วาดดาว วาดฝัน ร้อยพันเรื่องราว
Group Blog
 
All blogs
 
หากแม้ต้องจากกัน จะขอจำไว้เสมอ ไม่ลืมไม่ลืมเธอ จดจำ..นิรันดร

..เงาสงครามดำมืดสนิท ดูมืดมิดไม่รู้สิ้น เงาสงครามสีดำทมิฬ มันกัดกินแม้เลือดเนื้อ เหมือนดั่งไร้ปีไร้เดือน ทั้งผองเพื่อนสิ้นลับดับสูญ ทิ้งไว้เหลือเพียงแต่อาดูร ชีพสูญเป็นชาติพลี

สงครามดำเนินไปไม่สิ้นสุด ทหารที่มารบต่างก็ต้องจากบ้านจากครอบครัวมา แม้จะระลึกเสมอว่ากำลังทำเพื่อชาติ แต่คนทุกคนย่อมหลีกหนีความกลัวไม่ได้ ชีวิตช่างเปราะบางความเป็นและความความตายอยู่ใกล้กันแค่พลิกฝ่ามือ ความเหนื่อยล้าท้อถอยมีให้เห็นในแววตาทั้งทหารญี่ปุ่นและคนงานที่มารับจ้างในอู่ต่อเรือภายใต้การดูแลของโกโบริ ยิ่งนับวันการโจมตีก็มากขึ้น แม้ตรงนี้จะไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์เพราะเป็นเพียงอู่เล็ก แต่ก็แน่ใจไม่ได้สักนิดว่าจะปลอดภัย
แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรมุ่งตรงมา ความโกลาหลเกิดขึ้น ด้วยหน้าที่ต้องตั้งรับอย่างกล้าหาญ ต่อสู้สุดแรงแม้รู้ว่าอีกฝ่ายเหนือกว่ามากมาย รวมทั้งหัวหน้าช่างประจำอู่ที่ยังคงสั่งการแม้ตัวเองจะถูกยิงล้มลงจมกองเลือด

โกโบริและหมอเข้ามาทันรับฟังคำสั่งลาของเขา คำถามของคนใกล้ตายทำให้โกโบริรู้สึกผิดมหันต์

..นายช่างผมไม่เข้าใจ อู่ของเราไม่ใช่จุดหมาย เหตุใดจึงโดนโจมตี เขารู้ได้อย่างไรว่าเราอยู่ที่นี่ เรือลำน้อย คงจะไม่มีโอกาส แล่นในสายธาร

ที่ตรงนี้ไม่ใช่จุดหมาย คงไม่น่าสนใจถ้าไม่มีใครสักคนให้ข่าว ใครคนนั้นรอดจากความตายไปส่งข่าวได้..เพราะใคร โกโบริสะท้านในอก เขาเองที่ปล่อยเชลยฝรั่งไปเพื่อแลกกับความปลอดภัยของผู้หญิงที่เขารัก คือการให้ชีวิตศัตรูเพื่อกลับมาเอาชีวิตทุกคนที่นี่ เรือแห่งชีวิตของผู้ใต้บังคับบัญชาต้องสิ้นสุดลงเพราะเขาเอง โกโบริรับฝากรูปและคำอำลาถึงครอบครัวผู้ตายด้วยมือสั่นเทา น้ำตาหลั่งออกมาจากจิตใจที่คับแค้นเกลียดชังการกระทำของตัวเอง ก่อนจากไปหมอมองดูเพื่อนด้วยความเห็นใจแต่ทุกอย่างก็แก้ไขไม่ได้อีกแล้ว
โกโบริอดสูจนแทบจะไม่กล้าสู้หน้าใคร ปรารถนาให้ชีวิตของเขาแลกกับหลายชีวิตนั้นได้ อังศุมาลินรีบมาด้วยความห่วงใยผู้ที่ได้ชื่อว่า..สามี

..โกโบริ คุณปลอดภัยหรือเปล่า
เพราะเขา เพราะเขา รอดไปได้
..โกโบริ คุณพูดถึงอะไร

คำถามด้วยความห่วงใยของอังศุมาลิน ยิ่งตอกย้ำความผิดที่ทำลงไป เขาทำชั่วต่อกองทัพเพื่อแลกกับหัวใจของเธอ ทรยศต่อชาติเพื่อความรักของตัวเอง โทษของเขามีเพียงอย่างเดียว

ผม..สมควรตายเดี๋ยวนี้

โกโบริคุกเข่าสิ้นแรง ชายหนุ่มดูอ่อนแอเกินกว่าที่อังศุมาลินเคยเห็นตลอดมา แววตาท้อแท้สิ้นหวังจนใจหาย และต้องตกใจที่สุดเมื่อเขาจ่อปืนตรงขมับตัวเอง ความตายแค่ลั่นไก อังศุมาลินรีบแย่งปืนทิ้งไป ก่อนจะถามอย่างตกใจว่าเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่แค่เหตุการณ์ที่อู่แต่เป็นเรื่องในใจเขาต่างหาก โกโบริซบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาของชายชาติทหารลงกับพื้น

..โครงกระดูกที่รอดไป กลับมาทำร้ายเรา
โครงกระดูกที่อยู่ในตู้ เขารู้ความลับและเป้าหมาย โครงกระดูกที่ปล่อยไป ฟื้นจากความตาย และกลับมาทำฆ่าเรา

อังศุมาลินใจหายเมื่อได้รู้เหตุแห่งความสิ้นหวังของชายหนุ่มตรงหน้า เขาโทษตัวเองที่ปล่อยเชลยไป แต่เขาทำเพื่อใครถ้าไม่ใช่เธอ
เชลยคนนั้นกำลังกลับมาฆ่าคนที่นี่รวมทั้งโกโบริด้วย

...โครงกระดูกที่อยู่ในตู้ เขายังอยู่ไม่หายไปไหน ยังวนเวียนทุกแห่งไป
เมื่อไหร่สงคราม..จะจบลง

อังศุมาลินเข้าใจสงครามที่แท้จริง ตราบใดที่ยังไม่จบสิ้น ชีวิตยังต้องแลกด้วยชีวิต หากไม่ฆ่าเขาสักวันจะกลับมาทำร้ายเรา ผู้ชายคนนี้รับผิดชอบทุกอย่างด้วยชีวิตของเขา ซึ่งเธอยอมไม่ได้ หญิงสาวปาดน้ำตาให้เขาอย่างแผ่วเบา


..โกโบริ โปรดอย่าตาย โปรดอย่าตาย ชีวิตยังมีค่า เราจะมาเริ่มต้นกันใหม่ ฉันสัญญา ฉันสัญญา
..ต่อไปนี้เราจะดีต่อกัน ให้เวลาที่เหลือนั้นมีความหมาย จนกว่าเขาคนนั้นจะกลับมาจากแดนไกล

อังศุมาลินกำลังใช้คำสัญญาของเธอฉุดรั้งโกโบริจากความสิ้นหวัง เป็นสัญญาที่ออกจากหัวใจแท้จริง การรอคอยใครอีกคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หัวใจของโกโบริชุ่มชื่นขึ้นเมื่อคนที่เขารักที่สุดห่วงใย คำสัญญาจะใช้ชีวิตร่วมกัน แม้ว่าเวลาจะสั้นเพียงแค่ไหนก็ยินดี และเข้าใจการรักษาสัญญาของเธอ

..ฮิเดโกะ ผมเข้าใจ
เขาจะกลับมาทวงสัญญา
ฮิเดโกะ..ผมรักคุณ ผมสัญญา

โกโบริก็ย้ำสัญญาของเขาเช่นกัน เป็นคำสัญญาที่บอกเธอเสมอมา
ต่อจากนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร สงครามจะโหดร้ายแค่ไหน ทั้งโกโบริและอังศุมาลินไม่นึกเกรงอีก ขอแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างนี้นานเท่านาน

..อยากหยุดวันเวลา หยุดนาที อยากให้โลกนี้หยุดหมุนสักวัน
ให้เรามีเวลา ให้กันและกัน เก็บความสุขลึกล้ำใน..หัวใจ



..พรุ่งนี้เป็นอย่างไรไม่อาจรู้ แต่วันนี้จะเคียงคู่อยู่เพื่อเธอ
หากแม้ต้องจากกัน จะขอจำไว้เสมอ ไม่ลืมไม่ลืมเธอ จดจำนิรันดร
ไม่ลืมไม่ลืมเธอ จดจำ..นิรันดร


(ฉากนี้เริ่มจากความเศร้ากดดัน จนโกโบริคิดจะยิงตัวตาย คำลาของทหารที่ตายเศร้าจริงๆ เซกิร้องไห้เก่งมากชนิดเจ้าน้ำตาเลยก็ว่าได้ จนต้องร้องตาม แต่ยังดีที่อังศุมาลินมาช่วยชีวิตทั้งโกโบริทั้งคนดู เพลงนี้เป็นเพลงที่มีความสุขมาก เรียกได้ว่าถ้าจบแค่ตอนนี้ Happy Ending เลย โกโบริกับอังศุมาลินยิ้มเต็มที่สุดๆ ก็ฉากนี่หละ แอบอิจฉาน้ำมนต์ได้ปาดน้ำตาให้พ่อดอกมะลิซะด้วย )

**********************


การชิงไหวชิงพริบต้องมีเสมอในสงคราม แผนการณ์ต่างๆ ที่วางต้องรัดกุมและไม่รั่วไหลไปยังฝ่ายตรงข้าม

...อีกสามวันข้างหน้า อีกสามวันข้างหน้า เสรีไทยจะเข้ามาในนี้

ณ กองบัญชาการของเสรีไทยในเมืองไทย กำลังวางแผนเพื่อจะรับสมาชิกขบวนการเสรีไทยในต่างแดนที่จะเข้ามาดำเนินงานในไทย หลวงชลาสินธุราชร่วมวางแผนกับอดีตเชลยฝรั่งที่อังศุมาลินช่วยให้รอดตาย ความจริงโกโบริต่างหากช่วยชีวิตเขา แผนการณ์ที่รับรู้ร่วมกันคือเสรีไทยที่เข้ามาอย่างลับๆ จะโดดร่มลงที่ชายฝั่งในเวลากลางคืน และส่งสัญญาณไฟให้ ทางฝ่ายไทยที่รอรับ ทุกอย่างคงผ่านไปได้ด้วยดี ถ้าอีกฝ่ายจะไม่รู้ข่าวเดียวกันนี้
ณ กองบัญชาการกองทัพญี่ปุ่น ข่าวเสรีไทยจะเข้ามาในอีก 3 วันข้างหน้า ทำให้เกิดการซ้อนแผนอย่างแยบยล
ดังนั้นเมื่อเสรีไทยที่โดดร่มมาให้สัญญาณ ทหารญี่ปุ่นที่ซุ่มรอจึงตรงเข้าจับกุมในทันที เกิดการต่อสู้กัน ฝ่ายที่อาวุธพร้อมย่อมได้รับชัยชนะ เสรีไทยที่รอดชีวิตก็ต้องถูกจับ และหนึ่งในนั้นคือ..วนัส

(ฉากนี้เล่าสองเหตุการณ์พร้อมกันอีก วางแผนไปพร้อมๆ กัน แต่ฝ่ายไทยเพลี้ยงพล้ำ เพราะข่าวรู้ไปถึงฝ่ายญี่ปุ่น ทำให้วางแผนซ้อนได้อย่างเฉียบคม ฉากที่วนัสโดนจับ เอาไฟส่องหน้า แอบคิดว่าไม่น่าเลยวนัส ตัวก็โตถูกจับซะได้
ตอนนี้ภาพอาจจะน้อยเสียแล้ว ต้องขออภัยด้วยค่ะ เนื่องจากคนถ่ายคงจะกำลังอิน ตั้งใจดูมากกว่าตั้งใจถ่ายซะแล้ว อิอิ)

*****************************


ท่ามกลางไฟสงครามที่ลุกลามไปไม่สิ้นสุด แต่ความเดือดร้อนขาดแคลนไม่ได้ทำลายความรักความผูกพันของคนในครอบครัวของอังศุมาลิน ผู้หญิงสามวัยกับความเป็นอยู่อันเรียบง่ายแต่แสนอบอุ่น โดยเฉพาะเมื่อกำลังจะมีอีกชีวิตน้อยๆ เกิดขึ้นมา สิ่งที่ทุกคนตระเตรียมให้ไม่ได้เริดหรูแต่ช่างละมุนละไม เปี่ยมไปด้วยไอรักจากใจทุกดวง

..เสื้อไหมพรมตัวน้อยน้อย แม่รอคอยเจ้าสวมใส่
ไหมที่ถักทอด้วยหัวใจ สีอ่อนหวานละไมนวลตา

เสื้อไหมพรมที่อังศุมาลินบรรจงถักไว้ให้ลูกนั้น ทำจากดวงใจของแม่ที่รักลูกหมดหัวใจ ไม่มีความแตกต่างใดๆ มาแบ่งแยกออกจากกันได้

..ผ้าอ้อมของหลานรัก อีกไม่นานนะคงได้ใส่
ผ้าขาวบางรำไร ปักไว้ด้วยใจเบิกบาน

คุณอร..แม่ที่เลี้ยงลูกมาลำพัง รู้สึกเป็นสุขเมื่อชีวิตของลูกจะรวมเป็นครอบครัวที่ครบถ้วนอบอุ่น จากนี้หลานคือผู้เชื่อมความรักของอังศุมาลินและโกโบริ ผู้มาจากแดนไกลเติมชีวิตให้ครอบครัวนี้จนเต็ม



..ชิ้นผ้าที่ต่อไว้ห่มนอน แทนความอาทรหนักหนา
หนึ่งชิ้นแทนดวงใจดวงตา ร้อยความรักที่มากกว่าสิ่งใด

คุณยาย ใช้ผ้าที่ละชิ้นต่อให้เหลน เหมือนเป็นการร่วมรวบจิตใจของทุกคน ทั้งลูกที่เคยพบอดีตอันเจ็บช้ำ หลานที่ต้องต่อสู้กับหัวใจตัวเอง เมื่อชีวิตใหม่แสนบริสุทธิ์เกิดมาก็นำพาชีวิตเปี่ยมด้วยความรักมาด้วย วันเวลาที่ยังเหลือไม่มาก สุขใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของหญิงสาวอีกสองคนที่เป็นแก้วตาดวงใจตลอดมา

..จากแม่สู่ลูกน้อย ร้อยด้วยรักถักทอด้วยใจ
แม่พันผูกลูกด้วยสายใย ร้อยความรักเราไว้อย่างมั่นคง

แม้โลกหรือผู้คนจะเปลี่ยนไป สงครามจะรุนแรงหรือจบลงเมื่อไร แต่ความรักมั่นคงของแม่นี้..ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

( ฉากอบอุ่นหัวใจ นี้ทำให้รู้สึกรักแม่ขึ้นมาเลย แต่พอคิดว่าฉากต่อจากนี้ไปจะพบกับอะไรบ้าง อยากร้องไห้ ความสุขมักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ )

***************************



ตาผลกับตาบัวแขกขาของประจำบ้านคุณอร กำลังนำข่าวใหญ่ของทั้งสองมาบอกอังศุมาลิน ซึ่งเป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้ายในเวลาเดียวกัน

..พ่อวนัส ถูกญี่ปุ่นจับไปเมื่อคืนนี้
..วนัส อยู่เมืองไทย จริงหรือนี่
..แต่ตอนนี้ เป็นหรือตายยังไม่รู้

การได้รับรู้ว่าวนัสกลับมาแล้วควรจะสร้างความยินดีให้กับทุกคน แต่ข่าวที่เขาถูกฝ่ายญี่ปุ่นจับไปช่างน่าห่วงใย คำเล่าลือและภาพที่เคยเห็นตาผลกับตาบัวถูกญี่ปุ่นลงโทษอย่างโหดร้าย ยังติดอยู่ในความทรงจำของทุกคน โดยเฉพาะเมื่อฝ่ายนั้นรู้ว่า..วนัสเป็นเสรีไทย

อังศุมาลินรู้ดีว่าผู้ชายอย่างวนัสไม่เคยลืมสัญญา แล้วก็ถึงวันที่เขากกลับมา เพื่อทวงถามสัญญานั้น เธอจะพยายามช่วยเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

..วนัสเธอกลับมา ตามคำสัญญา ขอเธออย่าเป็นอะไร
ฉันจะไม่ยอมให้ใคร ทำร้ายเธอ

โกโบริกลับบ้านด้วยใบหน้าเบิกบาน ชีวิตน้อยๆ ที่จะเกิดขึ้นเป็นตัวแทนความรักของเขาและเธอ.. แต่ตอนนี้สีหน้าของทุกคนดูเหมือนมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นโดยเฉพาะผู้หญิงที่เป็นดังแสงตะวันในใจเขา

..โกโบริ พวกคุณจับเขาใช่หรือไม่ พวกคุณฆ่าเขาใช่ไหม

แรกโกโบริไม่เข้าใจว่าหญิงสาวกำลังโกรธเรื่องอะไร คนที่กำลังจะเป็นแม่ควรที่จะมีอารมณ์เบิกบาน
เธอบอกว่าเขารู้อยู่แก่ใจเกี่ยวกับผู้ชายชื่อ..วนัส ที่ถูกจับเมื่อคืน แน่นอนข่าวนี้เขาต้องรู้ แต่ไม่คาดคิดว่าคนคนนี้คือคนสำคัญของอังศุมาลิน

..คุณต้องปล่อยเขา ได้ยินไหม

อังศุมาลินร้องสั่งกร้าว เกรี้ยวกราดต่อผู้เป็นสามี จะคุณอรต้องร้องห้าม

..ลูกจ๋า อย่าร้อนใจ

แต่อังศุมาลินไม่ฟังใครอีกแล้ว ยิ่งผู้ชายตรงหน้าแสดงท่าทีไม่รู้เรื่อง
ไม่นึกถึงเหตุผลใดอีกอังศุมาลินสั่งให้เขาปล่อยตัววนัสกลับมา เพราะวนัสคือคนที่เธอกำลังรอคอย

..วนัสเธอกลับมาตามคำสัญญา ขอเธออย่าเป็นอะไร
ฉันจะไม่ยอมให้ใคร ทำร้ายเธอ

โกโบริเจ็บปวดกับคำของคนรัก เธอห่วงใยคนคนนั้น จนมองว่าเขาคือคนเลว อดที่จะตัดพ้ออย่างน้อยใจไม่ได้

..ทุกคืนคุณมาที่ท่าน้ำเหมือนกำลังคอยใครสักคน ดั่งหิ่งห้อยล่องลอย
และเขาก็คือ..วนัส

อังศุมาลินในเวลานี้ ไม่คิดถึงอะไรอีกนอกจากความปลอดภัยของวนัส เมื่อเขาไม่ยอมทำตามที่เธอขอร้อง ก็จะเชือดเฉือนใจดวงนั้นให้เจ็บปวดทีเดียว

