ชอบเดินบนถนนที่ไม่รู้จัก...และหลงรักกลิ่นหูหมา

<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 ธันวาคม 2550
 

แม่ฮ่องสอน-ปาย-เชียงใหม่....ไปมันอยู่ได้!!! วันที่สอง

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันคล้ายวันเกิดย่างเข้าสู่เลขอันน่าสะพรึงกลัวของหนึ่งในเพื่อนสาวของเรา วันใหม่ที่แสนดีนี้จึงต้องเริ่มต้นด้วยการทำบุญตักบาตรเพื่อให้เกิดศิริมงคลในชีวิตสาวเจ้า




สถานที่ที่ผู้คนนิยมมารอพระที่เดินมารับบาตรคือหน้าตลาด ซึ่งเราสามารถไปเลือกซื้อกับข้าวได้อย่างที่ชอบ หรือจะซื้อเป็นชุดสำเร็จรูปชุดละ 20 บาทแบบนี้ก็ได้





ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์แล้ว ก็ได้เวลาโยมหาอาหารใส่ท้องในตลาดบ้าง เช้าๆ แบบนี้คนแม่ฮ่องสอนจะแนะนำให้กินโจ๊กเสวยที่มีอยู่เจ้าเดียวในตลาดเจ้านี้




ได้โจ๊กกับกาแฟร้อนๆ คนละถ้วย พวกเราก็พร้อมออกเดินทางแล้ว





ยังเช้าอยู่แบบนี้ พี่คนขับก็พาเรามาที่วัดพระธาตุดอยกองมูที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองแม่ฮ่องสอนเพื่อสักการะพระธาตุและถวายสังฆทานกัน




ถวายสังฆทานกรวดน้ำแผ่อุทิศส่วนกุศลเรียบร้อย ก็มาย่ำระฆังเพื่อให้มีชื่อเสียงระบือไกล




ตัวพระธาตูตั้งอยู่บนดอยสูงมองลงมาเห็นวิวได้ทั่วอำเภอเมือง ยาวไปจนถึงสนามบินเลยทีเดียว ถึงวันที่มีหมอกขมุกขมัวหรือกลางคืน ก็ยังมองเห็นพระธาตุได้



ชุดดอกไม้ที่ไหว้พระธาตุของที่นี่ก็มีความพิเศษอยู่ไม่น้อย เพราะต้องตั้งจิตอธิษฐานแล้วเดินวนรอบพระธาตุสามรอบแล้วจึงนำไปวางแล้วจุดธูปเทียนไหว้ตรงช่องที่บรรจุพระประจำวันเกิดของแต่ละคน




ในนั้นมีกระบะเล็กบรรจุทรายที่ปักดอกไม้และฉัตรเงินหรือฉัตรทอง ซึ่งเราต้องตั้งบน 'สะพาน' ไม้คู่หนึ่งตามความเชื่อของทางนี้ว่าเป็นสะพานเพื่อเดินไปสู่สรวงสวรรค์หรือนิพพาน และ 'ไม้ค้ำ' ซึ่งเป็นกิ่งไม้ที่ปลายเป็นง่ามสามท่อน ซึ่งเราต้องแกะออกมา (นักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปไหว้ส่วนมากจะไม่รู้และไม่แกะ แต่จะถวายทั้งมัดเลยซึ่งจริงๆ ผิดธรรมเนียมนะคะ) แล้ว'ค้ำ' ไปรอบๆ กระบะนั้น นัยว่าชีวิตนี้จะได้ไม่ขาดผู้อุปถัมภ์ค้ำชูนั่นเอง





อิ่มบุญกันแล้วก็ออกเดินทางสู่จุดหมายแรกของวันนี้ คือน้ำตกผาเสื่อซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกันกับถ้ำปลา ซึ่งเป็นจุดที่เราไม่แนะนำให้แวะเที่ยว เพราะเป็นเพียงสวนกว้างๆ ที่ต้องเดินเข้าไปเจอกับถ้ำที่มีซอกอยู่กระจิ๊ดนึง และมีปลาว่ายอัดอยู่ในนั้นจนแน่น...เท่านั้นเอง เสียเวลาเที่ยวมั่กๆ





