• One Day Trip
• Resort & Hotel
• Long Vacations
• Sweet Talk
• Happy Events: Private**
• Dream Property
• Lonely Songs
• Birthday Party: Private**
• Wednesday Story
• Unseen Paradise

• KTOne
• bonbini
• its_gemmi
• นู๋ส้มจุก
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com

ตลาดบ้านใหม่ วันว่างๆ อีกวันขอรับ ไปไหนดีล่ะทีนี้ ไปจังหวัดใกล้ๆ กทม.นี่เอง ฉะเชิงเทรา เห็นเค้าว่ามีงานมหกรรมปั้นทรายโลก เฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา น่าสนใจ ตรงดิ่งไปมีนบุรีกันเล้ยย เย้ยย ขับตรงแด่วเจอคาร์ฟูร์ด้านขวามือก็เลี้ยวเข้าก่อนเลย วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น. ค่าบัตรผ่านประตู ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 40 บาท โอ้วว อากาศร้อนสุดๆ แบ่งเป็น 3 โซนขอรับ โซนแรก ประติมากรรมทรายที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในเมืองไทย กำแพงวัดพระแก้ว นั่นเอง วงดนตรีแจซซ์ขอรับ มีเปิดเพลงคลอไปด้วย ไพเราะสุดๆ แต่ร้อนนนนนน ภายในโซนนี้ก็จะมีพระนารายณ์ทรงครุฑ ล้อมรอบด้วยทวยเทพ กังหันชัยพัฒนา เรือไมโครมด เขื่อนภูมิพลและโครงการฝนหลวง สวนแม่ฟ้าหลวงและ พระตำหนักดอยตุง โครงการหลวงโดยเป็นฝีมือการปั้นของช่างปั้นทุกประเทศ ที่เข้าร่วมในงานมหกรรมครั้งนี้ รวม 8 รูป โอ้ว เย่ อ่าว หมดและโซนแรก เล็กจัง เย้ยย ไปต่อกันขอรับ โซนที่ 2 เป็นการนำเสนอประติมากรรมทรายในเต็นท์มืด ด้วยระบบแสง สี เสียง เรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ประกอบไปด้วยประติมากรรมทราย 11 รูปหลัก ได้แก่ ยักษ์ 2 ตน วัดพระแก้ว อากาศเย็นขึ้นมาหน่อย แต่เหงื่อก็ยังซึมๆ ขอรับ ก๊ากกก ต่อด้วยวัดโสธรวรารามวรวิหาร จตุคามรามเทพ โอ้วๆๆๆ เห็นผู้คนมาตั้งกล้องกันพอสมควร อ่าาา ไอ้กล้องเรามันถ่ายมืดๆ มะได้เลย สมเด็จพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถี นางเงือก กินรี หนุมาน โอ้ว ใหญ่ยาวมาก สุดสาคร ขาสั้นจัง จ๊ากกกกก พระอภัยมณีและสุนทรภู่ ชีเปลือย และผีเสื้อสมุทร โอ้ว หมดโซน 2 อย่างรวดเร็ว ก่อนออกยืนตากพัดลมอยู่นานนน เหมือนอยู่กลางทะเลทราย เริ่มขาดน้ำขอรับ หุหุ โซนที่ 3 ประติมากรรมทรายที่นำเสนอสถาปัตยกรรมนานาชาติซึ่งมีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักทั่วโลก ใน 13 ประเทศ ประกอบไปด้วย ประตูแบรนแดนเบิร์ก และผู้หญิงเสิร์ฟเบียร์ ประเทศเยอรมนี, หอไอเฟิล และนักวาดภาพชาวฝรั่งเศส ประเทศฝรั่งเศส, ทหารองครักษ์และหอนาฬิกาบิ๊กเบน ประเทศอังกฤษ รูปปั้นเทพีเสรีภาพและวิวเมืองแมนฮัตตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เพียบเลย ไม่หมดๆ ยังมีผู้หญิงกับชีส รองเท้าไม้ ภาพวาดแวนโก๊ะและ กังหันลม ประเทศเนเธอร์แลนด์, โคลีเซียมและนักสู้เสือ ประเทศอิตาลี ว่าแล้วก็อยากไปอิตาลี อ่าาาาา นักเต้นฟลามิงโกและนักสู้วัวกระทิง ประเทศสเปน เห็นหน้านักสู้วัวกันจะๆ ภูเขาไฟฟูจิ ประตูญี่ปุ่นและเกอิชา ประเทศญี่ปุ่น ชอบจังโซนนี้ อ่ะอยากไปอีกรอบซะแล้ว เย้ยยยย บ้านโบราณและรูปปั้นเด็กฉี่ ประเทศเบลเยียม, จิงโจ้ หมีโคอล่า