• ++ทักทายสไตล์ zipboy++
• ++สัมผัสเบาๆกับมือถือใหม่++
• ++เรื่องนี้เกี่ยวกับมือถือ++
• ++เรื่องนี้(ไม่)เกี่ยวกับมือถือ++

Garmin Asus M10E "ถึงจะไม่ใช่สิ่งที่ใช่ที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ควรโดนข้าม" เอาล่ะ ผ่านไปสามอาทิตย์กว่าๆ อยู่กับ M10E มาก็พักใหญ่ อยู่นานพอทีเดียว ถึงเวลาสรุปความเป็นมา เป็นไป และทุกสิ่งทุกมุม แบบครบๆถ้วนๆกับเค้าซะที ผมเชื่อว่ามีคนอยากรู้ซะทีแหละ ว่า Windows Phone ที่อาจดูหน้าตาจืด สเปกอ่านกระดาษเสร็จ เเล้วมองข้าม ตัวเครื่อง ภายนอก งานประกอบ สิ่งจับต้องได้ทั้งหมด ความคิดผมถึง ASUS ในยุคก่อน ผมคิดถึง Windows Phone ที่ออกแบบสวย อาจไม่หวือหวาแบบ HTC หรือดูน่าตื่นตาแบบเกาหลี แต่มันก็มีสไตล์ที่น่าเป็นเจ้าของอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทำให้ผมไม่อยากเป็นเจ้าของมันคือ งานประกอบกับวัสดุ เพราะหลายๆครั้ง มันตกม้าตายข้อนี้จริงๆ วัสดุไม่ทน เครื่องลอก โทรม เรียกว่าแก่ก่อนเวลาอันควรเยอะมาก พอเป็น M10E สิ่งที่ผมชอบที่สุด ก็เรื่องวัสดุกับงานประกอบนี่แหละ มันดีกว่า ASUS ที่ผมรู้จักมาก เพราะผิวของเครื่องที่ให้ความสากกำลังดี สีที่พ่นมาค่อนข้างกำลังดี ไม่มีจุดที่รู้สึกว่าบาง หรือดูไม่ทนไม้ทนมือ แต่ใช้ไปนานๆ มันน่าจะมันเงา แต่อย่างน้อยก็ไม่น่าลอกหรือเละให้เห็นแน่ๆ เว้นแต่เอาไปกล้ิงกับพื้นมา อันนี้ก็ไม่แน่นะครับ ส่วนเนื้อวัสดุ ถึงจะเป็นพลาสติก แต่ก็ไม่ได้ทำมาแบบงกๆ ลดต้นทุนจนน่าเกลียดแบบบางค่าย อย่างน้อย เนื้อมันก็หนาพอให้มั่นใจว่า มันไม่หัก แตก หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันแล้วแตกหักคามือง่ายๆ จะติก็แค่โครเมียมหน้าจอนี่แหละ ดูยังไงก็ไม่น่ารอดจากอาการสีลอกเอาง่ายๆ แต่รวมๆแล้ว มันก็ทำให้ผมลืมภาพ ASUS ยุคก่อนๆที่โทรมเร็วกว่าวัยได้แล้วแหละ.... งานประกอบของเครื่อง ถือเป็นสิ่งที่ผมประทับใจตามวัสดุกับงานประกอบ ปกติแล้ว เราชอบคิดกันว่า มือถือพลาสติก งานประกอบไม่ดี งานไม่แน่น โน่น นั้น นี่ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ไอ้มือถือโลหะสารพัดทั้งหลาย หลายๆรุ่นก็เหมือนหลอกลวงเรานิดๆ เพราะไม่มีความน่าใช้สมกับเป็นโลหะมาทำสักนิด สำหรับ M10E เชื่อได้เลยว่า เมื่อหยิบเครื่องมาดูรอบๆ ช่องไฟต่างๆ ขอบสัน ตะเข็บ เรียกว่าเนี๊ยบกว่ามือถือแพงๆบางรุ่นด้วยซ้ำไป ไม่มีตรงไหนหลวม คลอน หรือทำให้รู้สึกว่า ทำไมมันไม่มั่นคง เมื่อจับในมือ น้ำหนักในมือ ความหนักแน่นของเครื่อง เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ทันที ไม่ว่าจะให้ใครถือก็ตาม M10E มีความหนักแน่นในตัวเองที่แค่ถือก็รู้สึกได้จริงๆ แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่ไม่ชอบหรือต้องปรับแก้ ผมกลับมองที่งานออกแบบเครื่องมากกว่า จริงอยู่ เครื่องวัสดุน่าจับ ประกอบมาดี แต่หน้าตาของเครื่อง เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ดึงดูดให้คนเลือกหรือไม่เลือก มือถือหลายๆเครื่อง งานประกอบงั้นๆ วัสดุเลวๆ แต่ขายได้เพราะหน้าตา และมือถือหลายๆเครื่อง วัสดุดีเทพ งานประกอบน่าคบหาสุดๆ แต่ก็เงียบเหงา ผมคิดว่า การบ้านสำคัญของ Garmin-Asus คืองานออกแบบนี้แหละครับ ขอให้มันสวย ดูดี ตรงใจกลุ่มลูกค้าอื่นๆที่ไม่ใช่กลุ่มที่คาดหวังบ้าง เมื่อบวกคุณภาพงานประกอบ ผมเชื่อว่า มันต้องดูดึงดูดไม่แพ้เจ้าตลาดได้แน่นอน การทำงานตัวเครื่อง จริงๆในส่วนนี้ก็ว่ากันไปในครั้งก่อนๆแล้ว แต่ขอเล่าแบบสรุปรวมแล้วกันครับ ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจสักนิดว่า M10E เป็นมือถือที่ใช้จอ Resistive ใช้ CPU 523 MHz และใช้ระบบเป็น Windows Mobile 6.5.3 แน่นอนว่า เราคงไม่สามารถเค้นให้มันลื่นประดุจ iPhone มาเองได้แน่นอน แต่ถ้าเทียบกับสเปกเดียวกัน ใกล้เคียงกัน M10E ไม่แพ้เพื่อนร่วมรุ่นแน่ๆ ผมไม่รู้จะเอาไรวัด แต่เชื่อว่า ลองเอามาเล่นด้วยกัน ผมเชื่อว่าคนที่ได้เล่น HTC หรือ Samsung หรือ Windows Mobile 6.5 / 6.5.3 ตัวอื่นๆยี่ห้ออื่นๆมาก่อนบ้าง เมื่อได้ใช้ M10E ก็จะรู้สึกแบบผมว่า การตอบสนอง การเปิดโปรแกรม การตอบสนองของ Task หรือแม้นแต่การเรียกข้อมูลในเครื่อง ทั้งหมดทำงานได้เร็ว เผลอๆมีเร็วกว่ารุ่นเจ้าตลาดบางตัวด้วยซ้ำ แต่ถามว่า มันยังต้องปรับปรุงอะไรบ้าง มีครับ.... สิ่งแรกที่ต้องปรับแก้เลยอย่างแรกคือ ระบบ Connection Manager ในเครื่อง สิ่งที่พบคือ หลายๆครั้ง การทำงานของมัน ออกแนวตอบสนองช้า หรือบางครั้ง สั่งปิดแล้ว สั่งว่าไม่ต้อแล้ว มันยังแอบต่อเองตอนไหนฟระ..... - -” อย่างต่อมา คือการตอบสนองของจอในจุดเล็กๆ หลายครั้ง การจิ้มลงไปในจุดที่ต้องการแบบจุดเล็กๆ จุดที่ต้องการจริงๆ มันต้องออกแรงนิดนึง หรือไม่ก็ต้องโดนเต็มๆเท่านั้น ไม่งั้นจิ้มไม่ติดจริงๆ และอย่างสุดท้าย คงเป็นเรื่องของลำโพง เพราะเสียงมันแบนๆ ทื่อๆ เหมือนมือถือใช้ลำโพงสเตอริโอยุคแรกๆ เอิ่ม พี่ครับ มาถึงตอนนี้ ขอเสียงเสนาะหูกว่านี้นิดนึงนะ นะๆๆๆ รวมๆแล้ว ขอให้ปรับองค์ประกอบเล็กๆน้อยๆ นิดๆหน่อยๆ เพราะลูกเล่นจุดขายทั้งหมด ไม่ว่าจะการใช้งานสไตล์ Windows Mobile / กล้อง / GPS ฯลฯ ถึงจะต้องปรับแต่งปลีกย่อยให้ลงตัวกว่านี้ แต่แค่นี้ก็พอกับคำว่า”หวังผล”ได้แล้ว ขอนิดเดียวจริงๆ สรุปปิดกล่อง.... ก่อนจะปิดกล่องลากัน ผมคงสรุปได้แค่ว่า M10E เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้เงินทุกบาทให้คุ้มในแง่ของการใช้งาน M10E ไม่ใช่มือถือที่ออกแบบมา แล้วอัดลูกเล่นตามกระแสมือถือ แต่มันเป็นแค่มือถือที่ให้ทุกอย่างที่จำเป็น ได้ใช้ และมีมุมเฉพาะที่ใช้ดีเป็นการส่วนตัว ถ้าจะซื้อมัน เพราะใช้ความเป็น Windows Mobile ที่คุ้นเคย ซื้อมันเพราะอยากได้ GPS ซื้อมันเพราะต้องการใช้ทำงานทำการจริงๆ M10E ห้ามมองข้ามเด็ดขาด แต่ถ้าซื้อเพราะ อยากได้อะไรที่ครบๆ แต่ไม่คิดศึกษา หรือต่อยอดในการเล่นมัน ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถเครื่อง หรือลูกเล่นอื่นๆ ผมว่า M10E อาจไม่เหมาะ และอาจไม่ตรงใจเอาได้ เพราะการใช้งานในหลายๆจุด อาจสร้างความหงุดหงิด ไม่เข้าใจเอาได้ ทำให้มือถืออื่นๆ อาจดูน่าคบมากกว่า บางที การซื้อมือถือสักตัว ลูกเล่นหลักๆของมัน ก็พอให้เราตัดสินใจซื้อได้ แต่ถ้าลูกเล่นหลักๆเหล่านั้น มันไม่ใช่ มันไม่เข้ามือ ก็ควรจะผ่านมันไป ที่สุดแล้ว M10E กลายเป็น Asus ในดวงใจผมอีกเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว ถึงจะไม่ถวิลหา แต่ก็ไม่ลืมความประทับใจต่างๆแน่นอน   Create Date : 29 กันยายน 2553     Last Update : 29 กันยายน 2553 16:11:42 น. Counter : 938 Pageviews.   0 comment Share Tweet

