นิราศ MRT
NOTE : 1. นิราศนี้เป็นเพียงการแต่งเล่นๆ ข้าพเจ้าหาได้รำพันจากจรจากสาวใดไม่2 . ก่อนจะอ่าน ...กรุณาเตรียมถุงพลาสติคหรือกระโถนไว้ข้างๆกาย และไม่ควรอ่านใน รถอาจทำให้เมารถจนถึงขั้นอาเจียนได้ง่ายๆ3. กรุณากลับไปอ่านข้อ 2 อีกครั้ง .......เราเตือนคุณแล้ว ================อนิจจา ลาทูนหัว ที่หัวลำโพงอยากจะโพล่ง ความในใจ ข้างในนั้น คงต้องใช้ ลำโพง ซักร้อยอัน เพียงจำนรรจ์ คำๆหนึ่ง คิดถึงเธอ อกของพี่วาบหวามที่สามย่านนึกอยากสานย่ามซักใบให้เธอไว้ จะเอาไว้ ใส่อะไร ก็ตามใจ ...เผิ่อที่ไว้ใส่ใจพี่ นิดนึงพอ ถึงสีลม คนยังน้อย คล้อยหนาวสั่น มิหนาวทัน ลมวจี ที่เสียดสีอันหนาวลม ห่มผ้า ยังเข้าที หนาววจี กรีดเข้าไป ถึงในทรวง ลุมพินี..พี่นี้ดังตกหลุมร้อนรุ่มรุ่ม ดังไฟรุม หลุมพี่นี้โปรดส่งเชือก ให้พี่เถิด นะคนดี แล้วดึงพี่ ขึ้นจาก....หลุมรักนางรถ เทียบท่าสถานี..ศูนย์สิริกิติ์ คล้ายสะกิดข้างในฤทัยพี่อยากมาเดิน Book fair กับคนดี ...อย่ามาเดิน ในใจพี่ แบบนี้เลยถึง คลองเตยเอ่ยอ้างคำคิดถึงพี่รำพึง ถึงกลิ่น นุชน้องเอ๋ยกลิ่นไออวล ดั่งนวลน้องครอง ใบ เตย ...เนียนจังเลย ..เฉยแบบนี้..กลิ่นตดใคร(วะ!!) สุขุมวิท... แต่จิตพี่ มิสุขุม ดังมีไฟมาสุมรุมเอาไว้จำต้องวิดน้ำมาเพื่อดับไฟขอได้ไหม ..น้ำใสๆ จากใจเธอ รถเข้าจอดเบ็ดเสร็จเพชรบุรี ที่แห่งนี้ พี่ยัง เคยสงสัย เพชรบุรี ยังต้องมี ที่ตัดใหม่ ใยฤทัย ..มิ ตัดใจ ไปจากเธอแลยามเราเข้าระยะพระรามเก้านึกเรื่องราวรามเกียรติ์ขีดเขียนไว้พระราม รักนางสีดามากเพียงใด พี่ก็รักยาใจคือคือกันศูนย์วัฒนธรรมรำลึกให้นึกย้ำ วัฒนธรรมไทยนี้ดีหนักหนา....แห่ขันหมาก มีตั้งแต่ โบราณมาชวนแก้วตามาร่วมอนุรักษ์กันถึง ห้วยขวางห่างมาพาให้หวลคิดทบทวน เก็บเงิน ไปสู่ขอห้วยจะขวาง จะถ่อไป ไม่ย่อท้อ โอ้ละหนอ!! เจือกเสียหวย ..ซวยเลยกรู ( . หวย ขวางสินะ )สุทธิสารผ่านมาช่างล้านักสุดที่รัก สานสัมพันธ์ กันเถิดหนาช่วยสงสาร พี่เถิด นะแก้วตา....เอา ข้าวสาร มาเสก พี่ทำไมแลรถแล่นเลาะลัดถึง รัชดาโอ .. ชะตา ดังถูก รัด ด้วยลวดหนามช่างเจ็บปวด ถ้วนทั่ว ทุกชั่วยามคงถึงยาม พี่โผ ...โพเซดอนถึง ลาดพร้าวผ่าวร้อนอ่อนใจคอย ดังกบน้อย ..หมายจะสอย ผลมะพร้าวพี่มันจน ทรัพย์สิน ไม่แพรวพราว แต่ หนี้สิน พราวแพรว ....