|
Sport Stacking ซ้อนสับสลับแก้ว [Chiang Mai]
1 กรกฎาคม 2553 : Sport Stacking ซ้อนสับสลับแก้ว [Chiang Mai]
วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา (26-27 มิ.ย.) มีโอกาสได้ไปรู้จัก ไปสัมผัสกีฬาชนิดนี้มา Sport Stacking ซ้อนสับสลับแก้ว
ที่มาจัดการแข่งขันขึ้นที่เชียงใหม่ ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ท เชียงใหม่ ได้ถ่ายภาพ และ vdo มาให้ชมกันนิดหน่อยครับ แต่ก่อนจะชมมาลองทำความรู้จัก Sport Stacking กันก่อน
กีฬาสแต็คคืออะไร?
กีฬาสแต็ค (Sport Stacking) เป็นกีฬาเรียงแก้วพลาสติก ซึ่งแก้วที่เรียง
จะมีทั้งหมด 12 ใบ ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับกีฬาชนิดนี้โดยเฉพาะ กีฬาสแต็คจะมีวิธีการเล่นทั้งแบบ Up Stack คือการตั้งแก้วขึ้น และการ Down Stack คือ การเก็บแก้ว โดยผู้ที่เล่นกีฬาสแต็คจะถูกเรียกว่า Stacker ในการแข่งขันจะใช้การตัดสินโดยดูจากการเล่นที่ลำดับถูกต้อง และการทำเวลาในการเล่นที่เร็วที่สุด
ต้นกำเนิดของกีฬาสแต็คมาจากไหน?
กีฬาชนิดนี้มีต้นกำเนิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มันเกิดขึ้นเมื่อ 25 ปีที่แล้วตั้งแต่ ปีค.ศ.1980 ตอนนี้เริ่มเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในหลายๆ ประเทศ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และ โคลัมเบีย
อีกทั้งกีฬาสแต็คยังถูกบรรจุให้เป็น Physical Education Program หรือ
วิชาพลศึกษาของหลักสูตรการเรียนในโรงเรียนด้วย
อุปกรณ์ที่ใช้เล่น
อุปกรณ์หลักจะมี 3 อย่าง ได้แก่ แก้วพลาสติก 12 ใบ, Stack Mat เป็นแผ่นรอง ที่เรียกได้ว่าเป็นสนามแข่งขันมาตรฐาน และอุปกรณ์ตัวสุดท้ายซึ่งจะมาคู่กับ Stack Mat คือ Timer เป็นตัวนาฬิกาจับเวลาระบบสัมผัส สำหรับผู้เล่นที่เน้นการฝึกฝน ทำเวลาด้วยตัวเอง ใช้อุปกรณ์ชุดนี้ก็เพียงพอ ในกรณีที่มีการแข่งขัน เราจะใช้ Stack POD หรือ Tournament Display ในการ
แสดงเวลา โดยอุปกรณ์ที่ใช้เล่นทั้งหมดนี้จะต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน แก้วพลาสติกต้องผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษ มีการเจาะรูในองศาที่เหมาะสม รวมถึง Stack Mat ต้องมีขนาดที่เหมาะสม
วิธีการเล่น
วิธีการเล่นที่ใช้ในการแข่งขัน จะมี 3 รูปแบบ คือ
3-3-3
3-6-3
และ Cycle
รูปแบบการเล่น
แบบ 3-3-3 คือการใช้แก้วสามใบในการเรียง เรียงซ้อนกันแบบ 3 กอง กองละ 3 ใบ
ส่วนแบบ 3-6-3 ก็คือจะเรียงซ้อนแบบ 3 กอง มีกอง 3 ใบ 6 ใบ และ 3 ใบ ลักษณะการเล่นเป็นการเล่นแบบตั้งแก้วขึ้นทีละกอง และเก็บแก้วลง
การแข่งขันจะมีทั้งการแข่งขันประเภทเดี่ยวเพื่อเก็บสถิติของแต่ละคน และการแข่งขัน
ประเภททีม โดยให้ผู้เล่น 4-5 คน เล่นแบบ 3-3-3 หรือ 3-6-3 หรือ Cycle โดยมีการแปะมือต่อกัน
นอกจากนี้ยังมีการเล่นแบบฟรีสไตล์ ที่ผู้เล่นสามารถสร้างสรรค์ท่าในการเล่นได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
ตัดสินแพ้-ชนะ ดูจากอะไร?
