คีย์บอร์ดต่างกระบี่.........ร่ายวจีสยบวายุ
 
 

นิราศ MRT

NOTE :
1. นิราศนี้เป็นเพียงการแต่งเล่นๆ ข้าพเจ้าหาได้รำพันจากจรจากสาวใดไม่
2 . ก่อนจะอ่าน ...กรุณาเตรียมถุงพลาสติคหรือกระโถนไว้ข้างๆกาย และไม่ควรอ่านใน รถอาจทำให้เมารถจนถึงขั้นอาเจียนได้ง่ายๆ
3. กรุณากลับไปอ่านข้อ 2 อีกครั้ง .......เราเตือนคุณแล้ว


================
อนิจจา ลาทูนหัว ที่’หัวลำโพง’
อยากจะโพล่ง ความในใจ ข้างในนั้น
คงต้องใช้ ‘ลำโพง’ ซักร้อยอัน
เพียงจำนรรจ์ คำๆหนึ่ง “ คิดถึงเธอ ”

อกของพี่วาบหวามที่’สามย่าน’
นึกอยาก’สานย่าม’ซักใบให้เธอไว้
จะเอาไว้ ใส่อะไร ก็ตามใจ
...เผิ่อที่ไว้‘ใส่ใจ’พี่ นิดนึงพอ

ถึง’สีลม’ คนยังน้อย คล้อยหนาวสั่น
มิหนาวทัน ‘ลม’วจี ที่เสียด’สี’
อันหนาว’ลม’ ห่มผ้า ยังเข้าที
หนาววจี กรีดเข้าไป ถึงในทรวง

‘ลุมพินี’..พี่นี้ดังตกหลุม
ร้อนรุ่มรุ่ม ดังไฟรุม ‘หลุมพี่นี้’
โปรดส่งเชือก ให้พี่เถิด นะคนดี
แล้วดึงพี่ ขึ้นจาก....หลุมรักนาง

รถ เทียบท่าสถานี..’ศูนย์สิริกิติ์’
คล้าย’สะกิด’ข้างในฤทัยพี่
อยากมาเดิน Book fair กับคนดี
...อย่ามาเดิน ในใจพี่ แบบนี้เลย

ถึง ‘คลองเตย’เอ่ยอ้างคำคิดถึง
พี่รำพึง ถึงกลิ่น นุชน้องเอ๋ย
กลิ่นไออวล ดั่งนวลน้อง’ครอง’ ใบ ‘เตย’
...เนียนจังเลย ..เฉยแบบนี้..กลิ่นตดใคร(วะ!!)

‘สุขุมวิท’... แต่จิตพี่ มิ’สุขุม’
ดังมีไฟมาสุมรุมเอาไว้
จำต้อง’วิด’น้ำมาเพื่อดับไฟ
ขอได้ไหม ..น้ำใสๆ จากใจเธอ

รถเข้าจอดเบ็ดเสร็จ’เพชรบุรี’
ที่แห่งนี้ พี่ยัง เคยสงสัย
‘เพชรบุรี’ ยังต้องมี ที่‘ตัดใหม่’
ใยฤทัย ..มิ ‘ตัดใจ’ ไปจากเธอ

แลยามเราเข้าระยะ’พระรามเก้า’
นึกเรื่องราวรามเกียรติ์ขีดเขียนไว้
‘พระราม’ รักนางสีดามากเพียงใด
พี่ก็รักยาใจคือคือกัน

‘ศูนย์วัฒนธรรม’รำลึกให้นึกย้ำ
‘วัฒนธรรม’ไทยนี้ดีหนักหนา
....แห่ขันหมาก มีตั้งแต่ โบราณมา
ชวนแก้วตามาร่วมอนุรักษ์กัน

ถึง ‘ห้วย’ขวางห่างมาพาให้หวล
คิดทบทวน เก็บเงิน ไปสู่ขอ
‘ห้วย’จะ’ขวาง’ จะถ่อไป ไม่ย่อท้อ
โอ้ละหนอ!! เจือกเสีย‘หวย’ ..ซวยเลยกรู (…. ‘หวย’ ขวางสินะ )

‘สุทธิสาร’ผ่านมาช่างล้านัก
‘สุดที่รัก’ ‘สาน’สัมพันธ์ กันเถิดหนา
ช่วย’สงสาร’ พี่เถิด นะแก้วตา
....เอา ‘ข้าวสาร’ มาเสก พี่ทำไม