และโรงละครโอเปร่า ประเทศออสเตรเลีย น่ารักมากขอรับ หน้าตาตลกดีอ่ะ กำแพงเมืองจีน มังกร อลังการมากเลย เพิ่งไปมาแท้ๆ อยากไปอีกและ กำ โบสถ์เซนต์ นิโคลัส ประเทศรัสเซีย, พีระมิดกับสฟิงซ์ และสุสานตุตันคาเมน ประเทศอียิปต์ นี่เหมือนจริงมากๆ เพราะเป็นทะเลทราย ก๊ากกกกก นี่ก็ไปแล้วไปอีก เย้้้ๆๆๆๆๆ นี่ก็ใฝ่ฝันขอรับ สักวันอยากไปเห็นของจริงบ้าง รูปปั้นหินกองทัพราชวงศ์ชิง ประเทศจีน หมดซะแล้ว แป๊ปเดียวเอง 80 บาท ก๊ากกกกก สำหรับเทคนิคการก่อสร้าง เริ่มต้นด้วยการนำไม้มาตีเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม รัดด้วยลวดเหล็กเพื่อความแข็งแรง ก่อนนำทรายที่ร่อนแยกวัสดุที่ไม่ต้องการ มาใส่ลงในบล็อก แล้วใส่น้ำและผสมให้เข้ากัน พร้อมอัดทรายด้วยเครื่องอัดทราย จากนั้นรอให้ทรายแห้ง แกะบล็อกไม้ออกก็จะได้ประติมากรรมปั้นทรายในรูปต่าง ๆ ที่สวยงาม มีสาธิตให้ดูด้วยขอรับ นี่ก็ฉลองเทศกาลคริสมาสมีกวางเรนเดียร์ หุหุ จากนั้นก็หาน้ำหาท่าดื่ม รู้สึกเสียเหงื่อมาก อาการขาดน้ำขั้นรุนแรง ก๊ากกก ขับตรงไปต่อขอรับ ไปตามป้าย เลี้ยวขวาไปวัดโสธรวรารามวรวิหาร จอดรถที่ตึกจอดรถตรงข้ามวัดฟรีๆ ขอรับ หุหุ วัดนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธโสธร หรือที่ชาวบ้านเรียก " หลวงพ่อโสธร " ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 165 ซม. สูง 198 ซม. หลังคาสูงหลายชั้น เคยมาสมัยเด็กๆ ไม่ใหญ่โตถึงเพียงนี้ วัดโสธรวรารามวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา โทร. 038 - 511048 อิอิ ชอบลายที่พื้นจังขอรับ มีหลากหลาย เต่า ปลา โอ้ว ด้านข้างมีพระแม่ธรณีบีบมวยผมอยู่ อ่าาาา บริจาคเงินให้กับวัดก็จะได้น้ำมนต์หลอดมาคนละสองอัน อุอิ ออกมาเดินเล่นด้านหลังวัดจะมีโรงเจขอรับ คนเพียบเลย แดดร้อนสุดๆๆๆๆ มีท่าเรือให้บริการล่องเรือแม่น้ำบางปะกง ณ แม่น้ำบางปะกง ผู้ใหญ่ 90 บาท เด็ก 60 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ไป - กลับ อยากไปตลาดบ้านใหม่ขอรับ ขับไปเองดีกว่า หุหุ เค้าว่าตลาดบ้านใหม่ ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ (ทางไปอำเภอบางน้ำเปรี้ยว) อยู่ไหนเนี่ย ไม่เป็นไรขับรถออกจากวัดก็มีป้ายตลอดทางขอรับ หุหุ จอดรถท้ายตลาดขอรับ 20 บาท เพราะหัวตลาดเต็ม ก๊ากกก เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00–1700 น. ถึงแล้ว นี่เป็นป้ายหัวตลาดขอรับ ดูดีทีเดียวเชียว หุหุ เค้าว่าตลาดบ้านใหม่ ตลาดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี เป็นชุมชนเก่าแก่แห่งหนึ่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา อ่ะๆ เริ่มสวมรอยหมึกขาวชวนชิมกันดีกว่า อิอิ ถุงทองกรอบอร่อย หิวๆๆๆๆ แล้วก็เหลือบไปเห็นคู่พ่อลูกกำลังปอกอะไรกันสักอย่าง แถมยังชวนให้ชิมกันสดๆ อีก อ่าาาา ลูกจาก มันอย่าบอกใคร อุดหนุนหน่อยขอรับ ชาวตลาดใจดี ลูกจากลอยแก้ว อิอิ หวานน้อยไปหน่อยแหะ แต่ให้เยอะชะมัด ต้องช่วยกันทานสองคน ก๊ากกกก ร้านนี้ขายน้ำตาลงบด้วยขอรับ ว่าแต่น้ำตาลงบคืออะไร จ๊ากกกก และนี่คนต่อแถวซื้อเยอะจัง ไปมุงดูบ้าง อ้ออ ขนมครกปูอัด ปลาหมึก หอยนี่เอง