การแข่งขันประเภทเดี่ยวหรือคู่ จะตัดสินจากการทำเวลาในการเล่น ส่วนการแข่งแบบทีมจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ จับเวลาของทีม และแข่ง 2 ทีมชนกัน การแข่ง 2 ทีมปะทะกันจะตัดสินจากการทำฟาวล์ โดยกรรมการจะนับแต้มจากการเล่นที่ไม่ถูกขั้นตอน ทีมที่มีแต้มมากจะถูกปรับแพ้
การแข่งขันทั้งสองประเภทนั้น จะมีกรรมการตัดสินอยู่ด้านหน้าโต๊ะด้านหลังของผู้เล่นและยกใบเขียว ใบแดง หรือใบเหลือง เพื่อแสดงว่ามีการเล่นผิดขั้นตอนหรือไม่? ทำแก้วล้มแล้ว ไม่เก็บหรือไม่?
สรุปอย่างง่าย ก็คือดูจากความถูกต้องของกระบวนการเรียงแก้วและความรวดเร็วเป็นหลัก
ประโยชน์จากการเล่นกีฬาสแต็ค
ประโยชน์จากการเล่นกีฬาสแต็คพัฒนาสมองและประสาทสัมผัส
เสริมสร้างความสัมพันธ์และการทำงานระหว่างดวงตาและมือ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการเล่นกีฬาทุกชนิดเสริมสร้างความชำนาญในการใช้มือทั้งสองข้างให้มีประสิทธิภาพ พัฒนาความสามารถและความช่ำชองทางด้านกายภาพและการใช้สมองทั้งสองซีกพัฒนาทักษะทางอารมณ์
กระตุ้นและส่งเสริมให้ผู้เล่นสร้างจุดมุ่งหมายของตน จากการเก็บสถิติของตัวเองช่วยพัฒนาเรื่องการจัดลำดับความคิด การคิดอย่างเป็นระบบ การดำเนินงานตามขั้นตอน และส่งเสริมการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ฝึกให้ผู้เล่นมีความใส่ใจในสิ่งที่ทำและมีสมาธิส่งเสริมให้เกิดความมานะอุตสาหะและการฝึกฝน ไม่ท้อถอยกับอุปสรรคและปัญหาส่งเสริมการทำงานเป็นทีม
กีฬาสแต็ค : Sport Stacking ซ้อนสับสลับแก้ว เพิ่มสมรรถนะสมอง
การเล่นกีฬาสแต็คมีส่วนช่วยจัดสมดุลของสมองทั้งสองด้าน สมองของมนุษย์แบ่งเป็นสองซีก คือสมองซีกซ้ายและซีกขวา ซึ่งแต่ ละซีกก็ทำหน้าที่แตกต่างกันโดยสมองทั้งสองซีกจะสื่อสารกันผ่าน ทางเส้นประสาทที่เรียกว่า
Corpus callosum
สมองซีกขวา: ทำงานเกี่ยวกับทักษะด้านมิติสัมพันธ์ ( ความสะดวกในการ
คิดจินตนาการและ สร้างมโนภาพจากสิ่งที่เห็น) การคิดแบบ เป็นนามธรรม การคิดแบบภาพรวมหรือ การสังเคราะห์ จำในสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยิน การคิดอย่างสร้างสรรค์ การใช้สัญชาตญาณ และ การใช้อารมณ์ความรู้สึก
สมองซีกซ้าย: ทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ การใช้ตรรกะ การใช้สัญลักษณ์ การใช้ภาษา การคำนวณตัวเลข การใช้เหตุผล การคิดแบบเป็นรูปธรรม การจดจำ การเรียนรู้ด้านภาษา การคิดอย่างมีหลักการและมีแบบแผน
