นางสำมะนักขาก่อศึก ยกพลรบ ภาคจบ [โขน-รามเกียรติ์ จากการแสดง ของ มทร.ธัญบุรี]
25 สิงหาคม 2553 : นางสำมะนักขาก่อศึก ยกพลรบ ภาคจบ [โขน-รามเกียรติ์ จากการแสดง ของ มทร.ธัญบุรี]
ภาพถ่ายชุดนี้ถ่ายภาพมาจากงาน 9 ราชมงคลร่วมใจ สืบสานวัฒนธรรมไทย และนิทรรศการผลงานนักศึกษา ครั้งที่ 2 จัดงานกันที่อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว วันที่ 22 สิงหาคม 2553
ภาพถ่ายชุดนี้เป็นการแสดงชุดสุดท้ายของการแสดงในวันนั้น เป็นการแสดงของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ได้นำการแสดงโขนมาให้ชมกัน เป็นการแสดงในเรื่องรามเกียรติ์ ในตอน นางสำมะนักขาก่อศึก ยกพลรบ
มาเล่าเรื่องตอนต่อให้อ่านกันก่อน แต่ตอนที่เล่านี้ไม่ได้มีการแสดง
เป็นตอนที่นางสำมะนักขาแปลงเรื่อง เล่าความเท็จต่อทศกัณฐ์ผู้พี่
ภายหลังที่นางสำมะนักขาถูกพระลักษณ์ทำโทษอย่างรุนแรง นางจึงรีบกลับไปเมืองลงกา แล้วเล่าความที่ตนถูกทำร้ายกลับมา ให้พญาขร ฟัง แต่นางกลับเล่าเรื่องเท็จว่า นางไปเดินเที่ยวพักผ่อนที่แม่น้ำโคทาวารี พบมนุษย์ชาย 2 คน หญิง 1 คน บวชเป็นดาบสอยู่ในป่า ฤาษีชายสองคนเห็นตนเป็นหญิงจึงเข้ามาหยอกเย้าลวนลามแต่นางไม่ยอม จึงถูกทำร้าย
พญาขรได้ฟังดังนั้นจึงจัดทัพออกรบกับพระราม พญาขรสู้ไม่ได้...ถูกพระรามฆ่าตาย รวมถึง พญาทูต และตรีเศียร
นางสำมะนักขาเห็นพี่ชายทั้ง 3 คือพญาขร พญาทูต และตรีเศียรถูกพระรามฆ่าตาย ด้วยความแค้นใจจึงไปฟ้องทศกัณฐ์ พร้อมกล่าวชื่นชมความงามของนางสีดาให้ทศกัณฐ์ผู้พี่ฟังว่า นางสีดาสวยงดงามมาก เมื่อนางไปเดินป่าและพบเข้า จึงคิดจะนำมาถวายทศกัณฐ์ แต่พระราม พระลักษณ์ได้ขัดขวางเอาไว้
พระลักษณ์ได้ต่อสู้กับนางและลงโทษนางอย่างแสนสาหัส อีกทั้งเมื่อกลับมาแล้วได้บอกความต่อพี่ชายทั้งสาม พี่ชายทั้งสามออกไปช่วย ก็ถูกฆ่าตายจนหมด
จึงมาบอกความ แจ้งแก่ทศกัณฐ์ให้ไปรบกับพระราม เพื่อชิงตัวเอานางสีดามาเป็นคู่ครอง
ด้วยการเล่าความแปลงเรื่องเท็จของนางสำมะนักขานี้ จึงเป็นเหตุให้ทศกัณฐ์มุ่งหมายอยากได้นางสีดามาเป็นคู่ครอง และเป็นเหตุให้เกิดการสู้รบกันในเวลาต่อมา
จากเนื้อเรื่องที่ไปตามอ่านมานั้น ยังจะเป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับทศกัณฐ์ วางแผนไปลักตัวนางสีดา และยังอีกหลายตอนทีเดียว กว่าที่จะได้เริ่มยกพลออกรบระหว่างกองทัพทศกัณฐ์ กับ กองทัพพระราม เข้าใจว่าการแสดงน่าจะรวบรัดตัดความเล่าเรื่องนางสำมะนักขา และเป็นนางสำมะนักขาที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการต่อสู้ ยกทัพมารบกันในเวลาต่อมา การแสดงจึงตัดมาเป็นการยกพลรบ
เริ่มจากกองทัพยักษ์กันก่อน
ทัพยักษ์ออกมารำตั้งขบวน ตั้งแถวรอรับแม่ทัพ "ทศกัณฐ์"
ทัพยักษ์ ออกมารำกันอย่างพร้อมเพรีัยง (เพิ่งจะได้ชมก็ชุดนี้ล่ะ ที่พร้อมกันมากๆ แล้วพอได้ตำแหน่งดี ก็เล็งถ่ายภาพชุดนี้มาะซะเยอะทีเดียว)
ภาพชุดนี้ และก่อนหน้านี้ อาจเห็นหลายภาพที่วางภาพ ทิ้งไว้ข้างใดข้างหนึ่ง เพราะแอบเห็นน้าๆ ช่างภาพมือโปรฯ วางภาพทิ้งไว้ข้างๆ ได้อย่างสวยงาม ลองแอบมาถ่ายภาพดูบ้าง แต่ยังไม่เข้าตาตัวเองเท่าไร 555
แม่ทัพใหญ่ ทศกัณฐ์ ออกมาแล้ว มาเดินตรวจแถว พร้อมฟังรายงานจากทหารเอก ก่อนสั่งพร้อมรบ
ทศกัณฐ์ให้สัญญาณ พร้อมลุยแล้ว
แต่เดี๋ยวก่อนมาชมกันในส่วนของกองทัพพระราม ทัพวานร กันก่อน
