ข้อมูลที่ปรากฏอาศัยการวิเคราะห์เชิงเทคนิคจากเครื่องมือหลายชนิดอย่างไรก็ตามผู้เขียนไม่ได้รับรองถึงความครบถ้วนสมบูรณ์หรือถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวและไม่ได้ประกันผลตอบแทนที่จะปรากฏขึ้น ผู้เขียนจึงไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูล ความเห็นไปใช้ในการลงทุน ผู้ลงทุนควรใช้ดุลยพินิจอย่างรอบคอบ เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง

ลงเอยกันด้วยดี

ในที่สุดก็ลงเอยกันด้วยดีจนได้สำหรับเดือนสิงหาคม กลับมาปิดยืนเหนือ 746 ได้จริงๆทำให้สัญญาณขายในระดับ Month เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่าตั้งแต่ตลาดเป็นขาขึ้นยังไม่เกิด อาหารแบบนี้เคยจะเกิดแล้วทีนึงคือตอนเดือนมิ.ย. ที่ไทยโดน downgrade จากโบรกฝรั่งเรื่องการเมือง และมีประเด็นเรื่องหนี้กรีซมาแจม แต่ถ้าใครเชื่อมั่นในตลาดไทยก็คงจะได้ของดีในราคาถูก แล้วสุดท้ายตลาดหุ้นไทยก็มาทำ new high เมื่อต้นเดือนนี้ก่อนจะเผชิญปัญหาจากภายนอกอีกครั้งฉุดตลาดให้ลงมาใกล้ low เดิม

ช่วงลงครั้งแรก ผมไม่ได้ปรับพอร์ตเพราะยังเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย ส่วนดอยล่าสุดผมขายหุ้นปรับพอร์ตครั้งใหญ่ในรอบ 5 ปีเลย โดยการ switch หุ้น แต่ถือเต็มพอร์ตเหมือนเดิม ( ถือ cash 5%) แม้จะเชื่อมั่นมากๆว่ารอบนี้สถานการณ์โลกเรื่องเศรษฐกิจถดถอยจะไม่เกิด แต่ใครจะรู้อนาคต เพราะขนาดนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชั้นเซียนที่ทำนาย Hamburger Crisis ของอเมริกาไว้อย่างแม่นยำ ยังผิดในเรื่องของ Timing ที่เกิดช้ากว่าที่คิดถึง 2 ปี ถ้าใครเชื่อสนิทใจแล้วล้างพอร์ต ผลตอบแทนที่หายไปจากการไม่มีหุ้นมันน่าหดหู่ใจยิ่งนัก แม้ว่า คราวนี้ทุกท่านอาจจะรู้สึกกลัวสับสนหดหู่ ไม่มั่นใจกับสถานการณ์โลก ตลาดหุ้นจีนก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะฟื้น ทำให้อยากจะขายหุ้นทิ้งเลย บางคนล้างพอร์ตรอแล้วก็มีนะครับ(อะไรจะกลัวสุดโต่งขนาดนั้น) ลองหันมามองในความเป็นจริงดีกว่า ว่าปี 2551 กับ ปีนี้ มันแตกต่างกันมากๆ ทั้งเศรษฐกิจของเอเชียที่ขยายตัว ส่วนอเมริกาปัญหาหนี้เกิดที่ภาครัฐบาลแทน ยุโรปก็เช่นกัน ทีนี้เวลาจะวิเคราะห์มันเป็นระดับมหภาค และเกี่ยวโยงกันแต่ละประเทศเพราะรัฐบาลกับรัฐบาล สมมติอเมริกาจะล้มจริงๆ จีนคงไม่นิ่งดูดายให้ลูกหนี้รายใหญ่ตายไปต่อหน้าต่อตาหรอกครับ ลูกหนี้รายใหญ่ตายไป เจ้าหนี้ก็ลำบากหนัก ยุโรปก็จะปล่อยกรีซล้มไม่ได้ จะลามเป็นโดมิโน และถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นจริงตลาดหุ้นทั่วโลกก็คงพัง ซึ่งทุกคนก็คงจะลำบาก และผมมั่นใจว่าโลกใบนี้จะเกิดอะไรขึ้น พอร์ตผมจะปลอดภัยและโตหลายเท่าได้ ส่วนจะโตด้วยหุ้นอะไรนั้น อีกซัก 3ปี เรามาดูกัน