++ สัมผัสเบาๆ กับ LG GM730 Eigen สมาร์ทโฟนฉลาดล้ำ ราคาสุดคุ้ม ++ หลายๆ คนอาจจะผ่านตากับบทความของ LG GM730 Eigen จากหลายๆ ท่านที่เป็นอาสาสมัครที่ได้รับเครื่องไปทดลองใช้งานกันไปบ้างแล้วนะครับ ซึ่งจะมีบทความทั้งการใช้งานด้านฮารท์แวร์และซอฟท์แวร์ การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ที่หลากหลายที่น่าสนใจมาให้ดูกัน อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับเครื่องมีดังต่อไปนี้ 1. LG GM730 Eigen 1 เครื่อง 2. แบตเตอร์แบบ LGIP-580N 1000mAh, 3.7 V 3. ที่ชาร์ทแบบถอดสายได้ 4. สายเดต้าลิงค์แบบ microUSB ซึ่งใช้เป็นสายชาร์จตัวเครื่องได้ 5. ชุดหูฟังแบบสเตอริโอ 6. สไตลัสแบบยืด ไว้ห้อยกับตัวเครื่อง 7. microSD HC 4GB พร้อม adapter 8. แผ่นติดตั้ง Microsoft ActiveSync สิ่งแรกที่ได้เห็นตัวเครื่องแล้วต้องบอกเลยว่า ดูดีกว่าเครื่อง Windows Mobile หลายๆ ตัวในระดับราคาเดียวกันที่เคยลองเล่นครับ ออกแบบให้ดูเรียบๆ แต่ดูดี ด้านหน้าของเครื่องดูเรียบๆ ขอบเครื่องใช้พลาสติกเคลือบโครเมียมเงา ทนต่อรอยขีดข่วนได้ในการใช้งานแบบธรรมดาๆ (ใช้มาได้ระยะหนึ่งยังไม่พบเรื่องของรอบขนแมวครับ) มุมขอบเครื่องก็ลบเหลี่ยมออกหมด โค้งมนดูไม่จำเจดีครับ ด้านหน้าส่วนบน ของเครื่องเองก็มีเซ็นเซอร์วัดแสง และเซ็นเซอร์ที่เช็คการใช้งานโทรศัพท์ เมื่อมีวัตถุปิดเซ็นเซอร์ หน้าจอจะดับลงครับ พอยกออกหน้าจอก็จะทำงานเหมือนเดิม เวลารับสาย แก้มจะได้ไม่ไปถูกปุ่มวางสายบนหน้าจอเข้า ข้างๆ ก็มีกล้องไว้ใช้งาน Video call หรือเป็นกล้องถ่ายรูปตัวเองได้ ถัดลงมาเป็นจอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว อาจจะดูเล็กไปบ้างเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แต่ก็ดูเหมาะพอดีกับขนาดของเครื่องครับ ปุ่มวางสาย และรับสายเป็นแบบ touch sensitive ครับ ให้สัมผัสที่ไวดีทีเดียว ตรงกลางเป็น ปุ่ม joystick ครับ ใช้นิ้วโป้งถูลากไปมาแทนการสัมผัสหน้าจอครับ ตอบสนองการใช้งานดี ด้านหลังของเครื่องมาพร้อมกับกล้องดิจิตอลขนาด 5 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ว่าชัดพอสมควร ซึ่งเพื่อนๆ สามารถดูถาพจากกล้องได้ที่ //www.mxphone.com/show.php?id=4567 แต่เสียดายที่ไม่มีแฟลซมาให้ ฝาหลังที่ปิดเครื่อง ใช้ลายเครฟล่า ดูสวยงาม และทำให้สัมผัสในการจับตัวเครื่องดูกระชับดี ข้างๆ เครื่องทั้งสองด้าน มีปุ่มล๊อกเครื่องและปุ่มปิดเปิดเครื่องในปุ่มเดียวกัน ปุ่ม ปรับเสียงสนทนา และเสียงเรียกเข้า ปุ่มกดชัตเตอร์กล้องถ่ายภาพที่ทำหน้าที่เป้นปุ่มลัดในการใช้งานกล้องถ่ายภาพ ส่วนช่องสำหรับชาร์จไฟมีพลาสติกเคลือบโครเมี่ยมเป็นตัวปิด เวลาปิดแล้วจะสนิทเรียบกับตัวเครื่อง โดยรวมของ LG GM730 Eigen เป็นโทรศัพท์มือถือ ระบบปฎิบัติการ Windows Mobile 6.1 ที่ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก กระทัดรัด จอแสดงผลขนาด 3 นิ้ว การออกแบบดีไซน์ของเครื่องดูโค้งมน ลบเหลี่ยมของตัวเครื่อง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมชอบก็คือ งานประกอบของเครื่องครับ ที่ไร้รอยประกบของชิ้นส่วน ทำให้งานประกอบดูดีมากทีเดียว ฝาหลังปิดเมื่อปิดประกบกับตัวเครื่องแล้วแน่นหนาดีมาก แต่ข้อติเรื่อง ของพลากสติกของฝาหลังนิดนึงว่า ดูบอบบางไปนิด หากถอดฝาหลังแรงๆ อาจจะทำให้เดือยของตัวล็อกกระแทกหักได้ ผู้ใช้งานต้องระวังตรงนี้ด้วยนะครับ ^ ^ ว่ากันเรื่องของตัวเครื่องภายนอกกันแล้ว ทีนี้ เรามาพูดถึง User Interface กันดีกว่าครับ ไฮท์ไลท์เด็ดที่ทาง LG นำมาใช้ เรียกง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ ว่า การนำ S-Class Interface มาครอบลงใน Windows Mobile ซึ่งหน้าตาของ UI จะดูไม่เหมือน Windows Mobile เลยแม้แต่น้อย ซึ่ง S-Class UI นั้น เป็นอินเตอร์เฟสที่ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ดูแล้วง่ายต่อการใช้งาน