ไม่ไหว รอไม่ไหว หิวข้าวขอรับ ไว้คราวหน้าจะมาต่อคิวซื้อด้วยคน เสียดายๆๆ เดินผ่านมีขายหนังสือ pop-up เพื่อคุณหนูด้วยขอรับ ราคาไม่แพง น่าสนใจ ไว้มีลูกก่อนจะมาซื้อ ก๊ากกกก ชาตินี้คงไม่มีหวัง ฮาาาา เดินผ่านตลาดมาได้เกินครึ่งทางแล้วขอรับ ดูจากแผนที่ อุอิ เจอขนมกุ้ยช่ายเจ้านี้ คนต่อคิวเยอะเช่นเคย ทำกันสดๆ น่ากินมาก ถามว่าได้เมื่อไหร่ เค้าบอกสองชั่วโมง จ๊ากกกกกก อ่ะๆ ไว้ขากลับๆๆ แต่แล้วไม่อยากจะบอก กลับมาเจอแต่ความว่างเปล่า เศร้าขอรับ และแล้วก็เดินมาเจอท่าเทียบเรือที่ว่า รู้สึกเค้าจะให้เวลาเที่ยวตลาด ประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็มอื่ม หุหุ เจอแล้ว ตรงท่าเรือนี่เองคือร้านชื่อดังบ้านป้าหนู หมึกขาวอย่างเราก็เข้าเทียบโต๊ะริมน้ำทันที อ่าาาาา ร้อนนนน หิวจัดสั่งปอเปี๊ยะฮ่องกงมาทาน โอ้ว เหมือนห้อยจ้อมากๆ แต่ข้างในมีไข่แดงด้วย ฮาาาา ลุยๆๆๆ และก็ออส่วนกุ้งกะทะร้อน อร่อยขอรับ แต่อุดมไปด้วยน้ำมัน เลี่ยนไปนิดนึง แย่และ ทำไมอิ่มเร็วขนาดนี้ สงสัยชิมมาตลอดทาง ฮาาาา สั่งปูนิ่มผัดผงกะหรี่อีกจานก็จอดสนิท รีบไปเดินย่อยต่อดีกว่าขอรับ เจอข้าวโพดปิ้ง ปิ้งจริงๆ ปิ้งกันทั้งฝัก หุหุ ได้เวลาเดินกลับ ตลาดบ้านใหม่นี่เล็กกว่าตลาดสามชุกหลายเท่านัก แต่ใกล้กทม.มากกว่าเช่นกัน เจอข้าวโพดเทียน ซื้อกลับบ้านขอรับๆๆ โอ้ว น้ำตาลสดเจ๊ทิพย์ อ่ะๆ แกให้ชิทหลายอึก ซื้อกลับบ้านสองขวด ฮาาาา จ้องมานานขอรับ ได้ของฝากกลับบ้านอีกอย่าง ขนมถ้วย อิอิ อร่อยขอรับ ชอบๆ ซึ้งขอรับ ทำกันสดๆ น่านกะลาๆๆ ได้เวลากลับบ้านขอรับ ตลาดวายแล้ว ภารกิจต่อไป คือตามล่าหาร้านชิฟฟอนชื่อดัง ปูกะเอ เจอจนได้ขอรับ ถามทางคนแถวนี้มาตลอดเลย อยู่ซอยทางไปวัดนั่นเอง เข้าไปในซอยก็อยู่ด้านซ้ายเลย ตรงข้ามร้านก๋ง กฤษณา กองยศสืบ หรือ คุณปู เป็นเจ้าของสูตรและเจ้าของร้าน อิอิ โอ้ว แม่เจ้าคนเป็นล้าน เต็มร้านไปหมด รีบไปสั่งๆ เค้าบอกว่าอีกชั่วโมงได้ จ๊ากก จะไปทำอะไรที่ไหนเนี่ย ได้แต่ยืนรอตาละห้อยขอรับ ยืนอยู่ครึ่งชั่วโมง ดูเค้าทำชิฟฟอนก็เพลินดีนะเออ 2 คนปาดครีม 2 คนตัด 10 คนห่อ 2 คนเรียง ทำงานเป็นทีมดีจัง แบบว่าออเดอร์เพียบ ในที่สุดก็ได้มา 3 กล่อง กล่องละ 10 ชิ้น ชิ้นละ 7 บาท เหนื่อยจัง ไปละขอรับ แว่บ   Create Date : 04 มกราคม 2551     Last Update : 4 มกราคม 2551 12:30:50 น. Counter : 4259 Pageviews.   9 comment Share Tweet

อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม หลังจากดูกระทู้ท่องเที่ยวราชบุรีแล้ว ก็นึกอยากดูหุ่นขี้ผึ้งขึ้นมาซะงั้นขอรับ ไม่ไกลจากกทม.เสียด้วย เป้าหมายงานนี้อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม อ.บางแพ จ.ราชบุรี แต่ก่อนอื่นทางผ่านแวะดื่มนมก่อน เพื่อสุขภาพ ฮาาา ที่นี่จำหน่ายนมสดหนองโพ มีโยเกิร์ตและนมปั่นด้วย อิ่มท้องก็เดินทางต่อขอรับ ขับตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยกอ.บางแพ ก็เลี้ยวซ้ายไปกลับรถขอรับ ไปถึงก็เที่ยงตรงพอดี นึกว่าแดดจะร้อนที่ไหนได้ ภายในร่มรื่น ลมพัดเย็นสบาย บัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 50 บาทนี่สุดจะคุ้ม มาถึงอาคารแรกขอรับ อาคารเชิดชูเกียรติ เค้าว่าเป็นอาคารสองชั้น ชั้นล่างของอาคารจัดแสดงเรื่องราวรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาค ท่านแรกที่เห็นคือ ม.