ทำบุญ + บูรณะพระประธานที่ถูกไฟไหม้ ไม่ได้เข้ามาเขียนนานเลยแฮะ เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปทำบุญอีกแว้ววววว เลยเอาบุญมาฝากทุกคนจ้า ตอนเช้า ๆ ทำบุญตักบาตรร่วมกันกับชาวบ้าน พระสงฆ์ที่มาเข้าปริวาสกรรมเดินรับบิณฑบาตร พระประธานที่ถูกไฟไหม้ หลังจากขัดลอกผิวที่ไหม้พองออกและขัดเงา ลงสีรองพื้นไว้ก่อน ภาพด้านหน้า ด้านข้าง (ก่อนจะพ่นสีได้ต้องนั่งขัดผิวและลอกสีเก่าออกก่อน นั่งขัดกันทั้งวัน ไม่มีเหนื่อยเลยแฮะ สงสัยอิ่มบุญ อิอิ) นี่ก็เป็นอีกมุม เสียดายจัง ตอนยังไม่ลงสีลืมถ่ายรูปมาให้ดู นั่งขัดจนเงา นี่ก็เป็นอีกองค์ที่ทำการบูรณะให้ใหม่ พ่นสีเรียบร้อยแล้วรอแห้ง ด้านหลังของพระประธาน องค์นี้จะเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุด ที่ถูกไฟไหม้ ภาพด้านหลังเป็นกุฏิของหลวงพ่อ ยังสร้างไม่เสร็จ พ่อกำลังทำการแต่งตาให้ใหม่ เนื่องจากเดิมถูกไฟไหม้จนหลุดลอกไปแล้ว ซูมเข้าไปใกล้ ๆ อีกนิดนึง หลังจากที่ทำการเบิกเนตร เรียบร้อยแล้ว งามจริง ๆ องค์นี้เป็นองค์ที่เล็กที่สุด ไปทำบุญคราวนี้รู้สึกดีจริง ๆ นอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังได้มีส่วนร่วมในการบูรณะพระพุทธรูปที่ถูกไฟไหม้ด้วย อิ่มบุญจริง ๆ   Create Date : 09 กรกฎาคม 2550     Last Update : 9 กรกฎาคม 2550 12:31:33 น. Counter : 1001 Pageviews.   4 comment Share Tweet

บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ ทริปนี้เอาใจหลานสาวตัวน้อย ที่หนีไปอยู่กับยาย วันนี้ได้เจอแล้วเลยพาไปเที่ยวซะหน่อย เดี๋ยวจะโดนกล่าวหาว่าป้าไม่รักหลานเลยอีกคน วันนี้เลยพาไปเที่ยวดูปลาที่บึงฉวาก จังหวัดสุพรรณ เริ่มกันด้วยรูปทางเข้ากันก่อนเลยนะคะ ลานน้ำพุ มาดูปลากันเถอะ นี่อีกตัว ลายสวยดีจัง ตัวนี้ปลาจระเข้ ดูปากสิ คล้าย ๆ กันเลยแฮะ ดูปลาแล้วมาดูกุ้งกันบ้างนะ ออกจากอาคารแล้วเราก็ตรงไปที่นี่เลยค่ะ ไม่รู้ใครวิ่งมาชนป้ายซะแตกเลยแฮะ น่ารักจริง ๆ หวัดดีได้ด้วย อิอิ อ้าปากซะกว้างมาก ๆๆ เลยแฮะ สงสัยรอนกมาจิกเศษอาหารที่ฟัน 555++ ตัวเล็กจ้องใหญ่เลยแฮะ ดูว่าจะมีนกมาทำความสะอาดฟันเหมือนโฆษณารึเปล่า จระเข้ที่นี่เก่งนะคะ อ่านหนังสือกันออกด้วย ท่าทางเรียนมาสูงแน่ ๆ เลย ออกมาจากบ่อจระเข้แล้ว มาเจอท่านผู้นี้ค่ะ มาตรวจสภาพภายในบึงฉวาก เดี๋ยวค่อยตามหนูไปที่หมู่บ้านควายกันต่อนะคะ ตอนนี้สวัสดีค่า   Create Date : 25 พฤษภาคม 2550     Last Update : 28 พฤษภาคม 2550 16:15:58 น. Counter : 1320 Pageviews.   3 comment Share Tweet