แลรถแล่นเลาะลัดถึง ‘รัชดา’
โอ .. ‘ชะตา’ ดังถูก ‘รัด’ ด้วยลวดหนาม
ช่างเจ็บปวด ถ้วนทั่ว ทุกชั่วยาม
คงถึงยาม พี่โผ ...โพเซดอน

ถึง ‘ลาดพร้าว’ผ่าวร้อนอ่อนใจคอย
ดังกบน้อย ..หมายจะสอย ผลมะพร้าว
พี่มันจน ‘ทรัพย์สิน’ ไม่แพรวพราว
แต่ ‘หนี้สิน’ พราวแพรว ....นะแก้วตา

‘พหลโยธิน’นามนี้นึกถึงทหาร
พี่เคยผ่านเกณท์ทหารมาแล้วสิ้น
ฝันอยากเป็นเป็น ‘นาวิกโยธิน’
จะปกปักษ์ ยุพิน จนสิ้นใจ

ถึง ‘จตุจักร’ ตั้งจิต อธิษฐานขอ
อยากจะหล่อ เหมือน ‘จุลจักร’ (จักรพงศ์)จักได้ไหม
แค่...จั๊กกะนิด จั๊กกะหน่อย จะเป็นไร
...แค่คล้ายๆ ก๊อต ‘จักรพรรณ’ ก็ยังดี

‘กำแพงเพชร’ ผ่านมาตั้งตารอ
โอ้ละหนอ....ขอสักเม็ด จะได้ไหม
ก็ ’เพชร’ มัน ‘แพง’...หาไปหมั้น ก็จนใจ
......... ‘เพชร’ไม่ได้ ขอ ‘เพร็ตตี้’ ก็ยังดี (???)

จุดสุดท้ายปลายทางที่ ‘บางซื่อ’
แม้นหาก ‘ซื้อ’เวลาได้เหมือนฝัน
พี่จะรักสัตย์ ‘ซื่อ’ ต่อนวลจันทร์
จะขออยู่ด้วยกันจนวันตาย

========================
ออกสถานีนี่นี้ทั้งน้ำตา ที่จากมา จนใจ จำจากเจ้า
ต้องทำงาน เก็บเงิน ขอนงเยาว์ เสร็จเย็นนี้ พี่จะไป หากานดา

เหลียวมองคนเดินผ่านมาผ่านไป เห็นเขาใส่สวมเสื้อชมพูพร้อมหน้า
นึกขึ้นได้ ...วันนี้วันพ่อนี่นา อ้าว...ไอ้บ้า .....แล้วกรูมา........ทำ(เฮ่) อะไร ?????
..........................

ซงย้ง... ประพันธ์


(.......แล้วจะรำพึงรำพันมาตลอดทางเพื่อ???)




 

Create Date : 26 มีนาคม 2553   
Last Update : 26 มีนาคม 2553 19:30:26 น.   
Counter : 475 Pageviews.  


Life is Beautiful

Life is Beautiful
.................................

เห็นหัวข้อแบบนี้อย่าเพิ่งหาว่าผมกระแดะตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ผมจะพูดถึงหนังเรื่องหนึ่งที่มีชื่อตามชื่อกระทู้นั่นแหละครับ

…เป็นหนังเก่าพอดูแล้วล่ะ แต่นึกถึงทีไรผมก็ยังรู้สึกประทับใจทุกครั้ง
รู้สึกจะได้รางวัล (อะไรก็ไม่รู้ จำชื่อไม่ได้) เยอะพอดูเหมือนกันแหละ

Life is Beautiful เป็นเรื่องของพ่อลูกชาวยิวที่มีชีวิตอยู่ในค่ายกักกันนักโทษ
ในสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
…ว่ากันว่าค่ายกักกันนักโทษชาวยิว เป็นอะไรที่สาหัสสากันต์(ไม่รู้ผมเขียนผิดรึเปล่า?) สุดๆ
เพราะอีตาฮิตเลอร์เค้าเกลียดชาวยิวเข้าไส้เข้ากระดูกดำ

เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกมันตรงข้ามกับชื่อเรื่องสุดๆเลยใช่มั๊ยล่าา

ทีนี้มาดูกันว่ามันจะ beautiful กันยังไง

….พ่อลูกคู่นี้ก่อนที่จะมาอยู่ในค่ายกักกัน เค้าเคยมาจากครอบครัวที่อบอุ่นในอิตาลี
มีแม่ที่ใจดี รักพ่อและลูกมาก
มีพ่อเป็นคนสนุกสนาน มองโลกในแง่ดี (ถึงดีมาก)
ไม่ว่าสถานการณ์ในช่วงสงครามจะย่ำแย่ลงยังไง เค้าก็ยังทำตัวตลกให้ลูกได้หัวเราะอยู่เสมอ