แล้วภาพตลาดเดือนหน้าและต่อๆไปจะเป็นอย่างไร ผมคงไม่มีเวลามาเขียนบอกทุกวันแต่จะให้มุมมองไว้ดังนี้ว่า
1.ตลาดโลกมี Panic เป็นพักๆ Downgrade ประเทศในยุโรปบ้างจะเป็นไร อเมริกายังทำมาแล้วเลย
2.ตลาดหุ้นจีนน่าจะเริ่มฟื้นได้ซักปลายปีนี้ และปลายปีคงมีเงินจากรัฐบาลจีนมาลงในตลาดหุ้นบ้านเราหลายหมื่นล้าน ตอนนั้นก็หนุนตลาดได้
3.ตลาดหุ้นไทยเดือนกันยายนยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ แม้จะรอดมาได้ในเดือนนี้ แต่ทรงจากกราฟบอกถึงแนวโน้มที่ยังจะเป็นเหมือนเดิมอยู่ เพียงแต่ Bottom อาจจะเกิดไปแล้ว รอบหน้าลงมา อาจจะเป็นช่วงกลางเดือนกันยายน เป้าหมาย Sideway up ไปปิด gap แถว 774 ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะหลอกให้ดูเหมือนว่าขึ้นจริงแล้วจากนั้นก็ลงใหม่
4.ทองคำ ผมมอง sideway หลังจากทำ All Time High $1,912 แล้วก็ลงมาจากดอย $210 แล้วดีดกลับไปแถว $1,839 ได้ ดูจากทรงกราฟยังไงก็ต้องเกิด Big Correction 1 รอบแน่นอน แต่จะเป็นช่วงไหน ซึ่งน่าหนักใจอยู่ แต่ผมขอเลือกช่วงปลายกันยา-ตุลาคม โดยช่วงนี้จะ sideway ทำให้คน short หรือ long ที่เล่นกะกินคำโตจะหนักใจ อย่าเผลอปล่อยให้ความโลภเข้าครอบงำ จนติดดอยทองแล้วกัน

ที่สำคัญ หมั่นทำบุญ รักษาศีล ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อให้บุญรักษากำไรของท่านไว้ให้นาน โชคดีและลงทุนอย่างพอเพียง ผมอาจจะกลับมาพร้อมกับข่าวดีเรื่องคอร์สในเดือนธันวาคม ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 กันยายน 2554 14:35:30 น.   
Counter : 757 Pageviews.  

วันนี้ชี้ชะตา TF Month แล้ว

วันนี้ชี้ชะตา TF Month แล้ว
ราคาต้องยืนปิดให้ได้ที่ 746 จึงจะไม่เกิดสัญญาณขาย ดูแล้วเหนื่อยใจแทนอยู่เหมือนกัน แม้สถาบัน& ต่างชาติจะเป็น net long แต่บางเฉียบ ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้เสมอในตลาด TFEX (ลืมบอกว่าผมใช้สัญญาณล่วงหน้า ซึ่งถ้ามองแบบรายย่อยทั่วไปอาจจะยังไม่เห็นสัญญาณขายที่ว่าเกิดขึ้นทำให้อาจยังไม่ร้ายแรงอย่างที่คิด)

แต่ถ้าราคาดันแรงไปยืนเหนือ741 ได้เล็กน้อย TF 240 นาทีจะเกิด Invert Head&Shoulder ทันที ไม่ต้องบอกว่าให้ทำอะไรทันทีถ้าเข้าใจ price pattern

ถ้าไม่มีกราฟรายเดือนมาเป็นตัวฉุดคนที่ L วันนี้ไว้น่าจะได้เฮมากกว่าโดยเฉพาะทรงกราฟท้ายตลาดแบบนี้ผมชอบมากๆ อยากให้จำไว้เป็นเทคนิคการเล่นเลย Low Risk +High Accuracy ถึง 80% ถ้าระฆังไม่หมดยก ราคาจะดีดแรง แต่พรุ่งนี้ก็คงลุ้นกันเหงื่อตกเพราะฝั่ง short จะสู้ยิบตา และฝั่ง L ก็แพ้ไม่ได้ มันส์หยดล่ะคร้าบ กระพริบตาไม่ได้เลยเชียว

คลื่นที่นับได้มีความเป็นไปได้หลายแบบเกินไปจึงขอเว้นไว้เดี๋ยวจะสับสน เพราะเวลาเทรดจะซับซ้อนไม่ได้ ต้องง่ายที่สุด

ส่วนทรงการกลับตัวเป็น ถือ L ยาวๆโดยไม่แกว่งลงมาอีกยังไม่เห็นต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่เป็นสัปดาห์ Sideway up จึงเหมาะสมแต่ต้องหาจุดเข้าให้ดีแล้วจะมีกำไร .. ช่วงนี้อย่าเพิ่งโลภหรือเสียดายเวลาเข้าแล้วได้กำไรก็จงพอใจและชื่นชมตัวเองเพราะตลาดมีความเสี่ยงสูงมาก มองทางขึ้นที่ผมทำไว้เห็นเป้าไกลแต่ใช้เวลา ส่วนขาลงก็ยังไม่เฟิร์มว่าจบแล้วด้วยMonthขัดขวางอยู่

