✿ วิธีการลด(ไขมัน)ที่ถูกต้อง

วิธีการลดน้ำหนักที่สอดคล้องกับหลักการทางการแพทย์โดยหลักการแล้วก็คือ "ห้ามทานยาลดน้ำหนัก ห้ามอดอาหาร ทานผักเยอะ ๆ ทานคาร์โบไฮเดรตน้อย ๆ ทานมันน้อย ๆ ออกกำลังกายไปด้วยก็จะยิ่งดี" ตามที่แพทย์ส่วนใหญ่เข้าใจ
เพียงแต่ว่าจำเป็นต้องมีรายละเอียดอย่างครบถ้วนดังนี้

1. ต้องทานอาหารให้ครบ 3 มื้อในทุก ๆ วัน ไม่มากไม่น้อยกว่านี้เพราะการทานอาหารครบ 3 มื้อ จะทำให้ร่างกายเราสามารถรักษาระดับการเผาผลาญพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้ไม่เกิดสภาวะคล้ายการจำศีล ส่วนการทานอาหารให้มากกว่า 3 มื้อก็เป็นการสร้างนิสัยการทานจุกจิกและทำให้เราหิวบ่อยเกินไป จึงไม่ควรทำ

2. ทานอาหารให้ได้พลังงานประมาณ 1,000 - 1,200 กิโลแคลอรี่ (น้ำหนักจะลดลงเดือนละ 3 - 4 กิโลกรัม) อาจจะยืดหยุ่นได้ แต่ห้ามต่ำกว่า 800 กิโลแคลอรี่เด็ดขาด เพราะร่างกายเราจะทำงานน้อยลงเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่งนอกจากจะทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องยากแล้ว ยังทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นง่ายด้วย ซึ่งทำให้เกิดโยโย่ได้เมื่อเรากลับมาทานอาหารปกติ เราจึงควรทานให้ได้พลังงานประมาณ 1,000 - 1,200 กิโลแคลอรี่ เพื่อไม่ให้ระดับการเผาผลาญพลังงานของร่างกายเราลดต่ำลง

3. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
เพราะหากเราขาดอาหารหมู่ใดหมู่หนึ่ง เราจะรู้สึกหิวได้ง่าย ทำให้เราลดน้ำหนักได้ยากขึ้น และยังทำให้ร่างกายทำงานบกพร่องได้ ซึ่งจะทำให้เรามีปัญหาสุขภาพได้

4. ทานโปรตีนให้เพียงพอ โดยทานโปรตีน 1.0 กรัม/น้ำหนักเรา 1 กิโลกรัม เพื่อให้น้ำหนักที่ลดลงเป็นไขมันไม่ใช่กล้ามเนื้อ ซื่งช่วยรักษาระดับการเผาผลาญให้คงที่ หรือช่วยปรับระดับการเผาผลาญที่เสียไปให้ดีขึ้น ทำให้เมื่อเราหยุดลดน้ำหนัก น้ำหนักของเราจะไม่เพิ่มขึ้น (ไม่เกิดโยโย่)

5. สัดส่วนพลังงาน จากโปรตีน/คาร์โบไฮเดรต/ไขมัน ที่ได้จากอาหารที่ทานควรเป็น 30/50/20 (ยืดหยุ่นได้)

6. โดยในทางปฏิบัติ (ข้อ 4 - 5) ให้เราหลีกเลี่ยงอาหารมันและอาหารที่ใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร โดยทานอาหารให้มีโปรตีนประมาณครึ่งหนึ่งในมื้อนั้น ซึ่งในโปรตีนจะมีไขมันอยู่แล้วเราก็จะได้สัดส่วนใกล้เคียงที่ต้องการ

7. ทานผักผลไม้ที่หลากหลายสีสันสลับกันไป โดยทานผักผลไม้อย่างน้อยมื้อละ 1 ถ้วย เพื่อให้ร่างกายยังไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจะได้ไม่หิวง่ายและไม่มีปั๗ หาเรื่องสุขภาพ โดยให้พลังงานจากอาหารที่ทานทั้งวันกับผักผลไม่ที่ทานรวมได้ประมาณ 1,000 - 1,200 กิโลแคลอรี่

8. ดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตรขึ้นไป
เพื่อให้การเผาผลาญไขมันส่วนเกิน รวมถึงทำให้การขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกายมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีผิวพรรณสดใส โดยให้สังเกตจากอาหารปากแห้งคอแห้งและปัสสาวะเหลือง เป็นเครื่องวัดว่าดื่มน้ำพอหรือยัง

9. ออกกำลังกายแบบแอโรบิกควบคู่กับแบบแอนาโรบิก โดยออกกำลังกายให้หนักในระดับที่หัวใจเต้น 60 - 80% ของอัตราการเต้นสูงสุดในแต่ละวัย ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน จำนวน 3 - 6 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรักษาระดับการเผาผลาญให้คงที่หรือช่วยคนที่ระดับเผาผลาญต่ำให้มีอัตรา การเผาผลาญที่ดีขึ้น ซึ่งการที่ระดับการเผาผลาญของเราอยู่ในระดับที่ดี จะช่วยให้เมื่อเราหยุดลดน้ำหนักแล้วกลับมาทานอาหารปกติ น้ำหนักจะไม่เพิ่มขึ้น (ไม่โยโย่)


อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายเป็น เพียงตัวช่วยในการลดน้ำหนักให้เราสามารถลดน้ำหนักได้อสำหรับบางคนเท่านั้น จริง ๆ แล้วสิ่งที่ส่งผลต่อเรื่องการลดน้ำหนักมากที่สุดก็คือการควบคุมอาหาร คนส่วนใหญ่จึงสามารถลดน้ำหนักลงได้โดยควบคุมอาหารอย่างเดียวโดยไม่ต้องออก กำลังกาย

10. นอนวันละ 8 ชั่วโมง เพราะหากเรานอนน้อยเกินไปร่างกายจะทำงานผิดเพี้ยนแล้วทำให้อ้วนขึ้นได้ ส่วนการนอนมากเกินไปก็ทำให้ร่างการเผาผลาญต่ำลงได้

11. ควบคุมน้ำหนักต่อไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากได้น้ำหนักที่ต้องการแล้ว เพื่อให้ร่างกายสามารถจดจำน้ำหนักที่ลดได้ จะได้ไม่มีการปรับตัวให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น โดยพยายามทานให้ได้พลังงานเพิ่มขึ้นทีละนิด เช่น
ควบคุมเดือนแรกทานให้ได้พลังงานประมาณ 1,300 กิโลแคลอรี่
ควบคุมเดือนที่สองทานให้ได้พลังงานประมาณ 1,500 กิโลแคลอรี่
ควบคุมเดือนที่สามทานให้ได้พลังงานประมาณ 1,800 กิโลแคลอรี่


ด้วยหลักการเหล่านี้ หากใครก็ตามที่สามารถปฏิบัติตามได้อย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถลดน้ำหนักลงได้ โดยที่ไม่ทำให้เกิดโยโย่ขึ้นอย่างแน่นอน



credit : หนังสือ "ถ้ารู้...คงผอมไปนานแล้ว" by โรสแมรี่




Free TextEditor




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2554
1 comments
Last Update : 18 พฤษภาคม 2554 17:27:53 น.
Counter : 719 Pageviews.

 

สวัสดีน๊าาา ทักทายจ้าาาา อิอิ rassapoom rassapoom clinic รัสมิ์ภูมิ รัสมิ์ภูมิ คลินิก Ultraformer ยกกระชับ ลดริ้วรอย สลายไขมันใต้ชั้นผิว ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม Drakarian สลายไขมันใต้ผิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ปาก เลเซอร์กำจัดขน เลเซอร์ขน กำจัดขน Hair Removal ฉีดฟิลเลอร์น้องสาว ฟิลเลอร์น้องสาว ดูดไขมันเหนียง คางสองชั้น FaceTite AccuTite Hifu Super Hifu มาส์กหน้า ตาสองชั้น ทำตาสองชั้น ศัลยกรรมตาสองชั้น ฟิลเลอร์สะโพก ฟิลเลอร์เสริมสะโพก ฉีดฟิลเลอร์สะโพก ฉีดฟิลเลอร์เสริมสะโพก Morpheus Morpheus Pro ยกกระชับผิว ฟิลเลอร์คาง โปรแกรมฟิลเลอร์คาง Exosome Exosome Plus Exosome Plus+ กระชับช่องคลอด ช่องคลอด Vaginal Vaginal Reju Skin Quality ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตา Ultracol ไหมน้ำ Allergan โบ Allergan ฉีดโบ Allergan Super Skin Laser ฝ้า กระ ฝ้า กระ จุดด่างดำ Picocare 450 Laser ร้อยไหม ร้อยไหมคืออะไร Lenisna JUVELOOK สารเติมเต็ม REVIVE BELOTERO REVIVE Rejuran Gouri คอลลาเจน กระตุ้นคอลลาเจน Juvederm Juvederm Volite New Juvederm Volite Radiesse Radiesse Filler Sculptra คอลลาเจน เสริมจมูก ศัลยกรรมเสริมจมูก ปลูกผม FUE ฟิลเลอร์ Filler ฉีดฟิลเลอร์ Thermage Thermage FLX ยกกระชับ ยกกระชับผิว Ulthera EMFACE ยกกระชับ ยกกระชับกล้ามเนื้อ ฉีดแฟต สลายไขมัน ฉีดแฟตสลายไขมัน CoolSculpting Elite CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน BodyTite ดูดไขมัน Emsculpt สร้างกล้ามเนื้อ ลดไขมัน สอนฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ สอนฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ ให้ใจ สุขภาพ

 

โดย: teawpretty 22 กุมภาพันธ์ 2567 19:06:43 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ameijang - มี่
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Mei's Diet Diary++ท้อได้แต่ห้ามถอย!!! สวย เฟิร์ม เริ่มต้นที่ตัวเรา!!!
loaocat
loaocat
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2554
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ameijang - มี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.