ล. ปิ่น มาลากุล นักการศึกษาคนสำคัญของไทย ผู้ริเริ่มการจัดตั้งสถาบันการศึกษาระดับวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค ตามมาด้วย ฯพณฯ ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ นักกฎหมายซึ่งได้ดำรงตำแหน่งสูงสุดทั้งทางฝ่ายตุลาการ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัต และนี่ก็สุดยอดขอรับ ศาสตราจารย์ ดร. ป๋วย อึ้งภากรณ์ นักเศรษฐศาสตร์ผู้วางรากฐานนโยบายเศรษฐกิจของไทย รวมถึงการร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาจารย์ มนตรี ตราโมท บรมครูผู้อนุรักษ์และสืบสานงานดนตรีไทย กำลังนั่งแต่งเพลงอยู่ในบ้านพักขอรับ นี่ก็เป็นบทเพลงที่ท่านกำลังแต่งอยู่ อุอิ สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ธรรมชาติซึ่งยอมสละชีพเพื่อรักษาผืนป่าอันเป็นที่รัก ว่าแล้วก็อยากไปห้วยขาแข้งสักครั้งขอรับ ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ วีรบุรุษผู้กอบกู้เอกราชของเวียดนาม ห้องมืดทีเดียว อาศัยแสงตะเกียง แม่ชีเทเรซ่า แม่พระของชาวโลกผู้ให้การช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยละผู้ยากไร้โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติและศาสนา เหมา เจ๋อ ตุง และ เติ้ง เสี่ยว ผิง นักปฏิวัติผู้นำประเทศจีนเข้าสู่ยุคเปิดประเทศ และก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก ถ่ายแต่ท่านเหมามาขอรับ หุหุ โซนต่อไป ลานพระสามสมัยขอรับ นี่คงเป็นสมัยอยุธยา เค้าว่า พระพุทธรูปในสมัยนี้ส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลมาจากสมัยสุโขทัย แต่มีการนำเอาศิลปะดังกล่าวมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับท้องถิ่นของอยุธยา และนี่ก็สมัยสุโขทัยขอรับ เค้าว่าพระพุทธรูปสมัยนี้ได้รับการยกย่องทั่วไปว่า เป็นยุคที่มีการสร้างพระพุทธรูปได้สวยงามมากที่สุด ส่วนสมัยเชียงแสนไม่ได้ถ่ายขอรับมาโดดๆ มีแต่คน อิอิ เดินต่อมาถึงถ้ำชาดก ดูมืดๆ สลัวดีจริง ภายในเป็นเรื่องพระเวสสันดร ตอนชูชกสองกุมาร ชูชกหน้าตาน่ากลัวจัง พระเวสสันดรผู้เสียสละโดยเป็นผู้ให้ขอรับ สงสารกุมารทั้งสอง ดูใกล้ๆ ยิ่งน่ากลัวขอรับ ตัวเป็นตะปุ่มตะป่ำ ไฟสลัว กับอากาศชื้นๆ ในถ้ำ ทำเอาไม่ได้ฟังที่มีเสียงเล่าประวัติเลยขอรับ คนน้อย รีบจ้ำอ้าวไปกันต่อดีกว่า เหอๆๆ อ่าาา ชูชกท้องแตกตายนี่สุดยอด รีบเดินออกจากถ้ำกัน หยองๆๆ โซนต่อไปกุฏิพระสงฆ์ขอรับ เดินขึ้นเดินลง ชักไม่ไหว สังขานไม่ให้เลยขอรับ ของกุฏิภาคกลาง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ นี่ก็สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อยู่ ญาโณทัย) วัดสระเกศ กรุงเทพฯ กุฏิพระสงค์ภาคเหนือ ครูบาศรีวิชัย สิริวิชโย วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และนี่ก็ หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ขอรับ มาภาคใต้กันต่อดีกว่าขอรับ พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์ (หลวงปู่ทวด) วัดช้างไห้ จังหวัดปัตตานี อ่าาา หนทางอีกยาวไกล มาถึงโซนบ้านไทยสี่ภาค เค้าจำลองบ้านไทยตามลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่เด่นชัดจากสี่ภาค เดินขึ้นทุกบ้านทุกภาคคงตายแน่ๆๆๆๆ ภาคใต้ก็ทำหนังตะลุงกันขอรับ เด็กๆ มาทัศนศึกษากันเต็มเลย บ้านภาคกลางนี่ฮือฮาที่สุด เพราะหุ่นหญิงสาวกำลังหวีผมนี่ล่ะขอรับ หยองๆๆๆ เด็กๆ พากันแตกตื่น น้ำตกจำลองขนาดใหญ่สวยงามร่มเย็น สบายตามาก แวะพักดื่มน้ำที่บ้านกาแฟที่ให้บริการเครื่องดื่ม อย่างกาแฟสดและน้ำสมุนไพรต่างๆ โหย น้ำตะไคร้ สุดๆ มาถึงโซนสุดท้าย พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เค้าบอกว่าเป็น กวนซิอิมผ่อสัก เป็นศิลปะแบบกลาง ปลายสมัยราชวงศ์ซ้องของจีน เป็นพระโพธิสัตว์กวนอิม ท่านั่งมหาราชลีลา ลักษณะเป็นบุรุษเพศ แวะซื้อโปสการ์ดที่ร้านขายของที่ระลึกด้านหน้าก่อนกลับขอรับ ใช้เวลาอยู่ในนี้สองชั่วโมงนิดๆ อ่าาาาาา โดยรวมแล้วชอบมากเลย ไว้ลองแวะมาชมบ้างนะขอรับ แผนผังแสดงพื้นที่ขอบเขตที่ตั้ง อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม 1.อาคารเชิดชูเกียรติ 2.ลานพระสามสมัย 3.ถ้ำชาดก 4.กุฎิพระสงฆ์ 5.บ้านไทยสี่ภาค 6.ลานพระโพธิสัตว์ 7.บ้านกาแฟสด 8.บ้านสมุนไพร 9.น้ำตก 10.ห้องแสดงศิลปะ 11.ร้านอาหาร 12.ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก 13.ที่จำหน่ายบัตร 14.ที่จอดรถ 15.สุขา อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม เวลาจำหน่ายบัตร วันจันทร์-วันศุกร์ : 9.00-16.30 น. วันเสาร์,วันอาทิตย์,วันหยุดนัตขฤกษ์ : 8.30-17.00 น. ที่อยู่ 41/1 ม.3 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี 70160 โทรศัพท์ 032381401, 032381404 โทรสาร 032381403 E-mail : info@scppark.com Website: //www.scppark.com   Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550     Last Update : 26 พฤศจิกายน 2550 15:55:13 น. Counter : 3763 Pageviews.   6 comment Share Tweet

ไหว้พระสามวัด ตื่นเช้าเป็นพิเศษ วันเสาร์อากาศดีเยี่ยงนี้ นัดแนะคนใจบุญไปไหว้พระกันขอรับ อิอิ ขับรถไปแถวสนามหลวง จอดรถที่ศาลหลักเมือง เสียค่าที่จอดเล็กน้อย ซื้อดอกไม้ธูปเทียน เตรียมพร้อมเต็มที่ขอรับ เค้าบอกกันว่าพิธีสร้างพระนครต้องทำพิธีฝังอาถรรพ์ 4 ประตูเมืองและต้องฝังเสาหลักเมือง การฝังอาถรรพ์ทำด้วยการป่าวร้องเรียกคนที่มีชื่อ อิน,จัน,มั่น และคง ไปทั่วเมือง เมื่อชาวเมืองเคราะห์ร้ายขานรับจะถูกนำตัวมาสถานที่ทำพิธีและถูกจับฝังลงหลุมเป็นๆ ทั้ง 4 คน เพื่อให้ดวงวิญญาณของคนเหล่านั้นอยู่เฝ้าหลักเมือง คอยคุ้มครองบ้านเมือง จ๊ากกกก เข้ามาด้านในมีโรงลิเกแก้บน ส่งเสียงดังไปทั่วขอรับ จุดธูปเทียนไหว้พระกันแล้ว ก็เสี่ยงเซียมซีกันเล็กน้อย หุหุ เข้าไปดูเสาหลักเมืองกัน เค้าบอกว่ารัชกาลที่ 1 เป็นเสาไม้ชัยพฤกษ์ที่ประกับด้านนอกด้วยไม้แก่นจันทน์ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 75 cm สูง 27 cm รวมความสูงทั้งหมด 187 นิ้ว และบรรจุดวงเมืองไว้ที่ยอดเสารูปบัวตูม