กลยุทธ์คือ ใคร L ท้ายตลาดไว้จุด stop คือ 722 ถ้าเปิดมาต่ำกว่าให้รอ ดูตั้ง stop ไว้ต่ำกว่า 718 เล็กน้อย 11โมงกว่าหากสัญญาณขึ้นไม่มาอาจจะต้องพิจารณาด่วน ถ้าราคาเหนือ 741 follow L ทันทีอย่างน้อยปิด gap 747 เลย

มี Indicator ตัวนึงที่ใช้กับตลาด TFEX ได้ดี ผมเพิ่งจะตั้งชื่อมันเสร็จเมื่อกี้แต่ขอเวลาเขียนสูตรก่อนซัก 6 เดือนแล้วจะสรุปสถิติออกมาดู แต่เท่าที่เล่นตามก็แม่นยำถึง 80% เลย




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 กันยายน 2554 14:35:58 น.   
Counter : 897 Pageviews.  

เปิดเผยเทคนิคการเทรดแบบง่ายๆสไตล์ Takky

สมัยผมเริ่มเทรดใหม่ๆเลย ผมก็เหมือนคนส่วนใหญ่ที่จะต้องติดตามดูดัชนี DJIA, HangSeng แล้วก็ดู DJIA Future ไปด้วย พอบ่ายก็ดูยุโรปต่อ เช่น เมื่อคืน DJIA บวกแรง วันนี้ต้อง L สถานเดียว หรือเมื่อคืน DJIA ลงแรง วันนี้ต้อง S สถานเดียว ผลลัพธ์ของการเทรดคือแพ้ครับ หรือถ้าเราซื้อแล้วจู่ๆลงแรงก็ต้องโทรเช็คกับมาร์ว่ามีข่าวอะไร หาสาเหตุการลงให้ได้ ยิ่งติดตามข่าวสารใกล้ชิดก็ยิ่งเทรดแย่ ยิ่งเสีย หากใครมีอาการแบบนี้อยู่แนะนำให้เปลี่ยนสไตล์ใหม่ ด้วยสไตล์การเทรดแบบแรกของผมทำให้ผมต้องโทรไปหาเพื่อนบ่อยๆว่าเทรด TFEX โคตรยากเลย แล้วก็ปรับทุกข์ประมาณว่าเหนื่อยมาก แต่เพื่อนก็ให้กำลังใจผมดีมากบอกว่าผมเป็นคนเดียวในรุ่นของวิศวะเคมีเกษตรที่ลงทุนทุกอย่าง ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวเจออะไรมาเยอะ Dynamic มากๆ ผมได้ฟังดังนั้นก็เห็นจริงดังคำเพื่อนทุกประการ ก็เกิดพลังฮึดสู้ต่อ และบอกกับตัวเองว่าขอลองใหม่อีกซักครั้งเถอะ......

ปี2008 เป็นจุดเปลี่ยนความคิดในการเทรดของผมหลายอย่าง จากการเทรดแบบไม่เคยศึกษากราฟ ก็หันมาสนใจและไปลงเรียนเรื่องกราฟกับอาจารย์ฝรั่งที่ผมเลือกแล้วว่าเจ๋งจริง แต่ละคนก็เก่งในแบบที่แตกต่างกันและให้ไอเดียผมได้หลากหลาย มีสัมมนา มี preview class ไปฟังหมด(คุณต้องเปิดใจตัวเองก่อนในขั้นแรก) ซึ่งโดยธรรมชาติของผมในชีวิตนี้ก็เป็นคน walk-in ตลอดถ้ามีอะไรดี จะฟรีหรือจะจ่ายตังค์ผมไม่เคยเกี่ยง เพราะนึกเสมอว่าการลงทุนในเรื่องของความรู้เป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในโลก และจะติดตัวเราไปตลอดจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ปัญหาคือคนส่วนใหญ่เรียนแล้วไม่ฝึกฝนต่อ และให้เวลากับมันจึงทำให้ใช้งานไม่คล่อง และเข้าใจไม่ลึกซึ้งพอ แต่ไม่ใช่กับผม ผมจะตื่นเต้นทุกครั้งกับเรื่องใหม่ที่ได้ศึกษาและลองทดสอบ ไม่เว้นแม้แต่การวางแผนการเทรดที่เสมือนผมเจอลายแทงขุมทรัพย์ จนหลายครั้งถึงกับนอนไม่หลับ ต้องส่งเมลแจ้งลูกศิษย์ตอนตี4-ตี5(ระหว่างที่ทุกท่านนอน ผมทำงาน) ผมจึงใช้สมองและร่างกายเยอะกว่าคนอื่นมาก ปัญหาสุขภาพจึงเริ่มเข้ามาเยือนเป็นระยะ