..ใช่แล้ว เขาคือวนัส..คนรักของฉัน

..ฮิเดโกะ

โกโบริเรียกชื่อที่ประทับอยู่ในใจ คำในภาษาของเขาใช้แทนชื่อเธอในวันที่เอ่ยคำรักและคำสัญญาที่เป็นดังแสงแห่งการมีชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ตอนนี้ใครคนนั้นต่างหากคือ..คนรักของเธอ

..อย่าเรียกชื่อนี้ ฉันชื่ออังศุมาลิน อังศุมาลิน อังศุมาลิน ได้ยินไหม
..อังศุมาลิน ที่หัวใจเปลี่ยนแปลง

อังศุมาลินตวาดก้อง เหมือนจะย้ำให้ทั้งตัวเองและอีกฝ่ายจำไว้ ก่อนจะทรุดลงอย่างอ่อนแรง เมื่อความคิดกับหัวใจต้องต่อสู้กัน หัวใจที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะความรักจากคนคนนี้ หัวใจที่จดจำคำสัญญาจะมีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน ความเจ็บปวดใดจะเท่าทำร้ายหัวใจตัวเอง
แต่อังศุมาลินยอม เลือกผิดสัญญาที่ให้กับโกโบริ เพื่อช่วยผู้ชายที่ยึดมั่นในคำสัญญาที่มีต่อเธออย่าง..วนัส

..ชีวิตของเขา ไม่มีค่าใช่ไหม
ชีวิตของเขา ไม่มีค่าใช่ไหม
คุณจงจำไว้ คุณทำร้ายหัวใจของฉัน

โกโบรินิ่งฟังอย่างใจหาย ชีวิตของผู้ชายคนนั้นคงมีค่ามากกว่าศัตรูอย่างเขามากมายนัก แต่เธอน่าจะรู้ว่าเขาหรือจะทำร้ายหัวใจเธอได้ นั่นเท่ากับทำร้ายหัวใจตัวเอง

แต่ถ้อยคำเหี้ยมเกรียมและท่าที่น่ากลัวของเธอต่อมา ทำให้เขาแทบสิ้นสติ เมื่อรำลึกว่าหัวใจและชีวิตของเขาในตอนนี้อยู่ที่ลูกที่จะเกิดมา

...ฉันจะทำลาย หัวใจคุณ

โกโบริรีบเข้าไปรับร่างที่จงใจก้าวพลาดลงจากบันได กอดไว้อย่างทะนุถนอมด้วยความห่วงใยทั้งหญิงสาวและสายเลือดที่ยังไม่มีโอกาสได้พบกัน ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นหรือไม่

..ฮิเดโกะ

น้ำเสียงปนสะอื้นของโกโบริในเงามืด บ่งบอกว่า..ไม่ว่าเธอจะทำเพื่ออะไรหรือใคร
แต่การกระทำนี้ขยี้หัวใจเขา...จนแลกสลายไปแล้ว


(ฉากขยี้หัวใจคนดูอีกแล้ว สงสารพ่อดอกมะลิที่ไม่รู้อิโหน่อิเน่ของเราเหลือเกิน ยืนทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ก็ถูกว่าเอาว่าเอา ฉากนี้น้ำมนต์แสดงได้เยี่ยมมากๆ ดูแล้วทั้งสงสารทั้งโกรธเธอเลย ตื่นเต้นตอนจะตกบันได แล้วบันไดหมุนๆ มืดๆ กัวเซกิไปรับไม่ทัน ไม่รู้จะกลัวทำไม ตอนที่ตกลงมาแล้วโกโบริรับไว้ ภาพสลัว สงสารแบบเจ็บอกเลย ทำไมหนอทำได้ขนาดนี้ แต่แป๊บเดียวเองคราวหน้าขอนานกว่านี้นะคะ )

***********************



แสงที่ลอดผ่านลูกกรงเข้ามา ทำให้วนัสรับรู้ว่าเขาถูกแยกออกจากเสรีภาพภายนอก ไม่สามารถจะทำงานเพื่อชาติตามที่ตั้งใจ ที่สำคัญไม่อาจไปพบหน้าผู้หญิงที่เขารักมั่นคง ความมืดมิดในห้องขังจึงไม่ต่างจากความหม่นเศร้าในใจเขา ไม่อาจรู้ว่าชะตาชีวิตตนในเงื้อมมือศัตรูจะเป็นอย่างไรต่อไป

..วนัส จำฉันได้หรือเปล่า

เสียงของคุณหลวงชลาสินธุราชปลุกวนัสจากความโดดเดี่ยว ไม่เพียงเป็นฝ่ายเสรีไทยด้วยกันเท่านั้น หากคุณหลวงคือบิดาของอังศุมาลิน คำยืนยันที่จะช่วยเหลือให้เขาได้กลับออกไปไม่ใช่สิ่งที่ต้องการรับฟังในตอนนี้

..อังศุมาลิน เธอเป็นอย่างไร

จิตใจวนัสจดจ่ออยู่กับความเป็นไปของอังศุมาลิน แม้คุณหลวงจะพยายามบ่ายเบี่ยง ด้วยการบอกข่าวอื่นที่น่ายินดีกับฝ่ายเสรีไทย แต่วนัสไม่สนใจรับรู้ ยิ่งคุณหลวงไม่ยอมบอกเขาก็ยิ่งสงสัย

..อังศุมาลิน เธอเป็นอย่างไร ท่านครับเกิดสิ่งใดร้ายหรือดี เธอเป็นอย่างไร ได้โปรดบอกผมที

ความห่วงใยของชายหนุ่มที่มีให้บุตรสาวทำให้คุณหลวงเห็นใจ จึงตัดสินใจบอกว่าอังศุมาลินแต่งงานไปแล้วกับ..โกโบริซึ่งเป็นหลานชายแม่ทัพฝ่ายญี่ปุ่น คุณหลวงรู้ว่ามันทำร้ายจิตใจวนัส แต่ก็ไม่อาจอธิบายเหตุผลอันซับซ้อนทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องหัวใจของคนทั้งสองได้

..สิ่งที่เราได้ยิน จริงหรือไม่จริง หรือว่านี่คือฝัน ใช่เราฝัน
คืนสุดท้ายที่จากเธอใต้ต้นลำพูนั้น สัญญาที่ฝากคำ สัญญาเธอลืมสัญญา

วนัสแทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน ผู้หญิงอย่างอังศุมาลินที่เขารู้จักไม่น่าจะผิดสัญญา
ถ้าหากสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่ความฝัน อะไรเล่าทำให้เธอผู้นั้นต้องแต่งงานกับผู้ชายฝ่ายศัตรูชื่อ..โกโบริ

..อังศุมาลินเธอแต่งงานไป โอ้..หัวใจเจ็บช้ำปวดร้าวหนักนา
เธอเคยบอกว่าจะรอถึงวันที่กลับมา สัญญา สัญญา สัญญาเธอลืมสัญญา

ความหวังพังทลายโดยสิ้นเชิงทำให้วนัสกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ เรี่ยวแรงดูจะสิ้นไปกับหัวใจที่หายลับพร้อมคำสัญญาที่ถูกลืม ไม่ต้องการรับรู้อีกว่ามีใครมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายมิตรหรือ..ศัตรู

นายพลโมริยะถามเรื่องเชลยในห้องขังกับหลวงชลาสินธุราช ด้วยไม่ไว้วางใจเพราะเห็นเป็นคนไทยด้วยกัน แม้ลูกและหลานจะเกี่ยวดองกันแต่ในหน้าที่ก็ยังคงแบ่งพวกแบ่งฝ่าย กองทัพญี่ปุ่นต้องการนำตัววนัสไปสอบสวนเอง ซึ่งฝ่ายไทยยอมให้ไปเผชิญกับอันตรายนั้นไม่ได้ ความตึงเครียดมีทีท่าว่าจะเกิดขึ้น

..โกโบริ หลานว่าอย่างไรดี

นายพลโมริยะจึงหันไปปรึกษาคนสำคัญที่มาด้วย อย่างไรเสียความคิดเห็นของหลานชายย่อมมีน้ำหนัก

โกโบริ

วนัสทวนชื่อชายหนุ่มที่เพิ่งได้ยิน ก่อนเจ้าของชื่อจะก้าวมายืนข้างนายพลโมริยะ ใบหน้าคมคายที่พ้นจากเงามืดก็จ้องมายังเขา พร้อมบอกชื่อตัวเองสุภาพชัดเจน และประกาศว่ารู้จักอีกฝ่ายเช่นกัน

..ครับ ผมเองโกโบริ คุณ..วนัส


(ภาพจากทีมงานคู่กรรมใน webboard ของ dreambox ขอบคุณค่ะ)


ภาพนายทหารหนุ่มสูงสง่าฝ่ายศัตรูผู้นี้เองที่ทำให้เขาต้องหลั่งน้ำตา ผู้ชายคนนี้เองที่ทำลายความหวังอันสวยงามจนไม่มีชิ้นดี ศัตรูที่ได้รับความรักจากผู้หญิงที่เขารักมาเนิ่นนาน ผู้รุกรานที่ครอบครองหัวใจที่เคยแข็งกร้าวถือดีดวงนั้น คนยึดมั่นกับความคิดของตนอย่างอังศุมาลินมีหรือจะยอมผิดคำสัญญา ถ้าไม่มีความรักในหัวใจ

..นี่หรือ คือคนที่เธอรัก นี่หรือคือคนที่เธอห่วงใย นี่หรือคือคนที่เธอให้หัวใจ คนที่ทำให้เธอผิดสัญญา

โกโบริได้เห็นหน้าหนุ่มไทยท่าทางถือดีคนนี้เป็นครั้งแรก เจ้าของคำสัญญาใต้ต้นลำพูที่อังศุมาลินยึดมั่นตลอดมา เธอรอคอยทั้งที่ถูกผูกมัดด้วยการแต่งงานกับศัตรูอย่างเขาแล้ว ความห่วงใยคนคนนี้มากจนเธอทิ้งสัญญาที่มีต่อกันและคิดจะทำลายชีวิตน้อยๆ ที่เป็นดังดวงใจของเขา

..นี่หรือ คือคนที่เธอรัก นี่หรือคือคนที่เธอห่วงใย นี่หรือคือคนที่เธอให้หัวใจ คนที่ทำให้เธอผิดสัญญา


(ภาพจากทีมงานดรีมบ็อกซ์ จาก webboard - dreambox.co.th ขอบคุณค่ะ)

ชายหนุ่มสองคนยืนอยู่คนละฝ่าย ต่างก็คิดว่าผู้ชายตรงหน้านั้นต่างหากคือคนที่อังศุมาลินรัก หัวใจที่กำลังร้าวรานไม่ต่างกันสักนิด
ชายคนที่อังศุมาลินยอมมอบชีวิตและหัวใจให้ย่อมมีดีเกินใคร วนัสยอมรับทั้งน้ำตาว่าพ่ายแพ้ต่อศัตรูคนนี้ ถึงจะเจ็บปวดจนสิ้นแรงแต่ต้องทนรับให้ได้

โกโบริยอมรับด้วยใจที่แตกสลายว่า ถึงวันที่เจ้าของหัวใจของอังศุมาลินกลับมาทวงสิทธิ์นั้นจากเขาแล้ว เวลาของความสุขที่พยายามรักษา ความหวังจะมีชีวิตร่วมกันจบสิ้นเสียที ความหยิ่งทะนงตามสายเลือดทำให้เขายืนหยัดยอมรับความพ่ายแพ้ได้แม้ไร้หัวใจ

..หากเขาคือคนที่เธอรัก หากเขาคือคนที่เธอมอบใจ และฉันต้องทนยอมเสียเธอไป คงได้แต่ทำใจ..จำยอม


(ภาพจากทีมงานดรีมบ็อกซ์ จาก webboard - dreambox.co.th ขอบคุณค่ะ)

แล้ววนัสก็ได้ตระหนักถึงน้ำใจของผู้ชายที่เป็นเจ้าของหัวใจอังศุมาลิน เมื่อนายพลโมริยะขู่จะใช้กำลังหากไม่ส่งตัวเขาให้กับฝ่ายญี่ปุ่น การช่วยเหลือศัตรูหาได้ยากในยามสงคราม แต่ผู้ชายชื่อโกโบริ..ยอมทำ

..ทหารเพียงหนึ่งคน คงไม่ทัพให้กองทัพแพ้พ่าย ปล่อยเขาไปคงไม่ต่างกัน

โกโบริเหลียวมองวนัสก่อนจะก้าวไป ไม่มีใครรู้ว่าในใจของทหารที่กำลังทำผิดต่อกองทัพ เจ็บปวดและเกลียดชังตัวเองเพียงใด เป็นอีกครั้งที่โกโบริแลกความนับถือในเกียรติของตนและอาจจะต้องแลกลมหายใจที่เหลือ..เพื่อเธอ


( ฉากสำมะคัญที่ใครต้องกล่าวถึง ไม่สามารถถ่ายทอดได้ไม่เท่ากับความประทับใจของวาดดาวเองด้วยซ้ำ

ผู้ชายสองคนร้องเพลงด้วยเนื้อและทำนองเดียวกัน เนื้อเพลงที่ผู้แต่งอัจริยะมาก ในการถ่ายทอดความคิดของคนทั้งสอง ที่ต่างก็คิดว่าอีกคนคือคนที่ได้รับความรักจากอังศุมาลิน ดูเหมือนคนที่คิดถูกคือวนัส ส่วนพ่อดอกมะลิของเราถูกฮิเดโกะทำร้ายจิตใจจนถอดใจยอมแพ้วนัสไปเสียแล้ว ฉากนี้น็อตทำให้ใครๆ สงสารวนัสจับใจ ดูคู่กรรมหลายเวอร์ชั่น ไม่เคยสงสารวนัสเท่านี้มาก่อน ยิ่งได้เห็นสายตาเศร้าของชายหนุ่มมาดแมนสองคนมองกัน ปวดใจสุดๆ เพราะความรักทีเดียวทำให้ต้องเจ็บปวดกันทั้งคู่ คนดูก็น้ำตาคลอไปตามระเบียบ

ฉากสวย เรียบง่ายแต่ถ่ายทอดอารมณ์ได้ลึกซึ้ง แค่ม่านบางๆ กั้น มีลำแสงคล้ายส่องผ่านลูกกรงมายังวนัส ก็ทำให้เหมือนสองคนอยู่กันคนละโลก บรรยากาศมัวๆ เหมือนหัวใจของทั้งคู่
เฮ้อ...กว่าจะอัพตอนนี้ได้ไวรัสรับประทานเครื่องซะอ่วม แต่เพื่อคู่กรรม the musical ต้องสู้ )

****************************



วนัสรู้ดีว่าอิสรภาพของตัวได้มาจากความช่วยเหลือของโกโบริ ศัตรูที่เป็นเจ้าของทั้งกายและใจของอังศุมาลิน อย่างไรเสียเขายังคงต้องกลับไปทวงถามคำสัญญาจากเธอ ใต้ลำพูต้นเดิมไม่ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแค่ไหนคำตอบในวันนี้จะเป็นอย่างไรขอได้ยินจากปากเธอเท่านั้น

วันเวลาผ่านไปหลายปีหากศาลาท่าน้ำใต้ต้นลำพูใหญ่ยังคงเหมือนเดิม หิ่งห้อยยังบินวนเวียนส่องแสงระยิบ ราวกับยังคงตามหาคนรัก แต่อังศุมาลินรู้ดีว่าทุกอย่างในชีวิตผันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่มีวันย้อนกลับไปเหมือนดังเก่า

..เจ้าหิ่งห้อยตัวน้อย โปรดหยุดรอคอยคนรักที่ตามหา เพราะนางไม่อาจหวนคืนกลับมา ผิดคำสัญญาเศร้าใจ
ดุจดังสายน้ำไม่อาจไหลกลับคืน

เหตุการณ์ร้ายที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทำให้รู้ว่าการทำร้ายคนที่รักเราที่สุดนั้นคือความเจ็บปวดจนไม่อาจทานทนได้ เมื่อเขาก็คือคนที่เธอรัก ในโลกนับจากนี้ไม่มีใครสำคัญเท่าลูกที่เป็นของเธออย่างแท้จริง ชีวิตน้อยๆ เกิดจากความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใดเพื่อตัวเองเลย แม้การให้ของเขาจะได้ความเจ็บปวดตอบแทนอยู่เสมอก็ยังคงให้อย่าง มั่นคงเหมือนคำสัญญา อังศุมาลินยอมกับตัวเองในวันนี้ว่า คงกลับไปตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้กลับวนัสไม่ได้อีกแล้ว

..โอ้วนัสเธออยู่ไหน โปรดรู้ว่าใจฉันทนเจ็บช้ำ ฉันเสียใจที่ต้องผิดคำ สัญญาใจระหว่างเรา

วนัสหลบอยู่หลังต้นลำพูเพื่อความปลอดภัยทั้งตัวเองและเจ้าของสถานที่ ทำให้ได้ฟังถ้อยคำเศร้าสร้อยของคนที่ต้องการพบที่สุด ได้รับรู้ว่าอังศุมาลินไม่เคยลืมและไม่ใช่เขาเท่านั้นที่เจ็บปวดจากการผิดสัญญาครั้งนี้ของเธอ

...โลกนี้ช่างแสนเศร้า ดังนิทานที่ปวดร้าวทรมา ความรักที่ตามหา คงไขว่คว้าได้เพียง..แค่เงา

แม้นานแค่ไหนอังศุมาลินก็จดจำเสียงของเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันได้ดี เจ้าของสัญญาที่เธอไม่อาจรักษาไว้ได้ เขากลับมาตรงนี้แล้วอย่างปลอดภัย กลับมาฟังคำที่เธอปรารถนาจะบอก

...วนัสเธอกลับมา เธอกลับมา ตามคำสัญญา

สำหรับวนัส วันเวลาและเหตุการณ์ใดๆ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีต่อเธอผู้นี้ได้ เมื่อเขาให้สัญญาว่าจะรอก็จะยังรออยู่ตลอดไปเพื่อฟังคำรัก

...อังศุมาลิน ฉันได้ยินที่เธอขอ แต่ฉันก็จะรอไม่ว่านานสักเพียงไหน
...วนัส ฉันเสียใจ ผิดคำสัญญาที่ให้ไว้ โปรดอย่ารออีกต่อไป หัวใจฉันไม่เหมือนเดิม

อังศุมาลินรู้ดีว่าคนฟังคงเจ็บช้ำ แต่ชีวิตทุกคนควรดำเนินต่อไปตามทางของตนเสียที ยังมีใครคนหนึ่งที่คงรอคอยอิสระของเธอ อิสระที่จะบอกรักเขาได้หมดหัวใจ ไม่มีสัญญาใดผูกมัดจนทำลายสัญญารักของเขาคนนั้นอีก

...เมื่อเรารักใครอยู่สักคน เมื่อรักเขาจนหมดหัวใจ เป็นความสุขล้ำที่ลึกซึ้งภายใน โลกดูสดใสไปทุกสิ่ง
สุดหาถ้อยคำใดเปรียบปราณ เมื่อรักนั้นเริ่มจะผลิบาน ดังดวงตะวันที่ทอแสงตระการ ให้ความกล้าหาญสู้ความจริง