ในหน้าหลัก หรือชื่อทางการเรียกว่า LG Today จะเป็นที่แสดงข้อมูลทุกๆ อย่าง เกี่ยวกับการใช้งานทั่วๆ ไป เช่นสายที่ไม่ได้รับ ข้อความ SMS/MMS ตารางการนัดหมาย ด้านล่างของ LG Today นั้น จะเป็นสไลด์บาร์ที่เราใช้นิ้วเลื่อนเพื่อที่จะเลือกใช้โปรแกรมที่เราต้องการ ง่ายๆ ว่าทุกโปรแกรมหลัก เราเรียกใช้งานได้เกือบทุกอย่างครับ หน้าถัดมา หากเราใช้นิ้วเลื่อนจากขวาไปซ้าย ตัว LG Today จะพลิกไปเป็นหน้า Widget ครับ ซึ่งเป็นหน้าที่เราสามารถกำหนด Widget ที่เราใช้งานบ่อยๆ ได้ โดยกดหน้าจอค้างไว้ จะเลื่อน จะเพิ่ม จะเอาออกได้ตามใจชอบ หน้าถัดมาเป็นหน้า Multimedia ครับ ซึ่งจะดูเป็นวงล้อที่ใช้นิ้วสกอร์ขึ้นลงได้ตามใจชอบ โดยด้านซ้ายมือจะเป็นเพลงโดยจะแสดงเป็นอัลบั้ม ส่วนด้านขวามือจะเป็นภาพหรือคลิปวีดิโอที่อยู่ในเครื่องครับ หน้าต่อมาเป็นหน้า Contact ที่เราสามารถเลือกคนที่เราโทรหาบ่อย เซ็ทเป็น Photo Contact ได้ทั้งแบบ เรียงเป็นชื่อๆ หรือแบบสกอร์ขึ้นลงได้ตามใจชอบครับ สุดท้ายจากทั้งหมด 5 หน้า จะเป็น Favorites ครับ ซึ่งเป็นหน้าที่แสดงโปรแกรมที่เราใช้งานบ่อยๆ ไว้กดใช้งานได้จากหน้านี้ครับ สามารถเพิ่ม หรือลดโปรแกรมตามที่ต้องกา ทั้งหมดนี้ เป็น User Interface ของ S-Class ที่มีใน LG GM730 Eigen ครับ ดูๆ แล้วดูใช้งานง่ายดีใช่ไหมละครับ ^ ^ และราคาเปิดตัวก็แสนจะเบาเพียง 13900 บาท ทีนี้ต้องมาดุกันว่า ตอนขายจริง Eigen จะมีอะไรที่ปรับเพิ่มหรือสร้างความเร้าใจได้มากกว่านี้ งานนี้ต้องติดตามกันยาวๆครับผม ++++++ Review มือถือรุ่นอื่นๆและสาระที่เกี่ยวกับมือถือ ข่าวสารใหม่ๆประจำวงการ เชิญอ่านได้ที่ //www.mxphone.com ครับ ++++++   Create Date : 25 สิงหาคม 2552     Last Update : 25 สิงหาคม 2552 22:15:43 น. Counter : 850 Pageviews.   1 comment Share Tweet

++ สัมผัสเบาๆ SAMSUNG JET "สวย เซ็กซี่ แรงแบบโบอิ้งชั้นเฟริสคลาส" ++ ผมคิดถึงเธอ แผ่นหลังของเธอยังจำได้ดี ผมยังคงนั่งโต๊ะเดิม มุมเดิมที่ผมมองไปที่เคาเตอร์แล้วพบเธอ "นั่งด้วยไหมค่ะ" เสียงนี้ของเธอ ทำให้ผมต้องหันไปมอง "JET" เธอกลับมาอีกครั้ง ผมชวนเธอคุย แล้วเราทั้งสอง ก็ได้ใกล้ชิดกัน มาว่ากันที่ภายนอกก่อน วัสดุของ JET ทั้งตัวเป็นพลาสติก พลาสติกเงาๆที่จับแล้วฝากรอยนิ้วมือได้ทั้งตัว งานประกอบแน่นหนาดีครับ เรียบร้อยและไม่มีตรงไหนให้ดูน่าเกลียด แต่บีบหนักๆก็มีอาการบีบตัวของพลาสติก ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว การจัดวางของปุ่มด้านล่างที่โค้ง ถึงจะไม่มีปัญหา แต่พอผมกดรีบๆ ความโค้ง+ลื่น ก็ทำผมเสียวทำร่วงได้เช่นกัน หน้าจอตัวเครื่องยังคงความสวยเช่นเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ มันมีความลื่นไหลในการใช้งานที่ดีมาก เป็นครั้งแรกที่ผมใช้ Touchwiz แล้วชอบ ไม่แอบกรนด่าในใจว่า "ช่วยกรุณาตื่นมาทำงานตามนิ้วตรูจะได้ไหม" เสียง สนทนา โอเคเลยครับ ใช้ดีทีเดียว แต่ลำโพงสนทนายังไม่ถึงกับชัดเจนสุดๆ ยิ่งใช้ในที่เสียงดังๆด้วยแล้ว โอเคล่ะ ฟังรู้เรื่อง แต่มันน่าจะชัดเจนกว่านี้อีกนิด จะใช่เลย ไมค์สนทนาถือว่าชัดเจนขึ้น อาการดูดเสียงถือว่าน้อยลงไปกว่าแต่ก่อนเยอะครับ หาก คิดว่าเครื่องต้องเร็วเป็นเจ็ท ไม่ใช่ครับ มันไม่ใช่เจ็ทแบบเครื่องบินรบ Typhoon ที่พุ่งแบบแรงจีมหาศาล แถมชนะ Bugatti Veyron จากการทดสอบผ่านรายการ TopGear มาแล้ว แต่มันเป็นเจ็ทแบบ โบอิ้ง หรือ แอร์บัส พานิชย์ ที่วิ่งเร็ว แต่นุ่มนวล นอนหลับได้ แต่ถึงที่หมายตามเวลา