ระหว่างที่ผมสอนลูกศิษย์ทั้ง 4 รุ่น ก็เช่นกัน แต่ละรุ่นผมพบว่าจะตื่นเต้นไม่เท่ากัน แต่ละคนในรุ่นเดียวกันก็จะตื่นเต้นไม่เท่ากันอีก อาจจะมาจากความรู้ ทัศนคติ และประสบการณ์ที่ไม่เท่ากัน ผมก็จะสังเกตว่าคนไหนชอบถามมากที่สุดหรือตื่นเต้นมากที่สุด คนไหนถามเหมือนไม่ได้นั่งเรียนอยู่ในห้อง คนไหนไม่ค่อยตั้งใจฟัง หรือนั่งหลับ(นี่คือจุดเด่นของผมคือ ช่างสังเกต จดจำทุกรายละเอียดแล้ววิเคราะห์คนๆนั้นทันที สามารถบอกจุดอ่อนจุดแข็งของลูกศิษย์ทุกคนได้เลย และแน่นอนมันย่อมนำมาใช้ได้ผลดีต่อการเทรดด้วย) อีกเช่นกันผมคงไม่สามารถบังคับให้ใครตั้งใจฟังได้ทั้งหมด เพราะเป็นสิทธิของตัวเค้าเองที่เสียเงินมาเรียนแล้วต้องเอาจริงเอาจัง ไม่ใช่มาเรียนแบบเล่นๆ

หนังสือภาษาอังกฤษ เป็นหนังสือที่ควรอ่านมากกว่าภาษาไทย การอ่านหนังสือแปลแม้จะอ่านได้เร็วแต่ก็จะขาดในหลายๆส่วนและไม่อินเท่ากับอ่านหนังสือจริง ถ้าหนังสือฉบับภาษาอังกฤษเล่มละ 3 พันบาท คุณจะยอมจ่ายตังค์ซื้อมั้ย? นี่คือคำถามที่อยากจะให้ทุกท่านลองตอบตัวเองให้ได้ สำหรับผมจ่ายมาแล้วครับ...

มาดูที่ประเภทของการเทรดบ้าง แบ่งออกหลักๆได้ 3 แบบ คือ
1.แบบ Fully Mechanical Trade (ใช้ระบบเทรดเขียวแดงเท่านั้นในการเข้า position ถ้าไม่เกิดสัญญาณซื้อหรือขายก็ไม่เข้าแม้ว่าจะขึ้นไปแรงหรือลงแรงแค่ไหนก็ตาม) ระบบนี้เหมาะกับคนที่จิตใจโลเล ไม่มั่นคง แปรปรวนง่าย สับสนบ่อยๆ จึงต้องใช้ระบบนี้มาช่วยลดอาการตรงนี้ นอกจากนี้ระบบนี้ยังเหมาะกับคนที่ทำงานประจำ ไม่ค่อยว่างอีกด้วย
2.แบบ Judgemental Trade ต้องอาศัยการตัดสินใจด้วยตัวเองทุกอย่างในการหาสัญญาณ ระบบนี้จึงเหมาะกับคนที่มีวินัยมาก เพราะถ้าขาดวินัยจะทำให้เทรดแล้วแย่กว่าระบบแบบแรกเยอะ แต่ข้อเสียคือเหนื่อยมากกว่า
3.แบบผสม Hybridization Trade อาศัยระบบเทรดบางส่วนมาช่วยในการตัดสินใจเข้าหรือจะไม่เข้า ระบบนี้เป็นระบบที่ผมชอบเพราะช่วยลดอารมณ์ลดงานได้เยอะ
ปัจจุบันระบบที่ผมใช้เทรดคือ 2 และ 3 ครับ ผมกำลังจะพัฒนาระบบที่1มาใช้งาน(ตั้งใจไว้ตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วแต่ไม่มีเวลาและโน้ตบุ๊คก็ติดไวรัสบ่อยมาก ทำให้เขียนๆเลิกๆ สงสัยคงต้องซื้อ Macbook มาใช้เร็วๆนี้แล้วล่ะครับ)

ทั้งนี้ท่านต้องเลือกระบบเทรดให้เหมาะกับตัวเองก่อน ในระบบเทรดก็มีรูปแบบอีกเยอะมากที่อาจจะทั้งเหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวท่าน ซึ่งตัวท่านจะเป็นผู้ให้คำตอบว่าท่านชอบแบบไหนกันแน่ ไม่ใช่คนอื่นบอก