อันว่าน้ำตกผาเสื่อนี้ก็เป็นสถานที่เที่ยวที่สะดวกดี เพราะแทบจะอยู่ติดกับถนนเลยทีเดียวก็ว่าได้ ทางเดินก็ไม่ไกลหรือชันลื่นนัก เหมาะกับการลงไปสูดอากาศแก้เมารถเป็นการประเดิมทริปที่จัดว่าต้องสมบุกสมบันกันอีกวันหนึ่ง




หน้าตารื่นเริงกันสุดๆ แบบนี้ ใครจะเชื่อว่ากำลังเมารถอยู่




จากนั้นรถก็พาเราขึ้นเขาสูงไปเรื่อยๆ ไปสู่บริเวณพระตำหนักปางตอง ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อ ที่นี่เป็นพระตำหนักที่ทหารสร้างถวายพระเจ้าอยู่หัว แต่พระองค์ท่านยังไม่เคยเสด็จมาเลยค่ะ มีแต่สมเด็จพระนางเจ้าฯเท่านั้นที่เคยเสด็จมาเยือนหนึ่งครั้ง ความสำคัญของที่นี่คือเป็นสถานีอนุรักษ์ต้นน้ำและเพาะพันธ์สัตว์ต่างๆ แต่ที่เป็นไฮไลท์เด่นๆ ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบมากๆ คือเจ้าแกะขนฟูที่ร้องแอ๊ะๆ กันระงมหุบเขาพวกนี้แหละ





เจ้าพวกนี้ก้มหน้าก้มตากินหญ้ากันทั้งวัน กินไปก็ร้องไป เสียงร้องก็มีทั้งทุ้มและแหลมสลับกันไป ตลกดี ยิ่งลูกแกะตัวเล็กๆ จะยิ่งร้องเสียงแหลมและดังเป็นพิเศษ




แกะเด็กน้อยน่ารักแบบนี้ย่อมเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงและเด็ก ทางพระตำหนักจึงได้เตรียมผูกเชือกไว้สองตัว ให้นักท่องเที่ยวมืออยู่ไม่สุขได้ลูบไล้ตัวเจ้าสัตว์น้อยหน้าซื่อเล่น




แกะเด็กน้อยนี้หน้าตาดีและขนขาวเป็นปุยนุ่มมือมากๆ ไม่เหมือนกับแกะที่เราเห็นยืนกินหญ้าอยู่ในทุ่งเมื่อครู่เลย แถมเวลาจับยังไม่มีกลิ่นสาบติดมือด้วย คาดว่าคงได้ผ่านการอาบน้ำด้วยแชมพูซักพรมขนแกะมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวถึงได้ขาวจั๊วะแบบนี้ ......ได้สัมผัสเจ้าแกะน้อยใกล้ๆ แบบนี้แล้ว เกิดความเข้าใจขึ้นมาทันที ว่าทำไมฝรั่งจึงมักเปรียบผู้ที่ใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาดุจลูกแกะ ก็เพราะมันชอบทำหน้าตาแบบนี้แหละเนอะ





น่ารักจริงๆ เลย




ดูได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ




สงสารก็แต่เจ้าแกะผู้ใหญ่สองตัวนี่ ไม่มีใครมาอาบน้ำให้ขนขาวๆ หอมๆ เลยไม่ค่อยจะได้รับความนิยมชมชอบสักเท่าไหร่




ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว เราก็เคลื่อนกำลังไปยังบ้านรักไทยหรือบ้านแม่ออ ซึ่งเป็นชุมชนปลูกชาที่มีชื่อ หมู่บ้านเล็กๆ นี้ตั้งอยู่รายล้อมอ่างเก็บน้ำที่ให้ความอุดมสมบูรณ์แก่ไร่ชาที่ยึดแนวการปลูกและเก็บเกี่ยวแบบชาวจีนค่ะ ที่นี่ยังเป็นแหล่งที่เราจะสามารถหาอาหารจีนแบบยูนนานกินได้อีกด้วย




