|
อยากเปิดร้านกาแฟ...........ต้องเริ่มต้นยังไงดี(ตอนที่1)
นั่นสินะ จะเริ่มยังไงดี
ร้านกาแฟนี่เป็นธุรกิจในฝันของใครหลายๆคนเลยนะครับ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมใครๆถึงได้อยากเปิดร้านกาแฟกันจัง(รวมถึงเองด้วย) อาจจะเป็นเพราะหลงใหลในสเน่ห์ของกาแฟ รวมไปถึงบรรยากาศของร้านกาแฟที่ดูอบอุ่น เป็นกันเอง นอกจากนี้ธุรกิจกาแฟเองก็ดูเป็นธุรกิจที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องสต็อกของสดเยอะแยะมากมายเหมือนร้านอาหาร การจัดการอะไรก็ดูง่ายกว่า ใช้พื้นที่ไม่เยอะเท่า บลาๆๆๆๆ
แต่เงินจะลงทุนทำร้านกาแฟสักร้านก็มิใช้น้อยนะครับ
สมมุติจะทำร้านกาแฟสักร้านขนาดสัก 30 ตารางเมตร ค่าตกแต่งก็น่าจะอยู่ราวๆ 250,000 - 400,000 บาทโดยประมาณ แต่จะคุมให้ต่ำกว่านั้นก็ได้ครับ อันนี้ว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา อันนี้ยังไม่รวมอุปกรณือีกนะครับ ถ้ารวมเอาอุปกรณ์ระดับมาตรฐานแบบมืออาชีพหน่อย เครื่องชงกาแฟ + เครื่องบดกาแฟ + เครื่องปั่น + ตู้เค้ก + อุปกรณ์อื่นๆบนบาร์ รวมๆกันแล้วเนี่ยก็ประมาณ 80,000 + 25,000 + 15,000 + 40,000 + 10,000 = 170,000 รวมๆแล้วโดยประมาณถ้าจะเปิดร้านกาแฟในสเกลขนาดสัก 30 ตารางเมตรเนี่ย ลงทุนขั้นต่ำไม่น่าจะต่ำกว่า 400,000 แล้วล่ะฮะ ซึ่งมันก็เป็นเงินที่เยอะมากเลยทีเดียวนะครับ
แต่บางคน(โดยส่วนมาก)มักจะเป็นพวกที่เปิดร้านแบบ "เสี่ยงโชค"
คือไม่มีการวางแผนอะไรทั้งสิ้น คิดแต่แค่ว่ามันน่าจะ"ดี"น่าจะ"ไปได้"และอย่างน้อยๆก็ไม่น่าที่จะ"เข้าเนื้อ"
ส่วนตัวผมแล้ว เอาเงิน 400,000 ไปเสี่ยงโชคนี่ผมว่ามันเยอะไปนิดนึงนะครับ
ฉะนั้นแล้ว ก่อนที่จะเปิดร้านกาแฟเนี่ย ก็ควรที่จะเตรียมความพร้อมทั้งหมดในหลายๆเรื่องนะครับ ทั้งตนเอง สถานที่ รวมไปถึงพนักงานของเราด้วย เพราะทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะทำให้ร้านกาแฟของเราประสบความสำเร็จ โดยที่เริ่มต้นจากตัวเองก่อนนะครับ
----------------------------------------------------------------
เตรียมตัวเองก่อนเปิดร้าน
1. ไปกินกาแฟหลายๆร้าน ทั้งร้านที่ขายดี และ ขายไม่ดี
ผมมีความเชื่ออย่างนึงนะครับว่า คนที่เป็นพ่อครัวที่ดีคือคนที่มีลิ้นที่ดี และได้ลองชิมอาหารต่างๆนานามาสารพัด แล้วจดจำเอารสชาตินั้นๆมาเป็นรสชาติของตนเอง หาใช่ว่าคนที่ทำอาหารได้ดีจะเป็นคนที่ตวงส่วนผสมได้แม่น เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ โรงเรียนสอนอาหารคงไม่จำเป็น เพราะแค่เปิดตำราแล้วทำตามเป๊ะๆก็ได้รสชาติที่ดีแล้ว