ดร.คาร์ลา แฮนนาฟอร์ด นักประสาทวิทยาและนักการศึกษา รวมทั้ง พอลเดนนิสันผู้คิดค้นวิธีการบริหารสมอง กล่าวว่าสมองสามารถถูกพัฒนาได้หากได้รับการฝึกและบริหารอยู่เสมอกีฬาสแต็คนับเป็นกีฬาที่ใช้ทักษะในการทำงานของสมองทั้งสองด้าน โดยเริ่มต้นจากการใช้ร่างกายทั้ง 2 ซีกควบคู่กัน ได้แก่ มือและดวงตาทั้ง 2 ข้าง ซึ่งกล้ามเนื้อของอวัยวะดังกล่าวจะ
สัมพันธ์กับกล้ามเนื้อของสมองทั้ง 2 ซีก นอกจากนี้วิธีการในการเล่นกีฬาสแต็ค จะช่วยฝึกสมองในการจัดลำดับความคิด ความเป็นแบบแผน การดำเนินงานตามขั้นตอน ความใส่ใจและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสริมสร้างสมาธิให้กับผู้เล่น
คัดลอกข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก สมาคมกีฬาสแต็ค //www.wssathailand.org/about_sport.php
และขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ สำหรับข้อมูลการเล่น Sport Stacking
VDO : Sport Stacking แบบ 3-3-3 และ 3-6-3
2 หนุ่มน้อย หัดฝึกซ้อม และแข่งกันเอง
VDO : Sport Stacking แบบ Cycle
คุณคาเรน พิธีกร และ พรีเซนเตอร์สาวสวย ได้แสดงบนเวทีแบบช้าๆ ให้ชมกัน
ส่วนนี้เป็นภาพนิ่ง-ภาพถ่ายแล้ว และเป็นภาพของชุดวันเสาร์ (ส่วน vdo เป็นภาพการซ้อมก่อนแข่ง ในวันอาทิตย์)
ชุดที่ถ่ายภาพมาให้ชมกันนี้ เป็นการเล่นแบบ 2 คน
แต่ใช้มือคนละข้าง เล่นสลับกันคนละครั้ง ซึ่งต้องใช้สมอง และการจับจังหวะ การเล่นที่อย่างลงตัวด้วย
จบไว้กับภาพนี้
และขอขอบคุณทีมงานผู้จัดที่นำการแข่งขัน Sport Stacking มาจัดการแข่งขัน และให้ชม ให้สัมผัสกันด้วยครับ
ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เป็นแบบถ่ายภาพ และ vdo ด้วยครับ
*** คุยกันท้าย Blog
ภาพชุดนี้ใช้ 2 กล้องในการถ่ายภาพ
ภาพนิ่ง-ภาพถ่าย ใช้ Canon-Dslr กับเลนส์ Sigma 70-200 mm.
ส่วนภาพ VDO ใช้กล้อง compact ถ่ายภาพ
และก่อนจบนำสถิติโลกของการแข่งขันทั้ง 3 แบบมาให้ทราบกันด้วย
Stack 3-3-3 ใช้เวลา 1.80 วินาที
Stack 3-6-3 ใช้เวลา 2.27 วินาที
Stack Cycle ใช้เวลา 5.93 วินาที
| Create Date : 01 กรกฎาคม 2553 |
|
17 comments |
| Last Update : 1 กรกฎาคม 2553 7:19:11 น. |
| Counter : 5623 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [
ถ้าแข่งช้าและพลาด
ผมชนะเลิศแน่นอนครับ 5555