มาว่ากันเรื่อง Touchwiz 2.0 สักนิด มันต่างจากของเก่ายังไง เอาง่ายๆเลยนะครับ Touchwiz 2.0 มีหน้าจอ Widget หลัก มีสามหน้า สามารถตั้งไอคอนลัด ตามแบบที่ต้องการได้ หน้าจอเมนูแบ่งเป็นสามหน้า แบ่งตามแบบไอคอน เมนูย่อยเป็นรายการ สิ่งที่เพิ่มขึ้นอีกอย่างก็คือ เมนูลัดแบบลูกบาศก์หกหน้า มันเป็นลูกบาศก์ที่มีเมนูลัดหกหน้า สามารถคลึงเลือกเพื่อเข้าเมนูลัดได้ อีกจุดที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องการควบคุมเครื่องในแนว ออกแรงมือนิดนึง ถ้าเเขย่าเครื่องสามทีติดๆ จะเป็นการปิดวิทยุ หรือลูกเล่นบางอย่างได้ ถ้าตบเครื่องเบาๆสองที จะเป็นการพักเพลง หรือปิดวิทยุเช่นกัน ถ้ากระตุกข้อมือออกจากตัว จะเป็นการเปลี่ยนเพลงถัดไป ถ้ากระตุกข้อมือเข้าหาตัว จะเป็นการกลับไปเพลงที่แล้ว ถ้าถือเครื่องในระนาบ แล้วเอียงไปทางซ้าย จะเป็นการกลับไปเพลงถัดไป ถ้าถือเครื่องในระนาบ แล้วเอียงไปทางขวา จะเป็นการกลับไปเพลงที่แล้ว ว่ากันรวมๆแล้ว ผมยังชอบหน้าตา UI ของ Arena มากกว่า เพราะมันดูตื่นตากว่านิดนึง ความ ง่ายในการใช้งาน ทั้ง S-Class และ Touchwiz 2.0 ทั้งคู่ต่างก็ใช้งานได้ง่าย แต่ Touchwiz 2.0 ค่อนข้างหาง่ายและทำความเข้าใจง่ายกว่า S-Class อยู่นิดนึง เพราะหน้าคำสั่งไม่ค่อยซับซ้อน ทั้งคู่ถือว่าเสมอครับ ดีกันคนล่ะแบบไป Wi-Fi และ GPS ที่เพิ่มขึ้นมา เท่าที่ลองใช้งานดู ดูดี พึ่งพาได้ โดยเฉพาะ Wi-Fi ที่มีหน้าตาเมนูใช้งานเหมือน Bluetooth ของเครื่อง โอเคเลยทีเดียวกับสิ่งที่เพิ่มมา แต่ระบบ Browser เครื่อง ยังมีลูกเล่นที่ไม่หยืดหยุ่นต่อการแสดงผล และเลือกใช้งานสักเท่าไหร่ แบตเตอรี่ ของเครื่อง จากเท่าที่ลองมา สองชีดแรกพี่ท่านจะหดเร็วมาก เล่นเอาตกใจว่ามันแบตฮวบหรอ แต่พอสองชีดหลัง มันจะลงช้าหน่อย พอหลุดเหลือขีดเดียวปุ๊ป ก็ฮวบต่อ แล้วไปทนอีกทีสักพักที่ตอนแบตเริ่มกระพริบครับ แสดงให้เห็นว่าสเกลแบตเตอรี่เพี้ยนไปนิดหน่อยครับ ภาพ จากกล้องที่ได้ อืม ผมยังคิดว่ามันยังน่าตบๆ แต่งๆ ให้ลงตัวกว่านี้ การคำนวณแสง สี ความละเอียด มันขาดๆเกินไปหน่อย ตบนิดแต่งหน่อยก็ใช้ได้ครับ "สรุปแบบลวกๆ" "เจ็ทลำนี้ สวย เก่ง สุขุม ไม่แรงแบบเร้าร้อน แต่แรงแบบร้ายลึก" สาวชุดแดงคนนี้ สำหรับผม เธอสวย เซ็กซี่ดี ความคิดความอ่านเธอก็เก่งไม่แพ้สาวนักบริหาร สไตล์ของเธอจึงไม่ใช่สาวเปรี้ยวร้าย แต่เธอนิ่มนวล แผงความร้ายลึกไว้ จนบางทีคนคิดว่าเธอดูจืดๆ ดูเป็นนางเอกใสๆมากกว่า ความจืดของหน้าตา UI อย่าง Touchwiz 2.0 ทำให้ S-Class UI ดูน่าใช้กว่า มันให้อารมณ์ประมาณว่า ถ้าโรตีบอยคือขนมที่น่าตื่นเต้น เปรียบได้กับ S-Class UI Touchwiz 2.0 คือขนมแบบเดียวกับโรตีบอย อร่อยกว่า กลมกล่อมกว่า แต่ขาดความตื่นเต้น เพราะทานโรตีบอยมาก่อนแล้ว ส่วนใครที่หวังความเร็วเครื่องว่าต้องเร็วสมชื่อ เร็วครับ แต่เร็วแบบผู้ดี เหมือนเครื่องโบอิ้งพานิชย์ เทคออฟสบายๆ มีที่นั่งนุ่ม พาไปถึงจุดหมายเร็วทันใจ ไม่ใช่เจ็ทแบบ Typhoon ที่วิ่งที แรงจีหนักๆกระแทกร่างกายใส่แน่นอนครับ ทั้งหมดนี้ เจ็ทชุดแดงนี้ ครบเครื่อง มีทุกอย่างที่มือถือยุคสมัยนี้ควรมีให้ ราคาเท่าคู่แข่ง น่าซื้อไหม ไปลองสัมผัสดูครับ ว่ารสชาติ ความรู้สึก มันใช้ มันน่าพากลับบ้านไปอยู่ด้วยกันต่อหรือไม่ แต่สำหรับผม นี่เป็นซัมซุงเครื่องแรกที่ผมพอใจที่สุดอีกเครื่อง ++++++ Review มือถือรุ่นอื่นๆและสาระที่เกี่ยวกับมือถือ ข่าวสารใหม่ๆประจำวงการ เชิญอ่านได้ที่ //www.mxphone.com ครับ ++++++   Create Date : 10 กรกฎาคม 2552     Last Update : 10 กรกฎาคม 2552 22:54:32 น. Counter : 622 Pageviews.   3 comment Share Tweet