ส่วนรูปแบบการเทรดที่ผมใช้ ก็มีทั้ง Day Trade สั้น กลาง ยาว ดังนั้นเวลาผมให้สัญญาณจะแตกต่างกันไป การเล่น Day Trade ของผมจะไม่เล่นทุกวัน(จะเล่นก็ต่อเมื่อวางกรอบการเทรดของวันแล้วมี gap ให้เล่นมากกว่า 6 จุด รวมทั้งต้องว่างเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาด้วย หากผิดเงื่อนไขก็จะไม่เล่น) บางคนอาจจะเล่นด้วย gap ที่น้อยกว่านี้ก็ได้แต่ท่านต้องมีจุดเข้าที่ได้เปรียบมิฉะนั้นโอกาสที่จะทำกำไรอาจกลายเป็นขาดทุนได้

นอกจากนี้ยังมีกฎกติกา สำหรับการเป็น Day Trade ที่ผมวางไว้คือ ห้ามคุยในระหว่างเทรด(ปิดมือถือจึงต้องขออภัยที่ไม่สามารถให้ใครโทรมาได้) ห้ามเขียนบล็อก ห้ามใครเข้ามารบกวน(แต่พ่อกับน้องชายก็ชอบเข้ามากวนบ่อยๆ หลายครั้งก็เสียจังหวะ แล้วจะทำให้ผมหงุดหงิดมาก เพราะโอกาสที่ดีที่สุดจะเกิดตอนไหนก็ได้แต่คุณต้องพร้อมตลอดเวลา คนที่ยังทำงานประจำจึงเป็น Day Trade ไม่รุ่งแน่นอนนอกจากท่านจะเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวเอง) อีกปัญหาหนึ่งที่กวนใจคนที่เป็น DayTrade คือ ระบบส่งคำสั่งซื้อขาย ของตลาด/ ระบบของโบรกเกอร์ล่ม(โบรกที่ห่วยๆก็จะเจอเกือบทุกเดือน ไม่เคยพัฒนา) / software/ Internet และไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่งเดือนนี้ผมเจอทุกวันตั้งแต่ 1-26 สิงหาคม คงไม่ต้องบอกว่าผมหงุดหงิดใจขนาดไหนที่มีจังหวะหยิบเงินก้อนใหญ่ในพริบตาแต่ทำไม่ได้ขนาดไฟฟ้ายังมาดับได้ 2 ชั่วโมง และกฎของผมข้อสุดท้ายคือ เมื่ออะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะไม่เทรดดีกว่าเพราะอารมณ์เสียแล้วจะเทรดไม่ได้ดีแน่นอน...(หลังจากโทรไปเสวนาธรรมจากพระสงฆ์สุดท้ายผมก็เลยปลง)

ส่วนสัญญาณระยะกลางหรือยาวจะทำให้ผมมีเวลาทำอะไรได้เยอะกว่าเดิมมาก แต่ก็จะปล่อยปละละเลย ไม่ได้เช่นกัน

เป้าหมายของผมด้านการลงทุนมี 8 ข้อ ตอนนี้2ข้อแรกทำอยู่คือบริหารพอร์ตตัวเองและกองทุนให้โต 9 หลัก แต่ต้องรอเวลาอีกซัก 6-7 ปีจึงจะเห็นผลว่าจะพลาดเป้าหรือใกล้เคียง

ข้อ3 ทำไปแล้วคือ การสร้างคนโดยการสอนเทรด
ข้อ4-6 เป็นจุดที่ผมโฟกัสและให้เวลาทำอยู่ณ ตอนนี้(ต้องมีผู้ช่วย)
ข้อ 7 เป็นผลต่อเนื่องจากข้อ1-2 ส่วนข้อ 8 คือการสร้างบุญที่ยิ่งใหญ่และยาวนานเป็นการบริจาคเงินก้อนโตจากข้อ1-2
เมื่อครบทั้ง 8 ข้อ ผมคงเกิดมาใช้ชีวิตได้คุ้มค่าแล้ว