จนกระทั่งวันนึงมีคำสั่งให้จับชาวยิวไปไว้ที่ค่ายกักกัน
พ่อกับลูกได้ไปด้วยกันในขณะที่แม่ถูกจับย้ายไปอีกแห่ง เนื่องจากเป็นผู้หญิง

…พ่อบอกลูกว่า เราเป็นผู้โชคดี ได้รางวัลไปท่องเที่ยวเมืองอื่น


ท่ามกลางผู้คนที่มีสีหน้าสิ้นหวังในรถขนส่งโกโรโกโส
ชายหนุ่มคนนึงกลับยิ้มให้ลูก เล่นกับลูก ราวกับว่าทั้งคู่กำลังจะได้ไปเที่ยวกัน
…. ทั้งที่ผู้เป็นพ่อรู้อยู่ว่า โอกาสรอด น้อยเพียงใด

ในค่ายกักกันนั้น พวกผู้ชายถูกเกณท์ไปใช้แรงงานอย่างหนัก
แต่ไม่ว่ามันจะหนักขนาดไหน จะถูกทรมานมาเพียงใด
ทุกเย็น ที่พ่อกลับมายังที่พัก เขาจะทำตัวสนุกสนานให้ลูกเห็นตลอดเวลา

….เขาจะบอกลูกอยู่เสมอว่า เรากำลังเล่นเกมซ่อนหากันอยู่
เกมนี้ใช้เวลาเล่นนานพอดู แต่ผู้ชนะจะได้รางวัลเป็นรถถังชุดใหญ่ครบเซ็ต

เพราะฉะนั้นตอนกลางวันที่พ่อออกไป ลูกต้องแอบอยู่ในที่พักให้เงียบเชียบที่สุด
ถึงมีคนเสียงดังๆมาโวยวาย (พวกทหารผู้คุม) ก็ห้ามออกไป
(เด็กๆซึ่งไร้ประโยชน์ต่อกองทัพนาซี จะถูกพาไปรมควันด้วยแก๊ซพิษ )

….นานไปๆ อาหารเริ่มร่อยหรอลงทุกวัน นักโทษกักกันก็น้อยลงไปทุกทีๆ (..ล้มหายตายจากกันไป)

ถึงกระนั้น พ่อก็จะปลีกอาหารส่วนของตนมาให้ลูก แล้วปลอบลูกด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเคยตลอดมา
… เกมจะจบลงแล้ว อีกไม่นานลูกก็จะได้รางวัลแล้ว

ช่วงสุดท้ายของเรื่อง กองทัพสัมพันธมิตรมาช่วย ค่ายกักกันเลยถูกล้มเลิก
….นักโทษทุกคนถูกหลอกให้ขึ้นรถบรรทุก เพื่อพาไปสังหารหมู่
แต่พ่อรู้ทันก่อน เลยให้ลูกไปซ่อนตัวไว้
แล้วบอกว่า นี่เป็นช่วงสุดท้ายของเกม
ให้ลูกแอบอยู่ในนั้นจนกว่าจะไม่เห็นใคร

พอสั่งเสียเสร็จ ก็รีบวิ่งจะไปบอกข่าวให้แม่รู้
…….แต่กลับถูกยิงตายไปซะก่อน

…เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ (ในเรื่องไม่บอกไว้)
ขบวนรถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรก็มาถึง
เด็กน้อยดีใจ ที่ได้เห็นรางวัลตามที่พ่อตนได้บอกเอาไว้
แถมยังได้เจอแม่

…..แต่เค้าไม่รู้หรอกว่า รางวัล ที่แท้จริงที่พ่อได้ให้เอาไว้ก่อนตาย
คือ ทัศนคติในการมองโลก …. ต่างหากเล่า


คนเราทุกคนมีแว่นกันคนละอันครับ
…แว่นนี้ไม่มีกรอบ มีแต่เลนส์ (แล้วทำไมตรู ไม่เรียกว่าคอนแทคเลนส์ฟะ = =”)
บางทีเราก็เรียกมันว่า ‘ทัศนคติ’

อย่างในเรื่องนี้ คุณพ่อคนนี้เค้าใส่แว่นอันนึงให้ลูกของเค้า
…เป็นแว่นแบบเดียวกันกับของพ่อเป๊ะๆ
และผมเชื่อว่า เจ้าหนูคงต้องใส่แว่นอันนี้ไปอีกนานเลยล่ะครับ