++ สัมผัสเบาๆ Nokia N86 8MP "นี่แหละ Nseries ที่ผมอยากได้ที่สุด" ผมยอมรับว่าผมเป็นคนเรื่องมาก จุกจิก ขี้บ่น และไม่ชอบอะไรแบบถึงขั้นควักเงินซื้อง่ายๆ Nokia เป็นอีกยี่ห้อที่ผมชอบ DNA ในการใช้งาน แต่เรื่องงานประกอบและวัสดุ บุญเก่าที่เคยทำให้ใครๆเชื่อว่ามันทน มันไว้ใจได้ "หมดไปในใจผมนานล่ะ" ขนาด 5800 XM ผมอุตส่าห์ทำใจก่อนไปซื้อเรื่องวัสดุแล้วนะ โอเคว่ามันประกอบแน่นไม่กรอบแกรบมือ ก็พอโอเค อ้าก็ทนได้ แต่ยิ่งใช้ยิ่งโทรม มันขัดใจผมครับ แล้วสิ่งที่ผมรอก็มาถึง ผมยอมรับเลยว่าผมกำลังลำเอียง แต่กับหกวันที่ผ่านมา ผมกำลังตกหลุมรัก และคิดว่าเมื่อผมพอไหว ผมจะไปขอเธอมาอยู่ข้างๆผม ผมขอแนะนำ แขกรับเชิญรายการสัมผัสเบาๆ "Nokia N86 8MP" ผมเชื่อว่าหลายๆคนชอบความสามารถของ Nseries แต่ เกือบทุกคนต้องรู้สึกเหนื่อยใจ หน่ายใจ จนบางทีอาจสบถว่า "ตรูล่ะหน่ายๆๆๆ" กับวัสดุ งานประกอบ ถึงจะออกแบบสวย แต่มันก็ไม่มีความทนในระยะยาว ไม่ลอกก็หลวม ไม่โทรมก็ง่อย ความคิดนี้ผมเองก็เป็นกับ N86 8MP "มันจะง่อยไหมฟระ" "มันจะคร่อกๆๆแคร่กๆๆ" "หรือมันจะพังคามือแบบ ไปทะเลาะกับกิ๊กแล้วเผลอกำเครื่องแรงไปแล้วแตกคามือไหม" แต่พอตัวเป็นๆอยู่กับมือผม สัมผัสแรกที่มันบอกผม "หนัก" "แน่น" "ปึ๊ก" วัสดุที่ทำตัวเครื่อง หากคิดไม่ออก ลองหาโอกาสไปสัมผัส N97 ดูครับ พื้นผิว พลาสติกที่ใช้ การเคลือบสี จะใกล้เคียงกันที่สุด แต่ N86 วัสดุทั้งสองสีจะไม่เหมือนกันนะครับ ถ้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม ผิวจะออกสากๆ แต่ไม่ถึงกับยางๆ ส่วนสีขาวจะเป็นพลาสติกด้าน ไม่สาก และลื่นๆครับ ตัวเครื่องให้ความแน่นหนาที่ดีไม่แพ้ Eseries หลายๆรุ่น สไลด์ที่เซ็ตน้ำหนักได้แน่น ดีดได้กำลังดีแถมดันกลับแล้วไม่เกิดอาการรีบาวนด์ให้เห็น การเคลือบผิวของเครื่องทำให้เป็นรอยค่อนข้างยาก อย่างมากสุดก็แค่ผิวด้านๆพอใช้ไปนานๆจะเงาๆ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์รับได้ ส่องๆงานประกอบดู ช่องไฟ การเก็บงาน ถือว่าเนี๊ยบไม่แพ้ Eseries อีกเช่นกัน ถือเป็น Nseries ที่คลายความกังวลเรื่องงานประกอบ วัสดุ และการเก็บงานได้แบบสนิทใจสุดครับ ในเรื่องลูกเล่นแล้ว มันมีสิ่งที่ยังคงเป็น Nseries อย่างครบถ้วน ทั้งรูปแบบเมนู ความบันเทิง แต่ที่เพิ่มให้น่าสนขึ้น คือการถ่ายทอดความง่ายในการเข้าถึง ทั้งโลกของเน็ต ทั้ง Youtube/Facebook แถมโหลดเพิ่มก็ยังไหว แต่บอกไว้ตรงนี้สักนิด ถ้าคิดว่า N86 จะร้องเพลงเพราะ เสียใจครับ เสียงแย่กว่า N95 ด้วยซ้ำไป ลำโพงเสียงเรียกเข้ามัน เปิดดังๆแล้วเสียงฟุ้งกระจาย หาความเพราะไม่เจอครับ แหๆ หน้า จอตัวเครื่อง ให้สีสันที่ดูดีกว่า N85 แต่บ้างคนบอกว่ามันดูมืดไปสักนิด การแสดงผลการแจ้งไม่มีปัญหาครับ อ่านดี อ่านได้ ไม่ต้องทำที่บังแดดให้ ความ เสถียรของเครื่อง ข้อนี้ในเครื่องทดสอบยังมีอาการ เอ๋อนิด คิดหน่อย เข้าใจแล้วน๊า ให้เห็นอยู่บ้าง ในหลายๆลูกเล่นยังมีอาการ เอ๋อ นู๋ไม่รู้อ่ะ ซึ่งอาการทำนองนี้ก็เจอได้ใน N85 หรือ N79 ในเฟริมแวร์แรกๆเช่นกัน เรื่องกล้อง คงไม่ต้องเอยมากครับ เพราะเชื่อว่าพี่ๆเพื่อนๆน้องๆน่าจะได้ชมภาพตัวอย่างจากกล้อง ที่ผมเองก็กระหน่ำถ่ายมาฝากหลายกระทู้อยู่ แต่ถ้าอยากชมว่าเมื่อเจอกับคู่แข่ง 8 ล้าน ดวลกับ I8910HD ไปดูได้ที่ //www.mxphone.com/show.php?id=4379 ดวลกับ C905 ไปดูได้ที่ //www.mxphone.com/show.php?id=4392 