Imagination is more important than knowledge
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ ซึ่งหมายถึงการที่เค้าคิดค้นทฤษฎีสัมพันธภาพได้เพราะอาศัยจินตนาการเป็นตัวนำ ฉันใดฉันนั้น การที่ใครๆจะวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคได้ดีหรือเก่งนั้นต้องอาศัยจินตนาการเข้ามามีส่วนเป็นอย่างมาก ลำพังองค์ความรู้อย่างเดียวคงไม่พอสำหรับการวิเคราะห์ เพราะว่าเราต้องใช้ราคาและปริมาณการซื้อขายเข้ามาพิจารณาร่วมกันสำหรับ Indicator ที่ใช้กันอยู่นั้นเป็นแค่องค์ประกอบไม่ใช่จุดชี้วัดความสำเร็จ หาก Indicator ที่เค้าสอนๆกันมาใช้ได้จริง ป่านนี้ทุกคนบนโลกนี้ต้องรวยกันหมดแล้ว จะไม่มีอาชีพอื่นใดนอกจากอาชีพ Trader แต่ที่คนส่วนใหญ่ยังเทรดไม่ประสบความสำเร็จเพราะยังไม่เข้าใจ จุดเด่น หรือจุดด้อยของ Indicator แต่ละตัว หรือหมายถึงข้อจำกัดว่าเมื่อไหร่เราจะต้องใช้อะไรในการวิเคราะห์ ขอฝากไว้ว่า Indicator คือ Lagging แปลว่าช้ากว่า สิ่งที่เชื่อถือได้ที่สุดในการวิเคราะห์คือ ราคานั่นเอง ฝากเอาไว้ให้คิดสำหรับนักลงทุนทุกคน จะได้เลิกเป็นแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ แม้ไฟนั้นจะเป็นไฟที่ริบหรี่ก็ตาม
Create Date : 25 มกราคม 2554
Last Update : 18 กันยายน 2554 15:15:47 น.
6 comments
Counter : 831 Pageviews.
โดย: bob IP: 203.209.100.230 วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:8:44:13 น.
โดย: RATEE IP: 125.25.3.33 วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:8:50:16 น.
โดย: บักณัฐ IP: 125.26.79.226 วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:9:22:23 น.
โดย: Takkytology วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:10:18:35 น.
โดย: noon IP: 206.53.152.50 วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:12:18:29 น.
โดย: bob IP: 203.209.100.243 วันที่: 25 มกราคม 2554 เวลา:18:58:27 น.
Takkytology
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
ผมรักและชื่นชอบการลงทุนมากครับ เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลย ยอมเสียเงินเหมาซื้อหนังสือการลงทุนมาทุกเล่ม จ่ายเงินแพงๆเข้าเรียนเทคนิคกับนักเทรดระดับ1ใน10ของโลก จ่ายค่าsoftware แพงๆเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการลงทุน ลงทุนได้ทุกแบบทั้งสั้น กลาง ยาว หรือ Daytrade รวมถึงแบบVI ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักเพื่อขึ้นชั้นเป็นสุดยอดกูรูด้านการลงทุนทุกด้านภายใน10ปีข้างหน้า " Plan the trade then trade the plan without emotion "
การที่คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จจากการเทรด ไม่ใช่เรื่องวิธีการเข้าออกหรอกครับ แต่ที่เจ๊งกันเพราะว่าไม่รู้จักการบริหาร "ความเสี่ยง" และปล่อยให้อารมณ์ "โลภ" และ "กลัว" เข้าครอบงำการตัดสินใจ
ประเด็นของคนที่ยืนอยู่ได้ในตลาดนี้ไม่ใช่คนที่ต้องแม่นเป็นเทพพยากรณ์ แต่คือคนที่
- ยอมเสียน้อย
- ยอมได้น้อย
- ยอมได้มาก
- แต่ไม่ยอมเสียมาก
ต้องรู้จัก StopLoss ในอัตรา Risk ที่เหมาะสม
Port จึงจะไม่ Drawdown มากจน Emthy หรือทำลายความเชื่อมั่นในระบบเทรด ไปซะก่อน
ผมเองก็เทรดเป็นอาชีพ พอหาเลี้ยงตัวได้ครับ และมีคนรู้จักในกลุ่มอีกหลายคนที่เทรดอย่างเดียวเป็นอาชีพ
ขอยืนยันว่า ไม่ได้ฟังข่าว หรือข้อมูลพื้นฐานใด ๆ พิจารณาสัญญาณซื้อขายจากกราฟล้วน ๆ เท่านั้นครับ เทรดเดอร์ระดับมืออาชีพที่ผมรู้จักบริหารกองทุนหลักร้อยล้าน ก็เทรดง่าย ๆ จากกราฟเช่นกัน มีทั้งผิดทางและถูกทางเป็นเรื่องปกติเหมือนกัน แต่พอร์ทค่อย ๆ เติบโตช้า ๆ ไม่หวือหวา แต่สม่ำเสมอครับ
จินตนาการ สำคัญกว่ารความรู้ ในชีวิตการเทรด เรามองภาพ "ความน่าจะเป็น" ของตลาดว่าสามารถไปทางไหนได้บ้าง และเตรียมตัววางแผนเมื่อตลาดไปในแต่ละทางที่ได้มองไว้ โดยไม่ "คาดเดา" หรือ "ฟันธง" ล่วงหน้าครับ