ส่วนคนที่ถามเรื่องหนังสือผม ก็ยังไม่เสร็จครับ เขียนไว้ตั้งแต่ปลายปี 2008 จากนั้นก็ไม่ได้เขียนเพิ่ม อาจจะได้ฤกษ์วางแผงปลายปีหน้าหรือต้นปี 2013
ดังนั้นด้วยจิตสาธารณะกุศล ผมมีต้นทุนด้านเวลาเยอะมาก ดูจากเวลาที่ผมตอบในบล็อกตอนตี2กว่าๆ หรือส่งเมลหาลูกศิษย์ทีละคนจนครบทุกคำถาม(คงไม่มีเซียนที่ไหนทำหรอก) ผมจึงขอคืนเวลาส่วนตัวบ้างนะครับ ใครมีคำถามยังอีเมลมาถามได้เช่นเดิมแต่ให้ SMS แจ้งมาด้วย และถ้าคำถามซ้ำกันผมขอตอบครั้งเดียวเพื่อประหยัดเวลาอันมีคาของผมนะครับ
ก่อนจากอยากจะฝากวิธีปรับอารมณ์ในการลงทุนให้กับทุกท่านว่า
1.อย่าต่อราคาเกินไปถ้าจุดที่ท่านต้องการนั้นไตร่ตรองมาดีแล้ว
2.เชื่อในสิ่งที่เห็น จงอย่าเชื่อในสิ่งที่คิดเอง(ดูกราฟเท่านั้น อย่าฟังข่าวลือ ส่วน Inside ผมไล่พิสูจน์กับหุ้นมาเยอะแล้วตั้งแต่ รถไฟฟ้า ถ่านหินตราโลก ดีแตก ยางร้อนแรง,etc. ปรากฎว่าตรงข้ามตลอด)
3.ถ้ามี position จงเอาใจออกห่างมันและลืมมันไปชั่วขณะ เพราะท่านจะไม่รู้ตัวว่าท่านกำลัง Bias เต็มที่จากการที่ท่านมี position
โชคดีนะครับ อีกนานกว่าผมจะมาเขียน เพราะกันยา-พ.ย. ผมไม่ว่างเลย




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 กันยายน 2554 14:36:17 น.   
Counter : 2061 Pageviews.  

สัญญาณกลับตัวชัดเจนใน TF ย่อยตั้งแต่วันศุกร์

ใครที่คิดจะ short ระวังจะเจ็บตัวได้ง่าย ถ้ามือไม่ไว ใจไม่เร็วพอ ขอเตือนด้วยความหวังดีจริงๆ ถ้ามือไวพอ จะได้กำไรจากการ short บ้าง
ถ้า hold อาจจะโดนได้ การแกว่งเป็น sideway up จับตาดูว่า gap 747 จะโดนปิดภายในวันศุกร์นี้หรือไม่

ส่วนวันนี้หากปิดเหนือ 729.5 ได้จะเกิดสัญญาณ Long ในระดับ Day แล้วใครถือ short อยู่ก็คงสู้ตายแน่ๆ แต่คงรอดยากจริงๆ....หลังจากที่ผมนั่งทำ Market Structure ในระดับ 2 สัปดาห์ข้างหน้า เสร็จตอนตี 4 เมื่อเช้านี้โดยใช้รูปแบบ Advance Strategy แบบหนึ่งที่ Millionaire Trader ระดับโลกเค้าใช้กัน

แต่คงต้องชี้ชะตา TF Month ก่อนด้วยวันพุธนี้แถว หากยืนเหนือ 738 ได้ สัญญาณขายในระดับ Month จะหายไปทันที เมื่อสัญญาณ Month ไม่สั่งขาย แล้ว Day สั่งให้ซื้อ

Money Game รอบนี้สถาบันจะเป็นคนตัดสินชะตาของทุกท่าน ขอให้โชคดี




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 กันยายน 2554 14:36:39 น.   
Counter : 898 Pageviews.  

ธรรมะกับการลงทุน

ก่อนอื่นเลย วันนี้เป็นวันพระผมเพิ่งกลับจากไปทำบุญ ทำทานที่วัด นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสถวายเงินร่วมสร้างพระประธานทั้ง 2 ปางที่จะนำไปประดิษฐานที่วัดในจังหวัดเชียงใหม่และนครพนม ผมก็ขออนุโมนาบุญเผื่อแผ่ไปถึงลูกศิษย์ทุกท่านทั้ง 4 รุ่น รวมถึงแฟนคลับทั้งหลายที่ติดตามกันมาช้านานและเพิ่งติดตามด้วยครับ ขอให้บุญกุศลหนุนนำให้ทุกท่านมีชีวิตที่เป็นสุข จิตใจสงบ ร่มเย็น และลงทุนอย่างมีสติรวมถึงได้กำไรด้วยเทอญ....

1 วันก่อนหน้าคือเมื่อวาน ผมเพิ่งผ่านการหนีตายจากไฟไหม้ที่ Central Bangna (เสียงระเบิดเกิดขึ้นก่อนหน้าที่ผมจะไปถึงเกือบชั่วโมง แต่ไม่มีการแจ้งประชาสัมพันธ์จากทางห้าง ทำให้ผู้คนก็ยังคงเดินหรือใช้ชีวิตในห้างตามปกติ กว่าจะขับรถหลุดออกมาได้ก็นานเกินครึ่งชั่วโมงเลย ขนาดจอดรถใกล้ทางออก เห็นการทำงานของห้างในยามที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน แล้วอนาถใจมาก ไม่ได้คำนึงถึงเรื่อง Safety ก่อน ซึ่งแตกต่างจากเมืองนอกเวลาเกิดเหตุเช่นนี้เค้าจะพร้อมรับมือตลอดเวลาและมีการจัดการที่ดีมากๆ และให้ความสำคัญกับเรื่อง Safety First)