แต่โลกช่างแสนเศร้าไม่แพ้นิทานแห่งการพลัดพราก เมื่อโกโบริกลับมาเห็นคนทั้งสองใต้ต้นลำพู ภาพที่ตอกย้ำหัวใจอันร้าวราน ชายหนุ่มที่จำใจต้องช่วยเหลือกลับมาทวงหัวใจคืนไป พลังแห่งชีวิตดับสูญไปพร้อมกับแสงตะวันในใจ บ้านที่คิดว่ายังคงมีใครสักคนรอ..ไม่มีอีกแล้ว

โกโบริยืนอยู่ไกลแต่ภาพของคนทั้งคู่ช่างชัดเจนจนไม่อาจตอบตัวเองได้ว่า จากนี้ไปจะมีชีวิตอยู่..เพื่อใคร

ตรงกันข้ามกับหัวใจอิสระเปี่ยมด้วยรักของอังศุมาลิน หัวใจที่เคยปิดตายเปิดรับแสงตะวันจากศัตรูผู้มาจากแดนไกลทำให้กล้ายอมรับกับตนเองและวนัสว่าจากนี้ไปจะมีชีวิต..เพื่อโกโบริ

...บัดนี้ ฉันมีความรัก เพิ่งรู้ตัวเพิ่งประจักษ์แก่หัวใจ ฉันเคยทนเจ็บช้ำเคยพยายามหักห้ามไว้ สุดท้ายก็ไม่อาจฝืนใจตัวเอง
...เมื่อเรารักใครอย่างแท้จริง สิ่งไหนไม่กลัวไม่หวั่นเกรง ใครๆ อาจหาว่าเราเห็นเพียงตัวเอง ดูเหมือนเป็นคนแสนเลวก็ยอม

วนัสมองดูอังศุมาลินในวันนี้ ผู้หญิงใจแข็งเย็นชาต่อความรักเติบโตจนรู้จักรักที่แท้จริง ด้วยเธอได้รับความรักจนหมดใจจากผู้ชายที่เขายอมแพ้ทุกทาง คำสัญญาที่ผูกมัดไว้ให้เธอรอคอยคงสร้างความทุกข์ทรมานให้ทั้งคู่มากมาย

...อังศุมาลิน ฉันได้ยินเธอร้องไห้ ฉันเองก็เสียใจในคำสัญญาอันโง่เขลา ฉันเองที่เห็นแก่ตัว ผู้มัดให้เธอคอยเรา สัญญาแสนเศร้า ฉันขอคืนคำสัญญา
สัญญา
...ขอคืน
สัญญา
...จงลืม
สัญญา ฉันขอคืน

วนัสคืนคำสัญญาให้แก่อังศุมาลิน พร้อมกับโกโบริก็คืนอิสระให้เธอเช่นกัน ก่อนหันหลังกลับไปตามทางที่เลือกด้วยกายที่ไร้หัวใจ ใบหน้าที่ก้มต่ำอย่างยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่นำพามาจนถึงปลายทาง จากนี้ไปไม่มีเหตุร้ายใดๆ ทำร้ายเขาได้อีกแม้แต่..ความตาย

ไม่มีใครรู้สักนิดถึงการจากไปอย่างเงียบเชียบของผู้ชายคนหนึ่ง วนัสจำต้องตัดใจจากความรักที่มีให้อังศุมาลินมาแสนนาน ความรักของเขาก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชายหนุ่มคนนั้น ความสุขของอังศุมาลินก็คือสิ่งที่เขาปรารถนาจะเห็น

...ลาก่อน ความรัก

อังศุมาลินเข้าใจความรู้สึกอาวรณ์ของอีกฝ่ายดี แต่ทุกอย่างดำเนินมาแสนไกลชีวิตไม่อาจบรรจบกันได้อีก การรอคอยควรสิ้นสุดเสียที ไม่ต้องวนเวียนตามหาดังหิ่งห้อยอีกต่อไป

...วนัส
...ลาก่อน

วนัสกล่าวลาผู้หญิงที่รักสุดหัวใจ ความรักที่มีให้คงเก็บไว้ในใจตัวเองเท่านั้น ความหวังและความฝันจะได้มีชีวิตร่วมกันสลายไปกับสายน้ำ จากนี้ไปจะไม่ต้องเป็นเหมือนหิ่งห้อยจุดเที่ยวจุดโคมไฟอีก

...ลาก่อนนางลำพู
ขอให้เธอโชคดี
...ลาก่อนความหลัง

หญิงสาวมั่นใจว่าสัญญาที่คืนให้แก่กัน จะปลดปล่อยหิ่งห้อยผู้แสนดีให้โบยบินไปสู่โลกใหม่เสียที โลกที่มีไม่มีอดีตอันปวดร้าว

...วนัส ลาก่อนหิ่งห้อย
ลาก่อน อังศุมาลิน
..ลาก่อน

วนัสปล่อยมือเล็กที่กุมไว้อย่างอาวรณ์ ใจหายเมื่อต้องจากแล้วจริงๆ อังศุมาลินใจหายไม่แพ้กัน แต่เธอมีเส้นทางชีวิตที่เลือกแล้วด้วยหัวใจ จึงทำได้เพียงเอ่ยคำสุดท้าย..ต่อกัน

...ลาก่อน



สัญญาที่คืนให้เจ้าของไปแล้ว ปลดปล่อยอังศุมาลินสู่อิสระที่จะทำตามหัวใจตัวเอง ความรักที่เกิดขึ้นมาแสนนานไม่ต้องปิดบังไว้ด้วยพันธะใดๆ อีก โลกที่เคยหม่นเศร้ากลับดูกระจ่างใสเหมือนกับภายในหัวใจ

...คืนนี้ฟ้าดูเปลี่ยนไป โลกดูสดใสไม่เหมือนเก่า ทางช้างเผือกกับแสงดาวสุกสกาว ส่องแสงแพรวพราวดังมีความหมาย เจ้าหญิงกับคนเลี้ยงวัวจะพบกัน คืนนี้ที่ความฝันจะเฉิดฉาย

และท้องฟ้ากว้างนี่เองคนรักที่พลัดพรากได้มาพบกันอย่างมีความสุข คงเหมือนที่เธอกำลังจะไปพบกับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนไม่คิดหวั่นเลย ขอให้เธอได้ทำเพื่อเขาบ้างนับจากนี้

อังศุมาลินอยากรีบไปบอกกับคนแสนดีคนนั้นว่าหัวใจดวงนี้ แท้จริงไม่เคยรักใครนอกจากผู้ที่เอ่ยสัญญาเสมอว่า....ฮิเดโกะผมรักคุณ

ด้วยความหวังจะได้เห็นรอยยินดีจากใครคนนั้น รอยยิ้มสุดท้ายของอังศุมาลินจึงเจิดจ้าไม่แพ้แสงดาวระยับบนฟ้า สวยงามจนกลบเลือนแสงหม่นหมองของดาว..บางดวง

...โกโบริ คุณอยู่ที่ไหน คืนนี้ฉันจะไป...บอกว่ารักคุณ


( กว่าจะอัพเสร็จนอกจากคิดไม่ออก ยังต้องต่อสู้กับเครื่องคอมฯ มือถืออันไม่คุ้นมืออีก แต่ยังไงก็กลั่นออกมาจนได้ ฉากลาจากของวนัสกับอังศุมาลิน คืนกันไปเสียทีสัญญาฉบับนั้น
ชอบเพลงตอนนี้มากหากรักใครสักคนอย่างแท้จริง ย่อมไม่หวั่นสิ่งใดอีก อังศุมาลินมีความสุขมากมาย แบบโล่งใจ วนัสผิดหวังตัดใจกันไป ลูกผู้ชายต้องทนได้ทำเพื่อรักเช่นกัน แต่คนที่เจ็บปวดที่สุดคือพ่อดอกมะลิของเราเช่นเคย เห็นแต่ภาพไม่ได้ยินเค้าคุยอะไรกันไม่งั้นมี..เฮ - คิดไปได้

พอเหมาะพอดีกันนัก เฮ้อ..จะโทษใครดี ทำเอาสงสารอังศุมาลิน ไปด้วย จะได้บอกรักทันไม๊หนอ เก็บไว้ในใจเสียตั้งนาน คำตอบก็รู้กันทุกคน เจ็บในใจรอไว้เลย )

****************************



…ฟ้าครืนคำรามฟังวังเวง ฟังเสียงบทเพลงแห่งความตาย บรรเลงกระหึ่มไปทั้งฟ้า กรีดเสียงแห่งอสุรกาย

ภาพเหล่าทหารญี่ปุ่นในอู่กำลังตั้งรับการโจมตีที่รุนแรงกว่าทุกครั้ง แววตาทุกคนเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ความตายคืบคลานเข้ามาใกล้จนใจหาย

...สงคราม สงคราม สงคราม สูบกินเลือดเนื้อสิ้นสลาย
...สงคราม สงคราม คำรามเสียงเพลงแห่ง..ความตาย

ในสงครามไม่มีใครรู้ว่าชีวิตจะยืนยาวแค่ไหน ใครบ้างถูกเลือกให้จากไป แต่ทุกคนก็ยังหวังว่าจะรอดพ้นจากความตายที่สงครามนำมายื่นให้อย่างโหดเหี้ยม มีเพียงบางคนที่ไม่มีความหวังใดเหลืออีกแล้ว

...ฟังเสียงบทเพลงแห่งความตาย กำลังเรียกร้องให้ไปหา หัวใจสั่นไหว อยู่ลึกภายใน จำเป็นต้องไปถึงเวลา

โกโบริวิ่งมาอย่างคนที่พร้อมจะเผชิญกับอันตราย ภาพของวนัสและอังศุมาลินทำให้หัวใจแหลกจนสลายไปกับสายน้ำ ผลักดันให้เขากล้าอย่างบ้าบิ่นมาเผชิญกับความตายที่รออยู่ สายตาปวดร้าวสิ้นหวัง ทำให้เพื่อนรักอดห่วงใยไม่ได้ ทางที่โกโบริจะไปก็น่ากลัวยิ่งนัก

...โกโบริ คุณจะไปไหน อย่าพูดอะไร จะไปไหน มันอันตราย โกโบริ
ผมจะต้องไป
...อย่าไป

หมอตระหนักดีว่าสัญชาตญาณมนุษย์ย่อมสั่งให้รู้จักเอาตัวรอด เพื่อรอวันสิ้นสุดสงครามคงได้กลับบ้านที่จากมา แต่เพื่อนของเขากลับวิ่งเข้าไปหาภัยที่รออยู่ ราวกับไม่ต้องการกลับมาอีกแล้ว

ผมจะต้องไป
...อย่าไป

โกโบริบอกความตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยว ไม่มีใครในโลกหยุดเขาได้อีกแล้ว ไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีคนรักเฝ้ารอคอย ความพ่ายแพ้ที่ตอกย้ำอยู่ในใจพร่ำบอกว่าเขาไม่ได้มีความหมายต่อเธอสักนิดเลย ทั้งที่เธอมีความหมายที่สุดในชีวิตของเขา จากนี้การอยู่หรือหรือตายของทหารผู้รุกรานจึงไม่ต่างกันสักนิด แค่ศัตรูจากไปเพียงคนหนึ่ง..เท่านั้น

...ไม่มีที่ไหน ให้ผมยืนอยู่ได้ ไม่ว่าอยู่หรือตายไม่มีความหมาย

เสียงสัญญาณเตือนภัยหวีดก้อง แสงไฟลุกโชนจากฝั่งบางกอกน้อย เสียงระเบิด เสียงร้องระงม เหมือนเสียงเรียกเร่งให้คนพ่ายแพ้อย่างโกโบริวิ่งเข้าไปหา เสียงนั้นดังก้องอยู่ในสมองจนเจ้าตัวต้องปิดหูอย่างทรมาน การต่อสู้กับใจตัวเองยากเย็นกว่าสิ่งใด

...สงคราม สงคราม สงคราม ความตาย
ครางครืนคำราม ฟังวังเวง (โกโบริ) ฟังเสียงบทเพลงแห่งความตาย (โกโบริ)
บรรเลงกระหึ่มเป็นทำนอง ร่ำร้องเรียกเราให้รีบไป (โกโบริ)

หมอพยายามห้าม เพราะจุดหมายที่โกโบริมุ่งหน้าจะไปคือสถานีรถไฟบางกอกน้อย จุดยุทธศาสตร์ที่อันตรายที่สุดตอนนี้

...โกโบริ อย่าไป

แต่ในสมองและในหัวใจของโกโบริ ไม่ได้ยินเสียงห้ามอีกแล้ว

..โกโบริ รีบมา

โกโบริวิ่งไปโดยสนใจความห่วงใยของใครอีก เสียงระเบิดดังกึกก้อง หมอวิ่งตามไปด้วยความห่วงใยเพื่อนและทำหน้าที่ของผู้ช่วยชีวิต

อังศุมาลินรีบเร่งมาด้วยความห่วงใยสามี เรื่องราวมากมายที่ต้องการจะบอกไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของเขา เธอพยายามมองหาจากผู้คนที่กำลังโกลาหล เมื่อไม่เห็นจึงต้องถามจากทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของโกโบริ

...โกโบริ นายช่างโกโบริ อยู่ที่ไหน
ฮิเดโกะซัง นายช่างเพิ่งจะไป

ชื่อที่พวกเขาเรียกเธอ เป็นชื่อที่โกโบริตั้งให้อย่างมีความหมาย ..เธอคืออาทิตย์ส่องใจ อังศุมาลินยิ่งสะท้านในใจ

...ไปที่ไหน ใครก็ได้ช่วยบอกที
ไปบางกอกน้อย

อังศุมาลินทวนจุดหมายของโกโบริอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เขาไปทำไมในสถานที่อันตรายเหลือเกินในเวลานี้ ภาระกิจใดสำคัญกว่าความปลอดภัยของชีวิตตัวเอง หรือไม่รู้ว่าเธอ..รอคอย

...บางกอกน้อย

เสียงระเบิดดังขึ้นอีก แสงไฟลุกโชนมาจากบางกอกน้อย

...โกโบริ ไม่

คนที่แสนห่วงใยอยู่ที่ฝั่งโน้นจริงหรือ อังศุมาลินสะท้านในอกเมื่อมองไปตามแสงไฟจ้าเต็มฟ้า บางทีเขาอาจจะไม่ได้ไปอย่างที่ทหารคนนั้นบอก

เขาต่างหากคือตะวันส่องแสงในใจเธอ ขอตะวันดวงนี้..อย่าลาลับ

อังศุมาลินรีบวิ่งไปอย่างร้อนรน ไม่นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองและลูกมากไปกว่า ต้องการจะเห็นกับตาว่าโกโบริยังคงปลอดภัย

ไปรับพ่อของลูก..กลับบ้านเรา


( เสียงเพลงแห่งความตายดังขึ้นแล้ว การสูญเสียรอคอยตรงหน้า โกโบริผู้น่าสงสารของเราได้ยินแต่เสียงเรียกเข้าไปหาความตาย เอามืออุดหูก็แล้ว ไม่มีใครช่วยเหลือได้เพราะใจตัวเองแท้ๆ เฮ้อ..เศร้าจริงๆ สงสารอังศุมาลินที่ดูเหมือนจะมาช้าไปแค่นิดเดียวเอง ซึ้งใจคุณหมอในฉากนี้ด้วยช่างรักเพื่อน แต่ฉากต่อไปจะเคืองคุณหมอแล้ว )




Create Date : 15 กันยายน 2550
Last Update : 11 มกราคม 2551 23:55:53 น. 75 comments
Counter : 1594 Pageviews.

 
ตามกลิ่นเขม่าปืนมาค่ะ...

ฉากนี้ชาวบ้านชอบมากเพราะคุณพี่ที่เป็นนายช่างเล่นดีสุดๆ

ดูทีไรแอบปาดน้ำตาตามทุกที เศร้าที่ต้องเห็นเค้าตายทั้งที่ไม่มีโอกาสร่ำลาครอบครัว

พ่อโกโบริก็เล่นดี...สมาธิแน่วแน่มากทุกครั้งก่อนเล่นฉากนี้ยิ่งตอนหันไปเจอหน้าหมอที่หันมามองเค้า แค่แวบเดียว ก่อนที่จะเดินตามศพของนายช่างออกไป โอย! ร้าวหัวใจสิ้นดี...คนมันทำผิด ย่อมรู้ตัวดีที่สุด (โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจอ่อนโยนเนี่ยะ) ไม่ต้องให้ใครมาบอกก็เสียใจแทบเป็นบ้าแล้ว...น่าสงสารมากค่ะ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:10:38:30 น.  

 
เห็นด้วยมากๆ ค่ะคุณชาวบ้านฯ

นายช่างทำเราสะอึกเลย แสดงดีจริงๆ ชื่อคุณวิทวัส ใช่ไม๊คะ เก่งจังเสียงเพราะด้วย ตอนแก รำพึงถึงภาพวันแต่งงาน ภาพลูกน้อยเพิ่งหัดคลาน สงสารจับใจ ทำไมเศร้ากันได้ขนาดนี้
แล้วพ่อคนรับฝากก็ร้องไห้ซะ จนน้ำมูกจะไหล (หรือว่าเป็นหวัด 555) ขนาดหันหลังให้คนดูยังสะอึกสะอื้นเลย ยังแอบคิดว่าถ้าอังศุมาลินไม่มา คนดูคงพากันร้องห้ามโกโบริแน่เลย ทนดูไม่ได้


โดย: วาดดาว วันที่: 17 กันยายน 2550 เวลา:11:18:45 น.  

 
backgroundนี้สวยดีจัง เย็นๆสบายตา มีทั้งซากุระ ทั้ง milky way ตอนเป็นซากุระขยับไปขยับมา กล้วยตาลายไปพักใหญ่ๆ สงสัยแก่แล้วแฮะ


โดย: กล้วยไม้หลายสี IP: 202.28.62.245 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:5:36:44 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะคุณกล้วยไม้ฯ
วาดดาวพยายามหา background ที่สบายตาหน่อยค่ะ เพราะแก่แล้วเหมือนกัน ลองเปลี่ยนมาหลายอันถึงกับปวดหัวกันเลย
ดีใจจังที่เหมือนทางช้างเผือก แม้ตอนจะไม่ใช่ดอกซากุระแต่ก็สวยแบบไทยๆ ให้นึกถึงชีวิตชาวบางกอกน้อย คิดถึง บ้านอังศุมาลิน ขึ้นมาจางๆ ชีวิตแบบนั้นคงสงบดีจัง


โดย: วาดดาว วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:9:19:09 น.  

 
แวะมาชมแวะมาเชียร์ bg ลายน้ำลอยดอกลีลาวดี โอ๊ย โดนๆ แจ่มมั่กๆ ค่า (ไม่ได้เกี่ยวกะโกโบริสักนิดเลยเนาะ อิอิ)


โดย: บ้าน จ.จาน IP: 202.183.201.101 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:28:09 น.  

