แอ่วเมืองแป้ เสน่ห์ล้านนา ธรรมชาติบำบัด
&groupแอ่วเมืองแป้ แลเยี่ยมเยือนสุข ฉบับที่แปด ขอเปลี่ยนบรรยากาศพาไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในเขตตัวเมืองของจังหวัด แพร่ ซึ่งถือว่าเป็นประตูสู่ภาคเหนือตอนบน จังหวัดที่ยังมีวิถีชีวิตและอารยะธรรมล้านนาพร้อมทั้งยังมีความเป็นธรรมชาติสูง การเดินทางเข้าตัวจังหวัดจะต้องผ่านขุนเขาไม่ว่าจะเดินทางมาจากทางไหน เพราะจังหวัดแพร่มีลักษณะเป็นแอ่งและมีขุนเขาล้อมรอบทุกด้าน แต่ปัจจุบันการเดินทางเข้าตัวเมืองแพร่ทําได้สะดวกมากขึ้น จากการจราจรที่เป็นถนนสี่เลนเกือบหมดแล้ว ในช่วงพิษณุโลก อุตรดิตถ์ จนถึงสูงเม่น อําเภอหน้าด่านของจังหวัดแพร่ และการเดินทางต่อจากแพร่ไปเชียงใหม่ เชียงราย ก็สามารถทําได้สะดวกผ่านเส้นทางที่สวยงาม ครั้งหน้าการเดินทางขึ้นเหนือ อาจลองเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนี้แทนการไปทางกําแพงเพชร ตากดูบ้าง และถ้ามีเวลาลองแวะเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆตัวเมืองแพร่กันบ้าง ส่วนแลเยี่ยมเยือนสุข ไปที่ไหนมาบ้างลองเข้าไปชมกันได้เลย

ถ้ามาทางอุตรดิตถ์ ช่วงรอยต่อจะเข้าเขตจังหวัดแพร่ จะมีจุดชมวิวเขาพรึง ภาพนี้ถ่ายช่วงเช้าวันที่มี หมอกลงจางๆ

ซูมดูใกล้ๆกับวิวทิวเขาสลับกับสายหมอก

จากจุดชมวิวเขาพรึง อีกไม่ไกลก็จะมาถึงประตูต้อนรับเข้าสู่เมืองแพร่ บริเวณอําเภอสูงเม่น บริเวณนี้มีจุดพักรถ, สินค้า OTOP และข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวแนะนําด้วย

สถานที่สําคัญอันดับแรกที่ต้องมาเยือนและสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ก็คือวัดพระธาตุช่อแฮ วัดคู่ บ้านคู่เมืองของจังหวัดแพร่

หลังจากได้ออกกําลังกายโดยการ เดินขึ้นบันไดไม่สูงมากนัก ผ่านประตูเข้ามาในตัววัดชั้นในมองย้อน กลับออกไป

ภายในวัดชั้นใน จะมีองค์พระธาตุช่อแฮและพระอุโบสถอยู่ในบริเวณ เดียวกัน

องค์พระธาตุสีเหลืองทองอร่ามสวยงามนัก ส่วนใหญ่ผู้ที่มาที่นี่ จะมาเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุสามรอบกัน

ช่วงค่ํา บริเวณหน้าพระอุโบสถ

จุดศูนย์กลางของจังหวัด น่าจะเป็นบริเวณนี้ วงเวียนน้ําพุ หน้าศาลากลางจังหวัด

ศาลากลางจังหวัดยังอยู่ในตัวเมืองและเป็นศูนย์กลางราชการของที่นี่

บริเวณวงเวียนจะมีคิวรถแดง สําหรับผู้ที่จะเดินทางไปสถานที่ ท่องเที่ยวต่างๆโดยไม่อยากขับ รถไปเอง

ทางจังหวัดกําลังส่งเสริมเรื่อง นี้อย่างมาก ธรรมชาติบําบัด กินอยู่กับธรรมชาติ

แม่น้ําที่ไหลผ่านจังหวัดนี้ คือแม่น้ํายม

กับวิถีชาวบ้านริมแม่น้ํายม ใน ตอนเช้าที่มีหมอกลง

ในตัวเมืองบริเวณรอบๆวงเวียนน้ําพุ จะมีอาคารเก่าแก่มากมาย ในภาพนี้เป็นคุ้มเจ้าหลวง สร้างมาตั้งแต่ สมัย ร.5 สามารถเข้าไปชมข้างในได้ฟรี

ทรรศนียภาพรอบๆบริเวณคุ้มเจ้าหลวง

บ้านวงศ์บุรี อาคารอายุมากว่าร้อยปีเช่นกัน ภายในมีข้าวของเครื่องใช้สมัยเก่าให้ชม ถ้าจะชม ภายในของที่นี่ต้องเสียค่าเข้าชมเล็กน้อย

เจดีย์โบราณวัดศรีชุม ซึ่งแต่ก่อนจะหุ้มด้วยทองคํา ตอนเสียกรุงถูกเพื่อนบ้านขนทองและของมี ค่าไป เหลือแต่เจดีย์อิฐเปลือย น่าเสียดาย