ผมขอแทรกความรู้ในการหนีเอาชีวิตรอดในยามเกิดเพลิงไหม้ให้ท่านที่ยังไม่ทราบมาก่อน หากไฟไหม้ที่โรงแรม ให้มีสติก่อน จากนั้นหาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ชุบน้ำห่มตัวไว้แล้วหมอบคลานที่พื้น(เพื่อมิให้สำลักควันไฟที่ลอยสูง)ไปยังทางออกฉุกเฉินให้เร็วที่สุด หากเราสูดควันที่ร้อนมากเข้าปอดเพียงแค่ 2 ครั้งอาจจะหมดแรงแล้วหมดสติตรงนั้นเลยทันที ส่วนสมบัติต่างๆนั้นของนอกกายครับ เคยมีเคสจริงของคนห่วงสมบัติกลับเข้าไปในตึกที่กำลังไฟไหม้ เพื่อหยิบขนตู้เซพออกมาด้วย ก็โดนไฟคลอกตายทั้งสามีและภรรยา ปล่อยให้ลูกๆ 10 ขวบต้องกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่บัดนั้น

จะเห็นได้ว่าชีวิตไม่เที่ยง ซึ่งเป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ 3 ที่พุทธศาสนาสอนไว้จริง แม้กระทั่งคนที่เกิดมาวันเวลาเดียวกันก็ยังมีชีวิตที่แตกต่างกันได้ซึ่งถูกกำหนดมาจากกรรมเก่าไว้แล้ว และถ้าเกิดมาในชาตินี้แล้วยังไม่หมั่นสร้างคุณงามความดี ชีวิตก็คงต้องชดใช้กรรมไปเรื่อยๆ ส่วนผมมีโครงการสร้างบุญใหญ่หลายโครงการ ช่วยเหลือเด็กกำพร้า และเด็กพิการ เมื่อพอร์ตเติบโตตามเป้าจะมีการแบ่งเงินก้อนใหญ่มาบริจาค(ลูกศิษย์ทั้ง 4 รุ่นถือว่าท่านได้มีส่วนร่วมสร้างบุญไปกับผมแล้ว เพราะเงินส่วนหนึ่งของท่านถูกหักเข้ากองทุนที่ผมตั้งขึ้นส่วนตัวเรียกว่า Donation Fund) รวมถึงหนังสือที่ผมจะตีพิมพ์ในอนาคตด้วยก็จะถูกหักรายได้เข้ากองทุนนี้เช่นกัน ผมดีใจที่มีหมอที่รู้จักให้สัญญาว่าจะร่วมทำบุญกับผมโดยบริจาคเข้ากองทุนต่อเนื่องเดือนละ 5 พันบาททันทีที่กองทุนนี้ถือกำเนิดขึ้น ตอนนี้จึงต้องมีการเร่งปั๊มพอร์ตให้โตหลายเท่าเพื่อจะได้ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตไปกับการสร้างบุญกุศล และเก็บเกี่ยวความสุขในบั้นปลาย ซึ่งผมได้อธิษฐานจิตไว้แล้ว ผมจึงเชื่อว่าผมจะบรรลุในเป้าหมายที่ผมตั้งใจไว้...

นอกจากนี้ผมก็มีความเชื่อด้วยว่าเงินหรือทรัพย์สมบัติที่เรามี เราไม่สามารถนำพาไปใช้ได้ในยามที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว แล้วแค่ไหนที่เรียกว่าพอ บางคนมีเงิน 8 หลักก็ต้องการ 9 หลัก บางคนมี 9 หลักก็ต้องการ 10 หลัก ส่วนคนที่มี 10 หลักก็อยากมีถึง 11 หลัก ความสุขจะเกิดได้ในยามที่เรารู้สึกพอ ใจที่รู้จักพอจะเป็นใจที่เป็นสุขครับ..