โอ้ววว ต่อมารัชกาลที่ 4 ให้ขุดเสาหลักเมืองเดิม และจัดทำเสาหลักเมืองขึ้นใหม่ ด้วยแกนไม้สักประกับนอกด้วยไม้ชัยพฤกษ์ 6 แผ่น บรรจุดวงเมืองในยอดเสาทรงมัณฑ์ที่มีความสูงกว่า 5 เมตร และอัญเชิญหลักเมืองเดิม และหลักเมืองใหม่ประดิษฐานในศาลใหม่ เสาหลักเมืองในรัชกาลที่ 4 ตั้งอยู่ด้านหน้า และเสาหลักเมืองในรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ทางช่องประตูมุขขวา ไปเติมน้ำมันพระประจำวันเกิดกันขอรับ อิอิ ทำให้ชีวิตสว่างสดใส เย้ เดินออกจากศาลหลักเมืองด้านหลัง เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอปืนใหญ่วางเรียงรายเต็มไปหมดขอรับ กระทรวงมหาดไทยนี่เอง อ่าา แดดร้อนสุดๆ มาถึงถนนสนามไชยแล้วขอรับ เราจะมุ่งหน้าไปวัดพระแก้วกัน ข้ามถนนนี้ไปก็ถึงแล้วขอรับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว อิอิ ไปถึงพระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นพระอุโบสถขนาดใหญ่หลังคาลด 4 ระดับ 3 ซ้อน มีช่อฟ้า 3 ชั้น ปิดทองประดับกระจก ตัวพระอุโบสถมีระเบียงเดินได้โดยรอบ มีหลังคาเป็นพาไลคลุม รับด้วยเสานางรายปิดทองประดับกระจกทั้งต้น สายมากๆ เลยขอรับ พนักระเบียงรับเสานางราย ทำเป็นลูกฟักประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีอย่างจีน ตัวพระอุโบสถมีฐานปัทม์รับอีกชั้นหนึ่ง ประดับครุฑยุดนาคหล่อด้วยโลหะปิดทอง มีเสารายเทียนหล่อด้วยทองแดงล้อมรอบทั้งสี่ด้าน สถาปัตยกรรมไทยนี่สุดยอดขอรับ เอ ฝนตกตอนไหนก็ไม่ทราบขอรับ พื้นมีน้ำนองเชียว อาจจะตั้งแต่เมื่อคืน เช้านี้คนไม่เยอะมากเหมือนคราวก่อนที่มา หุหุ หลังจากไปสักการะบูชา พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้านในขอรับ ว้าา เราก็เดินดูไปรอบๆ บริเวณนั้น ผนังพระอุโบสถ ในรัชกาลที่ 1 เขียนลายรดน้ำบนพื้นชาดแดง รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ปั้นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ ปิดทองประดับกระจก เพื่อให้เข้ากับผนังมณฑป ปิดทองประดับกระจก บานพระทวารและพระบัญชรประดับมุกทั้งหมด โอ้ว ว้าววว และมาที่นี่ก็ไม่ลืมที่จะชมจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลก ได้เวลาไปต่อกันแล้วขอรับ อ้อ ไม่ลืมถ่ายรูปมุมสุดฮิต มุมเหรียญบาทนี่เอง เย้ๆๆๆ เดินไปตามทางเดินของสนามหลวง นกพิราบยังคงเยอะเหมือนเดิมแหะ เดินกลับไปที่จอดรถขอรับ เพื่อขับรถไปยังวัดต่อไปๆๆ มาดูแผนที่วัดแถวนั้นกันสักหน่อย แต่ขอเลือกไปวัดชนะสงคราม ราชวรมหาวิหาร กันขอรับ ตั้งอยู่เหนือคลองโรงไหม ริมถนนจักรพงษ์ (สะพานเลี้ยว) เข้ามาด้านหลังกัน เลยเจอมีรอยพระพุทธบาทขอรับ พระพุทธนรสีหจรีโลกเชฏฐ์ ประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถ สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ทำด้วยปูนปั้นแล้วบุด้วยดีบุกลงรักปิดทองปางมารวิชัย ที่ฐานชุกชีมีพระพุทธรูปโบราณซึ่งสร้างสมัยเดียวกันประดิษฐานล้อมรอบ 15 องค์ นั่งสงบจิตสงบใจ เดินชมจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ แมววัดหลับสบาย อ่าาาา ชักเริ่มง่วง หุหุ ไหว้พระเรียบร้อย หมดวันกันพอดี อดไหว้พระเก้าวัดเลย อ่ะๆ คราวหลังมาไหว้กันต่อ อิอิ วัดที่นี่เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ขอรับ อ่าว เดินออกมาก็เจอถนนข้าวสารเลย อุอุ ไปกันต่อๆ เย้ยยย มีแผนที่มาให้ชมเล็กน้อยขอรับ   Create Date : 13 ตุลาคม 2550     Last Update : 13 ตุลาคม 2550 10:34:28 น. Counter : 3177 Pageviews.   6 comment Share Tweet

อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี (เขาวัง) เดินทางจากกรุงเทพไปเพชรบุรีกัน ไปเที่ยวที่ไหนดีน้า ที่ๆ ไม่เคยไป พระนครคีรี หรือเขาวัง น่าจะดีขอรับ เดินขึ้นคงจะแย่ แดดเปรี้ยงตอนกลางวันขนาดนี้ เย้ยยย นั่งเคเบิ้ลคาร์ หรือรถรางไฟฟ้าไปกันดีกว่าขอรับ ชันเหมือนกันนะนี่ อัตราค่าโดยสารขาขึ้นและลง ผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 10 บาท มาถึงก็เจอเจ้าลิงจ๋อนั่งต้อนรับอยู่เลยขอรับ เค้าว่ากันว่าเขาวังเป็นที่ตั้งของพระราชวังแห่งแรกในหัวเมืองในสมัยรัตน- โกสินทร เลยขอรับ โอ้ววว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับ เพื่อเสด็จแปรพระราชฐานมาพักผ่อนพระอิริยาบถ อยู่ได้สูงสะใจจริงขอรับ มองเห็นทิวทัศน์จากมุมสูงสุดๆ ที่นี่เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.15 น. มาตอนเที่ยงแดดก็จะแรงเยี่ยงนี้ขอรับ กลับไปดำปี๋ เดิมทีเดียวเขาวังมีชื่อว่า เขาคีรี นะขอรับ ต่อมาสมัยกรุงศรี- อยุธยามีการสร้างวัดมหาสมณะขึ้นที่เชิงเขา จึงเรียกเขาลูกนี้ว่า เขา มหาสมณะ หรือเขาสมน โอ้ว มีประวัติๆๆ เขาวังมีสามยอด ยอดกลางเป็นที่ตั้งของพระธาตุจอมเพชร อ่าาา อยู่ห่างกันจัง เดินไหวไหมเรา จ๊ากกก นี่เป็นหัวกระไดวนๆ ยอดทางทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งวัดพระแก้ว นี่ก็เป็นสิงโตหิน อ่าาา และยอดทางทิศตะวันตกเป็นที่ตั้งพระราชวังพระนครคีรี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อเขามหาสมณะใหม่ว่า เขามหาสวรรค์ แต่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า เขาวัง เป็นอย่างนี้นี่เอง เจดีย์สีขาวที่มองเห็นเด่นแต่ไกลนั่นคงเป็น พระธาตุจอมเพชร โหยย ไกลขอรับ ตอนนี้แดดจะเผาตายอยู่แล้ว หุหุ ดอกเฟื่องฟ้าสีสด สวยงามจัง ธงไทยปลิวไสวขอรับ ที่เห็นด้านซ้ายสุดนั่นคงเป็น วัดพระแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเขาด้านทิศตะวันออก สร้างขึ้นเป็นวัดในเขตพระราชฐานเช่นเดียวกับวัดพระแก้วในพระบรมมหาราชวัง คงเดินไปไม่ถึงแน่วันนี้ หุหุ คงเดินได้รอบๆ พระราชวังพระนครคีรี กระมังขอรับ สถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบนีโอคลาสสิก สถาปัตยกรรมไทย และจีน ตอนนี้อยู่ที่หอชัชวาลเวียงชัย เป็นหอทรงกลมสูงสองชั้น หลังคาโค้งกรุกระจก สวยงาม เดิร์นมักๆๆ สร้างขึ้นเป็นที่ศึกษาและสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โอ้ว ชั้นสองนี่มองเห็นวิวรอบเลย หน้าบรรณเป็นรูปกระต่าย ดวงจันทร์ด้วยนะเนี่ย ดอกบัวสีม่วงสวยงามมากขอรับ ต้นไม้งอกทะลุกำแพงมาขอรับ จ๊ากกก รูปปั้นรูปนกอินทรีย์สวยบาดใจ โปสการ์ดมีขายเพียบเลย ขอเขียนส่งหาคนที่คิดถึงหน่อยขอรับ จ๊ากกก ร้อนมากๆ นั่งพักดื่มน้ำคลายร้อน เผลอแปป เป็ปซี่กระป๋องก็โดนฉกไป จ๊ากกกก เจ้าลิงน้อยนี่เอง ซดโฮกๆ หนอย ได้เวลากลับแล้วขอรับ เห็นลูกลิงเกาะแม่เดินไปมานี่น่ารักจริงๆ อย่าลืมไปเที่ยวกันบ้างเด้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ (032) 425600   Create Date : 01 ตุลาคม 2550     Last Update : 1 ตุลาคม 2550 22:34:25 น. Counter : 868 Pageviews.   2 comment Share Tweet