องค์พระประดับกําแพงด้านใน ของวัดพงษ์สุนันท์ วัดในเมือง อีกแห่งที่อยู่ใกล้ๆกัน

วัดจอมสวรรค์ เป็นวัดสไตล์ไทย ใหญ่ ปัจจุบันไม่มีพระจําวัดและ ไม่มีกิจสงค์แล้ว เปิดให้เข้าชม ภายในได้ ดูภายนอกสวยงามดีแต่ ภายในโล่งๆไม่มีอะไรให้ชมเท่าไร

นอกจากวัดที่มีให้ชมมากมาย รอบๆตัวเมืองก็มีสถานที่ท่องเที่ยงธรรมชาติๆ หลายๆที่ให้เที่ยวกัน ยก ตัวอย่างที่ทุกๆคนคงเคยได้ยินชื่อ อย่างแพะเมืองผี ซึ่งก็คือเสาดินหรือเสาหิน ที่ถูกกัดเซาะเว้าแหว่งไป ตามกาลเวลา

ถ้ําผานางคอย สถานที่ใหม่ที่ทางจังหวัดกําลังส่งเสริมการท่องเที่ยว ไปทางอําเภอร้องกวางประมาณ 30 กม. และเดินขึ้นเขาไม่สูงมากนัก ด้านในถ้ํามีพระพุทธรูปประดิษฐานให้สักการะด้วย

ตัวถ้ามีขนาดกว้างประมาณ 10 เมตร มีทางเดินตลอดแนว บางช่วงก็ทําทางเดินไว้ให้ บางช่วงก็เดิน กับพื้นถ้ําเลย จุดเด่นก็คงเป็นเรื่องการตกแต่งโดยใช้แสงสีส่องสว่างให้กับตัวถ้ํา ดูสวยงามดี

หินงอกหินย้อยช่วงปลายถ้ํา จะมีลักษณะเหมือนผู้หญิงนั่งอุ้มเด็กอยู่ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ําว่า ถ้ําผา นางคอย

เลยจากอําเภอร้องกวาง ช่วงรอยต่อระหว่างแพร่กับจังหวัดน่าน จะมีอุทยานแห่งชาติ ชื่อ ขุนสถาน รถที่จะไปถึงที่นี่ ต้องขึ้นเขาคดเคี้ยวไปพอสมควร ผ่านหมู่บ้านชาวม้ง นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนกาง เต๊นท์อยู่บนยอดดอย

ช่วงหน้าหนาววันหยุดที่นี่ก็เต็มเหมือนดอยสูงที่อื่นๆ

บรรยากาศเย็นๆบนจุดชมวิว บนขุนสถาน

กลับลงมาอําเภอสูงเม่น มาชมวัดที่มีงานสถาปัตยกรรม ปูนปั้นที่สวยๆมากมาย เป็นวัดที่เริ่มเป็นที่ รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ และอยู่ไม่ไกลจากปากทางสูงเม่นมากนัก วัดพระธาตุสุโทน

ทางเข้าส่วนของพระธาตุจะมียักษ์สองตนเฝ้าประตูอยู่

องค์พระธาตุจะเป็นยอดเจดีย์หลายๆยอดไม่เหมือนกับพระธาตุที่เห็นที่อื่นๆ

มีมุมสวยๆให้ชมงานศิลป์ ลวดลายวิจิตร ประณีต มากๆเลย

รั้วรอบองค์พระธาตุ อร่าม เหลืองทอง มีลวดลายสลัก วิจิตร งามมากๆ

เทพพนมปูนปั้นหน้าพระ อุโบสถ

พระอารามหลังหนึ่งที่กําลังอยู่ ในช่วงก่อสร้าง ยังไม่เสร็จดี แต่ก็เร่ิมเห็นความสวยงาม วิจิตรตระการตาแล้ว

ขับรถออกนอกตัวเมืองก็จะมีวิวธรรมชาติๆที่สวยงามให้ดู วิวข้างทางช่วงพระอาทิตย์อัสดง

ลาทริปแอ่วเมืองแป้ด้วยวิวจากในรถช่วงค่ําแล้ว สองข้างทางเป็นป่า ด้านบนเป็นท้องฟ้าช่วงค่ํา แสง ไฟรถส่องถนนเป็นสีขาวด้านล่างของภาพ

ก็เป็นทริปสั้นๆเดินทางไม่ไกลมากรอบๆตัวเมืองแพร่ ยกเว้นทางไปขุนสถานที่อาจใช้เวลาเกือบๆหนึ่ง ชั่วโมงเนื่องจากมีทางขึ้นเขาคดเคี้ยวบ้าง จังหวัดเล็กๆที่อาจยังไม่พลุกพล่านเหมือนเมืองทางเหนือเมือง อื่นๆ แต่มีกลิ่นอายความเป็นล้านนาอย่างมาก และมีอารยะธรรม วัดวาอารามสวยๆมากมาย มีเวลาก็ลองไปเที่ยวกันดูครับ
 สามารถติดตามฉบับต่อๆไปได้ที่ //alperture.bloggang.com
ชมฉบับย้อนหลังได้โดยคลิ๊กเลือกที่หน้าปก ได้เลยจ้า

Create Date : 26 มกราคม 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2554 0:01:13 น. |
Counter : 20240 Pageviews. |
|
 |
|