|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
แม่ฮ่องสอน-ปาย-เชียงใหม่....ไปมันอยู่ได้!!! วันที่ห้า
แล้วก็ได้เวลาโบกมือบ๋ายบายเมืองปายที่น่ารักในตอนเที่ยงวันนี้
เช้านี้พวกเราตื่นขึ้นมากินอาหารเช้าที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้ เสร็จแล้วก็รีบอาบน้ำเก็บข้าวของเพื่อเขียนโปสการ์ดที่ซื้อมาตั้งแต่เมื่อวานให้เสร็จเรียบร้อย
ปั่นเสร็จก็รีบหิ้วของขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปไว้ที่สถานีที่อยู่ไม่ไกลกัน ก่อนจะเอารถกลับมาคืนและหย่อนโปสการ์ดทั้งหมดลงตู้ไปรษณีย์แบบเฉียดฉิว
นั่งรถตู้สีส้มของเปรมประชาขนส่งปุเลงๆ ไปตามหุบเขาคดเคี้ยว ท่ามกลางกลิ่นอ้วกของเพื่อนร่วมรถและกลิ่นเหล้าที่ระเหยออกมาจากลมหายใจฝรั่งที่นั่งข้างหลังเราจนพาลจะอ้วกตามเสียให้ได้.......สามชั่วโมงถัดมาเราก็มาถึงสถานีขนส่งเชียงใหม่ที่นิยมเรียกกันว่า 'อาเขต'
เหนื่อยกันนัก เราสามคนรีบหารถสองแถวแดงที่เปรียบเสมือนแท็กซี่ท้องถิ่นของเชียงใหม่ ขนกระเป๋าขึ้นแล้วให้ไปส่งยังที่พักของเรา....เรจิน่าริมปิงเกสต์เฮาส์ ที่ถนนเจริญราษฏ์
ที่นี่เป็นเกสต์เฮาส์ ที่ดัดแปลงมาจากบ้านไม้เก่าแก่อายุร่วมร้อยปีที่ยังพอจะหาชมได้บนถนนเส้นนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนร่มรื่นที่ด้านหลังอยู่ติดกับแม่น้ำปิง ตอนกลางวันและเย็นๆ จะเป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร มีเสียงเพลงฝรั่งและไทยเก่าๆ ยุคคุณตาคุณยายยังหนุ่มยังสาวเปิดคลอตลอดเวลา
ห้องพักที่นี่สนนราคาคืนละ 400 บาทตลอดปี ไม่มีไฮหรือโลว์ซีซั่น ดำเนินงานโดยคุณยายเรจีน่า (คนไทยนะคะ แต่เข้าใจว่าเป็นลูกครึ่ง) ที่เป็นชาวกทม.แต่ย้ายถิ่นฐานมาพำนักที่เชียงใหม่ได้หลายปีแล้ว
ภายในเป็นห้องก่ออิฐเปลือยๆ ดูเป็นบ้านเมืองหนาวแบบดิบๆ ดี
มีตู้และโต๊ะให้วางของ
ห้องน้ำกับส่วนอาบน้ำ
อ่างล้างหน้านอกห้องน้ำ เผื่อคนขี้เกียจที่อยากแปรงฟันอย่างเดียว
เวลาไหน ที่นี่ก็ดูสบายๆ ตลอดเวลา
จะลงมานั่งสั่งอาหารทานเล่นตรงนี้
หรือนั่งริมน้ำปิง มองวิวแม่น้ำและกาดวโรรสก็ย่อมได้ กลางวันกับกลางคืนสวยกันคนละแบบเลยค่ะ
ถ้าเป็นคนรักแมว คงจะชอบที่นี่มากเป็นพิเศษ เพราะคุณยายเรจิน่าเลี้ยงแมวเอาไว้หลายตัวทีเดียว แต่ละตัวก็น่ารักน่าชังทั้งนั้น
เวลามีน้อย ใช้สอยให้พอเหมาะ ว่าแล้วพวกเราก็รีบออกเดินทางไปแอ่วสวนสัตว์เชียงใหม่เพื่อเบิ่งหมาแพนดี้...เอ๊ย หมีแพนด้ากันโลด
จ่ายเงินค่าผ่านประตูแล้วก็จ่ายค่ารถอีกคนละ 20 เพื่อให้เขาขับพาขึ้นไปยังที่พักของน้องช่วงช่วงและหลินฮุ่ย หรือมีชื่อไทยว่า เทวัญและเทวี ที่ได้มาจากการประกวดตั้งชื่อและไม่ค่อยมีใครจำได้
ก่อนเข้าไปต้องจ่ายค่าชมอีกคนละ 50 บาท (จำผิดรึเปล่าน้า) แล้วก็ลงไปเดินเหยียบๆ บนถาดน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนที่จะเข้าสู่ที่พักของน้องหมีทั้งสองกัน
มองเข้าไปเราก็ได้พบกับ.....ช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย ตัวเป็นๆ ที่โดนจับเลี้ยงแยกกัน นับตั้งแต่บรรดาผู้เลี้ยงและสัตวแพทย์ประชุมกันแล้วลงความเห็นว่า การใกล้ชิดสนิทสนมกันมากเกินไป ทำให้แพนด้าทั้งสองเกิดอาการเซ็กส์เสื่อมและไม่ปรารถนาจะสืบพันธุ์กัน ดังนั้นเพื่อสร้างความตื่นเต้ลลลลลลในการพบปะแต่ละครั้ง จึงได้จับแยกกันซะเลย....
ช่วง ช่วง ซึ่งดูตัวโตและเป็นเด็กผู้ชายอย่างเห็นได้ชัด
และน้องหลินฮุ่ย ผู้เอาแต่นอน
นอนได้สักพัก ก็ได้เวลาให้อาหารเสริมแก่แพนด้าทั้งสอง หลินฮุ่ยยังคงเอาแต่นอน แต่คุณช่วงช่วงลุกขึ้นเคลื่อนไหวและกินไผ่โชว์ให้สาธุชนฮือฮาว่ามาแล้วไม่เสียเที่ยว
ลุกเดินเขยิบเข้ามาใกล้ๆ ผู้ชมมากเข้าไปอีก....รู้งานจริงๆ ช่วงเอ๋ย
พี่เลี้ยงเห็นเดินเข้ามาได้ระยะ เลยส่งคุกกี้อาหารเสริมให้กิน ซึ่งช่วงช่วงก็รับไปหม่ำอย่างเอร็ดอร่อย
กินแล้วมีความสุขจัง อะฮุ อะฮุ
ส่วนหลินฮุ่ยก็ยังคงนอนมาราธอนต่อไป....
เนื่องจากตอนที่เราออกมานั้น เป็นเวลาสวนสัตว์ใกล้ปิด การชมสัตว์น้อยน่ารักต่างๆ จึงกระทำกันอย่างเร่งรีบด้วยความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ขับรถ ที่อุตส่าห์จอดให้พวกเราลงไปชะโงกกันเร็วๆ ตามแต่ละจุด เพราะหาไม่แล้ว จะไม่มีรถกลับลงไปด้านล่าง (สวนสัตว์นี้อยู่บนเขาค่ะ) ต้องเดินกันให้ขาฉิ่งเลยทีเดียว
เพนกวิน
ลิงกัง....เอ๊ะ รึว่าลิงแสม?
นกอีมู
ฮิบโป
คนดู..เย้ย!