ความจริงพวกเราก็เคยมีแว่นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
แต่ค่อยๆมาเปลี่ยนกันตอนจะโตเนี่ยแหละ
บางคนเปลี่ยนแว่นตามสภาพแวดล้อม บางคนเปลี่ยนตามเพื่อน
ใส่ไปเล่นๆ ไปๆมาๆ …ลืมถอดซะงั้น

บางคนมองโลกดูจะหม่นหมองมืดมัวไปซะหมด
…..ลืมไปว่าตัวเองใส่แว่นดำอยู่

ในขณะที่บางคนมองโลกเป็นสีชมพู๊ชมพู
อะไรๆ ก็ดูน่ารักสดใสไปหมด
(…..ไอ้นี่ แฟนใส่ให้แน่ๆ = =”)

พวกนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ใส่เป็นพักๆ ฮิตเป็นเทศกาล
เปลี่ยนบ่อยๆ ชีวิตจะได้ไม่จำเจ

……อย่างน้อยเค้าก็ยังรู้ตัว ว่าใส่แว่นอะไรอยู่

แต่บางคนที่เค้ายุ่งๆ เค้าลืมจริงๆครับ ว่าตัวเองใส่แว่นอะไรอยู่
ใส่กันทั้งวัน จะนอนก็ยังใส่
ไม่รู้ติดใจอะไรกันนักหนา

.....จากผลสำรวจของสถาบันวิจัยบ้านหนองตับเป็ด ได้รายงานว่า
แว่นที่คนส่วนใหญ่ชอบใส่ โดยไม่ถอดนั้นมีดังนี้

1 แว่นดำ ……พวกนี้น่าเห็นใจครับ ชีวิตเค้าอาจจะเจออะไรไม่ดีมาเยอะ แว่นดำนี่เป็นแว่นอาถรรพ์ครับ
ตอนจะใส่ก็ไม่รู้ตัว แต่หากเริ่มใส่เมื่อไหร่ …ถอดยากมากๆ

2 แว่นมัว ……พวกนี้ตอนเด็กๆก็ยังใสอยู่หรอกครับ แต่นานไปๆ โดนฝุ่นโดนควัน มรสุมรุมเร้า ทุกวันๆ
มันก็มัว แล้วก็ลืมถอดมาเช็ดกัน (…อนึ่ง..พวกนี้ปล่อยไว้นานๆจะกลายเป็นแว่นดำไปในที่สุด)

3 แว่นที่มีเลนส์รูปตัว $...... พวกนี้ใส่แล้วมองอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมดครับ ใส่แล้วมีจิตมารครอบงำ
ทำได้ทุกอย่าง ยอมสละ อุดมการณ์ ความฝัน ความถูกต้อง สละทุกอย่างได้เพื่อเงินครับ


……ใครที่รู้ตัวว่าใส่แว่นอันใดอันหนึ่งในสามอันข้างบนนี้
ผมแนะนำให้ถอด แล้วเปลี่ยนแว่นใหม่ดีกว่ามั๊ยครับ??

เอาล่ะ …ถึงตรงนี้ ผมคิดว่าบางคนอาจจะอยากบอกผมอย่างสุภาพว่า

“…ก็เมิงไม่ได้เจอปัญหาใหญ่ๆ หนักหนาสาหัสแบบกรู เมิงก็พูดได้นี่หว่า … แสรดดด”

อันนี้ผมเข้าใจครับ …
ผมไม่ได้บอกว่า พอคุณเปลี่ยนแว่นปุ๊บ ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายสลายโต๋วไปในพริบตา

แต่ผมอยากให้คุณมองปัญหา ผ่านมุมมองใหม่ที่มันชัดเจนแจ่มใสกว่าเดิม เท่านั้นแหละครับ

….อย่างน้อยๆ คุณก็มีบ้านอยู่ มีข้าวกินครบ 3 มื้อ
……..อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ได้ถูกคุมตัวไปอยู่ในค่ายกักกัน
………..อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ได้อยู่อย่างหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่

ถ้าสองพ่อลูกคู่นั้นเค้ามองเห็น ชีวิต …เป็นสิ่งสวยงามได้

….ผมว่า คุณ ….ก็ต้องมองผ่านเลนส์อันนั้นได้เหมือนกัน





 

Create Date : 05 มีนาคม 2553   
Last Update : 5 มีนาคม 2553 15:51:52 น.   
Counter : 577 Pageviews.  


(ปฐมบล๊อก)...สู่ที่พำนักแห่งใหม่

....สู่ที่พำนักแห่งใหม่

คนหนึ่ง... กระบี่หนึ่ง...

ออกตระเวณท่องไปทั่วแห่งหน

เพื่อแสวงหาตัวตน......บนหนทาง

อ้างว้าง...เหน็บหนาว .... ทว่ามีแสงจันทร์คอยนำทาง

........
วัน..เดือน..ปี ที่ผันผ่าน

ฝากฝังรอยจาร ไว้บนหินผา

จรดรอยพู่กันไว้บนศิลา

ในพิภพลวงตา....เสมือนจริง

............

บัดนี้.....

ได้รอนแรมมาถึง

ยุทธภพแห่งหนึ่ง ชื่อพันทิป

ยินเสียงลมกระซิบ

'หยุดพำนักเถิด คนจร'


............

คารวะเพื่อนผอง...น้องพี่

ผู้น้อยคนแปลกที่ มิอาจผยอง

ขอเพียงที่พำนักอาศัยเพียงสักห้อง

เอาไว้ฝากผลงาน..บรรณการ

.........

ขอเหล่าศิษย์พี่โปรดชี้แนะ

หากข้องแวะสิ่งใดผิดวิถี

อันผู้น้อยอ่อนด้อย โปรดปรานี

เอื้อเฟื้อกวีคนจร..ผู้นี้เอย






 

Create Date : 04 มีนาคม 2553   
Last Update : 4 มีนาคม 2553 17:08:13 น.   
Counter : 309 Pageviews.  


กลอนโสดประชดวันวาเลนไทน์

ฟ แฟนนั้นหายาก ต้องลำบากจีบกันไป
จีบหญิงยากบรรลัย ข้อยนั้นไซร้จีบบ่เป็น
ญ หญิงมีมากมาย แต่ซักรายกลับไม่เห็น
ห แห้วกินทุกเย็น ราวกับเป็นของโปรดเรา

ดูหนังดูกับใคร ตั๋วหนึ่งใบกับใจเหงา
ป๊อบคอร์นของตัวเรา ตังของเราเลี้ยงเราเอง
ไม่มีใครแย่งบ้าง หันมองข้างดูเคว้งๆ
ฉากเศร้า เราเหงาเอง ฉากครื้นเครง ขำกับใคร ?

เสวนเซ่นก็อยากกิน เกิดถวิลคิดสงสัย
คนเดียวกินได้ไหม ใยชอบไปเป็นคู่จัง
ไอติมอยู่ตรงหน้า ไร้ใบหน้าคนอีกฝั่ง
ไอติมกินลำพัง รสชาติช่างชืดเหลือทน

เดินห้างเดินคนเดียว ไร้ก้อยเกี่ยวและมือกุม
ไม่มีใครมาคุม เดินดุ่มๆไม่สนใคร
หันมองคนรอบข้าง กุมมือย่างเดินคู่ไป
มืออีกข้าง ไปไหน แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอ

กลับบ้าน ไร้คนส่ง ไอ้ซงย้งเดินเอ๋อๆ
มองเขาไปส่งเธอ เราชะเง้อ ส่งไกลๆ
มีรถ..เอ็งก็เท่ห์ ข้า..รถเมล์เท่ห์กว่าไหม
เชิญน้องตัดสินใจ เอ้าว่าไง เฮ่ยย… ไปไม่รอ TT TT

มีมือถือเหมือนมีสาก มันลำบากใจจริงหนอ
เมื่อไหร่จะดังน๊ออ ได้แต่รอมันปลุกเอง
โทรไปก็ไม่กล้า มือมันคว้า แต่ใจเคว้ง
มันเขิลล นะตัวเอง ยิงเล่งๆ ก็อย่าว่ากัน ….อิอิ ^ ^

เพื่อนแท้ มันก็ทิ้ง จะรีบชิ่ง ไปไหนล่ะนั่น
มีแฟน ก็ลืมกัน เห็นปลามัน เลยลืมแกง…..เชอะ
ไปเที่ยว แยกเป็นคู่ จู้ฮุกกรู …สุขของแมร่ง
ทิ้งตรูอยู่กับไอ้แห้ง จะจีบแมร่ง ก็เกรงจายยย


