ้มเริ่มสะดุ้งทันที
เฮียทาย!!
เออ ..เฮียเอง นี่ไปแอบกินไวน์อีกแล้วใช่มั้ย!! คราวนี้เสียงเข้มดังทะลุหูจนกุศลินต้องรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหูตัวเองอย่างรวดเร็ว
ลินเปล่าน้าเฮียเพทายคนดีของลิน....ลินพึ่งกินไปสองกรึ๊บเอง
เสียงน้องสาวที่ออกอ้อนๆเริ่มทำให้ไวทย์พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง....อย่างเห็นได้ชัด และแน่นอน...คนน้องสาวก็ย่อมใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์
กินที่ไหน?
ที่ห้องสิคะ ...พอดียัยขลุ่ยมันมีห้องที่เคยซื้อไว้ ตอนนี้เลยมาอยู่ก่อน
ไม่ได้กินข้างนอกแน่นะ คนเป็นพี่ชายยังคงถามซ้ำ ...เพราะน้องสาวคนเดียวของเขาคออ่อนจนน่านับถือ กินไวน์ได้ไม่ถึงกระป๋องก็ออกแนวเมา...จนเขาไม่กล้าให้ออกไปกินข้างนอก
ค่า~~ ลินกินที่ห้องจริงๆ
จริงๆ.....ลินไม่ต้องไปอยู่ห้องของขลุ่ยก็ได้ เฮียบอกให้อยู่บ้านสวนด้วยกันไง คราวนี้เสียงของไวทย์เริ่มอ่อนลง...ก่อนจะพูดซ้ำ เฮียพูดจริงๆนะลิน
ไม่เอาหรอกค่ะ อยู่กับพี่ทายที่บ้านสวน...อาม่าเฉ่งลินตาย แค่อยู่ไป 2-3 อาทิตย์ลินยังทำให้อาม่าต้องโมโหทุกวันเลย แถมบ้านสวนมันไกลไปด้วย...ลินคงต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าถ้าจะไปทำงาน
แน่ใจนะว่าไม่อยู่
ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ
เอาไงก็เอางั้นละกัน แต่ถ้ามีเรื่องอะไรอีก...โทรหาเฮียเลยนะ ไม่ต้องรอให้เฮียโทรหาก่อนอีกเข้าใจมั้ย? ไวทย์กำชับก่อนวางสายน้องสาวในที่สุด
กุศลินมองมือถือในมือตน...ก่อนวางมันไว้ที่เดิม...
สายตามองทอดไปไกลลิบ....คิดถึงปีที่ผ่านมา...อากาศที่เริ่มตอนกลางคืนในหน้าหนาวอย่างนี้ ปีที่แล้วเธอไม่หนาวซักนิด...เพราะมืออุ่นๆ....ใช่ มือคู่ที่หลอกลวงทุกอย่าง ภาพทุกอย่างทีเธอเห็นมันไม่จริงซักนิด
เฮ้อ~ .... ผู้ชายดีๆบนโลกนี้นี่มันหายากจริงๆ ยิ่งดี...ก็ยิ่งเสี่ยงจะเป็นพวกรักไม้ป่าเดียวกันอีก โลกนี้จะไร้ผู้ชายแมนๆเลยหรือยังไงนะ!!!
พอ.... เลิกคิดถึงเขาได้และ อยู่คนเดียวมาตั้งหลายเดือนยังอยู่ได้เลย จะนับอะไรว่าถ้าจะอยู่คนเดียวต่อไปอีกซักปี...สองปี...สามปี.... หลังจากกินไวน์หมดกระป๋องเพียงกระป๋องเดียว เธอก็กระชับเสื้อกันหนาวไว้ให้แน่น...ก่อนลงไปนอนที่เตียงนุ่มในห้อง
....ปีหน้าคงมีอะไรดีกว่าปีนี้แหละน่า....
แต่เธอคงไม่รู้กระมัง....ว่าปีที่เธอตื่นมา...มันอาจจะไม่ใช่ปีหน้าก็ได้?!!!
---*---*---*---*---*---*---*---*---
^^ เอามาลงตอนแรก ถ้าอ่านแล้วยังไงก็ช่วยเม้นท์กันหน่อยนะคะ ไม่ดีตรงไหนจะได้เอาไปปรับปรุงได้ถูก
Create Date : 05 มีนาคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 11 มีนาคม 2552 20:11:26 น. |
Counter : 395 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: poppyQED 21 มีนาคม 2552 15:21:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ (cruduslife ) 6 เมษายน 2552 23:39:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) 6 เมษายน 2552 23:41:13 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|