 
ขอบคุณที่แวะมาลอยน้ำ เอ๊ย! แวะมาชมจ้าพี่จูน นี่ถ้าได้ดอกมะลิลอยน้ำก็จะเกี่ยวกับโกโบริแล้วหละ เดี๋ยวถ่ายเองเลย แต่กัวไม่สวยเท่านี้ อาจประหลาดได้ 55


โดย: วาดดาว วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:10:39:29 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณวาดดาว บอร์ดใหม่สวยจังเลยนะคะ หวานๆ สดใสดีค่ะ ชอบ ชอบ
คู่กรรมฉากนี้ดูแล้วร้องไห้เลยค่ะ กระชากอารมณ์สุดๆ จำได้ว่ามีไอหมอกมัวๆ บรยกาศสลัวๆตอนนายช่างจะตาย คุณวิทวัส ทีทา เล่นได้ดีมากค่ะ ฉากนั้น จากในนวนิยายพระเอกพูดถึงแค่ไม่กี่คำ แต่พอภาพมาปรากฏตรงหน้า น้ำตาร่วงเลย ยิ่งตอนทหารมาหามศพนายช่างออกไปแล้วเซกิมองตาม ...... สงสารทั้งนายช่างทั้งโกโบริเลย
ความกดดันมันคงถึงขีดสุดแล้วสำหรับตอนนั้น รู้อยู่เต็มอกว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ คำกล่าวโทษใดจะเชือดตัวเองได้เท่ามโนสำนึก(บรรยายไม่เก่งนักหรอก ชอบที่คุณวาดดาวพูดมากกว่า อีกคนนึงคือพี่จ๋อม คนนั้นบอกเล่าผ่านความรู้สึกเก่งมาก) ฉากนั้นเซกิฟุบลงกับพื้น ร้องไห้แบบสะอื้นเลยจากทหารผู้เข้มแข็งแต่อ่อนโยนกับคนรัก กลายเป็นเหมือนเด็กอ่อนแอไปเลย ซาโดะฯนั่งแถวหลังสุดยังได้ยินเลย ใจหายเลยตอนนั้น น่าสงสารมาก(ส่วนคนที่นั่งดูข้างๆนี่ปล่อยโฮเลยค่ะ)
ก่อนที่กำลังใจจากคนรักจะเข้ามาปลอบประโลมเขา มองว่าฉากนี้อบอุ่นในหัวใจมากเลย มีปาดน้ำตาให้กันด้วย น่ารักเชียว เสียงพี่น้ำมนต์หวานจับใจ เพลงก็หวาน ยิ้มทั้งน้ำตาเลยค่ะ


โดย: ซาโดะฯ IP: 203.146.50.133 วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:18:35:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณซาโดะฯ ยินดีต้องรับสู่พื้นน้ำประกายสีฟ้าและดอกลีลาวดี ค่ะ
เมื่อดูฉากนี้ทำให้วาดดาวคิดได้ว่า ละครเวทีดีจริงๆ ต้องสามารถทำให้เราหลั่งน้ำตาให้กับตัวละครอื่นๆ ซึ่งในฉากนั้นๆ เขามีความสำคัญไม่แพ้พระเอกนางเอกเลย
การจากไปของนายช่างคนนั้นไม่ต่างจากโกโบริต้องตายจากอังศุมาลิน แย่กว่าเสียด้วยที่เขาไม่ได้บอกลาคนรักเลย


และการที่เราได้เห็นภาคที่อ่อนแอของโกโบริ อย่างที่คุณชาวบ้านฯ พูดไว้ "คนมันทำผิด ย่อมรู้ตัวดีที่สุด (โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจอ่อนโยนเนี่ยะ)" สงสารจับใจจริงๆ ค่ะ บทเค้าทำมาดีจริงๆ (อีตาเซกิแกก็เล่นดีซะจนคิดว่าโกโบริจะตาบวมได้นะเนี่ยถ้าร้องอย่างนี้ทุกรอบ แต่แกก็ร้องเหมือนกันทุกรอบ 55 ตาไม่บวม หล่อคงเส้นคงวา)
แต่ก็จบลงด้วยความรักและเข้าใจกันที่สุด พอนึกถึงคู่กรรมฉบับนี้ทีไรต้องย้อนไปถึงเพลงนี้ทุ๊กที
พูดแล้วก็อยากดูอีกค่ะคุณซาโดะฯ ต้องร้องบอกคุณชาวบ้านฯ แกไปเรื่อยๆ เผื่อจะใจอ่อนสักวัน



โดย: วาดดาว วันที่: 19 กันยายน 2550 เวลา:19:27:54 น.  

 
ฮั้นแน!

ร้องไห้กันมากมายจริงๆด้วยกับฉากโปรดของเราชาวคู่กรรม...

ขนาดตอนซ้อมไม่มีฉากไม่มี costume มีแต่ห้องซ้อมโล่งๆกับนักแสดง มีผู้ชมเป็นพวกเรานั่งดูกันเอง(ทั้งที่รู้จักกันดี เล่นหัวกันทุกวัน)ยังร้องไห้เลยค่ะ เราเชื่อว่าพวกเค้าเหล่านั้นคือคนในเหตุการณ์จริงๆ เรื่องนี้..ยกความดีให้ผู้กำกับ ผู้เขียนบท และนักแสดงฉากนี้เต็มๆ

เซกิเล่นดีมากค่ะฉากนี้ แกมองนายช่างด้วยความตกใจ สะเทือนใจ และเสียใจตลอดเวลา...

ส่วนพี่นายช่าง...เค้าเรียกว่าเล่นไว้ลายค่ะ...ขนาดบางรอบมือไปโดน effect ที่ติดอยู่ที่ตัว ร้อนสุดๆ..มือแทบพองยังฮึดเล่นจนจบ...แต่คุณๆคงจำแกไม่ได้ในบางฉากที่แกแฝงตัวเล่นเป็นเชลยด้วย..อิอิ...


ส่วนฉากคู่ขนาน "อีกสามวันข้างหน้า" เก๋มากกกกก...เท่ห์สุดๆ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:9:32:32 น.  

 
เห็นชื่อคุณชาวบ้านฯ แล้วอุ่นใจ เรายังอยู่เป็นแรงใจซึ่งกันและกันเสมอ
เรื่องฉากคู่ขนานเนี่ย เป็นอะไรที่วาดดาวคิดว่าสร้างสรรสุดๆ (ไม่รู้หรอกว่าเคยมีที่ไหนแต่ดูที่นี่เรื่องแรกชอบมากๆ) เล่า 2 เหตุการณ์ด้วยเพลงเดียวกัน กลมกลืนจนไม่รู้สึกว่ากำลังดูเหตุการณ์คนละแห่ง เก่งจริงๆ ยกความดีให้หมดทีมเลย
แต่แอบลุ้นเสียงคุณชลิต ตอนจบทุกทีเลย "ภาระกิจของเราเสร็จสิ้นสมบูรณ์"

เพิ่งรู้ว่าพี่นายช่าง แอบไปเป็นเชลยกะเค้าด้วย ทำไมได้สังเกตนะ ปกติจะจับได้ว่าใครเคยเล่นฉากไหนบ้าง แสดงว่าแกเนียนมาก เรื่องต่อไปจะจับตาดูพี่แกอีก

ไปแวะบอร์ดดรีมบ็อกซ์ เป็นระยะๆ กำลังลุ้นกับเรื่องใหม่ อะไรก็ได้ค่ะ อยากดูหมด ตลก เศร้า เพลง ไม่เพลง มาเถอะช่วยโปรโมตกันเต็มที่เลย

แต่ยังคิดถึงคู่กรรมเหมือนเดิม อิอิ บอกไว้เรื่อยๆ เผื่อใจอ่อนซักวันน่า


โดย: วาดดาว วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:10:26:26 น.  

 
จะคอยสืบข่าว เรื่องละครของdreamboxให้นะคะ...ม่แน่ใจว่าจะเอาเรื่องไหนมาเล่นก่อนเหมือนกัน

อาจไม่เอา production ใหญ่ขึ้นมาเร็วนักเพราะตังค์ไม่ค่อยมี...(จนแท้น้อ!)

แต่ dreambox มีเรื่องดีๆอยู่เพียบ อันนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ สนุกทุกเรื่อง


ส่วนใจอ่อนเรื่อง return หรือไม่ต้องถามผู้ใหญ่ค่ะ...เป็นชาวบ้านฯเลยไม่มีอำนาจตัดสินใจ

ที่แน่ๆ รอดู ยามาดะ ของเซกิก่อนนะคะ...เพราะคิวค่อนข้างแน่นอนแล้ว คงแทรกยาก


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:11:43:31 น.  

 
ละครเรื่องใหม่ของดรีมบอกซ์


ทึนทึกภาค2 ค่ะ

แวะมาบอก


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:16:48:41 น.  

 
ว้าว! การข่าวของเสรีไทยนี่รวดเร็วดีจริง ขอบคุณค่ะ

ตกลงเป็นเรื่องทึนทึก โอ้..ช่างเข้ากะวาดดาว เสียจริงๆ คงจะรู้สึกร่วมแยะเลย อิอิ
อยากดูเร็วๆ เสียแล้ว คงจะฮากระจาย นึกถึงตัวเองไปด้วย เพราะทึนทึกอยู่เนี่ย

มีใครแสดงบ้าง อย่าลืม ค่อยๆ สืบข่าวมาเล่าบ้างนะคะ แต่อย่าให้ฝ่ายญี่ปุ่นรู้ล่ะ เดี๋ยวโดนไฟส่องหน้า

เรื่องยามาดะของป๋าเซกิ ก็ไม่รู้เมื่อไรจะได้ดูซะที ถ่ายไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้นะคะ เห็นบอกกันมาว่าซ้อมๆๆๆๆๆ

ถ้ายามาดะผ่านไป ขอโกโบริ ผ่านมาบ้างนะนะ สาธุ


โดย: วาดดาว วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:17:22:17 น.  

 
ชอบรูป 3 แม่ครัวนี้จังค่ะ อบอุ่นดี


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:18:36 น.  

 
คุณชาวบ้านฯ เรียกซะหิวปลากระป๋องเลย

แต่อบอุ่นสุขสงบจริงๆ ฟังเพลงนี้ทีไรนอนหลับฝันดี


โดย: วาดดาว วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:18:34:31 น.  

 
อุ๊กกส์ ไพล่ไปคิดถึงอีกเรื่องนึงจนได้ซิเรา..สะๆ..สามแม่ครัว..เฮือก!
ว่าจะเข้ามารอบนี้เพื่อซึ้งโดยตรง งดฮา งดมุก เนื่องในโอกาสที่ป๋าไม่อยู่ (เกี่ยวมั๊ย!)ฉากนี้เศร้ากันระงม น่าสงสารคนในสงคราม คุณพี่นายช่างน่าสงสารจับใจ ส่วนคุณป๋าก็เล่นได้ดีแทบจะวิ่งขึ้นเวทีไปโอ๋ บีบคั้นอารมณ์จริงๆ ทีแรกแยกไม่ออกว่าคุณป๋าฟูมฟายจริงหรือเป็นหวัด(ขอโทดนะกั๊บ)แต่งจากที่ทุกคนยืนยันคุณป๋าคงร้องจริง ฟูมฟายขนาดนี้ คุณป๋ามีวิธีเรียกน้ำตายังไงน๊า เคยได้ยินว่าต้องนึกถึงเรื่องเศร้าๆแล้วป๋าเค้าจะนึกถึงอะไร (ไปอยากรู้เค้าอีกแหนะ)
แต่ที่ชอบที่สุดคือ ช่วงหนุงหนิง สนับสนุนโดย ป๋าเซฯแลคุณน้ำมนตร์ น่ารักมากๆๆหลังปาดน้ำตา อดคิดไม่ได้ว่าเวลาที่เซกิกอดคุณน้ำมนตร์นั้น ดูอบอุ่นแข็งแรง พร้อมจะปกป้องเธอไว้ด้วยชีวิตจริงๆ แถมช่วงชื่นใจร้องเพลงกันนั้นก็ดูมีความสุขกันจริงๆ อร๋ายๆๆๆ

โอ่วววว ชอบมากๆๆๆอีกแล้ว ในที่สุดคุณพี่ก็ปล่อยตอนนี้ออกมาให้ได้ซึ้ง(หลังฉากตะปบ) ว่าแล้วก็หยิบเสื่อผืนเดิมมาปูรอต่อ แต่คราวนี้หยิบหมอน+แก้วโค้ก+เลย์ถุงใหญ่มาด้วย ว่าจะมาปักหลักที่นี่ซะเลย เพราะนับวันจะยิ่งถอนตัวจากบล๊อกและเจ้าของบล๊อกม่ายยขึ้น กรุบๆ(เสียงเคี้ยวขนม)

ว๊าวว พลอยได้อานิสงส์ข่าวสารจากคุณชาวบ้านฯไปด้วย ยังไงถ้าดรีมบ๊อกซ์มีละครเวทีออกมาก็ต้องไปดูแน่ๆ เผื่อเค้ามีแข่งแฟนพันธุ์แท้ดรีมบ๊อกซ์แล้วได้รางวัลเป็นดูคู่กรรมฯ restage ฟรีสามสิบรอบ+เที่ยวรอบโลกกับเซกิตลอดชีวิตน่ะค่ะ

คิดถึงคุณพี่เหมียนเดิมมมมมม ว่าแต่ถ้าหมีน้อยปริ้นท์ภาพต้นเหตุออกมาแล้วเอาไปแบล็คเมลล์ป๋า คราวหลังป๋าคงเก็บไปใช้เป็นเทคนิคเรียกน้ำตาในฉากนี้ได้นะคะ ทำนองว่า อนาถหนอชีวิตตู ดูแล้วปลงไรงี้อ่ะค่ะ

จุฟๆ


โดย: หนูแสง สอบเสร็จ IP: 124.121.214.42 วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:19:54:09 น.  

 
ดีใจจังที่นู๋แสง รอดชีวิตจากการสอบมาได้

ถึงกับต้องแบกเสื่อกันมาเลยหรือ ยังไงก็เอาเลย์มาเผื่อพี่ด้วยละกัน รสอาไรก็ได้ชอบหมด
นึกว่าฮาๆ อย่างนู๋จะไม่รู้สึกเศร้ากะใคร นายช่างตายก็นั่งขำซะอีก แสดงว่ามีความอ่อนโยนซุกซ่อนอยู่ เช่นเดียวกับอังศุมาลิน นางเอกชัดๆ (ไม่ชัดได้ไง 55)
ถ้านู๋วิ่งขึ้นเวทีไปโอ๋ป๋า ต้องวิ่งอ้อมพอสมควร เพราะจะติดคอกนักดนตรีก่อน จะเหนื่อยและอายได้ ปล่อยแกร้องไห้ไปเหอะ คนหล่อร้องไห้ฟูมฟาย น้ำมูกไหลย้อย ก็หล่อ
แอบอิจฉาคุณน้ำมนต์เหมือนกันทุกคนกับฉากโอบประคองเนี่ย ถึงจะรู้ว่าคุณน้ำมนต์มีโกโบริตัวจริง หล่อไม่แพ้กันก็เหอะ

เรื่องแข่งแฟนพันธ์แท้ดรีมบ็อกซ์นี่ไอเดียดีเลย แต่พี่หวายคงความจำดีสู้เด็กๆ ไม่ได้ของที่ 2 และกัน
ที่ 1 ได้ดูคู่กรรมฟรีตลอดชีวิต
ที่ 2 ดูแลโกโบริตลอดชีวิต
ส่วนเรื่องสามแม่ครัวกรุณาเจาะจงในภาพนี้นะ อย่างเอาcode อื่นมาข้องแวะ เดี๋ยวอารมณ์เปลี่ยนจ้า

เห็นด้วยกับเทคนิคหลั่งน้ำตาโดยใช้ภาพนั้น แค่คิดป๋าก็น้ำตาร่วงแผละ
"โลกนี้ช่างแสนเศร้า ดั่งนิทานที่ปวดร้าวดวงใจ"

กำลังคิดถึงน้องหมีน้อยเลย แล้วเจอกันเมาท์กระจาย (เรื่องดีๆ ของป๋าทั้งนั้น) นะจ๊ะ

ร๊ากจ้าน้องแสงของพี่สุดหล่อ


โดย: วาดดาว วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:20:39:48 น.  

 
สวัสดีตอนเช้านะคะคุณวาดดาว อยากบอกว่าแอบมาอ่านนานแล้ว ตั้งแต่ seigi ozeki โกโบริตัวจริง และเลือกที่จะเฝ้าดูอยู่อย่างเงียบๆแบบชื่นชมจนมาถึงวันนี้ ขอนุญาตตะบะแตกเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ด้วยคน ชอบที่คุณเขียนมากๆ ภาพความทรงจำที่ไปดูมากลับมาหมดเลย ชัดเจนมาก เรียกว่าหากคู่กรรมฉบับนวนิยายคือป้าอี๊ด ทมยันตี คุณก็เป็นต้นฉบับคู่กรรมฉบับละครเวทีเลย เขียนเก่งมาก ใจจริงอยากเล่าตั้งแต่ฉากแรกๆที่ดู แต่รู้สึกถึงความไม่เหมาะไม่ควร ว่าเรื่องเดินมาถึงตอนนี้แล้ว จะย้อนหลังก็กระไรอยู่ .........
ที่เข้ามาวันนี้ต้นเหตุคืออดรนทนไม่ไหว ชอบฉากนี้มากที่สุดในเรื่อง ฉากการตายของนายช่างวิทวัส(เหมารวมเป็นคนเดียวกันเลยละกัน เค้าเล่นดีจริงๆ) ฉากนั้นเป็นฉากแรกของเรื่องเลยที่ร้องไห้รับส่งอารมณ์กันได้ดีมากเลย และร้องหนักขึ้นเมื่อตอนเซกิจ้องจะฆ่าตัวตายเพราะละอายใจต่อการกระทำที่ผ่านมาของตน ตกใจเล็กๆว่าผู้ชายอะไรจะร้องไห้ปนสะอื้นได้น่าสงสารปานนั้น แต่ตัวเองคอตีบตัน ใจหายวูบ น้ำตาร่วงแบบไม่รู้ตัว(มีเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันจากการดูคู่กรรมคนนึงเล่าให้ฟังว่าร้องไห้ตั้งแต่ตอนเซกิร้องเพลงเสียงดนตรีโน่น แต่ภาษาญี่ปุ่นตัวเองรู้แค่ไม่กี่คำ เลยแปลไม่ออกเท่าไหร่ ไม่งั้นคงปล่อยโฮ ....เพื่อนคนนี้น่ารักมาก ช่างพูดช่างคุย สดใสร่าเริง น่ารักดีค่ะ เค้าชวนสมัครในเวปเซกิอยู่ป้อยๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังได้เตาะแตะไปแจมกะเค้า)
ก่อนที่ความหวานระหว่างพระนางจะทำให้ยิ้มทั้งน้ำตาพอๆกับน้องจากเวปนึงที่โพสต์ไว้ข้างบน(น้องซา-ซะ) เคยเข้าไปอ่านของเค้าเป็นระยะเหมือนกัน ทางเค้าก็ตามเรื่องนี้กันชนิดเกาะติดขอบเวที ฉากนี้ในความคิดคือให้ความรู้สึกแบบรวมมิตรนะ --- สัญญา ที่หลุดจากปากนางเอกอย่างจริงใจ ---สงคราม ที่ให้แต่การพลัดพรากและการสูญเสีย ---ความรัก ที่พระนางเปิดใจให้กันอย่างแท้จริง ---และความตายที่ไม่มีใครในสงครามหนีพ้น ประเด็นทั้งสี่มันร้อยเรียงเกี่ยวข้องกันและกระหวัดหัวใจคนดูได้อยู่หมัดจริงๆ
ฉากความผูกพันระหว่างคุณยาย คุณอร และอังศุมาลินที่นั่งเย็บเสื้อผ้ารอการมาสวมใส่ของลูกชายโกโบริก็ชอบนะ อบอุ่นและอิ่มเอมในความรู้สึกมากเลย( บรรยายไม่สู้จะเก่งนัก แต่ให้ใจเต็มร้อย) ยิ้มมมมมมมอย่างเดียวเลยฉากนั้น
ส่วนฉากที่วนัสถูกจับกับเพลงอีก 3 วันข้างหน้า ตอนนี้กำลังแกะเพลงอยู่ แต่เพลงนี้ไม่มีในซีดี จำทำนองพอได้ แต่เนื้อเพลงจำไม่ได้ แต่ฉากนี้ชอบมากเลยนะ(จะมีฉากไหนที่ไม่ชอบบ้างเนี่ย เปิดบัญชีดำของตัวเองเพื่อจับผิด พบว่าไม่มีเลยซักฉากนะ ที่ดูแล้วไม่ชอบ ชอบจนอยากดูอีกหลายๆรอบด้วยซ้ำไป) คมดี ขอชมทีมงานเค้าเลยว่าฉลาดมากกับบรรดาฉากคู่ขนานทั้งหลาย ลูกเล่นขนานแท้ของการทำละครเวทีเลยนะ
เดี๋ยวจะคอยติดตามฉากเท่ห์ๆประจำเรื่อง ฉากการเผชิญหน้าระหว่างวนัสกับโกโบริ ที่จ้องจะไปดูคู่กรรมหนนี้ให้ได้ก็เพราะได้เห็นคลิปฉากนี้แหละ จะคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะคุณวาดดาว.....