โดยรวมแล้ว ผมค่อนข้างพอใจกับคุณภาพที่ได้ แต่ จุดที่ผมว่ามันควรแก้ไข มีแค่เรื่องความเร็วของชัตเตอร์ ที่บางครั้งมันช้าไปนิด ภาพถ่ายกลางคืนที่ดูน่าจะเป็นจุดขาย ผมยังรู้สึกว่า มันน่าจะออกมาดีกว่านี้ เพราะมันยังไม่ไวต่อการรับแสงสักเท่าไหร่ รวมๆแล้ว เฟริมแวร์ทดสอบตัวนี้ถือว่าให้การประมวลที่ โอเคล่ะ แค่นี้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆหมู่เฮา 8 ล้านก็ปาดเหงื่อกันแล้วล่ะ อ้อ ปุ่มชัตเตอร์กล้องด้วยครับ แรกๆที่ใช้อาจบ่นว่า "ทำไมมัน STARK เฮี่ยๆจัง" ( STARK ภาษาเยอรมัน แปลว่า แข็ง) แต่พอใช้ไปสักระยะใหญ่ๆ จะคุ้นมือเองครับ เรื่องวีดีโอ บอกได้คำเดียวว่าชัดจริง ถ้าจะเอาไว้อัดความประทับใจ รับรองว่าไม่ทำเสียฤกษ์แน่นอนครับ รุปแบบลวกๆ "Nseries ที่น่าจะทำให้ใครหลายๆคนหลงรักได้ แต่ผมอ่ะ หัวทิ่มบ่อไปล่ะครับ" ผมรู้สึกว่า N86 น่าจะเป็น Nseries อีกตัว ที่ทุกสิ่งที่มอบให้ ดูสมราคา ดูน่าจับต้อง ดูน่าเป็นเจ้าของ ยิ่งถ้าเคยเป็นเจ้าของ N95 มาก่อน หรือสารพัด Nokia ที่แสนจะบอบบาง เครื่องนี้อาจเป็นคำตอบที่ดีกับการเปลี่ยนมือถือใหม่ ยิ่งถ้าต้องการกล้องแปดล้านที่มั่นใจได้ว่า ไม่ใช่แปดล้านแบบฉีดอิซูลินมาแบบหลายๆรุ่นล่ะก็ N86 8MP ถือเป็นตัวจริงของกล้องติดมือถือแล้วล่ะครับ ส่ิง ที่น่าเป็นห่วง ผมกังวลแค่ว่า เฟริมแวร์ใหม่จะออกเมื่อไร เพราะโดยรวมแล้ว ผมยังไม่พอใจเรื่องการทำงานของเครื่องโดยรวมๆ มันน่าจะดีกว่านี้ การประมวลผลกล้องในหลายๆสภาพแสงเองก็ยังไม่สมราคาคุยสักเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดแล้ว ผมขอต้อนรับ N86 8MP เป็นหนึ่งในมือถือที่ผมประทับใจจนอยากไปซื้อครับimg src=//www.bloggang.com/emo/emo26.gif> ++++++ Review มือถือรุ่นอื่นๆและสาระที่เกี่ยวกับมือถือ ข่าวสารใหม่ๆประจำวงการ เชิญอ่านได้ที่ //www.mxphone.com ครับ ++++++   Create Date : 24 มิถุนายน 2552     Last Update : 24 มิถุนายน 2552 1:21:30 น. Counter : 1118 Pageviews.   2 comment Share Tweet

++ สัมผัสเบาๆ Nokia 6700 Classic "เริ่ดๆ ขรึมๆ สไตล์ไหนคือคุณ" "สิ่งของสามารถบอกรสนิยมได้" ผมเชื่อว่าวลีที่ผมเอยมานี้คงมีคนเหตุด้วยเยอะนะครับ เพราะขนาดของชิ้นเดียวกันแท้ๆยังบอกรสนิยม สถานะสังคม และตัวตนได้ ไม่งั้นอัครมหาเศรษฐี คงไม่ถวิลหา Mercedes-Benz / BMW / Lexus เพื่อประดับบารมี เพราะแค่ Hyundai /Kia /Proton มันก็พาไปถึงที่หมายที่ต้องการได้เหมือนกัน มือถือก็เหมือนกันครับ ครั้งนี้ผมเลยนำมือถือรุ่นนึงที่สามารถบอกตัวตน รสนิยม และเชื่อว่าคนที่ถือมือถือรุ่นนี้ "ก็ช่างเลือกเช่นกัน" จะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ "Nokia 6700 Classic" ครั้งแรกที่ผมได้เห็นตัวเป็นๆของเครื่อง "สวยกว่าที่คิดแหะ" มันสวยจริงๆครับ ยิ่งสีเงินด้วยแล้ว ผมนึกถึง 8810 ในสม้ยก่อนทันที ส่วนสีดำที่ออกมาแบบด้าน กลับเป็นสีที่ผมอยากซื้อใช้เอง เพราะมันดูเป็นผู้ชายมากกว่าสีเงิน เส้นสายของตัวเครื่องมีกลิ่นของ Nokia 6300+6500 Classic และบางจุดก็ชวนให้คิดถึง Nokia 8800 Arte การ ใช้วัสดุหลักเป็นโลหะด้านของเครื่องสีดำและโลหะเงาในเครื่องสีเงิน ทำให้ตัวเครื่องดูแล้วน่าจะถูกใจหนุ่มสาววัยทำงาน ผู้ใหญ่ที่มีอายุเกินสามสิบห้าขึ้นไป หรือแม้แต่วัยรุ่นที่ชอบมือถือสวยๆ เน้นดีไซน์ที่ดูหรูหราเป็นหลัก งานประกอบโดยรวมถือว่าดีในระดับเดียวกับ 6500 Classic ดูดีไม่แพ้ Series 8 ราคาหลายหมื่นด้วยครับ เท่าที่ลองถือเครื่องดู