แน่นอนว่าเราอยู่ในถิ่นของไร่ชา เครื่องดื่มยอดฮิตของที่นี่จึงหนีไม่พ้นน้ำชาที่มีให้เลือกหลากหลายชนิด จึงกลายเป็นธรรมเนียมของถิ่นนี้ไปแล้วว่า เมื่อมาถึงบ้านแม่ออก็ต้องกินอาหารยูนนานแกล้มกับน้ำชานั่นเอง





แนวสถาปัตยกรรมที่ฮิตที่สุดของที่นี่คือบ้านที่ทำมาจากดินหลังคามุงใบตองตึง (ใบของต้นสัก) เข้าไปนั่งด้านในแล้วจะรู้สึกเย็นสบายมากๆ เลยละค่ะ




เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวก้าวเท้าเข้ามาในรัศมีทำการ บรรดาแม่ค้าก็จะร้องเชิญชวนให้ซื้อผลไม้อบแห้งและบ๊วยต่างๆ ที่มีขายมากมาย ซื้อไปชิมไป อิ่มแบบไม่รู้ตัว





และแน่นอนว่าจะต้องมีการสาธิตวิธีชงชาให้ได้ชมกัน




เริ่มจากใช้น้ำร้อนลวกถ้วยให้สะอาด ซึ่งคนทำจะใช้คีมที่ทำจากไม้จับ ไม่มีการใช้มือแตะต้องเลยค่ะ




เอาน้ำร้อนล้างใบชาในกาเล็กน้อยเพื่อขจัดฝุ่นผงในใบชาตากแห้ง




รินน้ำชาที่ได้แบบยกกาให้สูงใส่ลงในถ้วยกระเบื้องทรงยาว แล้วนำถ้วยใบเล็กมาคว่ำปิดปากแล้วหงายเพื่อใช้ดื่ม (เราจะไม่ดื่มจากถ้วยใบยาวค่ะ) เพื่อรักษากลิ่นของใบชา




น้ำชาที่ชงเสร็จแล้วต้องใส่ในถ้วยมาแบบนี้




ค่อยๆ ยกถ้วยทรงยาวออก น้ำชาก็จะไหลลงไปอยู่เต็มถ้วยใบเล็ก แต่ไม่ใช่ให้ดื่มเลยนะคะ ก่อนอื่นต้องใช้ถ้วยใบยาวนั้นมาสูดดมกลิ่มหอมของชาก่อน






ดมเสร็จแล้วก็ต้องเอาไออุ่นที่ยังหลงเหลือมาอังตา นัยว่าตาเราจะได้สวยๆ




เสร็จสิ้นพิธีการแล้วก็ซรู้ดดดดได้เลย




เพิ่งเดินทางมาได้สองวัน รายละเอียดก็ดูจะมากมาย เลยต้องจดบันทึกกันลืมกันซะหน่อย



ออเดิรฟ์เรียกน้ำย่อยจานแรกมาแล้ว เป็นยำใบชารสเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ




ตามด้วยจานที่ไม่สั่งไม่ได้ ขาหมูกับหมั่นโถวนึ่งร้อนๆ และซุปไก่ดำตุ๋นยาจีน





อิ่มแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางไปหมู่บ้านรวมไทยที่อยู่ไม่ไกลจากที่นั่น ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูเท่าชื่อปางอุ๋งที่หลายคนเคยได้ยินกันหนาหูในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และหากบ้านรักไทยโด่งดังในเรื่องของชา จุดเด่นของบ้านรวมไทยก็คือกาแฟสด โดยเฉพาะกาแฟที่ปลูกเอง เก็บเอง คั่ว บดและชงสดๆ ด้วยฝีมือของลุงปาละ ผู้ใหญ่บ้านใจดีที่ใครๆ ก็ต้องแวะมาทักทายยามมาเยือนปางอุ๋ง




ลูกกาแฟแก่แล้วจะสุกแดงแบบนี้




ลุงปาละแต่งตัวสีสันมากๆ ค่ะ เสื้อชมพูกางเกงเขียวตัดกับเอี๊ยมสีเขียวเข้ม บริการกาแฟสดให้ผู้มาเยือนในสนนราคาถ้วยละสิบห้าบาท