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:8:48:39 น.  

 
สวัสดค่ะคุณธิป
ดีใจมาก ที่ได้พูดคุยกับคนที่รักละครเพลงคู่กรรม เหมือนๆ กัน ยินดีมากค่ะที่เราจะร่วมรำลึกถึงความรู้สีกดีๆ ไปพร้อมกัน ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าละครเรื่องนึงทำให้เราคิดถึงอะไรต่อมิอะไรได้มากมายทั้ง สุข เศร้า ละครหลายเรื่องเราจดจำได้เฉพาะบทพระเอกนางเอก แต่ละครเพลงคู่กรรมภาพในใจรวมเอาทุกคนๆ ทุกฉากไว้

หลายฉากวาดดาวไม่สามารถถ่ายทอดได้งดงามเท่าภาพที่เราๆ ได้ชมกัน คุณธิปมีภาพเหล่านั้นในใจแล้ว จึงชัดเจนยิ่งขึ้น

ทีมงานคู่กรรมคงภูมิใจมากที่เดียว (ฝากคุณชาวบ้านฯ) ที่ใครๆ ก็รักคู่กรรม ซึ่งกว่าจะผ่านมาเป็นอย่างที่เราเห็นคงเหน็ดเหนื่อยกันอย่างสาหัส
นับวันเราก็จะค้นพบคนชื่นชมมากขึ้นทุกที

ขอบคุณนะคะคุณธิป มาคุยกันอีกนะคะ


โดย: วาดดาว วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:9:25:02 น.  

 
อุ๊ย! มีแควนๆมาแวะคุยกะคุณวาดดาวเรื่อยๆเลย...น่าชื่นใจจัง...ตุ้งโอ่งน้ำหน้าชานเรือนไว้รับแขกก้อดีนะคะ ๕๕๕


ก่อนจะยาวไปถึงฉากอื่นจนลืม...ขอแทรกอรรถาธิบายเรื่องความขี้แยของนายช่างใหญ่โกโบรินิดนึงค่ะ.....

หลายคนสงสัยว่าแกคิดถึงอะไร ทำไมร้องไห้ได้น้ำตาเป็นเผาเต่าขนาดนั้น....

*มันไม่ยากและไม่ง่ายค่ะ!*
เอาที่ไม่ง่ายก่อนนะคะ....สิ่งที่เซกิต้องทำ...คือ..เข้าใจความหมายของบท....เชื่อในสถานการณ์และสิ่งที่ประสบอยู่ตรงหน้า เชื่อว่าตัวเองคือโกโบริ เชื่อว่านายช่างคือเพื่อนร่วมงานที่สนิทสนมกัน เชื่อว่าเค้ารู้จักครอบครัวของนายช่าง เชื่อว่าตัวเองกระทำความผิดร้ายกาจจนไม่อาจอภัยได้...สิ่งสำคัญคือความเชื่อค่ะ...ซึ่งเซกิทำได้...และแสดงออกได้ถึงความเชื่อนั้นได้อย่างงดงาม...ผู้กำกับทำงานหนักค่ะ

ที่ไม่ยากคือเค้ามีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องศักดิ์ศรีชาติพันธุ์ของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว เค้าเข้าใจสถานการณ์ของเรื่องดี...บวกกับเพลงที่หม่นเศร้า melancholy ซะขนาดนั้น ประกอบกับภาพตรงหน้า...(เซกิ standby ข้างเวที ได้เห็นเหตุการณ์ตลอด และสามารถเก็บเกี่ยวอารมณ์ตรงนั้นมาใช้ได้) ชวนให้แม้แต่เราเองที่ไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้เป็นญี่ปุ่น ยังอดสะเทือนใจไม่ได้...และที่สำคัญยิ่งขึ้นไปอีก คือ partenr บนเวทีทุกคนค่ะ นักแสดงตรงนั้นเล่นรับส่งกันดีเหลือเกิน...เล่น"ให้"เซกิเต็มที่ เซกิจึง"รับ"ความรู้สึก ณ เวลานั้นได้เต็มที่เช่นกัน.....เพราะการแสดงแบบ realistic ต้องอยู่กับความจริงค่ะ


ว่าจะสั้นๆ ล่อซะยาว

ไปล่ะ...


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:9:52:54 น.  

 
สวัสดีค่า คุณชาวบ้านฯ ที่น่ารักเสมอ

เรื่องไม่ง่ายและไม่ยากของป๋าเซกิ กับฉากน้ำตาท่วมจอ วาดดาวอ่านแล้ว ประทับใจเหลือเกินค่ะ

การจะทำให้นักแสดง(ต่างชาติซะด้วย) เข้าใจอารมณ์ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์ คงต้องอาศัยความอดทนของทุกฝ่ายจริงๆ โดยเฉพาะผู้กำกับที่แสนเก่ง (แอบปลื้มพี่ลิงมานาน) บวกกับพรสวรรค์ของตัวนักแสดงด้วย ที่เซกิมีคนชื่นชอบมากมายก็เพราะเขาได้ผ่านการทำงานกับทีมที่มีคุณภาพ หล่อหลอมจนเป็นโกโบริจริงๆ ขณะที่ดูก็เลยไม่รู้สึกว่าคือเซกิ แต่เขาคือ..โกโบริ


ขอบคุณค่ะ เอาสิ่งดีๆ มาฝากตลอดเลย ไม่รักทุ๊กคนในคู่กรรมได้ไงเนี่ย


โดย: วาดดาว วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:10:21:21 น.  

 
"เรียกว่าหากคู่กรรมฉบับนวนิยายคือป้าอี๊ด ทมยันตี คุณก็เป็นต้นฉบับคู่กรรมฉบับละครเวทีเลย เขียนเก่งมาก"
มายกสองแขนเห็นด้วยค่า และสนับสนุนให้พี่สาวคนเก่งตั้งโอ่งน้ำชานเรือนไว้ด้วย เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อและสานสัมพันธไมตรีระว่างสองประเทศ หุๆ (อารมณ์บ้านอังฯซะงั้น) และถ้าหนูคอแห้งจากการที่กินเลย์เยอะไปจะได้ตักกินซะเลย อิอิอิ ชักนอกเรื่องแล้ว...

คุณชาวบ้านฯอธิบายกลวิธีได้ละเอียดและเข้าใจมากๆเลยค่ะ ว่าของเค้าจะดีได้ มันต้องผ่านกระบวนการมากมายกว่าจะอิ่มตัวและตกตะกอนทางความรู้สึก ทีมงานคู่กรรมฯนิ่สุดยอดดดด ยิ่งพูดไปก็จะยิ่งเหมือนของเข้าตัวทีมงานดรีมบ๊อกซ์นะคะ คุณพี่ว่ามะ เพราะยิ่งคนดู(ที่อินจัด)อย่างเราๆรู้ว่าทีมงานทุ่มเทขนาดไหน และละครออกมาดีอณูขนาดนี้ได้เพราะอะไร พวกเราก็ยิ่งอยากๆๆๆๆดูแบบไม่รู้จักพอซักที ก็แหม่ ของเค้าดีจริงๆนิ่คะ
และ มายกอีกสองแขนสนุบสนุนคุณพี่วาดดาวสุดฤทธิ์กับประโยคนี้
"หล่อหลอมจนเป็นโกโบริจริงๆ ขณะที่ดูก็เลยไม่รู้สึกว่าคือเซกิ แต่เขาคือ..โกโบริ"
นึกแล้วอยากจะกรี๊ด เมื่อวานได้ฟังเพลงๆนึง แล้วก็ชวนให้นึกถึงโกโบริตัวเป็นๆคนนี้จริงๆเนื้อเพลงก็ประมาณว่า "ไม่นึกเลยจะมีอย่างเธออยู่ตรงนี้ ก็เข้าใจว่ามีแต่ในฝัน คล้ายๆว่าฉันจะเจอตัวจริง" ขอบคุณทีมงานนะคะที่ทำให้คนที่เคยได้แต่คลั่งไคล้หน้ากระดาษของนิยาย ได้เห็นคู่กรรมออกมาโลดแล่น ทุกคนมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ (แล้วหนูก็มากินพื้นที่เพ้อใส่บล๊อกพี่วาดดาวอีก )หุๆๆและก็ขอบคุณบล๊อคพี่วาดฯที่ทำให้ความทรงจำยังชัดเจนอยู่เสมอ ระหว่างที่คิดถึง คู่กรรม เหลื๊อออเกิน

ว่าแต่เมื่อคืนช่างมันยกร่องฟักทองแตกไทยจริงๆแฟนคลับหน้ามนทั้งหลาย หนูเก็บไปฝันแถมนอนคิดพล๊อตเรื่องทั้งสอง(ซึ่งต่างกันสุดขั้ว ฮ่าๆ)จนไม่ได้หลับได้นอน แล้วคุณพี่คิดชื่อเรื่องแทน บ้านแสนสุก ได้รึยัง เดี๋ยวน้อยหน้าเค้าน๊า
เย็นนี้เจอกันค่ะ จุฟๆๆแล้วจะรายงาน ว่าฝันอะไรบ๊างงงง


โดย: หนูยุ้ย ณ บ้านไร่ IP: 124.121.63.160 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:12:31:37 น.  

 
หวัดดีจ้า นู๋ยุ้ย ณ บ้านไร่แสนสุข

เอาเป็นว่าพี่วาดดาวฝากซื้อโอ่งดินใบย่อม ลายสวยๆ จากเกาะบ้านนู๋ก็แล้วกันจะได้มีไว้ใส่น้ำเลี้ยงแขก และแก้กระหายตอนกินเลย์
พวกเรายิ่งอ่านกรรมวิธีผลิตคู่กรรมด้วยหัวใจของทีมงานจากคุณชาวบ้านฯ ก็ยิ่งชื่นชม หลงรักหัวปักหัวปรำ อยากให้ภาพเหล่านั้นกลับคืนมากอยู่ร่ำไป แต่เราก็อดใจรอได้เนาะ ดูเรื่องอื่นไปก่อนเพลินๆ

ส่วนเรื่องพล็อตสุดกู่ที่เราร่วมกันสร้าง ช่างน่าสงสารพระเอก แต่ก็ช่างแกเหอะ เพราะแกคงไม่รู้อะไร
แล้วอย่าลืมมาเล่าให้พี่ฟังต่อนะ
(วันนี้คงไปคุยดึกหน่อย มีงานเลี้ยง แล้วเจอกันจ้า นู๋น้อยน่ารัก )


โดย: วาดดาว วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:16:25:37 น.  

 
สวัสดีอีกครั้งค่ะ คุณวาดดาว

อ่านๆอยู่เมื่อกี้เห็นคุณธิปเข้ามาตอบด้วย
เพื่อนผู้น่ารักของคุณธิปที่ร้องไห้ตั้งแต่เพลงเสียงดนตรี คือเราเองล่ะค่ะ เพิ่งรู้จักกันหน้าโรงละครนั่นเอง แบบว่าฉากนั้นเป็นฉากที่คุณเซกิร้องภาษาญี่ปุ่นที่เขาถนัดปาก อารมณ์ก็เลยได้เต็มที่...เรารู้ภาษาญี่ปุ่นเลยรับอารมณ์ได้มากกว่าคนอื่น

ผลคือน้ำตาไหลพรากเลยค่ะ...ไหลแบบนองหน้ายิ่งกว่าตอนโกโบริตายเสียอีก แอบอายคนข้างๆเหมือนกัน
พอมาดูอีกรอบ(คราวนี้นั่งแถวเกือบหน้าสุด) ก็ร้องอีกเหมือนเดิม แถมจุดที่เรานั่งตรงกะที่คุณเซกิยืนร้องเพลงนั้นพอดี...แอบอายเค้าอ่ะ ถ้าเค้าเห็นคงคิด "ยัยคนนี้เซนสิทีฟจัด"


โดย: Sheelacat IP: 125.25.79.80 วันที่: 23 กันยายน 2550 เวลา:21:12:03 น.  

 
สวัสดีจ้า คุณ Sheelacat
วาดดาวฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็เลยซาบซึ้งในระดับหนึ่งในรอบแรก แค่เซกิทำหน้าเศร้าก็สงสารจับใจ แต่พอกลับมาฟังภาคภาษาไทยอันแสนเศร้า ที่คุณธานีร้อง คราวต่อไปพอฟังเซกิร้อง ก็ร้องภาษาไทยคลอไป โอ้ย..น้ำตาพาไหล (เรียกว่าต้องมีตัวช่วย)

น่าดีใจด้วยค่ะที่คู่กรรม ทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ที่น่ารักด้วย
เรียกว่า..คู่กรรมนำสิ่งดีๆ สู่ชีวิต (เอ..คุ้นๆ )


โดย: วาดดาว วันที่: 24 กันยายน 2550 เวลา:9:15:05 น.  

 
ซาโดะฯเองนะคะคุณวาดดาว ในเวปของซาโดะฯเองก็โพสต์ถึงฉากนี้เหมือนกัน น่าฉงฉานพ่อดอกมะลิมากเลยฉากนี้ ว่าแล้วเปิดซีดีฟังซะอีกรอบดีกว่า ชอบประโยคนี้ของคุณวาดดาวเหลือเกิน
"โกโบรินิ่งฟังอย่างใจหาย ชีวิตของผู้ชายคนนั้นคงมีค่ามากกว่าศัตรูอย่างเขามากมายนัก แต่เธอน่าจะรู้ว่าเขาหรือจะทำร้ายหัวใจเธอได้ นั่นเท่ากับทำร้ายหัวใจตัวเอง "
คำนี้โดนใจสุดๆเลย ฉากนี้ขยี้หัวใจคนดูสุดๆจริงแหละ อยู่แถวหลังเห็นไม่ถนัดนักตอนบันไดหมุน มืดๆหน่อย แต่เหมือนความรู้สึกมันกำลังแตกเป็นเสี่ยงเหมือนบ้านกับบันไดแยกจากกัน ไม่รู้ว่าที่สร้างบันไดแยกจากตัวบ้านแบบนี้จะแฝงนัยหรือเปล่า หรือเพราะเราอินจัดเลยเพ้อเจ้อไปเอง แต่ลุ้นมากกับฉากนั้นทั้งที่อ่านนิยายมาไม่รู้กี่สิบรอบ ดนตรีมันกระชั้นด้วย
ตื่นเต้นจนออกนอกหน้าค่ะ โน้มตัวไปข้างหน้ามองแบบตาไม่กระพริบ คนข้างๆคงแบบ ........แม่นี่จะลุ้นอะไรขนาดนั้น แต่จำไม่ได้แล้วว่าพ่อสองเกลอหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เคยอ่านที่ไหนก็ไม่รู้บอกว่าจริงแท้พ่อก็แอบอยู่ใต้ถุนคอยช่วยหมุนบ้านนั่นแหละ รอบหลังที่ดูก็จ้องอยู่ว่าใช่ไหมตามที่เค้าบอก แต่มองไม่เห็นอ่ะ เห็นแต่พ่อดอกมะลิเซกิแกร้องเสียงหลงเรียก ฮิเดโกะ ซะดังลั่นเวที....สงสารจับใจ


โดย: ซาโดะฯ IP: 203.146.50.133 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:8:30:05 น.  

 
ทุกคนเป็นเพียงเหยื่อค่ะ พวกเค้าคือผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับเลือกให้ลงเล่นในหมากกระดานนี้ แต่เค้าไม่มีสิทธิ์กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง....ไม่ใช่ใครจะเลือกสงคราม สงครามเลือกเรา


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:9:36:01 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณซาโดะฯ
ดีจังเลยมาช่วยกันสะเทือนใจกับฉากปวดใจฉากนี้
ทุกคนที่ดูต้องคิดว่า อังศุมาลินนี่ช่างใจร้ายกับคนแสนดีอย่างโกโบริได้อย่างไรนะ จิตใจหวั่นไหวทุกทีที่เห็นเซกิทำหน้าเศร้าสร้อย น้ำมนต์ก็ถ่ายทอดอารมณ์ได้สุดๆ ทั้งน้ำเสียงที่เอ่ยถึงวนัส สีหน้าโกรธโกโบริ สีหน้าเจ็บปวดเอง และน่ากลัวมากตอนยืนหันหลังประกาศทำลายหัวใจโกโบริ
ลุ้นระทึกทุกรอบเหมือนกันค่ะ ว่าสุดท้ายโกโบริจะรับอังศุมาลินได้ที่ตรงไหน จำได้ว่ารอบแรกๆ เห็นไม่ชัดเท่าไรกับจุดสุดท้าย รอบหลังๆ มีแสงไฟช่วย แค่เสียงเรียก ฮิเดโกะ ๆ ของเซกิ ก็ทำให้ได้ปวดใจกันมากมายแล้ว
นับว่าทีมงานเค้าฉลาดที่ทำบันไดแยกจากตัวบ้าน ใช้ประโยชน์ได้มากมาย สร้างความอกสั่นขวัญหายให้คนดูเหลือเกิน


โดย: วาดดาว วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:9:55:08 น.  