นะแก้วตาพหลโยธินนามนี้นึกถึงทหาร พี่เคยผ่านเกณท์ทหารมาแล้วสิ้นฝันอยากเป็นเป็น นาวิกโยธินจะปกปักษ์ ยุพิน จนสิ้นใจถึง จตุจักร ตั้งจิต อธิษฐานขออยากจะหล่อ เหมือน จุลจักร (จักรพงศ์)จักได้ไหมแค่...จั๊กกะนิด จั๊กกะหน่อย จะเป็นไร...แค่คล้ายๆ ก๊อต จักรพรรณ ก็ยังดีกำแพงเพชร ผ่านมาตั้งตารอ โอ้ละหนอ....ขอสักเม็ด จะได้ไหมก็ เพชร มัน แพง...หาไปหมั้น ก็จนใจ......... เพชรไม่ได้ ขอ เพร็ตตี้ ก็ยังดี (???) จุดสุดท้ายปลายทางที่ บางซื่อ แม้นหาก ซื้อเวลาได้เหมือนฝันพี่จะรักสัตย์ ซื่อ ต่อนวลจันทร์ จะขออยู่ด้วยกันจนวันตาย========================ออกสถานีนี่นี้ทั้งน้ำตา ที่จากมา จนใจ จำจากเจ้าต้องทำงาน เก็บเงิน ขอนงเยาว์ เสร็จเย็นนี้ พี่จะไป หากานดา เหลียวมองคนเดินผ่านมาผ่านไป เห็นเขาใส่สวมเสื้อชมพูพร้อมหน้า นึกขึ้นได้ ...วันนี้วันพ่อนี่นา อ้าว...ไอ้บ้า .....แล้วกรูมา........ทำ(เฮ่) อะไร ?????..........................ซงย้ง... ประพันธ์(.......แล้วจะรำพึงรำพันมาตลอดทางเพื่อ???)
Life is Beautiful
Life is Beautiful.................................เห็นหัวข้อแบบนี้อย่าเพิ่งหาว่าผมกระแดะตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษนะครับผมจะพูดถึงหนังเรื่องหนึ่งที่มีชื่อตามชื่อกระทู้นั่นแหละครับ เป็นหนังเก่าพอดูแล้วล่ะ แต่นึกถึงทีไรผมก็ยังรู้สึกประทับใจทุกครั้งรู้สึกจะได้รางวัล (อะไรก็ไม่รู้ จำชื่อไม่ได้) เยอะพอดูเหมือนกันแหละLife is Beautiful เป็นเรื่องของพ่อลูกชาวยิวที่มีชีวิตอยู่ในค่ายกักกันนักโทษในสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่ากันว่าค่ายกักกันนักโทษชาวยิว เป็นอะไรที่สาหัสสากันต์(ไม่รู้ผมเขียนผิดรึเปล่า?) สุดๆ เพราะอีตาฮิตเลอร์เค้าเกลียดชาวยิวเข้าไส้เข้ากระดูกดำเห็นแบบนี้แล้วรู้สึกมันตรงข้ามกับชื่อเรื่องสุดๆเลยใช่มั๊ยล่าาทีนี้มาดูกันว่ามันจะ beautiful กันยังไง .พ่อลูกคู่นี้ก่อนที่จะมาอยู่ในค่ายกักกัน เค้าเคยมาจากครอบครัวที่อบอุ่นในอิตาลีมีแม่ที่ใจดี รักพ่อและลูกมาก มีพ่อเป็นคนสนุกสนาน มองโลกในแง่ดี (ถึงดีมาก) ไม่ว่าสถานการณ์ในช่วงสงครามจะย่ำแย่ลงยังไง เค้าก็ยังทำตัวตลกให้ลูกได้หัวเราะอยู่เสมอจนกระทั่งวันนึงมีคำสั่งให้จับชาวยิวไปไว้ที่ค่ายกักกันพ่อกับลูกได้ไปด้วยกันในขณะที่แม่ถูกจับย้ายไปอีกแห่ง เนื่องจากเป็นผู้หญิง พ่อบอกลูกว่า เราเป็นผู้โชคดี ได้รางวัลไปท่องเที่ยวเมืองอื่น