Thewinner
 
บันทึกจากอินเดีย ตอนที่ 1 พุทธคยา

  ห่างหายไปจาก Blog นานแสนนาน วันนี้จะพาเพื่อน ๆ ไปแสวงบุญกันนะคะ
ทริปนี้เกิดขึ้นเนื่องจากคุณนายแม่ อยากไปแสวงบุญที่อินเดีย เนื่องจากเมื่อสองปีก่อน เคยซื้อทัวร์ให้แม่ไปแล้ว แต่ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เนื่องจากก่อนเดินทางประมาณสองอาทิตย์ แม่เกิดพลัดตกบันได
ทำให้หัวฟาดพื้น และมีเลือดคั่งในสมอง คุณหมอจึงไม่อนุญาติให้เดินทาง ทำให้ในครั้งนั้นอดไปค่ะ ที่สำคัญเสียเงินค่าทัวร์ไปฟรี ๆ ค่า Y_Y

รอบนี้เลยขอแก้มือไปใหม่อีกรอบ
เริ่มกันจากที่สุวรรณภูมิกันเลยนะคะ 
คุณนายแม่พร้อมลุยแล้วค่า

ทริปนี้สบายหน่อย บินไปกับสายการบินแห่งชาติ ไปถึงเมือง Kolkata ประมาณตีสอง หลังจากรับกระเป๋าแล้วก็เดินสะลึมสะลือไปขึ้นรถ เพื่อไปยังพุทธคยา โดยใช้เวลาในการนั่งรถประมาณ 11 ชั่วโมงกว่าจะถึง (ระยะทางประมาณสี่ร้อยกว่ากิโลเมตร แต่ใช้เวลานานมาก Y_Y)

เช้าแล้วแวะพักทานชาที่ร้านสักหน่อย 
ป้ายชื่อของกินและราคา มีใครอ่านออกบ้างคร๊า ช่วยแปลให้ด้วยจ้า
ร้านชา ระหว่าง Kolkata กับ Budgaya

บรรยากาศภายในร้าน จะเห็นรูด้านล่าง นั่นคือเตาเอาไว้ใส่ถ่าน โดยถ่านของคนที่นี่เค้าจะใช้ขี้วัวผสมกับฟางแล้วปั้นให้เป็นก้อน หลังจากนั้นจึงตากให้แห้งแล้วค่อยนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการทำอาหาร
ที่ร้านนี้แวะชิม การำจาย (เครื่องดื่มยอดฮิตของคนอินเดีย เป็นชาใส่นมแพะ รสชาดจะออกหวาน ๆ หน่อย แต่ไม่เหมาะกับคนธาตุอ่อน เพราะเราชิมไปนิดนึง ตอนกลางคืนท้องเสียเลยจ้า)



ไปถึงพุทธคยาแล้ว แลกเงินรูปีไว้ใช้สักหน่อย เรทที่เราแลกกับหัวหน้าทัวร์จะได้เป็น 100 บาท = 185 รูปี แต่เพื่อน ๆ ที่จะไปแลกกับแขกที่นั่น ต้องระวังดี ๆ นะคะ เพราะอาจจะมีทั้งแบงค์ปลอม หรือ อาจจะได้รับเงินไม่ครบ (ระหว่างนับเงินอยู่ แขกอาจจะหายไปแล้วก็ได้ เรื่องนี้หัวหน้าทัวร์เตือนมาค่ะ)


หลังจากเก็บของไว้ในที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางไปยังพุทธคยากันต่อเลยจ้า (ห่างจากที่พักประมาณ 2 กิโล) เข้ามาในเขตชุมชนแล้วรถก็เริ่มเยอะขึ้น ถนนก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เมื่อเทียบกับบ้านเราแล้ว แต่สำหรับคนที่เคยไปแสวงบุญเมื่อหลายปีก่อนอาจจะเห็นว่าดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ


ตรงหน้าทางเข้าพุทธคยาก็จะมีของขายเรียงกันเป็นแผง จับจ่ายให้สอยกันตามสะดวก คล้าย ๆ บ้านเราเลยค่ะ


ถึงแล้วค่ะ พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจดีย์ดูยิ่งใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้มากเลยค่ะ เพราะจากที่ได้ยินมา เห็นว่าพระพุทธศาสนาได้ล่มสลายในอินเดียตั้งแต่เมื่อ 1500 ปีก่อน เลยไม่คิดว่าเจดีย์พุทธคยาจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ และยิ่งใหญ่เช่นนี้

ถ้าใครนำกล้องเพื่อเข้าไปถ่ายภาพจะต้องซื้อบัตรเข้าไปด้วยนะคะ ราคา 100 รูปี สำหรับกล้องถ่ายภาพ แต่ถ้าเป็นกล้องวีดีโอราคาก็จะเป็น 500 รูปี แต่ที่นี่ห้ามนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปนะคะ ต้องฝากไว้ด้านนอก ซึ่งจะมีที่รับฝาก ตรงทางเข้าจะมีเจ้าหน้าที่แสกนและตรวจกระเป๋าและค้นตัว โดยแยกทางเข้าเป็นแถวของผู้ชาย และแถวของผู้หญิงค่ะ
สาเหตุที่ห้ามนำโทรศัพท์เข้าไปเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีการวางระเบิดและจุดชนวนโดยโทรศัพท์ค่ะ ทางการเค้าเลยสั่งห้ามนำมือถือเข้าไปในพื้นที่ค่ะ


ภายในสถูปจะพบกับพระพุทธเมตตา คนจะต่อแถวเข้าไปกราบเยอะมากค่ะ


กราบพระพุทธเมตตาเรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินไปที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ประทับและตรัสรู้สัมโพธิญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 


ต้นพระศรีมหาโพธิ์ มีคนมากมายที่มานั่งสมาธิ ณ จุดนี้ (ยิ่งมืดคนก็ยิ่งเยอะขึ้น เดินแทบจะไม่ได้เลยค่ะ ยิ่งคนไทยด้วยแล้วเยอะมาก ๆๆๆ) โดยต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้ถือเป็นต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้มากราบไหว้สักการะก็เท่ากับว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธเจ้า


ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 ซึ่งนับแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งแตกหน่อออกมาจากต้นที่ 3 ที่ตายไป มีอายุประมาณ 134 ปี (นับถึงปีพ.ศ. 2558) 


ดอกไม้ที่นำมาบูชา ส่วนมากจะเป็นดอกดาวเรือง 


ปิดท้ายตอนนี้ด้วยเจดีย์พุทธคยา ยามค่ำคืน แสงสีทองเหลืองอร่ามบนยอดเจดีย์ สวยงามมาก ๆ เห็นแล้วก็อยากจะกลับไปอีก สำหรับชาวพุทธถ้ามีโอกาส ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องไปให้ได้ เพราะไปแล้วรู้สึกซาบซึ้งมาก ๆ ค่ะ  ห้ามพลาดนะคะ






Create Date : 15 มีนาคม 2558
Last Update : 15 มีนาคม 2558 9:24:23 น. 0 comments
Counter : 2978 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

Thewinner
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เห็นคนอื่นมี blog แล้วอยากมีบ้าง
[Add Thewinner's blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com