 
อ้าว!.คุณชาวบ้านฯ มาเงียบเลย
สวัสดีค่ะ
มาด้วยคำคมอีกแล้ว
ชีวิตคนน่าใจหายจริงด้วยค่ะกับฉากนี้
เลือกเกิดไม่ได้ สงครามนำไป จะจบลงเมื่อไร ไม่รู้เลย
แต่ที่แน่ๆ จุดจบมีความสูญเสียรออยู่
โอ๊ย..เศร้ากันแต่เช้าเลย


โดย: วาดดาว วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:10:01:02 น.  

 
ร้องไห้ต้อนรับซะเรย แงๆๆบีบหัวใจจ ตั้งแต่ตอนอ่านฉบบับนิยายแล้ว ทรมานใจสุดๆกะฉากนี้นะคะ(แต่ก็ชอบกลับไปอ่านซ้ำบ่อยๆเพราะรู้สึกว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเรื่องน่ะค่ะ ที่สำคัญอังศุมาลินจะได้เข้าใจตัวเองชัดเจนขึ้นหลังจาก(เกือบ)ทำลายลูกไปแล้ว แต่พ่อดอกมะลิของเรานี่ซิ หัวใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี) ว่าแล้วก็แอบไปเคืองวนัสซะงั้น
ก็คิดมาตลอดว่าฉบับละครเวทีจะทำฉากนี้ออกมายังไงนะ แต่ก็ทำได้สมจริงสมใจ เห็นด้วยว่าเสียงร้องเรียก ฮิเดโกะนั้น คนนั่งดูจะขาดใจตามม

วันนี้งดเลย์ ปูเสื่อรอทั้งน้ำตาค่ะ

คิดถึงเจ้ ไว้หนูทำรายงานอีกสองตัวหมดเมื่อไหร่ จะไปชวนเจ้เล่นทุกวันเรย (ใครว่างเล่นกะหล่อนยะ!)


โดย: นู๋ยุ้ย ณ บ้านไร่ IP: 124.121.205.6 วันที่: 25 กันยายน 2550 เวลา:21:27:36 น.  

 
โอ๋..น้องยุ้ย ณ บ้านไร่ อย่าร้องไห้ไปเลย
พวกเราอ่ะเป็นเหยื่ออารมณ์ ของคู่กรรมทุกคนแหละ
ถ้าจะโทษก็ต้องคุณชาวบ้านฯ และทีมงานคู่กรรมนั่นแหละ ทำให้สาวสวย( หรือเปล่า) อย่างพวกเราต้องเสียน้ำตากันทุกรอบ ยิ่งดูมากรอบยิ่งเสียไปแยะ (ทั้งน้ำตาทั้งตัวค์)
แต่เราก็รักจะดูบทบาทพวกเขาเหล่านี้ทั้งสุขเศร้า รักจะฟังเพลงเพราะๆ ที่ร้อยเรียงได้อย่างงดงาม
ยังรู้สึกใจหายถ้าจะไม่ได้ดูอีก แต่อนาคตไม่มีอะไรแน่นอนจะกังวลไปก็ใช่ที่

คิดถึงเด็กน้อยจอมป่วนนะ ละครต้องหยุดกะทันหันเลย
ตั้งใจทำรายงานด้วย พระเอกนางเอกบ้านไร่เอาใจช่วยนะ



โดย: วาดดาว วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:0:22:02 น.  

 
ถ้าทำรายงานเรื่องคู่กรรมล่ะก็ ส่งมาให้ช่วยได้นะคะ ๕๕๕

ชาวบ้านฯเห็นว่า ตัวละครคู่กรรมทุกตัวมี tragic flaw หรือเรียกบ้านๆว่าข้อด้อยที่นำไปสู่หายนะกันทุกตัวค่ะ

ถ้าลองวิเคราะห์ดีๆ จะเห็นว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
เธอ...มีทิฐิมานะมากเกินไป
เขา...อ่อนโยนเกินไป

ทุกสิ่งที่เขาและเธอทำนำไปสู่หายนะทางกายและจิตวิญญาณของตัวเองและคู่ของตน.........

เธอ...หุนหันไม่ฟังเขา จึงทิ้งตัวลงจากบันไดบ้านเพื่อทำร้ายจิตใจเขา (แล้วตัวเองก็เจ็บตัว)

เขา...วิ่งเข้าหาความตายเพราะยอมแพ้ความรักของวนัสกับเธอ (เลยตายจริงๆ)
[แต่ที่ชาวบ้านฯสังเกตุเห็นน่ะ พ่อโกโบริแกตายลงทีละน้อยมาตลอดองค์สองนะคะ..เพียงแต่มันมาพีคสุดตอนที่วนัสกลับมา]


กว่าจะคิดได้...เมื่อทุกอย่างมาไกลเกินแรงฉุดรั้งของตน...

เป็นบทเรียนราคาแสนแพงค่ะ........

ว่าแม้สงครามจะใหญ่หลวงและกลืนกินทุกอย่างแต่ไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวหรือยิ่งใหญ่เกินใจคน หากเขาและเธอจ้องแต่จะชนะ...ทั้งสองจะพ่ายแพ้

แต่หากเขาและเธอเอาชนะสงครามในจิตใจได้...สันติที่แท้จะบังเกิด


พอเข้าใจสงครามคู่ขนานในเรื่องแล้วใช่นะคะ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:9:01:23 น.  

 
อ่านที่คุณชาวบ้านโพสต์แล้ว.....สะอึกเลย รู้สึกว่าใจวูบ หัวใจกระตุก นี่คือประเด็นหลักของการตีความของคู่กรรมในครั้งนี้หรือเปล่า ภาวะสงครามภายในจิตใจ ........ ไร้คำบรรยายค่ะ พูดไม่ออก ........ สุดยอด !!!!


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:10:23:37 น.  

 
ขอออกตัวว่าไม่บังอาจตีขลุมว่านี่เป็นการตีความทั้งหมดขอคู่กรรม version นี้ค่ะ

เพราะอย่างไรเสีย theme สงคราม แบบ physical ยังตั้งคงไว้และจับให้มั่น... คำสัญญายังเป็น conflict ใหญ่ ส่วนเรื่องความรักนั้นเข้มข้นไม่แพ้กัน

สิ่งที่เอามาย่อยให้อ่านกันนั้นเป็นสิ่งที่ชาวบ้านฯcapture ได้จากการสังเกตุและเทียบเคียงตามแนววาทกรรมวิเคราะห์เท่านั้นค่ะ

ตามประสาคนชอบอ่าน-ชอบดูละคร จึงพลอยอยากให้ผู้ชม"ได้"มากกว่าความบันเทิงที่ฉาบไว้...

เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยอย่างไรบอกกันได้นะคะ..




โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:11:58:40 น.  

 
เห็นด้วยเต็มร้อยค่ะคุณชาวบ้านฯ มองว่านอกจากความอิ่มเอมใจที่ได้รับแบบเต็มหัวใจในการดูคู่กรรมครั้งนี้แล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือความลุ่มลึกของการสร้างสรรค์ผลงานด้วย ยิ่งภาพตรงหน้าสร้างความประทับใจให้เท่าไหร่ เบื้องหลังแห่งจินตภาพเหล่านั้นย่อมประทับใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันค่ะ
ขอบคุณคุณชาวบ้านที่มา'ถก' ถึงประเด็นหลังม่านให้ได้รับชมรับฟังและ'กำซาบ' กับคู่กรรมเดอะมิวสิคัลฉบับนี้มากขึ้น ชอบค่ะ ชอบมากเลย


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:12:23:25 น.  

 
ซีเรียสไปหรือเปล่าเนี่ย.....ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ต้องเครียดนะคะ แค่อยากบอกว่าสนใจและใคร่รู้จริงๆเท่านั้นเองค่ะ เดี๋ยวจะคอยอ่านคุณวาดดาวโพสต์ต่อนะคะ


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:12:36:14 น.  

 
เห็นด้วยกับคุณชาวบ้านฯ ทุกประการ

ตัววาดดาวเองไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ละครสักเท่าไร แต่ทุกครั้งที่คุณชาวบ้านฯ อธิบายจะรู้สึกเข้าใจคู่กรรมได้ลึกซึ้งขึ้นทุกที
ยิ่งในภาคละครเวทีนี้เราได้ตระหนักถึงสงครามที่เกิดขึ้นในรูปแบบการสู้รบของมนุษย์ด้วยกัน และสงครามที่เกิดขึ้นในจิตใจคน สงครามที่ยิ่งใหญ่คือการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง เมื่อโกโบริยอมแพ้ ทุกอย่างในชีวิตก็จบ แต่ในเวลาเดียวกันอังศุมาลินเพิ่งได้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยรัก และกำลังจะบอกกับโกโบริ เป็นความคู่ขนานที่แสนเศร้า จนคนเฝ้าดูอย่างเราๆ อดเสียดายและน้ำตาไม่ได้

ขอบคุณจากหัวใจจริงๆ ค่ะ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ แนวความคิดที่น่าสนใจ เสมอมา ยังคงรอฟังอีกต่อไป

( ละครช่วงนี้เศร้า อย่างเพิ่งเศร้ากันไปใหญ่นะคะ สู้สู้ )


โดย: วาดดาว วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:17:06:51 น.  

 
เห็นคุยกันสนุกกล้วยอดมาแชร์ไม่ได้ ช่วงนี้ต้องเขียนบทความเลยไม่ค่อยได้โพสต์ แต่อ่านตลอดนะจ๊ะ ตอนอ่านในหนังสือ กล้วยสงสารโกโบริจับใจสองครั้ง ครั้งแรกคือที่ไปขออังศุมาลินเล่นขิม วาดดาวถ่ายทอดละครเพลงได้มหัศจรรย์แล้ว กล้วยขอเป็นส่วนเล็กๆ จากนิยายแล้วกันนะ

......ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงน้อยๆ " ครู่นี้ได้ยินเสียง......" เขาชี้ไปทางเครื่องดนตรี "เลยอดเดินมาไม่ได้"
"อ๋อ...ขิม ถ้าจะชอบเล่นดนตรี"
"เสียงมันคล้ายดนตรีพื้นเมืองของญี่ปุ่น ฟังแล้ว....." เขาอึกอักหาศัพท์ที่ถูกใจไม่ได้จึงต่อเป็นภาษาอังกฤษ " โฮมซิค"
"คิดถึงบ้าน" อังศุมาลินแปลให้ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
โกโบริพยักหน้าน้อยๆทวนคำเบาๆ "คิดถึงบ้าน" ......
ในหนังสือ อังศุมาลินยอมเลื่อนขิมไปให้เล่น แต่คนอ่านอย่างกล้วยไม้ถึงกับขวนขวายหาขิมมาเรียน......คิดถึงบ้าน.....

ตอนที่สอง ช่วงแรกไม่ได้คิดอะไร งง......ว่าอังศุมาลินเป็นบ้าหรือไง......ทำเพื่ออะไร คือตอนนี้แหละ........
"ไม่ย้ายไปไม่ได้หรือ?" (โกโบริกำลังจะถูกย้ายไปพม่า)
"ผมเป็นทหาร มีหน้าที่อย่างเดียวฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา"
"ใช่สิ บางครั้งก็ใช้อ้างคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาด้วย"อังศุมาลินขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะๆ โกโบริหันมามองหญิงสาวแว่บหนึ่ง ก่อนที่จะบอกคุณอรค่อยๆว่า
"ผมต้องไปทำงานเสียที"
"เดี๋ยวก่อน ฉันเคยบอกคุณแล้วว่า หากวนัสเป็นอะไรไป ฉันจะชดใช้ให้เขา!"
"คุณไม่มีวันหรอกที่จะได้สิ่งที่คุณต้องการ คุณควรจะรู้รสเสียบ้างว่า เวลาคนอื่นเสียลูกไปนั้นเขาจะรู้สึกยังไง ฉันจะชดใช้ให้เขาเดี๋ยวนี้!"
"อย่า! ฮิเดโกะ!"
ริมฝีปากสีซีดแย้มอย่างมาดร้าย ก่อนที่จะทิ้งตัวลงจากบันไดที่ยืนอยู่
"ยายอัง!"
คุณอรร้องตะโกนอย่างสุดเสียง โกโบริทิ้งแบบแปลนในมือกระจาย ผวาจะถลันกลับขึ้นบันได แต่ช้าไปเสียแล้ว ร่างของหญิงสาวกลิ้งมาตามความลาดชันนั้นอย่างจงใจ
ชายหนุ่มกางแขนออกรับไว้ทัน เพียงเมื่อร่างทั้งร่างจะกลิ้งลงมาถึงบันไดขั้นสุด........
.....คนเรา งานก็หนัก สงครามก็ยืดเยื้อ มีลูกดีใจจนบอกไม่ถูก เมียก็มามีทิฐิ ไม่รัก ไม่อยากได้ลูก เรื่องเชลยก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะไปทำงานทั้งที เมียยังอุตส่าห์มายืนแว้ดๆอยู่หัวกะไดบ้าน แป๊บเดียวโดดดึ๋งลงมา.....บอกตามตรงกล้วยอ่านแล้ว กล้วยว่าอังศุมาลินโรคจิต แต่ความที่คุณแม่ซึ่งเคยอ่านมาก่อนบอกว่า ไม่มีอะไรน่า เรื่องแต่ง.....แต่ ตอนเป็นละครที่ป๋าเบิร์ดเล่นคู่กับพี่กวาง ฉากนี้แหละ คุณแม่ชี้มือพูดออกมาเลยว่า.....อังศุมาลิน คนใจร้าย ดูเอาเถอะ...กระโดดบ้าน จะให้ลูกโกโบริแท้ง อย่างนี้สมควรแล้ว ที่ต้องเป็นม่ายเลี้ยงลูกไปคนเดียวทั้งชีวิต......อ้าว!.......แหะแหะ ไหน?แม่ว่าไม่มีอะไรไงคะ


โดย: กล้วยไม้หลายสี IP: 202.28.62.245 วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:18:14:12 น.  

 
สวัสดีจ้าคุณกล้วยไม้หลายสี
คิดถึงจัง แต่มาทีไรต้องมีบทความซึ้งๆ มาฝากวาดดาวทุกที
บางครั้งก็อดคิดว่าอังศุมาลินนี่ประสาท ไม่ได้จริงๆ ด้วย ตัวเองมีคนเขารักตัวแสนจะรัก แถมดีจนมั่นใจว่าโกโบริมีแต่ในนิยายนั่นแหละ ยังหาเรื่องให้เป็นทุกข์จนได้

แต่ก็นั่นหละ ถ้าไม่มีเรื่องราวที่ขัดแย้งรุนแรง สถานการณ์ที่พาเราไปพบกับความสูญเสียของตัวละครที่คนอ่านหลงรักเสียแล้ว ก็คงไม่ใช่บทประพันธ์ที่เราทุกคนรักและจดจำ

คุณแม่กล้วยไม้น่ารักจริงๆ สอนให้ลูกรู้ว่าทั้งหมดก็แค่เรื่องที่เขาแต่งขึ้น อย่าเอาไปคิดกังวลเลย แต่คุณแม่ก็มีหลุดจนได้ อารมณ์คงพาไปนะซิ

ยอมรับว่าตอนนี้ความเศร้าจากฉากและเรื่องราวในตอนนี้ ทำให้อารมณ์วาดดาวเศร้าติดไปด้วย พยายามสลัดออกอยู่ค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:19:56:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณวาดดาว ว่าจะเว้นระยะไม่มาหาแล้วเชียวนา แต่มันอดไม่ได้ คิดถึง ขอเสริมอีกนิดว่าในบทประพันธ์อ่านแล้วหมั่นไส้อังศุมาลินก็จริงอยู่ จะทรมานพระเอกเราไปถึงไหนยะ แต่หลังจากนั้นก็อดสงสารไม่ได้นะ ทั้งแม่ทั้งยายเข้ามาเยี่ยมมาปลอบ แต่พ่อดอกมะลิกลับเลือกที่จะกลับไปโหมงานให้ตัวเอง......ฮิเดโกะ ผมรักคุณ คุณพูดประโยคนี้ได้ไหม อนาตะ โอ อาอิชิ มาสุ หลังจากนี้ก้รอแต่เพียงว่าเมื่อไหร่เขาจะกล่าวคำอำลาต่อเธอ หรือเขาจะจากไปโดยไม่พูดคำนี้ด้วยซ้ำไป (เอ....ในละครเวที คำบอกรักประโยคนี้ยาวกว่านี้นะ .... อนาตะ โอ อาอิชิ เตะ อิมัสสึ....รึเปล่าหว่า....) อ่านแล้วสงสารอ่ะ แต่ในละครเวทีอังศุมาลินก็น่าสงสารไม่แพ้พระเอกเหมือนกัน คุณน้ำมนต์เล่นมาตั้งหลายรอบ เบ็ดเสร็จทั้งหมดน่าจะ 55 รอบแล้วนะ คู่กรรมก่อนหน้า 45 รอบ คราวนี้อีก 10 ตกบันไดทุกรอบแบบนี้เนื้อตัวช้ำบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้......


โดย: ซาโดะฯ IP: 203.146.50.133 วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:8:22:00 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณซาโดะฯ
ดีใจค่ะมาคุยกันบ่อยๆ
แต่เกรงใจกันจังยังไม่ได้อัพเลยเพราะมัวเศร้าๆ อยู่
ในบทประพันธ์พ่อดอกมะลิเรามีโอกาสทำให้อังศุมาลิน ได้รอคอยการมาของเขาอย่างทรมานบ้าง แต่ในภาคละครเวทีมีไม่มากขนาดนั้น แค่ให้เธอวิ่งตามหาคนรัก (ทั้งที่จริงอยากมาบอกรัก) ท่ามกลางซากปลักหักพังด้วยความหวังริบหรี่ เราก็รันทดจะแย่แล้วค่ะ
ยังสงสัยว่าน้ำมนต์ จะฟกช้ำบ้างหรือเปล่า ตกไป 10 รอบ แต่มีโกโบริคอยวิ่งไปรับ คงไม่ยอมให้สาวเจ็บแน่ๆ อิอิ


โดย: วาดดาว วันที่: 27 กันยายน 2550 เวลา:9:25:03 น.  