ท่ามกลางผู้คนที่มีสีหน้าสิ้นหวังในรถขนส่งโกโรโกโส ชายหนุ่มคนนึงกลับยิ้มให้ลูก เล่นกับลูก ราวกับว่าทั้งคู่กำลังจะได้ไปเที่ยวกัน . ทั้งที่ผู้เป็นพ่อรู้อยู่ว่า โอกาสรอด น้อยเพียงใดในค่ายกักกันนั้น พวกผู้ชายถูกเกณท์ไปใช้แรงงานอย่างหนักแต่ไม่ว่ามันจะหนักขนาดไหน จะถูกทรมานมาเพียงใด ทุกเย็น ที่พ่อกลับมายังที่พัก เขาจะทำตัวสนุกสนานให้ลูกเห็นตลอดเวลา .เขาจะบอกลูกอยู่เสมอว่า เรากำลังเล่นเกมซ่อนหากันอยู่ เกมนี้ใช้เวลาเล่นนานพอดู แต่ผู้ชนะจะได้รางวัลเป็นรถถังชุดใหญ่ครบเซ็ตเพราะฉะนั้นตอนกลางวันที่พ่อออกไป ลูกต้องแอบอยู่ในที่พักให้เงียบเชียบที่สุดถึงมีคนเสียงดังๆมาโวยวาย (พวกทหารผู้คุม) ก็ห้ามออกไป(เด็กๆซึ่งไร้ประโยชน์ต่อกองทัพนาซี จะถูกพาไปรมควันด้วยแก๊ซพิษ ) .นานไปๆ อาหารเริ่มร่อยหรอลงทุกวัน นักโทษกักกันก็น้อยลงไปทุกทีๆ (..ล้มหายตายจากกันไป)ถึงกระนั้น พ่อก็จะปลีกอาหารส่วนของตนมาให้ลูก แล้วปลอบลูกด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างเคยตลอดมา เกมจะจบลงแล้ว อีกไม่นานลูกก็จะได้รางวัลแล้ว ช่วงสุดท้ายของเรื่อง กองทัพสัมพันธมิตรมาช่วย ค่ายกักกันเลยถูกล้มเลิก .นักโทษทุกคนถูกหลอกให้ขึ้นรถบรรทุก เพื่อพาไปสังหารหมู่แต่พ่อรู้ทันก่อน เลยให้ลูกไปซ่อนตัวไว้ แล้วบอกว่า นี่เป็นช่วงสุดท้ายของเกมให้ลูกแอบอยู่ในนั้นจนกว่าจะไม่เห็นใคร พอสั่งเสียเสร็จ ก็รีบวิ่งจะไปบอกข่าวให้แม่รู้ .แต่กลับถูกยิงตายไปซะก่อน เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ (ในเรื่องไม่บอกไว้)ขบวนรถถังของฝ่ายสัมพันธมิตรก็มาถึงเด็กน้อยดีใจ ที่ได้เห็นรางวัลตามที่พ่อตนได้บอกเอาไว้แถมยังได้เจอแม่ ..แต่เค้าไม่รู้หรอกว่า รางวัล ที่แท้จริงที่พ่อได้ให้เอาไว้ก่อนตาย คือ ทัศนคติในการมองโลก . ต่างหากเล่าคนเราทุกคนมีแว่นกันคนละอันครับ แว่นนี้ไม่มีกรอบ มีแต่เลนส์ (แล้วทำไมตรู ไม่เรียกว่าคอนแทคเลนส์ฟะ = =)บางทีเราก็เรียกมันว่า ทัศนคติอย่างในเรื่องนี้ คุณพ่อคนนี้เค้าใส่แว่นอันนึงให้ลูกของเค้า เป็นแว่นแบบเดียวกันกับของพ่อเป๊ะๆและผมเชื่อว่า เจ้าหนูคงต้องใส่แว่นอันนี้ไปอีกนานเลยล่ะครับความจริงพวกเราก็เคยมีแว่นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆแต่ค่อยๆมาเปลี่ยนกันตอนจะโตเนี่ยแหละบางคนเปลี่ยนแว่นตามสภาพแวดล้อม บางคนเปลี่ยนตามเพื่อนใส่ไปเล่นๆ ไปๆมาๆ ลืมถอดซะงั้นบางคนมองโลกดูจะหม่นหมองมืดมัวไปซะหมด ..