อาหาร คือ ยาหลัก
จาก....หนังสือสุขภาพนักสร้างบารมี

อาหาร คือ ยาหลัก

มีบางคนป่วยพร้อมๆกันกับเพื่อน โรคเดียวกัน แต่หายป่่วยเร็วกว่า เช่น นอนหลับซักตื่นเดี๋ยวก็หาย ขณะที่เพื่อนบางคนยังต้องนอนอีกสามวันห้าวันจึงหายป่วย หรือเป็นๆ หายๆ หลวงพ่อเคยสังเกตดู ก็ได้พบว่า คนไหนก็ตาม ที่เป็นคนประเภทถ้าป่วยขึ้นมาแล้วก็จะนอนซมอย่างเดียว ไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมดื่มน้ำ ไม่ยอมลุกขึ้นเดิน ไม่ยอมลุกขึ้นนั่ง แถมอั้นปัสสาวะ อั้นอุจจาระอีกต่างหาก ในศูนย์พยาบาลของวัดเรา หลวงพ่อพบบ่อยๆ เวลาเจ้าหน้าที่เอาอาหารมาส่งที่เตียงคนไข้ คนไข้บางคนก็ไม่สนใจที่จะกิน ปล่อยตั้งทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ยอมเตะต้องเลยคนไข้ประเภทนี้จะป่วยเรื้อรังหายยาก เพราะป่วยทั้งกายและใจ

แต่ใครก็ตามที่ป่วยไข้แล้ว อดทนปฏิบัติถูกต้องอย่างเหมาะสม เช่น เมื่อถึงเวลากินก็กิน จะกินได้มากน้อยก็ฝืนกินเข้าไป เวลาปวดปัสสาวะหรืออุจจาระก็ไม่อั้นเอาไว้ฝืนเดินเข้าไปในห้องน้ำ ถึงเวลานอนก็นอน หลับไม่หลับก็ฝืนหลับตานอน คนไข้ประเภทดูแลตัวเองเป็นอย่างนี้จะหายเร็วเป็นบุญของหลวงพ่อเอง ที่ตั้งแต่เล็กมาไม่เคยถูกตามใจขณะป่วยไข้เลย

โยมพ่อเอาวินัยทหารมาอบรมให้ป่วยแสนป่วยเพียงใดก็ตาม พอได้เวลากินข้าว บางทีก็โยมพี่สาวบ้าง จัดข้าวปลาอาหารมาให้ เมื่อไม่อยากกินก็ปล่อยวางเอาไว้เฉยๆ เหมือนอย่างที่คนอื่นเขาเป็นกัน
แต่เมื่อโยมพ่อเห็นเข้า ก็เอ็ดลั่นบ้านเลยว่า “ถึงเวลาทำไมไม่กิน” ก็ตอบท่านไปว่า “ไม่หิวและก็ไม่อยากกิน” ท่านก็จะประกาศิตออกมาทันทีว่า “จะหิวหรือไม่หิว จะอยากหรือไม่อยาก เมื่อถึงเวลาแล้ว ต้องกิน”


ทำไม!!

ก็เพราะว่าจะป่วยหรือไม่ก็ตาม เมื่อถึงมื้ออาหารร่างกายก็จะขับน้ำย่อยออกมา อาจจะมากหรือจะน้อยโดยอัตโนมัติถ้าเราไม่ใช้น้ำย่อยนั้น นอกจากมันจะกัดกระเพาะอาหารของเราแล้วมันก็จะเสียกลายเป็นลมตีขึ้นมา ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนเอิ๊กอ๊ากๆในที่สุดก็จะกลายเป็นว่า เริ่มต้นป่วยด้วยโรคหนึ่ง แล้วยังมีโรคแทรกซ้อนอันเกิดจากการกินอาหารผิดเวลาเพิ่มขึ้นอีกโรคหนึ่งด้วย


ยิ่งกว่า....นั้นหลวงพ่อยังจำคำของโยมพ่อตั้งแต่ยังเด็กได้ ท่านพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “ยาที่ดีที่สุดในโลก ไม่มีอะไรเกินข้าวปลาอาหารที่กินเข้าไป สิ่งนี้คือยาหลัก ยาอะไรๆที่มีในโลกนี้เป็นยาเสริมช่วยในการหายป่วยหายใช้แต่ยาหลักก็คือข้าวปลาอาหารที่เรากินอยู่ทุกวันนั่นเองเพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะกินยาอะไรก็ตาม ถ้าเราไม่ได้กินข้าวปลาอาหารแล้วฟื้นยาก แม้ป่วยหนักท่านก็จะบอกว่าให้ฝืนใจกินเข้าไปเถอะลูก อย่างน้อยก็เอาไปรองท้องไว้ไม่ให้น้ำย่อยกัดกระเพาะ ไม่ให้น้ำย่อยเสียเปล่า และที่สำคัญก็คือ เพื่อไม่ให้ระบบย่อยอาหารรวน ทั้งนี้เพราะเมื่อน้ำย่อยหลั่งออกมาแล้วไม่ถูกใช้ วันหลังก็จะไม่หลั่งออกมาหรือหลั่งผิดเวลา” ซึ่งจะมีผลเสียตามมา อีกเยอะ


เมื่อเล็กเราไม่เข้าใจ แต่ก็ต้องฝืนกิน ไม่กินเดี๋ยวโดนดุ หลวงพ่อจึงถูกฝึกไม่ให้ตามใจตัวเองตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเจ็บป่วยเพียงใดก็ตาม ถึงเวลาก็ต้องกิน แล้วก็เลยได้อานิสงส์ คือ ไม่ว่าจะป่วยมากน้อยเพียงไหน อย่างมากก็นอน ไม่เคยเกินวันสองวัน โรคภัยไข้เจ็บก็เผ่นหนีไปหมด เพราะหลวงพ่อ ป่วยเฉพาะกาย แต่ใจไม่ได้ป่วยตาม

ดังนั้น คนประเภทที่ป่วยแล้วตกใจ ท้อแท้ นอนซมไม่พยายามกระดุกกระดิก ทำตัวเหมือนคนใกล้ตาย คนประเภทนี้อย่าว่าแต่เวลาป่วย แม้เวลาทำงานตามปกติก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ แต่ใครถ้าถึงเวลากิน แม้ไม่หิวก็ต้องกิน เพียงแค่นึกให้อยากกิน เดี๋ยวก็กินได้ ถึงเวลานอนไม่ง่วงก็ข่มตานอนได้คนประเภทนี้กำลังใจ กำลังสติปัญญามหาศาลเพียงไหนลองคิดดูแล้วจะมีอะไรอีกที่เขาทำไม่สำเร็จ



Create Date : 14 มีนาคม 2554
Last Update : 14 มีนาคม 2554 16:51:28 น.
Counter : 652 Pageviews.

1 comments
  
อยากหม่ำจังเลยค่ะ โจ๊กใส่ไข่
เห็นไม้นวดแล้ว อารมณ์อยากซื้อเลยไปซื้อมา
แต่พอจะนวดก็เมื่อย
ถ้ามีคนนวดให้คงจะดีเนอะ
โดย: tummydeday วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:14:25:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

kithe
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]