 
เข้ามาบอกว่า มีแฟนพนธ์แท้ของ คู่กรรม The Musical พยายามหาแนวร่วมเพื่อเรียกร้องให้ Dreambox นำมา Re-Stage อีกครั้ง อยากให้แฟนคู่กรรมใน Bolggang นี้ เข้าไปช่วยเชียร์กันหน่อยค่ะ รับมาบอกให้ค่ะ อยากดูอีกมากๆ
//www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=dreambox&id=392


โดย: น้องอัง IP: 58.136.206.227 วันที่: 30 กันยายน 2550 เวลา:19:10:53 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องอัง
เรื่องเรียกร้องให้คู่กรรม restage ใครๆ ที่นี่ก็คงอยากให้เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงระยะเวลา และเหตุผลของทีมงานเค้าด้วย การทำละครเพลงสักเรื่องไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องให้ทีมงานพร้อมจริงๆ ต้องมีการวางแผนเป็นขั้นตอน เราเรียกร้องมากไปดูเหมือนกดดันอย่างไม่มีเหตุผลเพราะคู่กรรมก็เพิ่งผ่านไป เราค่อยๆ บอกให้ทีมงานระลึกว่าพวกเรายังคงรอคอยเสมอ และให้การสนับสนุนทุกๆ ผลงานของเขาด้วย จะดีกว่ามั๊ย
เพราะทีมนี้ละครของเขาดีทุกเรื่องพิสูจน์มาแล้วจ้า ยังไงก็เอาใจช่วยค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:0:19:51 น.  

 
เข้ามาดูครับ คุยกันได้ออกรสจริงๆ และทึ่งกับความเห็นของคุณชาวบ้านฯมาก ไม่นึกว่ายังคุยเรื่องนี้อยู่เรื่อยๆ

ใจจริงอยากเห็นคู่กรรมฉบับนี้เป็นหนังเลยนะ คือบทดีอยู่แล้ว น่าส่งเสริมมากๆ


โดย: เอวังด้วยประการฉะนี้ IP: 58.64.86.89 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:1:49:33 น.  

 
ลืมบอกว่ามาหนนี้ บล็อกสวยมากครับ


โดย: เอวัง IP: 58.64.86.89 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:1:50:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:9:22:35 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณเอวังด้วยประการฉะนี้

ขอบคุณค่ะที่เข้ามาอ่าน และกรุณาชมบล็อกของมือใหม่หัดทำ

การพูดคุยเรื่องคู่กรรมเป็นความสุขค่ะ คุณชาวบ้านฯ ผู้ใจดีมากยังคงมาเป็นกำลังใจ และบอกเล่าเรื่องดีๆ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของคู่กรรมแก่พวกเราเสมอ รวมถึงทุกคนที่รักละครเพลงคู่กรรมยังคงเล่าความประทับใจไม่รู้จบกันเลย

แวะมาคุยกันบ่อยๆ นะคะ


โดย: วาดดาว วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:10:12:37 น.  

 
อรุณสวัสดิ์เช่นกันค่ะ คุณชาวบ้านบางกอกน้อย
คิดถึงจังเลย

ช่วงนี้คุณชาวบ้านฯ คงสดใสมากมาย เพราะได้พักผ่อนสบาย (หรือเปล่า?) จะพากันเศร้าก็ตอนอ่านบล็อกวาดดาวเนี่ยหละ อิอิ

เป็นกำลังใจให้ทีมงานนะคะ รอฟังข่าวคืบหน้าผลงานชิ้นต่อไปด้วยค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:10:22:19 น.  

 
ทึกทึก 2 มาแน่ค่ะ สำหรับละครเวทีเรื่องใหม่ของดรีมบอกซ์

รับประกันความฮา


ส่วนคู่กรรมที่คุณวาดดาวบรรยายมาถึงตอนวนัสกับโกโบริพบกันเป็นครั้งแรก...แอบไปเก็บรูปที่ web dreambox มาประกอบได้นะคะ มีคนมาแปะไว้ให้ ตอนนี้พอดีเชียว...


*******************
หลวงชลาฯ
วนัส จำฉันได้รึเปล่า

วนัส
ท่านคือหลวงชลาสินธุราช คุณพ่อของอังศุมาลิน ท่านคือเสรีไทในรัฐบาล

หลวงชลาฯ
เราจะพยายามช่วยเธอให้ได้กลับบ้าน

วนัส (ร้อนใจ)
อังศุมาลินเธอเป็นอย่างไร

หลวงชลาฯ(บ่ายเบี่ยง ไม่ตอบคำถาม)
อีกไม่นาน ญี่ปุ่นจะแพ้อย่างแน่นอน

วนัส
อังศุมาลินเธอเป็นอย่างไร ผมคิดถึงเธอแทบขาดใจ
ท่านครับช่วยบอกผม เกิดสิ่งใดร้ายหรือดี
เธอเป็นอย่างไร ได้โปรดบอกผมที

หลวงชลาฯ(สุดที่จะทัดทาน แสร้งวางเฉยได้อีก)
อังศุมาลินเธอแต่งงานไปได้เกือบปี เป็นเรื่องที่ยากเกินอธิบาย

วนัส (ตกใจ)
อังศุมาลิน เธอแต่งงานกับใคร

หลวงชลาฯ
โกโบริ หลานชาบแม่ทัพใหญ่..นายพล

วนัส (แทบหมดแรง)
สิ่งที่เราได้ยิน จริง หรือไม่จริง
หรือว่านี่คือฝัน ใช่..เราฝัน
คืนสุดท้ายที่จากเธอใต้ต้นลำพูนั้น
สัญญาที่ฝากคำ สัญญาเธอลืมสัญญา
อังศุมาลินเธอแต่งงานไป
โอ้หัวใจเจ็บช้ำปวดร้าวหนักหนา
เธอเคยบอกว่าจะรอถึงวันที่กลับมา สัญญา สัญญา สัญญาเธอลืมสัญญา (ทรุดลง ร่ำไห้อย่างคนไม่เหลืออะไร)

แสงเปลี่ยน ทำนองเพลงกลายเป็นมาร์ช ที่ทั้งฮีกเหิมและน่าหวาดหวั่น

นายพลโมริยะเดินเข้ามาพร้อมโกโบริ และกำลังทหารจำนวนหนึ่ง

โมริยะ
หลวงชลาสินธุ์

หลวงชลาสินธุ์
ท่านนายพล

โมริยะ
พบกันอีกหนจนได้
เชลยที่จับมาเป็นอย่างไร

หลวงชลาสินธุ์
คนของเราคุมไว้อย่างดี

โมริยะ
ทางเราจะขอเอาเขากลับไป

หลวงชลาสินธุ์
ท่านคงไม่กลัวว่าเขาจะหนี

(ทั้งสองคุมเชิง ชิงไหวชิงพริบ)

โมริยะ
โกโบริ หลานว่าอย่างไรดี

วนัส
โกโบริ

โกโบริ
ครับ..ผมเองโกโบริ คุณ....วนัส


ชายทั้งสองต่างจ้องมองกันผ่านซี่ลูกกรง ด้วยความรู้สึกร้าวรานไม่แผกกัน

..........นี่หรือคือคนที่เธอรัก!















โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:13:06:59 น.  

 
ขอบคุณมากเลยค่ะคุณชาวบ้านฯ
สำหรับเพลงกึ่งๆ บทละครแบบละเอียด ในตอนต้น สุดยอดจริงๆ
วาดดาวเห็นภาพที่โพสในดรีมบ็อกซ์แล้วเหมือนกัน แต่ไม่กล้าเซฟมาแปะ เกรงใจเจ้าของภาพอยู่เหมือนกัน
แต่ถ้าคุณชาวบ้านฯ อนุญาต (เข้าข้างตัวเองกันเลย) จะขอแปะสักนิดนะคะ
ต้องขอขอบคุณเจ้าของภาพไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:13:28:41 น.  

 
อื่มมหืมม ไม่มาแป๊บเดียวชานเรือนพี่สาวเก่งของเรา แน่นขนัดไปด้วยมหาชนคนรักคู่กรรมซะแล้ว ไหนๆมีที่นั่งขอสิงเสาตกน้ำมันก็ยังดี (สิงมิดรึ)
แถมคุณพี่วาดฯยังขยันขยี้อารมณ์คนดูไม่บันยะบันยังเลยนะคะ เศร้ากัน non-stopเลย
ผู้ชายสองคนร้องเพลงเดียวกัน ด้วยหัวใจที่แตกสลาย จะมีอะไรเศร้าไปกว่าได้เจอตัวเป็นๆของคนที่ทำให้ คนที่เรารัก ไม่อาจรักเราได้ซะที อีกมั๊ยเนี่ย ฮือๆๆๆ

กินเลย์ไม่ลง ปูเสื่อรอทั้งน้ำตาต่อปายยย

เมื่อวานก็คิดถึง วันนี้ก็คิดถึง
(พักนี้เซ๊งเซ็งๆและเบื่อๆยังไงไม่รู้ค่ะเจ้ อยากจะนอนฝันรวมถึงเจ้และคุณป๋าท่าเดียว )


โดย: นู๋ยุ้ย ณ เสาเรือน IP: 124.121.60.200 วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:18:50:10 น.  

 
สวัสดีจ้า คุณครูสาวสวยแสนซนคนใหม่

ถึงกับต้องสิงเสากันเชียว อ๋อ..ก็เราเป็นพวกวิญญาณหน่วยกล้าตายของเสรีไทยนี้เนาะ

ที่เศร้าจนกินเลย์ไม่ลงเพราะนู๋ยุ้ยคงเตรียมใจมาเศร้าอยู่แล้วมัง อารมณ์คิดถึงป๋าเซกิแจมมาด้วยใช่ไม๊ (รู้ทันน่า)

จะว่าไปเห็นน้ำตาลูกผู้ชายนี้มันปวดหัวใจเหลือเกิน ไม่รู้จะปลอบใครดีเลย ในเรื่องนี้ 2 หนุ่มก็ช่างจิตใจงามไม่ด่าว่ากันสักคำ เป็นเราๆ อาจโดดชกกันไปแล้วก็ได้

ช่วงนี้เรื่องก็เศร้ามากๆ ขอไปอย่างช้าๆ นะจ้ะ (ที่จริงคิดไม่ทัน แฮะ แฮะ) นู๋ยุ้ยต้องนั่งนานหน่อยนะ อดทนไว้
คิดถึงนู๋น้อยแสนซน แล้วเจอกันจ้า


โดย: วาดดาว วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:19:52:27 น.  

 
โอยั๊วะ ซักแก้วมั๊ยคะ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:10:17:08 น.  

 
อุ๊ย! มาไม่ทันคุณชาวบ้านฯ เลย
โอยั๊วะ คงละลายแล้ว
ขอเปลี่ยนเป็นชาเย็นนะคะ หวานได้ใจดี
สวัสดีตอนเย็นๆ ค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 2 ตุลาคม 2550 เวลา:18:38:58 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะคุณวาดดาว เพิ่งสบโอกาสเข้ามาหาเอาก็วันนี้แหละ แต่เห็นคุณโพสต์ฉากเผชิญหน้านี้มาตั้งแต่ราวๆวันเสาร์(มั้ง....คิดว่าใช่นะ) อ่านจากที่คุณโพสต์มายอมรับว่าโดนใจเหลือเกิน ไร้คำบรรยาย....ไร้ที่ติค่ะ แบบว่า อ่านและซึมซับความรู้สึกบ่มเพาะจากคุณอย่างเดียวเลย ละเมียดละไมและโดนใจมากๆ (เอ่อ....อันนี้ความฝันลมๆแล้งๆส่วนตัวนะคะ หากทำเป็นเล่มออกมาแบบสูจิบัตรคู่กรรมน่าจะดีนะ....ที่คุณโพสต์นี่น่ะ รับรองว่าจะซื้อมาเก็บเป็นที่ระทึก เอ้ย....ที่ระลึกแน่นอน) เคยคุยกับเพื่อน(สาวน่าร๊ากกกกกคนเดิม) ว่าคนเขียนเค้าช่างฝันเนอะ....เรียงร้อยถ้อยคำออกมาได้ไงอ่ะ เพื่อนบอกว่าคนนี้แหละบอกเล่าผ่านความรู้สึกเก่งมาก จินตนาการบรรเจิดสุดๆเลย ......เราก็......ชักอยากเห็นสาวช่างฝันตัวจริงซะแร้วววว!!!!!
จากที่เพิ่งรู้เป็นครั้งแรกในชีวิตว่า คู่กรรมเค้าทำออกมาเป็นละครเวทีด้วยเหรอ เมื่อคราวแสดงรอบสุดท้ายก่อนจะปิดฉากโรงละครกรุงเทพผ่านพ้นไป..... ซึ่งตอนนั้นอยากใจอยากดูมาก แต่คือ มันไม่มีแล้วไง ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาคอย ค้นหา ตามข่าว และอีกสารพัดเพื่อให้แน่ใจว่า คราวนี้คู่กรรมต้องเป็นของชั้นนนนน จนถึงวันที่ได้มาดูจริงๆ ฉากนี้เป็นฉากที่รอคอยมากที่สุดหลังจากได้มีโอกาสเห็นคลิปตัวอย่าง เรื่องของเรื่องคือแว่บแรกแค่สนใจว่ามาจากตอนไหนของเรื่อง(ฟระ...) เพราะเป็นความรู้สึกของตัวละครที่มากกว่าบทประพันธ์(มีเกริ่นนิดหน่อยในภาคสอง แต่ก็ไม่มากนัก และเป็นความรู้สึกของวนัสที่มีต่อโกโบริฝ่ายเดียว)
แต่พอได้ไปนั่งดู และจมอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า บอกได้คำเดียว.....สุดยอด!!!


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:15:03:26 น.  

 
บรรยายไม่ค่ยจะเก่งนัก แต่อยากเล่า...แหะ แหะ คือตินที่ไปดูพยายามเข้าไปแบบหัวโล่งๆ ว่างๆ และไม่อย่างยิ่งยวดที่จะตั้งความหวัง กลัวว่าเดี๋ยวหวังมากแล้วถ้าไม่ได้ตามนั้นจะเสียความรู้สึก แต่เปล่าเลย....ละครเวทีเรื่องแรกในชีวิตเรื่องนี้กลับเล่นอารมณ์กับคนดูและดึงความรู้สึกร่วมได้มากเลย ก่อนองก์ที่สองจะเริ่ม ได้ยินเสียงคนนั่งด้านหน้ากระซิบ(ดังๆ)บอกคนที่มาดูด้วยกันว่าเดี๋ยวคอยดูฉากในคุกนะ รับรองเธอน้ำตาร่วง อยากจะบอกเค้าเหมือนกัน ว่า รอฉากนี้อยู่ ภาวนาอย่าให้เขาเล่าอะไรเลย ไม่อยากรู้จนกว่าจะถึงเวลาที่เหตุการณ์นั้นมาปรากฏต่อหน้าเท่านั้น.....ลุ้นจนมาถึงนาทีที่รอคอย ...... และแล้วคำอธิษฐานก็สำฤทธิ์ผล ภาพของชายหนุ่มสองคนยืนประจันหน้ากันด้วยสถานะที่แตกต่าง ทั้งในฐานะศัตรูของชาติ และศัตรูหัวใจ สะกดอารมณ์จริงๆเลย .....นับถือคนเขียนบทก่อนเลยว่าเขียนและแต่งเพลงนี้ออกมาได้ไงเนี่ย กระชากใจสุดๆเลย เพลงเดียวกัน ทำนองเดียวกัน แต่อารมณ์ ความรู้สึกที่ไม่แผกกัน คือทุกข์และเจ็บปวดเพราะรัก ต่างฝ่ายต่างคิดว่า ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่อังศุมาลินรัก.....ฉากเรียบง่าย ดนดรีโอบประคองไว้พอหลวมๆ เล่นแสงเล่นเงาดูมีมิติ แต่ทรงพลังและเร้าอารมณ์คนดูเหลือเกิน ร้องไห้ตามตั้งแต่ตอนวนัสรู้ว่านางเอกเราเป็นของคนอื่นไปแล้ว คนข้างๆเป็นผู้ชายก็ร้อง...ขอบอก(แอบนินทานิดนึง) อยากรู้ว่าวินาทีที่ชายหนุ่มทั้งสองเจอกันจะทำหน้ายังไง และรู้สึกยังไง น้ำตาลูกผู้ชายนี่....ไหลนองเวทีแล้วมั้งตอนนั้น สงสารจับใจ ทั้งคู่เลย เล่นได้ดีมากด้วย กลายเป็นว่าเวอร์ชั่นนี้พระเอกทั้งคู่ กินกันไม่ลง ก่อนหน้าเคยแบบ วนัสกลับมาทำไมเนี่ย กขค.จริงๆเลย .....พอเจอคุณน็อตเล่นเข้าไป กลายเป็นสงสารวนัสไปเลยเทใจให้ไปเลย เล่นได้เยี่ยมจริงๆที่ต้องทรมานเพราะสูญเสียคนรักขนาดนั้น ส่วนพ่อดอกมะลิโกโบริเดี๋ยวเอาไว้สงสารตอนตายก็ได้(ซะงั้น....)
ก่อนที่ป๋าเซ-จะดึงกลับมาแบบ.....อารมณ์โกโบริยามหัวใจแหลกสลายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง (ภาพปลากรอบด้านบนได้อารมณ์มากค่ะ) ก็....นะ นางเอกสุดร้ายสุดรักทำกะเราซะขนาดนี้ มันไม่เหลือชิ้นดีแล้ว...หัวใจ ยังจะมาเจอคนที่(คิดเอาเองอยู่ฝ่ายเดียวว่า....)สาวเจ้ารอคอยอยู่แทบทุกลมหายใจเข้าอีก โอย.....จะทรมานหัวใจคนดูไปถึงไหนเนี่ย ....คนนึงใส่อารมณ์ใจจะขาดรอนๆกับการสูญเสียตรงหน้า ส่วนอีกคน....นิ่ง และทะนงตนมากพอที่จะรับความผิดหวังและขมขื่นอยู่อย่างเงียบๆ ภายใต้ทีท่าที่เรียบเฉย แต่ดวงตานี่ฉายแววเศร้าและทรมานสุดๆ.......ทรมานหัวใจตามไป


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:15:59:49 น.  

 
ขอบคุณ คุณชาวบ้านค่ะ ที่แปะเพลง เพลงนี้ก่อนหน้านั้นมีบางคำยังฟังผิดอยู่ งั้นเป็นอันว่าตอนนี้เนื้อเพลงถูกแระ ได้ครบทุกเพลงตามสูจิบัตร เอ่อ....เรื่องเสาตกน้ำมันนี่ ถ้าป๋าเซ-กลับมาท่าทางคงหนักหนากว่าตอนนี้แน่มั้งคะ เห็นว่าอีกไม่กี่วันก็กลับแล้ว ....อย่าเพิ่งรีบตกตอนนี้นะคะ ถนอมแรงไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยวเอาไว้ตกต่อหน้าป๋าให้แกตกใจเล่นท่าจะดีกว่า.....เผื่อป๋าจะได้มาคอยโอ๋.....อิ อิ (โห...ความคิด!!!)


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:16:14:44 น.  