ลืมไปว่าตัวเองใส่แว่นดำอยู่ในขณะที่บางคนมองโลกเป็นสีชมพู๊ชมพูอะไรๆ ก็ดูน่ารักสดใสไปหมด( ..ไอ้นี่ แฟนใส่ให้แน่ๆ = =) พวกนี้ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่ ใส่เป็นพักๆ ฮิตเป็นเทศกาลเปลี่ยนบ่อยๆ ชีวิตจะได้ไม่จำเจ อย่างน้อยเค้าก็ยังรู้ตัว ว่าใส่แว่นอะไรอยู่ แต่บางคนที่เค้ายุ่งๆ เค้าลืมจริงๆครับ ว่าตัวเองใส่แว่นอะไรอยู่ใส่กันทั้งวัน จะนอนก็ยังใส่ไม่รู้ติดใจอะไรกันนักหนา.....จากผลสำรวจของสถาบันวิจัยบ้านหนองตับเป็ด ได้รายงานว่าแว่นที่คนส่วนใหญ่ชอบใส่ โดยไม่ถอดนั้นมีดังนี้1 แว่นดำ พวกนี้น่าเห็นใจครับ ชีวิตเค้าอาจจะเจออะไรไม่ดีมาเยอะ แว่นดำนี่เป็นแว่นอาถรรพ์ครับ ตอนจะใส่ก็ไม่รู้ตัว แต่หากเริ่มใส่เมื่อไหร่ ถอดยากมากๆ 2 แว่นมัว พวกนี้ตอนเด็กๆก็ยังใสอยู่หรอกครับ แต่นานไปๆ โดนฝุ่นโดนควัน มรสุมรุมเร้า ทุกวันๆ มันก็มัว แล้วก็ลืมถอดมาเช็ดกัน ( อนึ่ง..พวกนี้ปล่อยไว้นานๆจะกลายเป็นแว่นดำไปในที่สุด)3 แว่นที่มีเลนส์รูปตัว $...... พวกนี้ใส่แล้วมองอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมดครับ ใส่แล้วมีจิตมารครอบงำ ทำได้ทุกอย่าง ยอมสละ อุดมการณ์ ความฝัน ความถูกต้อง สละทุกอย่างได้เพื่อเงินครับ ใครที่รู้ตัวว่าใส่แว่นอันใดอันหนึ่งในสามอันข้างบนนี้ ผมแนะนำให้ถอด แล้วเปลี่ยนแว่นใหม่ดีกว่ามั๊ยครับ??เอาล่ะ ถึงตรงนี้ ผมคิดว่าบางคนอาจจะอยากบอกผมอย่างสุภาพว่า ก็เมิงไม่ได้เจอปัญหาใหญ่ๆ หนักหนาสาหัสแบบกรู เมิงก็พูดได้นี่หว่า แสรดดดอันนี้ผมเข้าใจครับ ผมไม่ได้บอกว่า พอคุณเปลี่ยนแว่นปุ๊บ ปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายสลายโต๋วไปในพริบตาแต่ผมอยากให้คุณมองปัญหา ผ่านมุมมองใหม่ที่มันชัดเจนแจ่มใสกว่าเดิม เท่านั้นแหละครับ .อย่างน้อยๆ คุณก็มีบ้านอยู่ มีข้าวกินครบ 3 มื้อ ..อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ได้ถูกคุมตัวไปอยู่ในค่ายกักกัน ..อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ได้อยู่อย่างหวาดหวั่น ไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่ถ้าสองพ่อลูกคู่นั้นเค้ามองเห็น ชีวิต เป็นสิ่งสวยงามได้ .ผมว่า คุณ .ก็ต้องมองผ่านเลนส์อันนั้นได้เหมือนกัน
(ปฐมบล๊อก)...สู่ที่พำนักแห่งใหม่