กาแฟอราบิก้าหน้าตาธรรมดาๆ ในถ้วยแบบง่ายๆ แต่รสชาติต้องบอกว่าเข้มข้นเอาการเลยทีเดียว ใครไม่กินกาแฟลุงก็แถมน้ำชาจีนให้แบบไม่คิดสตางค์




นอกจากนี้ที่บ้านของลุงปาละยังเปิดเป็นโฮมสเตย์อีกด้วย เรียกว่าเป้นผู้บุกเบิกเจ้าแรกในถิ่นนี้เลย ตอนนี้มีอีกหลายๆ 'ลุง' ในหมู่บ้านเดียวกันพากันเปิดตามยกใหญ่ ใครไปปางอุ๋งก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหาที่พักไม่ได้ แต่ขอบอกว่าเป็นสไตล์พื้นบ้านมากๆ ไม่มีไฟฟ้านะคะ ต้องจุดตะเกียงเอา ถ้าวันไหนหนาวๆ แล้วอยากอาบน้ำร้อน ลุงปาละก็จะต้มน้ำมาให้อาบกัน




จิบกาแฟกันแบบสบายใจในบรรยากาศง่ายๆ แบบนี้




บ้านฝั่งตรงข้ามลุงปาละมีคนมุงเยอะแยะ เดินเข้าไปถามก็ได้ความว่ากำลังช่วยกันปักผ้าให้ทันวันเฉลิมพระชนม์พรรษาที่กำลังจะมาถึง



เป็นการปักไหมทับลงไปบนพระบรมฉายาลักษณ์อีกที ซึ่งจะทำให้ได้รูปที่สวยเหมือนภาพถ่าย เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีของชาวไทยเชื้อสายไทใหญ่ในแถบนี้








ดื่มกาแฟเสร็จแล้วก็ขอลุงปาละลงไปเดินเล่นในไร่ชาเล็กๆ หลังบ้านของลุงซะหน่อย




มองหาหนอนบนยอดใบชาหน่อยซิ





กำลังแอ๊คท่าถ่ายรูปกันเพลินๆ ลุงปาละก็เดินเอาลูกเสาวรส (แพสชั่นฟรุต) ที่ปลูกเองมาให้ลองชิม น่ารักมากๆ เลยค่ะลุง




เสร็จแล้วลุงยังหั่นให้พวกเราได้กินกันสดๆ ตรงนั้นเลย ขอบอกว่ากลิ่นหอมมากๆ ค่า




แพสชั่นฟรุตสดๆ นั้นมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน (แต่ค่อนไปทางเปรี้ยวอิ๊บอ๋ายซะมากกว่า) ลุงปาละแนะนำว่าถ้ากินสดๆ ไม่ไหวก็โรยน้ำตาลช่วยได้ แต่มาถึงถิ่นแล้วก็ต้องลองกินแบบดั้งเดิมกันไปเลย เพราะลุงบอกว่ามีวิตามินซีสูง ดีต่อร่างกาย หน้าตาแต่ละคนเลยเหยเกเพราะความเปรี้ยวแบบนี้



กินเสร็จแล้ว ลุงก็ชวนให้พวกเราเข้าไปชมและลองใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในห้องเตรียมกาแฟ ขอบอกว่ากาแฟลุงปาละนี่แนวมากๆ ค่ะ แทนที่จะบดด้วยเครื่อง ก็ใช้ครกไม้แบบพื้นบ้านนี่แหละตำเอา เก๋ซะไม่มี




หัดตำกาแฟและฝัดด้วยกระด้งกันยกใหญ่ โดยมีลุงปาละยืนควบคุมคุณภาพการผลิตอยู่ใกล้ๆ




แล้วก็ได้เวลาอำลาลุงปาละผู้ใจดีและบ้านน้อยน่ารักของลุงกันแล้ว




รถแล่นพาเราตรงมายังอ่างเก็บน้ำ เป็นจุดที่ใครๆ ก็จำได้ว่า วิวแบบนี้มีแต่ที่ปางอุ๋งที่เดียว.......