 
ตอนนี้ชาวคู่กรรมนอกจากจะหาทางเจอกันไม่ว่างเว้นแล้วเรายังแบ่งเวลาไปคิดถึงพี่เซกิด้วยเหมือนกันค่ะ

อยากให้กลับมาสังสรรกันอีก แต่สงสัยว่างาน(ยามาดะ)คงรออยู่แล้ว

เพื่อนฝูงจะได้เจออีกเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย
เซ็งจิตเล็กๆ


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:18:55:01 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณ ธิป
ที่แบ่งปันความรู้สึกซาบซึ้ง กับฉากเผชิญหน้าของสองหนุ่ม ที่เรียกความสงสารได้ท่วมท้น น่าปลอบใจด้วยกันทั้งคู่ ตอนดูครั้งแรกเมื่อคราวโน้น วาดดาวยังทึ่งเลยค่ะ ว่าเค้าคิดได้ไงหนอบทและเพลงในฉากนี้ ถ่ายทอดความคิดอันนี้ออกมาได้เศร้าซึ้งแบบลูกผู้ชาย ประทับใจสุดๆ
ก็ได้แต่หวังว่า คงได้ดูฉากนี้อีกในอนาคต ไม่รู้เมื่อไรแต่สมัครใจรอ
เหมือนตอนนี้ที่เราก็สมัครใจรอการกลับมาของป๋าเซกิอ่ะคะ ไม่รุ้จะขาวอวบ สดใสกันมากขึ้นขนาดไหน เด็กๆ ลุ้นกันใหญ่
มาคุยกันบ่อยๆ นะคะ แก้คิดถึงคู่กรรม


โดย: วาดดาว วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:20:35:08 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชาวบ้านฯ
ทานข้าวหรือยังคะ ทานข้าวกันก่อนนะ

เข้าใจความรู้สึกคิดถึงกันมากๆ ค่ะ อยากเจออยากคุย เม้าท์กัน เหมือนตอนทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่ง ดูทีมงานคู่กรรมจะผูกพันกันมากด้วย
ส่วนคุณป๋าเซกิ แกเงียบไปเลยค่ะ มาหรือยังไม่รู้ หรือออกป่าไปแล้ว
คุณชาวบ้านฯ เจอ ช่วยดูด้วยนะคะว่า สดใสขึ้นแยะไหม ไปบ้านมาเนี่ย เผื่อแกมีถ่ายรูปแนวเซ็กซี่จะได้หล่อเฟิร์ม อิอิ
ทีมงานสู้ ๆ นะคะ วาดดาวกับทุกคนเอาใจช่วยเต็มที่ค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:20:55:14 น.  

 
แวะเข้าไปใน webboard DBox บ้างรึเปล่าคะ มีรูปใหม่ๆมา update ด้วย



แผล็วววววววว (เผ่นจากไป) !


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:18:11:54 น.  

 
อุ๊ย! มาไม่ทันคุณชาวบ้านฯ ผู้แสนดี อีกแล้ว
มาเร็วไปไว ปานลมกรดสาว

แวะไปชมแล้วค่ะ ไว้ไปแอบจิ๊กรูปงามๆ มาอีกนะคะ (คุณชาวบ้านฯ ตอบว่า "ได้ซิ" อันนี้คิดเอาเอง 55)

ขอบคุณมากกกกกก ค่ะ


โดย: วาดดาว วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:20:36:22 น.  

 
พี่วาดดาวที่รักกกกกก...คิดถึงอ่ะค่ะ มากๆเลยด้วย
ช่วงนี้หนูได้แต่นอนคิดถึงพี่และคุณป๋าอย่างเงียบๆอยู่ที่บ้าน
สาเหตุมาจาก..ปัญหาชีวิตที่รุมเร้าหนูอยู่ตอนนี้ กริ่งเกรงว่าถ้าเยี่ยมหน้าออกไปพบปะใครๆตอนนี้จะเผลอไปทำให้ทุกคนต้องหมดสนุกตามไปด้วย ให้ใครอื่นเบื่อหนู หนูก็อาจจะทนได้ แต่ถ้าทำให้เจ้ที่รักเบื่อหนูไปอีกคน หนูแย่แน่ๆ
ตอนนี้เลยเหมือนเก็บตัวให้หายบ้า ก่อนจะกลับไปหาเจ้ที่รักอีกครั้ง
คิดถึงความสุขแบบฉบับชาวบ้านไร่ที่สุด
คิดถึงเจ้ทุกวันๆ

แล้วเจอกันในMSNในเร็ววันค่ะ หนูจะรีบดีขึ้นไวๆด้วย สูตร นอนและกินของเรา
(จริงๆแล้วหักห้ามใจมากจริงๆนะคะ ในการไม่ได้เจอเจ้เนี่ย แต่ตอนนี้ต้องหลบแก้ปัญหาให้หมดก่อน เอาใจช่วยหนูด้วยนะค๊า)


โดย: นู๋ยุ้ย แสนเศร้า IP: 124.121.65.35 วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:23:02:48 น.  

 
นู๋ยุ้ย แสนซน (เศร้าเป็นกะเค้าด้วย)
เจ๊วาดฯ เอาใจช่วยนะจ๊ะ ถ้าให้เอาอะไรช่วยอีกก็บอกมา เรื่องรบราฆ่าฟันก็ได้นะ ไม่เกี่ยงผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 จากคู่กรรมมาแล้วนี่เรา

คิดถึง คิดถึงนะ ขอให้หายเศร้าไวไว มีอะไร ตะโกนมาได้น้า


โดย: วาดดาว วันที่: 7 ตุลาคม 2550 เวลา:23:09:03 น.  

 
กลับมานั่งอ่านสัญญาที่ขอคืนฉากนี้ด้วยอารมณ์หวั่นไหวค่ะ สะเทือนใจมากมาย รวมถึงนี่หรือคือคนที่เธอรักก่อนหน้านี้ด้วย ที่หายไปเพราะขอเวลาทำใจกล้าก่อนค่ะ เพราะหลังจากฉากตกบันไดแล้ว เจอข้อความหนึ่งที่พูดถึงการตีความคู่กรรม พอเจอ....โกโบริตายลงที่ละน้อย.....เข้าไปเลยเดี้ยงหัวใจ ไม่กล้าอ่านต่อ หลังจากนี้.....ทุกอย่างมันกำลังจะไกลเกินแรงฉุดรั้งแล้วจริงๆ ฉากนี้จำได้ว่าสงสารอังศุมาลินมาก เห็นใจวนัสไม่แพ้กัน แต่กับพ่อดอกมะลินี่เวทนายิ่งกว่า......ดาวเอ๋ยอย่าเพิ่งเคลื่อน เดือนเอ๋ยอย่าเพิ่งตก....สงสารเซกิ เอ้ย....โกโบริ


โดย: ซาโดะฯ IP: 203.146.50.133 วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:10:40:52 น.  

 
ฮ่ะ ฮ่า

มาถึงตอนที่ชาวบ้านชอบมากอีกฉากนึงแล้ว...
พ่อดอกมะลิแอบมองอังฯกับวนัสอยู่ริมท่าน้ำ
สำหรับเขา 'ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงแล้ว'
ดังนั้นไม่ทันที่โกโบริจะได้ฟังให้จบก็หุนหันหนีไปเสียก่อน..

ตอนนี้จำได้ว่าเรายืนออกันหน้าไมค์เตรียมร้อง คอรัส off-scene ข้างเวทีในฉากต่อไปค่ะ เลยมีโอกาสได้ดูฉากนี้เต็มที่

ใจนึงแสนจะโกรธวนัส...กลับมาทำไมให้เค้าเข้าใจผิด...อีกใจก็ทั้งสงสารและเห็นใจในความรักที่เฝ้ารอ..รู้ทั้งรู้ว่าหมดหวังยังกลับมา

แต่ลูกผู้ชายต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างสง่างามค่ะ อย่างนี้จึงจะเรียกว่า "รักเป็น"






โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:12:34:28 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณซาโดะฯ

ไม่ใช่แค่คนอ่านทำใจ คนเขียนเองก็ต้องทำใจนานมากกว่าจะเริ่มเขียนตอนนี้ ช่างน่าเศร้าจนจะรับไม่ไหมเสียแล้ว
เห็นด้วยจริงๆ ค่ะ ประโยคเด็ดๆ ของคุณชาวบ้านบางกอกน้อย กินใจเราเสมอ ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถ้อยคำในเพลงจึงไพเราะจับใจ เพราะทีมงานตีความเรื่องได้..ละเมียดละมัย เข้าถึงแก่นแท้ของเรื่องจริงๆ ทำให้คนดูอย่างเราๆ ยิ่งรู้สึกตามตัวละครอย่างแยกออกไม่ได้ว่าอะไรคือชีวิตเรา อะไรคือคู่กรรม มันปนๆ กันจะเหนื่อยใจ
แต่เราก็รักที่จะดู รักที่จะเศร้าไปพร้อมๆ กับพวกเขา
โดยเฉพาะพ่อดอกมะลิ ผู้มาจากต่างบ้านต่างเมืองทั้งในละคร และชีวิตจริง ทั้งรักทั้งสงสาร พ่อคุ๊ณ

ยังไงก็อยู่เศร้ากันต่อไปนะคะ


โดย: วาดดาว วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:16:11:55 น.  

 
คุณชาวบ้านฯ ผู้แสนดี

คุณชาวบ้านเนี่ยโปรดปราณ ฉากรันทดกดดันซึ้งกินใจ ทั้งน้านเลยนะ แต่วาดดาวก็ชอบเหมือนกัน รันทดหดหู่ อารมณ์ที่ถ่ายทอดมากระทบใจคนดูแรงดี
ตอนเห็นโกโบริเดินออกมา ใจหายวับเลย (ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าต้องมา) แอบคิดให้สองคนหันไปเห็นซะหน่อย (แล้วจะแสดงอะไรกันต่อไป มีหวังโดนคุณทมยันตีฆ่าตายเลย) พอโกโบริหน้าเศร้าใส่หมวกก่อนจะหันหลังจากไปก็คิดว่าคงหมายถึงจากนี้ไปเขาจะไม่รับรู้อะไรอีกแล้วกระมัง (คิดมากซะงั้น)
สงสารน๊อต เอ๊ย! สงสารวนัสด้วยค่ะ ร้องไห้แทบตายไปยกๆ ฉากที่แล้ว ถึงตอนนี้ต้องทนฟังอังศุมาลินรำพันถึงความรักต่อคนอื่นอีก ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็แสดงน้ำใจรักของลูกผู้ชายไทยที่แสนดีได้ยอดเยี่ยม

อ๋อ จับตัวได้แล้วบรรดาเสียงที่เรียกโกโบริไปบางกอกน้อย มีคุณชาวบ้านรวมอยู่ด้วยนี่เอง ใจร้ายนะเนี่ย

คุณชาวบ้านฯ ป๋าเซกิ กลับมาแล้ว ถ้าว่างอย่าลืมไปดูนะคะว่า หูตา จมูก โกโบริอยู่ครบหรือเปล่า เหล่าแฟนคลับ ยังไม่ได้เจอตัวเลย เจอแต่ตัวหนังสือ ตัวโตเท่าหม้อแกง อิอิ


โดย: วาดดาว วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:17:16:29 น.  

 
อ้อ..ลืมอีกอย่างค่ะ คุณชาวบ้านฯ
วาดดาว ฝากขอบคุณเจ้าของภาพ ที่วาดดาวขอหยิบยืมมาใส่ในเรื่องด้วยนะคะ
เกรงใจจังเลยไม่กล้าจิ๊กมาแยะ ห้ามใจสุดๆ
แต่ภาพสวยมากๆ เก็บแสงได้สวย อารมณ์จากสีหน้าชัดเจนมาก ฝีมือดีจริงๆ วาดดาวเซฟไว้หมดเลย งามเกินระงับใจค่ะ

ขอบคุณนะคะ


โดย: วาดดาว วันที่: 8 ตุลาคม 2550 เวลา:17:25:42 น.  

 
มาแก้ข่าวค่ะ ละครเรื่องใหม่ วัยอะเฟร่ด
//waiafraid.multiply.com/


โดย: ชาวบ้านบางกอกน้อย IP: 203.146.110.216 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:16:20:36 น.  

 
ขอบคุณนักข่าวสาว ผู้ว่องไวค่ะ

วัยอะเฟร่ด ฟังชื่อก็น่าจะฮาแล้ว
ยิ่งมีป้าจิ๊ พี่น็อตสุดหล่อ ปะทะเหล่า AF น่าดูเชียว

คุณชาวบ้านฯ แวะมาเล่าเรื่องราวให้ฟังบ้างนะคะ


โดย: วาดดาว วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:20:16:12 น.  

 
ตามเสียงระเบิดมาติดๆค่ะ....... (ทีแรกนึกว่าคุณวาดดาวจะเปิดบล็อคใหม่ เพราะเห็นโพสต์จนยาวมากแล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ ยังติดตามคุณอยู่เสมอ)เสียงเพรียกจากความตายครั้งนี้ฟังดูช่างโหยหวนทรมานความรู้สึกเหลือเกิน จำได้ว่าฉากนี้ดูแล้วขนลุกซู่ โดยเฉพาะเสียงที่เรียกโกโบริเข้าไปหา คล้ายจะดังจากฟากฟ้า ดังก้องแก้วหู ฟังแล้วตัวร้อนวูบ สะท้านในอก กระชากความรู้สึกจริงๆ.....ชอบประโยคนี้ค่ะ "ไม่มีบ้านให้กลับ ไม่มีคนรักให้เฝ้ารอคอย"...ช่างสรรค์สร้างถ้อยคำ กินใจเหลือเกินคำนี้.....มันเสียดแทงลึกในหัวใจ อยากร้องไห้...จริงๆเลย..... สำหรับอังศุมาลิน แค่เอื้อมเท่านั้นโลกทั้งโลกจะอยู่ในกำมือเธอ....แต่ก็เกินเอื้อมเกินไขว่คว้า.......


โดย: ธิป IP: 203.146.50.133 วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:11:16:18 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ ธิป

ชื่นใจจังมีเพื่อนร่วมเศร้า ต้องขอโทษจริงๆ อัพช้ามากๆ ต้องทำใจกับโรคเศร้าเรื้อรัง
ถึงฉากนี้ทีไรเครียดค่ะ เสียงเรียกชื่อ..โกโบริ บอกให้รีบมา ฟังคล้ายเสียงอังศุมาลินมาก (ตามประสาคนคิดมาก) ดูโหดร้ายเหลือเกินที่เรียกเขาไปหาความตายชัดๆ
อังศุมาลิน ผู้น่าสงสาร ทำอะไรไม่ได้นอกจากตามหาหัวใจตัวเองสุดชีวิตละทีนี้
บางทีก็กลับมาคิดว่า พวกเรานี่ซาดิสดีนะ รู้ว่าต้องร้องไห้ ปวดใจ ก็ยังอยากดูอยู่นั่น ไม่เข็ดซะที


โดย: วาดดาว วันที่: 15 ตุลาคม 2550 เวลา:12:59:27 น.  

 
เสียงคุณน้ำมนต์นั่นแหละค่ะ(คิดเอาเองว่าใช่นะคะ)....มาถึงฉากนี้แล้วเหรอคะ มองแบบผ่านๆเลยไม่รู้ว่ามีเนื้อหามาโพสต์ต่อ โอย....ใจจะขาดตามไป เสียงเรียกนั่นโหยหวนมากเลยค่ะคุณวาดดาว ตอนที่ดูไม่เคยมีภาพใดๆในหัวมาก่อน เคยดู เคยเห็นอะไรมาลบความทรงจำนั้นทิ้งให้หมด ซีดีกับสูจิบัตรได้แต่ถือไว้ไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น ...ทั้งที่อยากอ่าน แต่อดใจเอาไว้สุดฤทธิ์ รอลุ้นนับหนึ่งไปพร้อมๆกับเนื้อเรื่องอย่างเดียว พอเพลงนี้ขึ้นปุ๊บ จำได้ว่าตัวร้อนผ่าวแต่มือเท้าเย็นเฉียบ รู้สึกหลอนมากๆ ...กลัวตาม ยิ่งดนตรีนะ...สุดยอดเลยยกนิ้วให้ เยี่ยมจริงๆ ชวนเอามืออุดหูตามโกโบริ + สำนวนการเขียนของคุณวาดดาวนะได้อารมณ์มากค่ะ ขอชมจากใจจริง ขออนุญาต copy บทความของคุณมาเก็บไว้เป็นการส่วนตัวนะคะ ...ชอบมากจริงๆค่ะ
เดี๋ยวต่อไปจะถึงบทปิดท้ายของโศกนาฏกรรมแห่งความรักแล้ว ฮือ...ฮือ...แล้วจะไปหาผ้าเช็ดหน้ามานั่งอ่านไปซับน้ำตาไปที่หน้าจอคอมนะคะ


โดย: ซาโดะฯ IP: 203.146.50.133 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:10:22:59 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ ซาโดะฯ
ขอบคุณค่ะยังติดตามเป็นกำลังใจกันตลอด
ยินดีค่ะ เรื่องที่จะ copy ไว้อ่านเล่นเพลินๆ แต่ระวังโรคเศร้าติดสมองนะคะ

เรื่องราวมาจะถึงปลายทาง ก็ยิ่งบีบคั้นหัวใจ เพลงของเรื่องทำได้ดีจริงๆ ค่ะ อารมณ์สะเทือนใจเพิ่มขึ้นทุกที น่ากลัวจนเราๆ ยังไม่อยากได้ยิน การไม่มีภาพใดๆ ในสมองทำให้คุณซาโดะฯ ซึมซับทุกฉากทุกอารมณ์ได้มากมาย อิ่มเอมและประทับใจ รวมทั้งได้เข้าใจความโหดร้ายของสงครามอย่างแท้จริง ดีใจด้วยจริงๆ ค่ะ

ถึงวันนี้ก็ยังรู้สึกดีที่ได้ดูละครเวทีซึ่งไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงกับเรา

รอแต่ว่า..ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีวัน (คู่กรรม) กลับไปหรือไม่มี เท่านั้น



โดย: วาดดาว วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:17:26:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วาดดาว
Location :
สระบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบอ่าน เลยชอบเขียน
เขียนหมดทั้งนิยาย เรื่องสั้น (ถึงจะไม่ค่อยได้เรื่อง)
เขียนแม้กระทั่งบทละคร (แต่เก็บไว้อ่านเองซะมาก)
แต่ก็ยังฝัน
สักวันต้องมีหนังสือเป็นของตัวเองสักเล่ม (มีตอนยังมะตายนะ) ในนามปากกา.. รดา
(แต่ถูกคนอื่นนำไปใช้เสียแล้ว เศร้านิดๆ คงต้องหานามปากกาใหม่)

รักการดูละครเวที มาหลายปี วิจารณ์ไม่เป็น ใช้ใจวัดเท่านั้น
ไม่ว่าเรื่องไหนๆ ก็ไม่ประทับใจเท่าละครเพลง..คู่กรรม ก็เลยหลงรัก.. โกโบริ-เซกิ ตามอังศุมาลิน ไปซะแล้ว

****
Friends' blogs
[Add วาดดาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.