....สู่ที่พำนักแห่งใหม่คนหนึ่ง... กระบี่หนึ่ง...ออกตระเวณท่องไปทั่วแห่งหนเพื่อแสวงหาตัวตน......บนหนทางอ้างว้าง...เหน็บหนาว .... ทว่ามีแสงจันทร์คอยนำทาง........วัน..เดือน..ปี ที่ผันผ่าน ฝากฝังรอยจาร ไว้บนหินผาจรดรอยพู่กันไว้บนศิลา ในพิภพลวงตา....เสมือนจริง............บัดนี้.....ได้รอนแรมมาถึงยุทธภพแห่งหนึ่ง ชื่อพันทิปยินเสียงลมกระซิบ'หยุดพำนักเถิด คนจร'............คารวะเพื่อนผอง...น้องพี่ ผู้น้อยคนแปลกที่ มิอาจผยองขอเพียงที่พำนักอาศัยเพียงสักห้องเอาไว้ฝากผลงาน..บรรณการ.........ขอเหล่าศิษย์พี่โปรดชี้แนะหากข้องแวะสิ่งใดผิดวิถีอันผู้น้อยอ่อนด้อย โปรดปรานีเอื้อเฟื้อกวีคนจร..ผู้นี้เอย
กลอนโสดประชดวันวาเลนไทน์
ฟ แฟนนั้นหายาก ต้องลำบากจีบกันไปจีบหญิงยากบรรลัย ข้อยนั้นไซร้จีบบ่เป็นญ หญิงมีมากมาย แต่ซักรายกลับไม่เห็นห แห้วกินทุกเย็น ราวกับเป็นของโปรดเรา ดูหนังดูกับใคร ตั๋วหนึ่งใบกับใจเหงาป๊อบคอร์นของตัวเรา ตังของเราเลี้ยงเราเองไม่มีใครแย่งบ้าง หันมองข้างดูเคว้งๆฉากเศร้า เราเหงาเอง ฉากครื้นเครง ขำกับใคร ?เสวนเซ่นก็อยากกิน เกิดถวิลคิดสงสัยคนเดียวกินได้ไหม ใยชอบไปเป็นคู่จังไอติมอยู่ตรงหน้า ไร้ใบหน้าคนอีกฝั่งไอติมกินลำพัง รสชาติช่างชืดเหลือทนเดินห้างเดินคนเดียว ไร้ก้อยเกี่ยวและมือกุมไม่มีใครมาคุม เดินดุ่มๆไม่สนใครหันมองคนรอบข้าง กุมมือย่างเดินคู่ไปมืออีกข้าง ไปไหน แล้วเมื่อไหร่จะได้เจอกลับบ้าน ไร้คนส่ง ไอ้ซงย้งเดินเอ๋อๆมองเขาไปส่งเธอ เราชะเง้อ ส่งไกลๆมีรถ..เอ็งก็เท่ห์ ข้า..รถเมล์เท่ห์กว่าไหมเชิญน้องตัดสินใจ เอ้าว่าไง เฮ่ยย ไปไม่รอ TT TTมีมือถือเหมือนมีสาก มันลำบากใจจริงหนอเมื่อไหร่จะดังน๊ออ ได้แต่รอมันปลุกเอง โทรไปก็ไม่กล้า มือมันคว้า แต่ใจเคว้งมันเขิลล นะตัวเอง ยิงเล่งๆ ก็อย่าว่ากัน .อิอิ ^ ^เพื่อนแท้ มันก็ทิ้ง จะรีบชิ่ง ไปไหนล่ะนั่นมีแฟน ก็ลืมกัน เห็นปลามัน เลยลืมแกง ..เชอะไปเที่ยว แยกเป็นคู่ จู้ฮุกกรู สุขของแมร่ง ทิ้งตรูอยู่กับไอ้แห้ง จะจีบแมร่ง ก็เกรงจายยย กลอนสุภาพก็แค่วัน ธรรมดา เพียงวันหนึ่ง ไม่ได้ลึก ไม่ได้ซึ้ง สักเพียงไหนก็แค่คน อยากกุมมือเดินกันไป ก็แค่ใคร ใส่ใจ อะไรคนก็อีแค่วันวาเลนไทน์ กับความหมายที่ใครจะไปสนก็แค่เรื่องของคนสองคน ก็แค่บ่น ใช่อิจฉา อะไรกัน ก็แค่วัน ธรรมดา อีกวันหนึ่ง ที่แค่ฟัง เพลงซึ้ง แล้วนึกเหงาก็แค่ฮัม เพลงตามอยู่เบาๆ ไม่ได้เศร้า ไม่ได้เหงา ซะหน่อยเราก็แค่เขา อยากให้ ดอกไม้เธอ ก็แค่เธอ ที่รอรับ ดอกไม้เขาก็แค่ใคร อยากบอกรัก กันเบาๆ ก็แค่เรา ที่แอบมอง อยู่ไกลๆกะอีแค่วันวาเลนไทน์ ก็แค่วัน ที่คล้ายๆ จะสุขสันต์กับความหมายที่คล้ายๆจะสำคัญ หากมี ใครคนนั้น ..