เรือพายแบบแพชวนให้ลงไปเล่น



ความสงบเงียบที่ง่ายและงดงาม




หงส์ขาวดำคู่นี้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งชีวิตที่เรียบง่ายในวิถีทางของตนเองของคนในแถบนี้




มาเป็นคู่.....ยังไงก็ไม่เหงา




เจอสัญลักษณ์ของแม่ฮ่องสอนอย่างดอกบัวตองแล้ว ก็ต้องขอเข้าไปชักภาพเป็นที่ระลึกซะหน่อย ปล. โปรดสังเกตสโลแกนบนเสื้อของนางแบบ เท่ได้ใจจริงๆ




จุดหมายสุดท้ายที่เราแวะกันในวันนั้น คือภูโคลนคันทรีคลับแอนด์สปาเพื่อทำการพอกโคลนให้ผิวใสปิ๊ง ซึ่งโคลนที่ได้จากน้ำพุร้อนที่มีอยู่ใต้ดินเป็นจำนวนมากที่นี่ว่ากันว่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุช่วยบำรุงผิวดีไม่แพ้โคลนในทะเลสาปเด๊ดซีที่อิสราเอลเลยทีเดียว แต่พอโคลนเริ่มแห้งแล้วไม่ควรหันไปมองหน้าเพื่อนเป็นอันขาด เพราะอาจขำกลิ้งจนทำให้หน้าย่นแทนได้




เดินมาเจอเรื่องที่เราเคยเขียนแปะบอร์ดโชว์อยู่ที่นี่ ดีใจหลายๆ เลยเด้อ




กลับถึงตัวอำเภอได้ก็เย็นย่ำเข้าสนธยา หาข้าวใส่ริมหนองจองคำจนอิ่มแล้ว ก็พากันนอนสลบไสล รู้สึกตัวอีกทีก็เป็นวันใหม่ที่เราต้องโบกมือลาแม่ฮ่องสอนแล้ว






Create Date : 10 ธันวาคม 2550
Last Update : 13 ธันวาคม 2550 1:07:50 น. 19 comments
Counter : 2609 Pageviews.  
 
 
 
 
เข้ามารอจ้า

แว๊กกกก หน้าแบบเพิ่งตื่นเลยนะจ้ะกอลฟ์ อิอิ น่าเกลียดน่ากลัวมากมาย
คิดถึงน้องแกะตัวขาว ๆ อวบ ๆ (น่าหม่ำ)
 
 

โดย: ขอเวลา IP: 124.157.185.205 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:9:09:26 น.  

 
 
 
เดี๋ยวเซ็นเซ่อให้จ้า ป้านัท
โต๊ดทีเด้อ อิอิอิ
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:12:07:33 น.  

 
 
 
กรี๊ด ลูกแกะน่าฮัก อีหลี

แต่น่าสงสารจัง ดูท่าหมาป่า กำลังจะจ้องเขมือบอยู่ อิอิ
 
 

โดย: เฉินฉูฉู่ วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:12:44:05 น.  

 
 
 
บ่เป็นหยังจ้ะกอลฟ์ บ่ต้องเซ็นเซอร์ก็ได้ อิอิ

แบบว่าให้ทุกคนเห็นหน้าตาพวกเฮาแบบธรรมชาติ(ลงโทษ ฮ่าๆๆๆ

อยากกินขาหมูอีกจังเล้ยยยยยย )
 
 

โดย: ขอเวลา IP: 124.157.185.205 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:12:45:06 น.  

 
 
 
น่าน ว่าแล้วไม่มีผิดว่ามันจะต้องมีคนคิดแบบนี้
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:12:45:27 น.  

 
 
 
ไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
 
 

โดย: chocolove IP: 58.137.49.74 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:12:57:28 น.  

 
 
 
แกะน่ารัก
 
 

โดย: มะแต้มมะตูม วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:13:01:52 น.  

 
 
 
ฮัลโหลมะแต้มมะตูมมมมมมม
มามะ มาเล่นกะน้องแกะกัน
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:13:25:34 น.  

 
 
 
เดี๋ยวขาหมูก็จะมาแล้วจ้า ป้านัท รอจั๊กหน่อยเด้อ

น้องบุ๋มตามมาเที่ยวด้วยกันเลยจ้า ทริปนี้ยังอีกยาวไกล
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:13:26:44 น.  

