ช่วงที่รายการรู้จริงป่ะ ออกอากาศในคืนวันศุกร์ที่ 25 มิถุนายนนั้น เป็นช่วงที่กำลังเดินทาง จึงต้องย้อนกลับมาดูทีวีย้อนหลังในวันเสาร์ สาเหตุที่อยากดูรายการนี้เพราะน้องกันไปออกรายการด้วย ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนนี้ก็ดูบ้างไม่ได้ดูบ้างก่อนดูรายการนี้ต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายรายการก่อนว่าเขาเน้นเรื่องตลกขบขัน ดูสนุก ๆ ไม่ต้องการสาระมากนัก และช่วงที่เดอะสตาร์ทั้ง 5 คนมาร่วมแข่งขันเหมือนกับรายการต้องการหานักแสดงตลกมาประดับวงการพิธีกรรับมุขกันได้ดีทั้งน้าเน็ตและพี่แหม่ม เริ่มตั้งแต่เปิดหัวรายการจนจบรายการ ทำให้รายการมีสีสัน สนุกครื้นเครง น่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง และมุขตลกของพิธีกรทั้งสองคนนี้ น้อง ๆ สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้เวลาออกคอนเสิร์ตของตัวเอง หรือต้องพบปะกับแฟนคลับหน้าเวที หรือไปงาน event อื่น ๆ วันนี้น้องกันร้องเพลง ระยะทำใจ แบบสด ๆ เสียงสด ๆ ไพเราะเหมือนกับเสียงที่ร้องในแผ่นซีดีเลย เรียกว่าเสียงน้องยังคงเสมอต้นเสมอปลาย มีบางคนนะคะ ร้องสด ๆ สุ้ร้องในแผ่นไม่ได้ บทบาทที่รายการให้น้องเดอะสตาร์ทั้ง 5 คนเล่น คือ บทกระเทย โดยให้น้องเซนและน้องกันเป็นกระเทยที่แย่งผู้ชาย คือ โตโน่ แล้วโตโน่เข้ามาบอกว่ามีแฟนใหม่แล้ว คือ น้องริท โดยมีบทเลิฟซีนของโตโน่และน้องริทเป็นเครื่องยืนยันว่านี่คือแฟนใหม่จริง สำหรับบทกระเทยนี้ เท่าที่ดูน้องแสดงทั้ง 4 คน บอกได้เลยว่าน้องทั้ง 3 คนแสดงได้เหมือนและแนบเนียนมากจนพิธีกรชมว่าเหมือนตัวจริง แต่ของน้องกันดูไม่สมจริงสมจังเลย ท่าทางเดินเหมือนเด็กขายพวงมาลัยมากกว่า จึงคิดว่าในอนาคตหากน้องกันเป็นนักแสดง โปรดหลีกเลี่ยงบทนี้เถอะ มันไม่ใช่บทของน้องกัน น้องกันไม่ได้เกิดมาเพื่อรับบทกระเทย เพราะน้องเป็นผู้ชายเต็มตัว น้องคงจะฝืนความรู้สึกได้ยากหากน้องไม่มีจิตใจแบบนั้น พี่เชื่อว่าทุกคนคงอยากให้น้องเป็นคนตามธรรมชาติที่เป็นมากกว่าจริงอยู่ที่เขาว่านักแสดงควรแสดงได้ทุกบทบาท แม้แต่บทต่างเพศ แต่นั่นควรเป็นนักแสดงที่มีวุฒิภาวะ มีชั่วโมงบินสูงแล้ว รู้จักตัวของตัวเองแล้ว สามารถควบคุมตัวเองได้ดีแล้ว เช่น คุณอ๊อฟ พงษ์พัฒน์ หรือคุณเจมส์ เรืองศักดิ์ เพราะไม่ว่าเขาจะสวมบทบาทไหนในหนังในละคร แต่ในชีวิตจริง เขาก็คือเขา จิตใจเขามั่นคงพอที่จะไม่คล้อยตามบทบาทในละครอย่างแน่นอนแต่ของน้องกัน พี่เป็นห่วงที่น้องกันยังอายุน้อย ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อารมณ์อาจอ่อนไหวได้ง่าย ดังนั้นหากน้องได้คลุกคลีกับบทแบบนี้บ่อย ๆ น้องอาจมีจิตใจคล้อยตามได้ และจะเบี่ยงเบนทางเพศไป ยกเว้นคนที่เขามีจิตใจเบี่ยงเบนอยู่แล้ว เขาจะแสดงได้สมจริง ก็ขอให้เป็นเรื่องของเขานะคะสำหรับการนำบทกระเทยแย่งผู้ชายมาให้น้องแสดงนั้น เหมือนดาบสองคม คมแรก คือ บรรดาแฟนคลับน้อง ๆ ที่มาร่วมเชียร์นั้นดูแล้วอายุยังวัยรุ่นทั้งนั้น บางครั้งยังแยกแยะสิ่งดีชั่วไม่ได้ เขายังมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบผู้ใหญ่อยู่ ดังนั้นรายการจึงควรพิจารณาสิ่งที่จะนำเสนอต่อผู้ชมด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่เพียงใด เพราะสิ่งที่รายการนำเสนอ บรรดาแฟนคลับวัยรุ่นอาจนำไปเลียนแบบแล้วใช้ในชีวิตจริงได้ ยิ่งผู้เสนอเป็นเดอะสตาร์ที่พวกเขาคลั่งไคล้ไหลหลง เป็นแบบอย่างในใจเขา โอกาสที่จิตใจของน้องวัยรุ่นจะโน้มเอียงและคล้อยตามเดอะสตาร์ยิ่งเป็นไปได้ง่ายขึ้น ดังนั้นหากเขานำพฟติกรรมเหล่านี้ไปใช้ อาจก่อให้เกิดปัญหาชีวิต ปัญหาสังคมตามมาในภายหลังได้ จริง ๆ แล้วมีเรื่องดี ๆ ที่น่านำมาเสนออีกมากมายแม้ว่าจะให้น้องเดอะสตาร์เล่นเป็นกระเทยก็ตาม ไม่เห็นจะต้องนำเรื่องแย่งผู้ชายมาให้เล่นเลย มันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะจะให้แฟนคลับวัยรุ่นของน้อง ๆ ได้ชม เรื่องที่น่าจะนำเสนอ เช่น การแย่งกันทำความดี หรือทำดีมากเกินกว่าเหตุ แล้วเกิดกระทบกระทั่งกัน จึงต้องมีคนที่สามที่สี่มาช่วยตัดสิน และให้แง่คิดในการทำความดีที่เหมาะสมและสมควรควรว่าเป็นอย่างไร เชื่อว่าเมื่อผู้นำเสนอเป็นเดอะสตาร์ จะพูด จะบอก จะขออะไร เด็กวัยรุ่นจะทำตามง่าย ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นดาบคมแรกนี้ ผู้จัดรายการควรพิจารณาให้มาก ๆ ดาบคมที่สอง คือ รายการนี้เน้นความสนุกสนานบันเทิง หากผู้ชมคิดว่าดูเพื่อความสนุก ไม่คิดอะไร แค่วงการมายาที่ไม่มีอะไรจริงจัง ไม่มีอะไรจริงใจ รายการจบ เราก็จบ กลับไปนอนหลับฝันดี ไม่ต้องคิดอะไร สำหรับผู้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากอาจคิดแบบนี้ได้ แต่เด็กวัยรุ่นที่ไปส่งเสียงกรี๊ดให้กำลังใจเดอะสตาร์ของเขาล่ะ เขาจะคิดแบบนี้ได้หรือไม่ หรือรายการคิดว่าธุระไม่ใช่ ชีวิตใครก็ของใคร ฉันจะนำเสนอแบบนี้ ผู้ชมพอใจก็ดู ไม่พอใจก็ปิดไปซะ เท่านี้ก็จบ งั้นหรือ? บทต่อไปที่รายการให้น้องแสดง คือ ให้น้องริทและโตโน่เป็นเจ้าพ่อ พูดลิปซิ้งเขม่นกันแล้วชักดาบออกมาต่อสู้กัน โดยให้น้องกันเป็นคนทำเสียงประกอบเวลาชักดาบและเวลาดาบกระทบกัน น้องกันจะต้องตั้งใจดูว่าทั้งโตโน่และน้องริทจะชักดาบจากเอวตอนไหน น้องกันจะต้องใช้เหล็กรูดจอบให้เกิดเสียงในเวลานั้น และเวลาที่ต่อสู้กันนั้น เสียงดาบกระทบกันต้องให้พอดีกับภาพที่เห็น คนที่จะทำตรงนี้ได้ต้องใช้สมาธิในการดู สมองต้องส่งภาพไปกระตุ้นเตือนเซลล์ประสาทให้มือทำงานให้สัมพันธ์กัน และในเวลาอันรวดเร็วด้วย ซึ่งเป็นการทำงานที่ยากกว่าคนที่ชักดาบหรือต่อสู้กัน เพราะเขาสองคนจะทำตอนไหนก็ได้ ไม่มีใครบังคับ แต่ของน้องกันนั้น ภาพที่สองคนแสดง มันบังคับให้น้องกันต้องทำเสียงให้ตรงกันทุกช็อดแบบพลาดไม่ได้ ปรากฏว่าน้องกันมีสมาธิมากและสามารถทำได้ดีจนพี่แหม่ม วิชชุดา พิธีกรชมเชยรายการนี้ยังไม่จบนะคะ คืนวันศุกร์หน้ามาดูบทบาทการแสดงของน้องกันต่อไป น้องกันคือคนที่มีหน้าต่างหลายบานจริง ๆ วันนี้เราจึงเห็นบทบาทการแสดงของน้องกันว่า ถ้าให้น้องกันเป็นนักแสดง น้องกันจะแสดงได้ดี เพราะความตั้งใจในการทำงาน การมีสมาธิในจิตใจ ความเฉลียวฉลาดในการรับรู้ และการเชื่อฟังผู้กำกับ ไม่นอกซีน นอกบท ซึ่งเรื่องหลังนี้สำคัญมากที่สุดจึงคิดว่า ละครน้ำดี ที่คุณบอย ถกลเกียรติ เคยบอกว่าจะให้น้องกันเล่นนั้น คงจะมีข่าวดีให้แฟนคลับได้ร่วมเฮเร็ว ๆ นี้ พวกเรารอฟังเสียงเพลงของน้องกัน และรอดูละครของน้องกันอย่างใจจดใจจ่อทุกวันค่ะรักน้องกันมากมาย เพราะน้องกันคือคนในครอบครัว ครอบครัวคนรักกันที่กระจัดกระจายอยู่ทุกภาคของประเทศ ปล. ขอบคุณเจ้าของภาพน้องกัน นำมาจากห้องเลิมกรุงค่ะ