คงจะดีก็แค่คนธรรมดาซักคนหนึ่ง ที่ให้คอย ให้คิดถึง ขอแค่นี้ก็แค่ ใครที่รู้ใจ เราซักที เติมความหมาย ให้วันนี้ ..,มันสำคัญ โคลงสี่สุภาพ โอ้อนาถอ้า อกเอ๋ย...................อันข้าไร้คู่เคียงกายา........................แอบเศร้าผองเพื่อนพี่นั้นหา....................ได้หมด (เซ็งตู)เหลือแต่ตูงี่เง่า........................แดกแห้ว ทั้งกะปีจีบหญิงแสนยากแต๊.................โคตรบรมฤาข้อยที่โง่งม.........................งี่เง่าอ้ายจึ่งต้องตรอมตรม................แม่นแต๊ แม่เอยวอนอี่น่องมาซอยเฮา................มั่วภาค แล้วกูอันอนงค์นางหนึ่งคล้าย..............ย่งยี้ต้องจิตข้านักนี่........................แมร่งเอ๊ยรูปร่าง หน้าตางี้.................... .บ้านบ้านกูชอบของกูนี่เหวย....................จีบได้ คงดีอยากจีบก็ยากโคตร..................ลำเค็ญว่าวเจ๊กก็บ่ เป็น........................เศร้าแต๊หลางหว่ออ้ายหนี่ พอเป็น...........มั่วได้แต่..หนี่จะอ้ายหว่อแม๊ ??...........ฝันไป เหอะมรึง!! TT O TTโอ้สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง.............สุดเซ็งใยมิให้ข้าเกิดเป็น ก๊วยเจ๋ง........เล่าฟ้าจริงๆ อั๊วพูกเล่ง.......................ยกโทษ ข้าล่วยเป็น ซงย้งดีแล้วหนา..............ไม่หล่อ ..แต่จน(เออ เอาเข้าไป ) พูดค่อยไม่เก่ง........................แต่รัก หมดใจ พี่กวางเคยกล่าวไว้...................ท่อนสร้อย พูดงั้นก็พูดได้.........................เพ่หล่อ นี่ก๊าบ พูดไม่เก่ง แถมหน้าจ๋อย............แดกแห้ว เหอะมรึงใครหนอช่างเปรียบข้า................หมาวัดใยเจือกมาหมายวัด...................ดอกฟ้าเพลงยุทธกี่ท่างัด......................ใช้หมดเจือกพ่ายกระบวนท่า.................เดชเบนซ์ ป้ายแดงอนิจจาอันข้านี้.........................บุญน้อยบุพเพไป่เคลื่อนคล้อย...............เข้าข้างวอนผองเพื่อนอย่าคอย..............เหยียบย่ำ ยำตีน ไร้บุพเพอาจอ้าง....................เลี้ยงบุฟเฟ่(โออิชิ) กรูที