มันไม่ลื่นมากอย่างที่คิด ถือว่ากระชับมือทีเดียว ทั้งที่ตัวสีเงินทีดูเงาวับก็น่าจะลื่นอยู่ แต่ผมกลับรู้สึกว่า สัมผัสสั้นๆที่ได้ลอง มันไม่ลื่นอย่างที่คิดแหะ ยัด กระเป๋ากางเกงก็แบนเบา ใช้ได้ แต่จุดที่ไม่ชอบคือเรื่องปุ่มกด มันเรียบก็จริงแต่ระยะการกดมันตื้นไปสักนิด ทำให้รู้สึกว่ามันแข็ง กดแล้วไม่มั่นใจ อีกจุดคือการล็อกโพกัสเวลาใช้งานกล้อง ปุ่มก็เล็ก แถมมันก็ตื้น กดแล้วบางทีก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่ ลองใส่ซิมใช้โทรใช้เล่นเครื่องดีกว่า จากที่ลองใช้คุยดู โอเคเลยครับ เสียงสนทนาค่อนข้างจะชัดเจน ลำโพงให้ความดังที่ดี ไม่เบาไปหรือดังแบบแตกพร่า ส่วนไมค์สนทนาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เงียบ ทั้งที่ใช้งานอยู่ในห้าง ปลายสายบอกว่าก็เงียบดีนะ ไม่ค่อยได้ยินว่าเหมือนอยู่ห้าง ถือว่ายังพอเอาไปโกหกได้ครับ แหๆ การทำงานตัวเครื่อง โอเคครับ มันก็ตอบสนองได้ดี แต่บางจังหวะก็อาจไม่ทันใจคนใจร้อนไปบ้าง แต่แค่นี้ถือว่าเสถียรดีครับ แล้วมีอะไรไหมที่ผมรู้สึกไม่โดนกับ 6700C มีครับมี !!!! อย่าง แรก คืองานประกอบส่วนพลาสติก จริงอยู่ว่างานประกอบมันดี แต่เครื่องสีดำที่มีแกนกลางเป็นพลาสติกชุบ ซึ่งโดยธรรมชาติของการใช้งาน แกนกลางคือส่วนที่ถูกจับถือบ่อยๆ สีของแกนกลางที่เคลือบไว้อาจมีการลอกได้ แม้แต่สีเงินที่ขัดมาอย่างเงาส่องหน้าได้ ก็น่าจะเยินเป็นรอยขนแมวทั้งเครื่องได้ ยิ่งถ้าทำตกด้วยแล้วก็น่าจะมีการเยิน ถลอก และเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าโลหะขัดแบบด้าน เรียกว่าไม่เหมาะกับผู้ชอบใช้มือถือเหมือนพาไปเที่ยวแถวอิรัก แวะฉนวนกาซ่า แล้ววกกลับไปเยี่ยมตาลีบันแน่นอนครับ อย่างต่อมาคือหน้าจอของเครื่อง เพราะผมรู้สึกว่ามันยังไม่ละเอียดพอ สีสันอ่ะโอเคดี แต่การแสดงผลทั้งตัวอักษร รูป ยังเห็นเป็นก้อนๆเหลี่ยมๆ ไม่ค่อยสวยเท่าที่ควร ยิ่งคิดว่าเป็นมือถือราคาหมื่นขึ้นแล้ว เออ มันไม่ใช่อ่ะกิ๊บ ไม่ใช่ๆๆ สุดท้ายคือเรื่องแบตเตอรี่ ความจุ 970 mAh ที่ให้มา เทียบกับสเปกแล้ว ทั้ง GPS / กล้อง / โทรเยอะๆ เมื่อลูกเล่นทั้งหมดบวกการสนทนาที่หนักและถี่ ผมก็ไม่แน่ใจว่า การจัดการพลังงานของเครื่อง จะพอกับความจุแบตเตอรี่ก้อนนี้หรือไม่ สรุปลวกๆ "ทายาท Classic ระดับตัวแม่ ดูไฮเทค ดูบลิ้งๆ และน่าจะถูกใจผู้ใหญ่" ผม พอจำได้ว่า สมัย 6500 Classic&Slide การตอบรับของยอดขายถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และยิ่งถ้ามองไปถึงสมัย 6300 ก็ถือว่าได้การตอบรับที่ดี เพราะทุกวันนี้ยอดขายก็ยังเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ จนสีดำก็แล้ว น้ำตาลก็แล้ว ก็ยังไปได้เรื่อยๆ 6700 C ก็น่าจะสามารถไต่ขึ้นความสำเร็จแบบเดียวกับรุ่นพี่ได้ เหลือแค่ว่าเมื่อออกมาจริงๆแล้ว จะไม่มีปัญหาการใช้งาน ความเสถียร หรือการเสื่อมสภาพของงานประกอบแบบ เออ ทำไมมันไปง่ะ ไรทำนองนี้ ถ้าคิดว่ามือถือเครื่องที่ชอบคือ มือถือที่ให้สไตล์ ให้ความเป็นตัวเอง ราคาไม่เวอร์แบบ 8xxx ผมเชื่อว่าเงินในกระเป๋าก็น่าจะเล่นแร่แปรธาตุเป็น 6700 Classic ได้ครับ ++++++ Review มือถือรุ่นอื่นๆและสาระที่เกี่ยวกับมือถือ ข่าวสารใหม่ๆประจำวงการ เชิญอ่านได้ที่ //www.mxphone.com ครับ ++++++   Create Date : 18 มิถุนายน 2552     Last Update : 18 มิถุนายน 2552 18:13:24 น. Counter : 1166 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• MXPhone
• Headlightmagazine
• BlogGang.com