กลอนสุภาพ

ก็แค่วัน ธรรมดา เพียงวันหนึ่ง ไม่ได้ลึก ไม่ได้ซึ้ง สักเพียงไหน
ก็แค่คน อยากกุมมือเดินกันไป ก็แค่ใคร ใส่ใจ อะไรคน
ก็อีแค่วันวาเลนไทน์ กับความหมายที่ใครจะไปสน
ก็แค่เรื่องของคนสองคน ก็แค่บ่น ใช่อิจฉา อะไรกัน



ก็แค่วัน ธรรมดา อีกวันหนึ่ง ที่แค่ฟัง เพลงซึ้ง แล้วนึกเหงา
ก็แค่ฮัม เพลงตามอยู่เบาๆ ไม่ได้เศร้า ไม่ได้เหงา ซะหน่อยเรา
ก็แค่เขา อยากให้ ดอกไม้เธอ ก็แค่เธอ ที่รอรับ ดอกไม้เขา
ก็แค่ใคร อยากบอกรัก กันเบาๆ ก็แค่เรา ที่แอบมอง อยู่ไกลๆ


กะอีแค่วันวาเลนไทน์ ก็แค่วัน ที่คล้ายๆ จะสุขสันต์
กับความหมายที่คล้ายๆจะสำคัญ หากมี ใครคนนั้น…..คงจะดี
ก็แค่คนธรรมดาซักคนหนึ่ง ที่ให้คอย ให้คิดถึง ขอแค่นี้
ก็แค่ ใครที่รู้ใจ เราซักที เติมความหมาย ให้วันนี้ ..,มันสำคัญ



โคลงสี่สุภาพ

โอ้อนาถอ้า อกเอ๋ย...................อันข้า
ไร้คู่เคียงกายา........................แอบเศร้า
ผองเพื่อนพี่นั้นหา....................ได้หมด (เซ็งตู)
เหลือแต่ตูงี่เง่า........................แดกแห้ว ทั้งกะปี

จีบหญิงแสนยากแต๊.................โคตรบรม
ฤาข้อยที่โง่งม.........................งี่เง่า
อ้ายจึ่งต้องตรอมตรม................แม่นแต๊ แม่เอย
วอนอี่น่องมาซอยเฮา................มั่วภาค แล้วกู

อันอนงค์นางหนึ่งคล้าย..............ย่งยี้
ต้องจิตข้านักนี่........................แมร่งเอ๊ย
รูปร่าง หน้าตางี้....................….บ้านบ้าน
กูชอบของกูนี่เหวย....................จีบได้ คงดี

อยากจีบก็ยากโคตร..................ลำเค็ญ
ว่าวเจ๊กก็บ่ เป็น........................เศร้าแต๊
หลางหว่ออ้ายหนี่ พอเป็น...........มั่วได้
แต่..หนี่จะอ้ายหว่อแม๊ ??...........ฝันไป เหอะมรึง!! TT O TT

โอ้สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง.............สุดเซ็ง
ใยมิให้ข้าเกิดเป็น “ก๊วยเจ๋ง”........เล่าฟ้า
จริงๆ อั๊วพูกเล่ง.......................ยกโทษ ข้าล่วย
เป็น “ซงย้ง”ดีแล้วหนา..............ไม่หล่อ ..แต่จน(เออ เอาเข้าไป )

พูดค่อยไม่เก่ง........................แต่รัก หมดใจ
พี่กวางเคยกล่าวไว้...................ท่อนสร้อย
พูดงั้นก็พูดได้.........................เพ่หล่อ นี่ก๊าบ
พูดไม่เก่ง แถมหน้าจ๋อย............แดกแห้ว เหอะมรึง

ใครหนอช่างเปรียบข้า................หมาวัด
ใยเจือกมาหมายวัด...................ดอกฟ้า
เพลงยุทธกี่ท่างัด......................ใช้หมด
เจือกพ่ายกระบวนท่า.................เดชเบนซ์ ป้ายแดง

อนิจจาอันข้านี้.........................บุญน้อย
บุพเพไป่เคลื่อนคล้อย...............เข้าข้าง
วอนผองเพื่อนอย่าคอย..............เหยียบย่ำ ยำตีน
ไร้”บุพเพ”อาจอ้าง....................เลี้ยงบุฟเฟ่(โออิชิ) กรูที




 

Create Date : 04 มีนาคม 2553   
Last Update : 4 มีนาคม 2553 17:05:47 น.   
Counter : 1373 Pageviews.  



ซงย้ง
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




จอมยุทธพเนจร ...ผู้มีมิตรแท้คือจันทราและราตรี
[Add ซงย้ง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com