ดูสัตว์มากๆ ก็พาลจะหิวข้าวเอา เราเลยมุ่งหน้าไปหาของกินกัน ตอนแรกว่าจะหาร้านอาหารญี่ปุ่นราคาถูกที่แนะนำในรายการตีสิบโดยพี่โน้ส แต่ความที่พี่เค้าไม่ยอมเปิดเผยที่ตั้งของร้าน เราก็สุดปัญญาที่จะค้นหามันได้ ว่าแล้วก็เบนเข็มใหม่ไปร้านอาหาร 'เฮือนเพ็ญ' ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลเชียงใหม่ แต่กว่าจะไปถึงก็ต้องเผชิญกับรถติดและควันพิษแสนสาหัสไม่แพ้กรุงเทพฯ เลยทีเดียว แฮ่กๆ
มาร้านนี้แล้ว ก็ต้องประเดิมด้วยออเดิฟอาหารเหนือกันเลย น้ำพริกหนุ่ม ผักสด หมูยอ แหนม ไส้อั่ว แคปหมู
ยังไม่สะใจ เอาน้ำพริกอ่องมาอีกที่
ที่เห็นในก่องทรงสูงสีแดงนั่นคือข้าวเหนียว และในกรวยใบตองคือข้าวสวยค่ะ เสริฟได้เดิร์นมากๆ
ยิ่งกินยิ่งเพลิน เลยสั่งแหนมสดมากระแทกปากอีกจาน
ตามด้วยไก่ทอดกรอบๆ
แผลบเดียวก็เหลือแต่ซากในสนามรบ.....
แต่ยังหรอก....ปอบแกงค์นี้ไม่มีทีท่าจะเลิกราการชิมของดีเมืองเชียงใหม่กันง่ายๆ เราจับรถแดงแบบงงๆ เล็กน้อยไปทางอนุสาวรีย์สามพ่อขุน แล้วลงเดินอีกนิดหน่อย เพื่อมากินบะหมี่ที่ลือชื่อของชาวเชียงใหม่อีกเจ้าหนึ่ง...อ๋องทิพย์รส
จุดประสงค์ในการมาร้านนี้ ก็เพื่อจะชิมบะหมี่เส้นนุ่ม ซุปกระดูกหมูรสกรุ้มกริ่ม และลูกชิ้นปลาเม็ดเล็กเท่าบัวลอย หรือที่พี่โน้ส อุดม แต้พานิช ช่วยตั้งชื่อให้ใหม่อย่างไม่ค่อยจะสัปดนเลยว่า 'ลูกชิ้นหัวนม'
ดูกันจะๆ ว่าเล็กเท่าหัวนมจริงรึเปล่า
และแน่นอนว่า ไฮไลท์ของการมาเยือนร้านนี้อีกอย่าง อยู่ที่การได้เห็นวิธีรับออเดอร์และคิดเงินที่ฟังแล้วงงแต่แม่นยำสุดๆ ของพี่คนนี้เค้า..พี่น้อย วงพรู..เอ๊ย พี่น้อย เซเลบริตี้ของวงการร้านบะหมี่เมืองเชียงใหม่ ที่พอขอถ่ายรุปก็เก็กหล่อเข้ากล้องได้ทันทีแบบไม่มีเขิน
กินจนจุกแทบจะคลานกันอยู่แล้วก็ยังไม่หนำใจ อุตส่าห์โบกรถไปร้าน 'มนต์' ที่ถนนนิมมานเหมินทร์ เพื่อโซ้ยนมเย็นและขนมปังสังขยากันต่ออีกเป็นการปิดท้ายค่ำคืนนี้ เอิ้ก
Create Date : 21 มกราคม 2551 |
Last Update : 21 มกราคม 2551 20:46:49 น. |
|
11 comments
|
Counter : 1791 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:15:38:56 น. |
|
โดย: ตาอ้วนชวนคุย IP: 118.172.27.34 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:16:31:11 น. |
|
โดย: canx วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:18:49:26 น. |
|
โดย: ขอเวลา IP: 222.123.56.149 วันที่: 21 มกราคม 2551 เวลา:21:16:21 น. |
|
โดย: jojo วันที่: 22 มกราคม 2551 เวลา:0:24:46 น. |
|
โดย: แล้วสะใภ้ก็จะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน yumeyada IP: 218.229.60.171 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:31:49 น. |
|
โดย: รู้ทั้งรู้ IP: 58.11.240.132 วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:11:09:17 น. |
|
| |
|
แล้วหมาปั๊กก็จะครองโลก |
|
|
|
|