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เช้าวันเสาร์ ตื่นแต่เช้าขอรับ ตั้งใจว่าจะไปตลาดน้ำดำเนินสะดวก หาคนขับรถและเพื่อนร่วมทางได้ก็ไปกันเล้ย ขับไปตามถนนเพชรเกษม ( ทางหลวงหมายเลข 4 ) มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม ขับตรงแด่วไปจังหวัดราชบุรี ถึงท่าเรือแสนสุข โอ้วว ชื่อเพราะดีเลยรีบเลี้ยวเข้า เย้ยยย แล้วก็มีเจ้าของฝรั่งมาอธิบายเส้นทาง อ้ออ พูดไทยได้ ค่อยยังชั่วๆๆ ตกลงเส้นทางและราคากันได้แล้ว ก็เดินไปขึ้นเรือของเค้าขอรับ ลำนี้ก็นั่งกันสามคน เฮฮา หุหุ แดดเริ่มออกแล้ว แม่ค้าขายเตี๋ยวถึงกับเหงื่อตก อ่าาา เค้าว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวก เค้าเรียกว่าตลาดน้ำคลองลัดพลี มีมานานกว่า 100 ปีเศษมาแล้ว ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอไปทางทิศตะวันออก 500 เมตร พ่อค้าแม่ค้าที่นี่ยิ้มแย้มเป็นกันเองมากๆ เพราะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาเยอะแยะ อ่าาาา เค้าบอกว่าตลาดน้ำดำเนินสะดวกตั้งอยู่ที่คลองดำเนินสะดวก เหมาะที่จะไปเที่ยวชมในเวลาเช้า เนื่องจากแดดไม่ร้อนและมีเรือขายสินค้าเป็นจำนวนมาก โหยย ท้องเริ่มร้อง อ่ะๆ ประเดิมก๋วยเตี๋ยวชามแรก เห็นเครื่องเยอะดีขอรับ ต่อด้วยขนมครก โอ้ววววว น้ำในคลองยังนิ่ง ไม่มีเรือสวน หุหุ แดดเริ่มจัดและ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เปิดตัวสู่สายตาชาวโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2510 ยังมะเกิดๆ หุหุ แล้วเค้าก็ให้เราแวะไหว้พระขอรับ วัดชื่ออะไร จำไม่ได้ซะแล้ว อ่าวว ความจำเสื่อมสุดๆ จุดธูปไหว้พระสบายใจดีจัง ให้อาหารปลา โอ้ว ปลาที่นี่ชุกมากๆๆๆ แทบจะโดดขึ้นฝั่งมากินอาหารกันทีเดียว เตี๋ยวเรืออีกสักชาม นั่งนาน เริ่มหิว ก๊ากกก อ่าวว หมี่หมูแดงอีกชามก็บ่ยั่น ป้าท่านเล่นประชิดตัวมากขอรับ อ่าาาาา เฉาก๊วยถัง วางเรียงราย โหยย ทานกันไม่หมดแน่นอน ขนมเพียบขอรับ ขนมเบื้อง ถังแตก รังผึ้ง ขอชิมหน่อยๆๆๆ ก๊ากกก เย้ยยย เรือติดขอรับ เรือติด ขอทางหน่อยๆๆ อ่าาาาาาา กำและ แล้วเค้าก็พาไปสวนน้ำตาลบังเละต่อ เห็นเรือจอดอยู่หลายลำๆๆ คงจะขายดีๆ ขายน้ำตาลปึก ท็อฟฟี่น้ำตาล สารพันของหวานๆ กำลังเคี่ยวกันอย่างเมามันส์ เคี่ยวเข้าๆ เคี่ยวๆๆ เคี่ยวเข้าไปให้มันหลุดโลก ก๊ากก ซื้อกบไม้กลับบ้านเป็นของฝากที่ทำงานขอรับ เจอสุนัขตัวหญ่ายยย และแล้วเค้าก็วนมาส่งที่ท่าเรือ โอ้ว สนุกสนาน อิ่มหนำสำราญ ไว้มาอีกขอรับ ไว้พาคนสนิทมาด้วยคงหนุก เย้ยยย   Create Date : 22 กันยายน 2550     Last Update : 25 กันยายน 2550 15:08:35 น. Counter : 1347 Pageviews.   13 comment Share Tweet