ทัพวานรออกมาฉากแรก มักจะตีลังกาโชว์กันทุกที ภาพนี้ก็เล็งถ่ายไว้หลายรอบ แต่วานรตัวนี้มาลื่นล้ม ตีลังกาไม่ครบวงซะนี่ มัวแต่แอบหัวเราะตามไปด้วย 555 วานรตัวอื่นๆ เลยไม่ทันได้ภาพมาเลย
ทัพวานร ออกมาตั้งแถวรับ แม่ทัพใหญ่ พระราม - พระลักษณ์ แต่ถ้าเทียบกับกับทัพยักษ์แล้ว ทัพยักษณ์ รำได้พร้อมเพรียงกว่า
แต่ด้วยลักษณะของวานร อาจจะเล่นๆ แอบแกล้งกันไปมา สนุกสนานไปหน่อยก็ได้
ทัพวานร ตอนนี้ก็พร้อมลุยเช่นกัน
พระรามแม่ทัพใหญ่ในการรบครั้งนี้ ก็ออกมานำทัพด้วยตัวเอง
พระลักษณ์ก็ออกมาเคียงข้างเตรียมพร้อมในการรบครั้งนี้
การศึกครั้งนี้เลยได้ชมทัพใหญ่กันทีเดียว
หนุมานถวายรายงาน จำนวนทหารเอก และทัพวานรแนวหน้า ที่พร้อมลุยศึกในครั้งนี้ต่อพระราม
ตัดกันมาที่ตอนสู้รบกันนิดหน่อยก่อน
ทศกัณฐ์โดนรุม(กินโต๊ะ)
พระลักษณ์ รบกับ ทศกัณฐ์
พระราม รบกับ ทศกัณฐ์
การยกพลรบสู้กันระหว่างทัพทศกัณฐ์ และ ทัพพระรามในครั้งนี้ ไม่มีใครแพ้ชนะ ต่างฝ่ายต่างยกทัพกลับกันไป และการแสดงก็มาจบลงตรงนี้ครับ
จบไว้กับภาพนี้ครับ (นำภาพรวมๆ มาให้ชมกันไปก่อนครับ ยังมีภาพที่เหลือ จะแอบมาใส่เพิ่มเติมครับ) และหากการเล่าเรื่องต่อเติมเสริมแต่ง ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ตรงนี้ด้วยครับ
ขอบคุณนักแสดงทุกๆ ท่าน และรวมถึงทีมงานของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี รวมถึงผู้จัดงาน 9 ราชมงคลร่วมใจ สืบสานวัฒนธรรมไทย และนิทรรศการผลงานนักศึกษา ครั้งที่ 2 ไว้ด้วยครับ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่าย set นี้ด้วยครับ
*** แอบมาเขียนเล่าเรื่องการถ่ายภาพชุดนี้ และภายในงานนี้ให้อ่านกันนิดหน่อย การถ่ายภาพชุดนี้แสดงใน hall ในโรงละคร และมีการใช้แสงเล่นแสงกันไปตามการแสดง ปกติก็จะพะวงกับแสงไฟ follow อยู่แล้วเหมือนกัน ถ้าถ่ายภาพตามแสงไฟ follow แล้วปรับแสงให้ดีและพอเหมาะก็คงไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่ดูเหมือนงานนี้น่าจะมีการเล่นของไฟ follow แบบ เร่งแสง และ ลดแสงไปมา
พอถ่ายภาพด้วย Mode M แล้วปรับกล้อง ลดค่า เพิ่มค่าในการถ่ายภาพไปมา เล่นเอาเพี้ยนไปเหมือนกัน
หลายภาพ under และหลายภาพ over
กลับมาดูภาพแล้วเหมือนอยากจะชวนให้ถ่ายภาพด้วย mode อื่นๆ แทน mode M ซะเหลือเกิน แต่ก็เชื่อว่าหากใช้ mode อื่นๆ ที่ดูจะปรับภาพค่าการถ่ายภาพอัตโนมัติไปตามค่าแสง น่าจะถ่ายภาพได้ดีกว่า mode M
แต่ก็ไม่ได้ลองถ่าย ด้วย mode อื่นๆ ยังใช้ mode M และปรับค่าการถ่ายภาพไปมาแบบมือระวิงเลยเหมือนกัน
ภาพถ่ายชุดนี้ใช้ค่า ISO สูงถึง 3200 เพื่อมุ่งหวังดึงค่า Speed ให้สูงมากพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวทุกๆ การแสดง และุทุกๆ ตัวนักแสดง เสี่ยงอยู่เหมือนกันที่จะได้ noise มาเยอะ แต่ก็โชคดีที่กล้องพอที่จะตัดเรื่อง noise ไปได้เกือบทั้งหมด โดยไม่ต้องไปลด noise จากโปรแกรมตกแต่งภาพอีกครั้งหนึ่ง
....งานนี้ก็แปลกใจกับตัวเองเหมือนกัน ที่จริงก็ถ่ายภาพ เล็งภาพถ่ายไปตามไฟ follow อยู่แล้ว แต่ทำไมแสงถึงไม่พออย่างที่คิดก็ไม่รู้ งานนี้เลยดัน ISO ซะทะลุจุดเดือดไปเลย
Create Date : 25 สิงหาคม 2553 |
|
22 comments |
Last Update : 8 กันยายน 2553 5:46:25 น. |
Counter : 6842 Pageviews. |
|
|
|
ชอบภาพแรกจังเลยครับ
วางภาพได้สวยมากๆ
จังหวะลงตัวเป๊ะเลยครับ