 
 
 
เง้ออออออออ หิววววววเลยยยยยยยยยย
 
 

โดย: แม่น้องขิม น้องคิม IP: 61.7.170.63 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:13:43:31 น.  

 
 
 
ว้าวววว ป้ากอลฟ์ คิดถึงปางอุ๋ง สวยอีหลีอีหลอ

เสียดายที่พวกเราไม่ได้ไปพายแพเนาะ ดันว่ายน้ำบ่เป็น

 
 

โดย: ขอเวลา IP: 124.157.185.205 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:15:55:11 น.  

 
 
 
คุณแม่น้องคิมฯ ชอบทานอันไหนคะ
ขาหมูรึว่าหมั่นโถว


ป้าเอ๊ย ปีหน้าหัดว่ายน้ำได้แล้วนะจ๊ะ
อย่าลืมๆๆ
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:16:57:44 น.  

 
 
 
ภาพวิวสวยมากกกก ชอบบบบบชอบจริงงงงงง

อยากไปบ้างอ่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะได้ไปเมื่อไหร่ ไปทีไรไม่เคยถึงซักที เซ็งตัวเองจริงงงง

อาหารดูแล้วชวนหิวรอบดึกเลยอ่ะไม่น่ามายั่วต่อมหิวเลยหรือต้องบอกว่าไม่น่าดูอาหารนานจนต่อมหิวทำงานจึงจะถูหรือเปล่าเด้อ
 
 

โดย: คนทำทาง41 IP: 58.9.7.188 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:22:08:54 น.  

 
 
 
ใช่ครับรูปปางอุ๋ง แค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นปางอุ๋ง
อยากไปสัมผัสจัง...สวยดีครับ
 
 

โดย: TripDD IP: 125.26.74.119 วันที่: 11 ธันวาคม 2550 เวลา:23:31:19 น.  

 
 
 
แค่เห็นครกบดกาแฟ อือ....กลิ่นกาแฟก็เตะจมูกเราอย่างแรง

บ้านลุงน่ารักมากเห็นแล้วอยากไปถ่ายหนังจัง อิอิ ลงรูปเพิ่มอีกนะจ๊ะ จะคอยดูจ๊ะ
 
 

โดย: เพื่อเพื่อน...เพื่อฝัน IP: 124.120.2.164 วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:15:03:20 น.  

 
 
 
พี่ชัยคะ ดูรูปแล้วชอบใจ ต้องหาทางไปให้ได้เลยนะคะ ทำความฝันให้เป็นความจริงเลยค่ะ จะได้หายเซ็ง


คุณ TripDD ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ หวังว่าสักวันคุณคงได้ไปสัมผัสความประทับใจที่ปางอุ๋งเช่นกันค่ะ

แม่นางเพื่อนรัก กาแฟบ้านลุงอร่อยมั่กๆ ข้าพเจ้าดื่มเผื่อท่านแล้ว อิอิ
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:0:33:57 น.  

 
 
 
ทามไมเราไปแล้วไม่เจอแบบนี้มั่งละเนี่ย

สงสัยต้องมีนัดล้างตา แม่ฮ่องสอน ซะแล้วเรา
 
 

โดย: wanwitcha วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:10:48:06 น.  

 
 
 
......ผมขี่2ล้อขึ้นไปปางตอง...อย่างเหนื่อย......
 
 

โดย: jetsada.999 วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:21:07:01 น.  

 
 
 
คุณ wanwitcha หน้าหนาวยังไม่หมดนะคะ แก้แค้นอีกรอบก็ยังไม่สาย อิอิอิ


คุณ jetsada.999 สองล้อที่ว่านั่นมอเตอร์ไซค์แม่นบ่คะ???
ถ้าเป็นจักรยานก็ขอคารวะจริงๆ ค่ะ ทางมันชันมากกกก
 
 

โดย: แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก วันที่: 13 ธันวาคม 2550 เวลา:23:21:02 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบอาหารอร่อยๆ
ชอบเดินทาง
และชอบหมาปั๊กที่ซู้ดดดด
[Add แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com