การไปกินกาแฟตามร้านต่างๆก็เพื่อเพิ่มประสบการณ์ในการลองรสกาแฟที่หลากหลายขึ้น เพราะร้านกาแฟแต่ละร้านก็เลือกใช้เมล็ดกาแฟที่แตกต่างกัน มีเทคนิควิธีการที่แตกต่างกัน ฉะนั้นการได้ไปลองรสชาติเยอะๆถือเป็นเรื่องสำคัญนะครับ
อีกอย่าง ผมแนะนำให้เข้าไปลองกินทั้งร้านขายดี และขายได้แย่
ร้านที่ขายดี เข้าไปลองกินแล้วก็ลองชิมรสชาติดูว่าประมาณนี้ๆๆ ดูลักษณะการออกแบบร้าน ดูวิธีการบริการของพนักงานภายในร้าน รวมไปถึงทำเล ส่วนร้านที่ขายไม่ดี ก็เข้าลองดูว่ารสชาติ การออกแบบร้าน การบริการ และทำเลเขาเป็นอย่างไร จะได้เห็นภาพทั้งสองอย่าง
ลองเยอะร้าน ก็ได้เห็นเยอะร้านนะครับ
2. หาความรู้ด้วยตัวเอง
ลองหาหนังสือที่เกี่ยวกับกาแฟทั้งหลายมาลองศึกษาดูนะครับ แต่หนังสือกาแฟของบ้านเราเท่าที่ผมเห็นเป็นหนังสือที่ดีนี่มีอยู่ไม่กี่เล่มล่ะครับ โดยมากแล้วมันมักจะเป็นแค่ "หนังสือรูปสวย" หรือ "หนังสือร้านสวย" รวมไปถึงหนังสือ"รวมสูตรการแฟ" ซึ่งผมว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์ในการอ่านเท่าไรนัก (แล้วบอกให้ไปหาอ่านทำไม 5555+)
แต่อย่างน้อย ก็เพื่อให้เรามีความรู้ติดอยู่บ้างล่ะครับ ก่อนที่จะเข้าสู่สเต็ปต่อไป
ไหนๆผมก็ขอแนะนำหนังสือที่น่าจะเอาไว้อ่านสักสองเล่มนะครับ (1.) สรรสาระกาแฟ (จำชื่อคนเขียนไม่ได้ฮะ) (2.) Barista Book (Chihiro Yokoyama) เล่มนี้นี่ผมแนะนำเลย อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆๆๆ ได้เกือบทุกสิ่งทุกอย่างในการเตรียมตัวจะเป็นคนชงกาแฟมืออาชีพเลยล่ะครับ
3. ไปเรียนทำกาแฟ
เรื่องนี้ยิ่งสำคัญยิ่งนะครับ เรื่องสำคัญมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
การเรียนทำกาแฟเนี่ย ถ้าจะให้ดีควรไปเรียนหลายๆสำนักนะครับ จะได้แนวคิด และวิธีการจากหลายๆที่เอามาประยุกต์ใช้ด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตามแต่ ที่จริงแท้แล้วสำหรับการทำกาแฟให้ได้รสดีนั้นหาได้อยู่ที่สูตรชงไม่ แต่ความสำคัญนั้นอยู่ที่ การทำ"เอสเพรสโซ่ ช็อต"ให้ได้สม่ำเสมอกันต่างหากนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
สูตรชงมันพลิกกันได้ แต่ถ้าหากว่าทำช็อตเอสเพรสโซ่ได้ไม่สม่ำเสมอแล้วล่ะก็ รสชาติเพี้ยนกระจุยเลยล่ะครับ
สรุปง่ายๆเลยนะครับ การไปเรียนกาแฟก็เพื่อให้เรา -ทำช็อตกาแฟได้ดี -ปรับเครื่องบดได้เป็น -ตีฟองนมได้สวย
ส่วนที่เรียนที่ดีๆ ผมแนะนำเอาไว้ก็มีดังนี้นะครับ(เอาเท่าที่นึกออกนะ)
Bluekoff Ciao Cup Espresso Man Kokoro Coffee P&F Coffee Salotto Coffee