ขอโยงเข้าเรื่องของกรรม กรรมในทางพุทธศาสนาคือการกระทำ ถ้าเรากระทำความดี เรียกว่ากรรมดี ถ้าเรากระทำความชั่วเรียกว่ากรรมชั่ว กรรมสามารถแซงกันได้ตลอดเวลา และบางครั้งกรรมก็ส่งผลช้าแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิด เอาแค่แต่ละวันเรารักษาศีล 5 ให้ได้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วละครับ มีหลายคนบอกว่าชีวิตแย่เหลือเกิน อยากจะแก้กรรมที่เคยทำไว้(กรรมในที่นี้หมายถึง กรรมชั่วนะครับ) โดยลืมนึกไปว่าพอเราไปแก้กรรมเก่า แต่เราก็สร้างกรรมใหม่ขึ้นมาอีก ต่อให้พยายามแก้เท่าไหร่ก็แก้ได้ไม่หมดเสียที

ตรงเรื่องของกรรมนี่แหละครับที่เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกับการลงทุน ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น ลูกศิษย์แต่ละรุ่นที่ได้ฟังผมสอนก็อาจจะอินไม่เท่ากัน ผมอยากจะบอกว่าทุกคนไม่จำเป็นต้องไปเสาะแสวงหาที่ไหนอีกแล้ว มันใช้ได้กับทุกตลาดทั่วโลก แค่อ่านหนังสือที่ผมตั้งใจทำให้เป็นไบเบิ้ลของการลงทุนที่หนาถึง 250 หน้า มีทุกตัวอย่างทุกเคสให้เข้าใจก็พอ หลายคนบอกกับผมว่าจะอ่านซ้ำถึง 3 รอบผมก็แอบดีใจแทน แต่ไม่รู้ว่าทำได้หรือเปล่า และขอยืนยันว่าแต่ละรอบที่คุณอ่าน คุณจะได้อะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นเสมอ และฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอในสิ่งที่คุณได้อ่าน ทำซ้ำๆจนชำนาญ จะเกิดทักษะอันน่าทึ่งติดตัวคุณ แต่คุณจำเป็นต้องรู้จักตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก เพราะบางครั้งสัญญาณระยะสั้น กลาง ยาว ที่ผมให้ไป ลูกศิษย์แต่ละคนก็เล่นได้ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตัวท่านเอง ลูกศิษย์บางท่านที่เพิ่งมีนัดทานข้าวกับผมไปก็สารภาพว่าเค้าเล่นสัญญาณสั้นไม่ได้ เพราะอารมณ์เค้าทนไม่ไหวกับการสวิง เลยเล่นสัญญาณยาวแทนก็ได้กำไรคำโตบ่อย ทำให้ happy กับการลงทุนมากๆ ท่านจะไม่มีวันจับปลาเป็นหากท่านไม่ยอมออกไปจับปลาด้วยตัวเองบ่อยๆ จงเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับตัวท่าน เหมาะกับขนาดของปลาที่จะไปจับ แต่ถ้าท่านหยิบเครื่องมือไปเพียงชิ้นเดียว แล้วไม่เหมาะกับขนาดของปลา จงทำใจเผื่อไว้ว่าท่านอาจจะออกไปฟรีโดยไม่ได้ปลากลับมาซักตัว และการทำใจเผื่อไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นการเตรียมพร้อมทางด้านอารมณ์ที่ดีและท่านจะไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

3 สิ่งที่จะเป็นอาวุธในการจับปลาของท่านคือ
1.ต้องรู้ Market Structure ก่อน
2.มองหาสิ่งที่แวดล้อมหรือสัญญาณของ ตลาด ณ ปัจจุบันให้ได้
3.เมื่อเจอแล้วก็จงวางแผนการเทรดแล้วทำตามแผนอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นก็จงอย่าเล่น

เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดคือ ทุกคนกลัวว่าจะตกรถไฟ หรือ พลาดBig Move ทำให้เค้าไปพะวงมัวแต่หาเทคนิคที่ซับซ้อนในการเข้าซื้อซึ่งบ่อยครั้งให้สัญญาณหลอกบ่อยมาก นักเทรดที่ประสบความสำเร็จเป็นสุดยอดของโลกล้วนแต่ใช้วิธีการที่ง่ายๆไม่สลับซับซ้อน ยิ่งน้อยยิ่งดี ขอให้ทุกท่านโชคดีครับ..................................








 

Create Date : 28 สิงหาคม 2554   
Last Update : 18 กันยายน 2554 14:36:55 น.   
Counter : 996 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  

Takkytology
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




ผมรักและชื่นชอบการลงทุนมากครับ เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลย ยอมเสียเงินเหมาซื้อหนังสือการลงทุนมาทุกเล่ม จ่ายเงินแพงๆเข้าเรียนเทคนิคกับนักเทรดระดับ1ใน10ของโลก จ่ายค่าsoftware แพงๆเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการลงทุน ลงทุนได้ทุกแบบทั้งสั้น กลาง ยาว หรือ Daytrade รวมถึงแบบVI ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อขึ้นชั้นเป็นสุดยอดกูรูด้านการลงทุนทุกด้านภายใน10ปีข้างหน้า
" Plan the trade then trade the plan without emotion "
[Add Takkytology's blog to your web]

MY VIP Friend