ที่พักบนเกาะสมุย กลับมาอีกแล้ว มาหนนี้เอาที่พักบนเกาะสมุยมาให้ยลกันนะคะ เพราะรอบนี้ไปเที่ยวเกาะ แต่ว่าขาไม่มีโอกาสได้แตะน้ำทะเลเลย สักนิด อีกอย่างเป็นเพราะว่ามีเวลาอยู่บนเกาะน้อยด้วยแหละมั๊ง เวลาส่วนใหญ่ที่ใช้ไปจะเป็นการรอขึ้นเรือเฟอรี่ซะนานกว่าเวลาไปเที่ยวอีก (ทำไงได้ล่ะ ดันเลือกไปช่วงเทศกาลที่คนเยอะ ๆ เอง ) ว่าแล้วก็ตามมาดูที่พักกันเลยดีกว่า เดินข้ามสะพานกันมาเลยนะคะ เดินมาเรื่อย ๆ ค่า ใกล้ถึงแล้วล่ะค่ะ ที่หน้าบ้านจะมีชิงช้าด้วยนะ ตามมาดูข้างในกันเลยดีกว่าค่า ที่พักจะเป็นบ้านแบบสองห้องนอน มีห้องนั่งเล่น แล้วก็ห้องครัวด้วยค่ะ ด้านในอีกมุมหนึ่ง หิวกันรึยังคะ ตามเข้าครัวกันมาเลยค่า ห้องนอนใหญ่ ดูกันชัด ๆ ส่วนนี่เป็นห้องนอนเล็ก ในห้องจะมีเตียงนอนคนเดียวอยู่สองเตียง ด้านในห้องนอนเล็กค่ะ ที่ซุกหัวนอนของเราในคืนนี้ ห้องน้ำค่ะ ประตูจะเป็นแบบกระจกฝ้าอ่ะ เวลาเข้าแล้วไม่กล้าเปิดไฟเลย เอิ๊ก ๆๆ ด้านในห้องน้ำจะแยกเป็นสองส่วน คือส่วนเปียก กับส่วนแห้ง นี่เป็นที่อาบน้ำค่ะ ตรงพื้นจะเป็นหิน สระว่ายน้ำของรีสอร์ท สวยดีอ่ะ ชอบ ๆๆ รูปนี้ถ่ายตอนเช้า ๆ ตรงด้านขวามือ เป็นที่นั่งทานอาหารเช้าของพวกเราค่ะ หน้าตาอาหารเช้าของพวกเราค่ะ น่ากินมั๊ยยยยยย ตอนนี้ง่วง ๆ แล้ว เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้ค่อยมาต่อกันตอนไปเที่ยวนะ วันนี้ขอตัวไปนอนก่อนนะคร๊า แล้วจะมา up ให้ดูอีกทีค่ะ   Create Date : 11 พฤษภาคม 2550     Last Update : 11 พฤษภาคม 2550 0:03:01 น. Counter : 1068 Pageviews.   10 comment Share Tweet

เขื่อนรัชชประภา และแล้ววันนี้ก็ได้เวลาที่จะเอารูปที่ไปเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น "กุ้ยหลินเมืองไทย" มาฝาก ทริปนี้เดินทางกันในวันที่ 6 - 8 เมษายน ซึ่งมีสมาชิกร่วมทางไปด้วยกัน 5 ชีวิต ซึ่งพวกเราพากันออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ ในเวลา 21.30 น. ซึ่งวันนั้นกว่าจะฝ่าดงรถติดจากบนทางด่วนพระราม 2 มาได้ก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนแล้ว (แบบว่าพร้อมใจกันหนีความแออัดจากเมืองกรุงมุ่งสู่ธรรมชาติ ซึ่งเป็นธรรมดาของวันหยุดยาว แบบนี้) กว่าจะไปถึงสุราษฏร์ ก็ปาไปแปดโมงกว่า ๆ เลยไปแวะที่นอนที่บ้านของเพื่อนกันก่อน (ความจริงก็ไม่ค่อยได้นอนกันหรอก มัวแต่อ่านการ์ตูนอยู่ เพราะบ้านเค้าเปิดเป็นร้านเช่าการ์ตูน อิอิ) พอจะเริ่มออกเดินทางไปที่เขื่อน ฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาซะก่อน เลยทำให้ออกเดินทางช้าไป ซึ่งตอนแรกนัดให้คนเรือมารับตอนบ่ายสอง แต่ติดฝนอยู่เลยเลื่อนไปสี่โมงเย็น โชคดีที่หลังจากฝนตก ท้องฟ้าแจ่มใส และแดดไม่ร้อน เลยทำให้พวกเราไม่ร้อนกัน นั่งเรือเข้าไปที่แพที่พักอย่างสบายอารมณ์ เส้นทางมุ่งหน้าสู่เขื่อน ต้นไม้ข้างทางสีเขียวชอุ่ม ดูแล้วสดชื่นมาก ๆ มาถึงเขื่อนแล้ววววว บริเวณสันเขื่อน เรือโดยสารไปยังที่พัก ออกเดินทางกันเลยยยยยยยยยยยยยย บรรยากาศบนเรือระหว่างการเดินทาง ถึงที่พักแล้วค่ะ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานหน่อยนะคะ ว่ามาถึงแล้ว จ๊ะเอ๋............. วิวสวย ๆ อีกหนึ่งมุมมอง จะมองไปทางไหนก็เจอแต่แบบนี้ แบบนี้... ถ่ายรูปกันหน่อย ท่าสุดฮิต ... สู้ตายค่ะ เราสี่คน   Create Date : 04 พฤษภาคม 2550     Last Update : 4 พฤษภาคม 2550 11:23:49 น. Counter : 603 Pageviews.   18 comment Share Tweet

ถ้ำแก้ว ถ้ำพระยานคร ไม่ได้มาเขียนตั้งนาน เพราะเดือนที่แล้วทั้งเดือนมัวแต่ตะเวนเที่ยว ๆๆๆ ออกเดินทางแทบทุกอาทิตย์ ไม่ได้หยุด เริ่มออกเดินทางทริปแรกก็ไปที่ประจวบ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม จุดหมายปลายทางคือถ้ำพระยานคร ก่อนจะเข้าไปที่ถ้ำพระยานคร ก็ผ่านถ้ำแก้ว เลยพากันแวะไปดู เสียดายที่ถ้ำแห่งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยนำทางและให้คำแนะนำ ทางเดินเข้าไปที่ถ้ำนั้นน่ากลัวมาก ๆๆๆๆๆ และไม่ค่อยมีคนตอนเราเดินไป สวนทางกับผู้ชายคู่หนึ่ง พอถามว่าสวยมั๊ย เค้าตอบว่า เดินไปได้นิดเดียว ไม่ไหวเลยกลับ ก็คิดอยู่ในใจ สงสัยไม่ค่อยมีแรงเลยไปได้ไม่ได้ไม่ไกล แต่พอตัวเองเข้าไปแล้ว บรรยากาศน่ากลัวมาก ประกอบกับการเดินเข้าไปภายในถ้ำนั้นต้องมุด ต้องคลาน และที่สำคัญ ไม่มีไฟ และมืดมาก ๆๆ บรรยากาศภายในถ้ำก็อึดอัด อากาศมีน้อย และเราก็เดินเข้าไปกันเพียงแค่สองคน และไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง พอมาถึงตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่าทำไมผู้ชายสองคนก่อนหน้าเราเค้าถึงได้ถอยกลับ (ก็มันน่ากลัวอย่างนี้นี่เอง เอิ๊ก ๆๆๆ) เราเดินมาได้ถึงจุดที่สาม ก็เริ่มไม่ไหว กลัวไปซะหมด เลยตัดสินใจ ถอยดีกว่า ถึงแม้ว่าข้างในถ้ำจะสวยงาม และยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก แต่ด้วยความกลัวที่มีในใจ เลยตัดสินใจทิ้งความสวยงามที่จะเจอในข้างหน้า ออกมาดีกว่า อิอิ หลังจากที่ออกมาจากถ้ำแก้วแล้วก็ไปต่อกันที่ถ้ำพระยานคร ทางที่จะไปที่ถ้ำพระยานครนี้ มีไปสองทาง คือ เดินข้ามภูเขาไปแล้วก็ปีนขึ้นไปที่ถ้ำอีกรอบ และอีกทาง คือนั่งเรือไป แล้วก็ปีนขึ้นไปที่ถ้ำ สาเหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำพระยานครนี้เป็นเพราะในสมัยก่อน เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชได้มาอาศัยถ้ำบนเกาะแห่งนี้หลบพายุ ชาวบ้านจึงเรียกชื่อถ้ำนี้ตามเจ้าเมืองนครศรีฯ จึงได้ชื่อว่า ถ้ำพระยานคร เช่นนั้นแล ในถ้ำพระยานครนั้น ได้มีการสร้างพระที่นั่งของรัชกาลที่ 5 ไว้ตรงกลาง ซึ่งสวยงามมาก อยากให้เพื่อน ๆ ได้ไปเห็นด้วยตัวเอง เพราะเราประทับใจจริง ๆ แบบประมาณว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น นั่นแหละ อากาศในตอนแรกที่เดินก่อนถึงถ้ำ ร้อนมาก พอเริ่มเข้าไปในถ้ำแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นสบายขึ้นเรื่อย ๆ ผิดกับถ้ำแก้ว ซึ่งที่นี่สามารถเดินได้เรื่อย ๆ ถ้ามีเวลาแนะนำให้ไปดูนะคะ แผนที่ภายในถ้ำแก้ว ทางลงถ้ำแก้ว ภายในมืดมาก ลงมาถึงพื้นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย ก่อนจะเข้าไปภายในขอมองไปหาแสงสว่างก่อนนะ ภายในถ้ำแก้ว (ต้องใช้ไฟสปอร์ตไลท์ส่องถ่าย เพราะภายในมืดมาก) ภายในถ้ำ เสาหิน พอเอาไปส่องแล้วจะเป็นประกายสวยมาก รูปสุดท้ายก่อนออกจากถ้ำแก้ว เพราะมันมืดมาก น่ากลัว ๆๆ เรือที่นำเราเดินทางไปถ้ำพระยานคร ถึง(ป้าย)แล้วววววว ขออีกรูป ทางเดินขึ้นไปยังถ้ำพระยานคร จุดชมวิวระหว่างทาง ก่อนลงไปในถ้ำพระยานคร น้ำตกหินปูน ดูกันชัด ๆ ว่าสวยขนาดไหน สะพานมรณะ (ที่ได้ชื่อนี้มาเพราะมีสัตว์เดินข้ามแล้วตกลงมาตายบ่อย ๆ) หินงอกหินย้อยภายในถ้ำพระยานคร และแล้วเราก็มาถึง ดูกันอีกมุม และนี่ก็อีกมุม ช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างรึเปล่า ???? ก่อนกลับบ้านแวะทักทายหมาทะเลหน่อยละกัน ทริปนี้จะไม่เกิดหากเราไม่ได้รถคู่ใจคันนี้ จบทริปนี้แล้ว พบกันใหม่ทริปหน้าที่เขื่อนเชี่ยวหลานนะคร๊าบบบบบบบบ   Create Date : 01 พฤษภาคม 2550     Last Update : 2 พฤษภาคม 2550 15:55:15 น. Counter : 1854 Pageviews.   19 comment Share Tweet