ผมแนะนำว่าควรเริ่มต้นจากสามสิ่งนี้ก่อนนะครับ ซึ่งทั้งสามอย่างเนี่ย สรุปอย่างง่ายๆเลยก็คือ
"หาความรู้ให้ได้มากที่สุด"
ถ้าไม่มีความรู้ ทุกอย่างก็จบครับ
เดี๋ยวว่างๆจะมาต่อตอนที่สองนะครับ
Create Date : 11 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 11 มิถุนายน 2553 16:15:48 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1173 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: Tree Rose วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:17:41:18 น. |
|
โดย: kandanalike วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:18:36:57 น. |
|
โดย: หญิง IP: 58.11.43.169 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:18:55:22 น. |
|
โดย: ป้าซู IP: 118.173.56.226 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:22:13:56 น. |
|
โดย: JJ Ja IP: 124.121.242.196 วันที่: 12 มิถุนายน 2553 เวลา:19:57:06 น. |
|
โดย: Koong IP: 58.64.58.5 วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:16:45:02 น. |
|
โดย: Prokop IP: 124.120.198.106 วันที่: 25 กันยายน 2553 เวลา:9:55:05 น. |
|
โดย: คุณ ก๊อด IP: 58.9.242.181 วันที่: 28 กันยายน 2556 เวลา:12:26:03 น. |
|
|
|
|
Tobio Ezprezzo |
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สวัสดีครับ
ผม ต๊อบ อายุ ณ วันที่เขียนคือ 27 ปี เกิดที่กรุงเทพ ย่านราษฎร์บูรณะ แต่ไปใช้ชีวิตวัยรุ่นที่เชียงใหม่ จบจากมช. คณะมนุษยศาสตร์ เอกวิชา ภาษาไทย เคยเป็น Creative เคยทำงานกับ Greenpeace เคยไปขายปุ๋ย เคยเป็นนักดนตรีข้างถนน
แต่ทุกวันนี้ ผมเป็น Barista Trainer อยู่ที่ Kokoro Coffee
มันดูเหมือนจะเป็นคนละเรื่อง แต่ตอนที่ผมเรียนที่มช. ผมเคยทำงานพิเศษร้านกาแฟหลังเลิกเรียน ความชื่นชอบ ความลุ่มหลงคงจะเริ่มมาจากตรงนั้น
ทุกวันนี้ ถึงผมจะไม่ได้ยืนอยู่หลังบาร์แล้ว แต่ในทุกๆครั้งที่ผมได้ชงกาแฟ และเครื่องดื่มต่างq อาจจะในงาน exhibition ลูกค้าที่มาเยี่ยมที่ออฟฟิศ ในห้องอบรม หรือแม้แต่ชงให้แม่บ้าน
เวลาที่ได้เห็นสีหน้ารู้สึกดีของเขาเหล่านั้น มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีตามไปด้วยเช่นกัน
จากวันแรกที่ผมเป็นบาริสต้าที่ร้านกาแฟ(โ)สด หลังมช. เชียงใหม่ มาจนวันนี้ก็ปาจะเข้าไปแปดปีละ
เลยอยากจะเอานั่นนี่นู่นที่ได้เรียนรู้มา มาแชร์กับท่านอื่นๆครับ
ยังไงก็แวะมากันบ่อยๆนะครับ
ขอบคุณครับ
|
|
|
|