• ปลากัด
• กล้วยไม้
• โป๊ยเซียน
• มีอะไรมาใส่บล็อก

อัพเดทรูป Euphorbia francoisii var. crassicaulis forma rubrifolia มาดูเจ้า Euphorbia francoisii var. crassicaulis forma rubrifolia สวยๆกันครับ    มาดูพวกใบขาวๆกันบ้างครับ         Create Date : 05 มีนาคม 2556     Last Update : 6 มีนาคม 2556 11:46:14 น. Counter : 4337 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Euphorbia Froncoisii โป๊ยเซียนนับว่าเป็นพืชที่มีความหลากหลายทางสายพันธุ์ (species) ค่อนข้างมาก บางชนิดมีลักษณะคล้ายพืชในกลุ่มกระบองเพชร (Cactus) แต่สำหรับโป๊ยเซียนส่วนใหญ่ที่ปลูกเป็นไม้ประดับในประเทศไทยจะเป็นโป๊ยเซียนในสายพันธุ์ที่เรียกว่า Euphorbia Milii (ยูโฟเบีย มิลิไอ) ซึ่งเกษตรกรและนักพัฒนาสายพันธุ์โป๊ยเซียนในประเทศไทยได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลาย โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การพัฒนาให้มีดอกที่ใหญ่ สีสรรสวยงาม ดอกบานได้นาน มีจำนวนดอกต่อช่อมากขึ้นและมีลำต้นที่ใหญ่แข็งแรง ใบอยู่กับต้นได้นานไม่ทิ้งใบ ระเบียบช่อดอกสวยงาม แต่ยังมีพืชในตระกูลโป๊ยเซียนที่เรียกว่า Euphorbia อีกหลายสายพันธุ์ที่มีความสวยงามที่ไม่ได้เน้นไปที่ดอก บางสายพันธุ์เน้นไปการเลี้ยงเพื่อดูโขดที่สวยงาม บางสายพันธ์เน้นไปสีและลวดลายที่อยู่บนใบ ซึ่งขณะนี้โป๊ยเซียนในสายพันธุ์ที่เน้นความสวยงามของใบกำลังได้รับความสนใจจากนักสะสมพันธุ์ไม้เป็นอย่างยิ่งซึ่งโป๊ยเซียนในกลุ่มนี้คือสายพันธุ์ที่มีชื่อเรียกว่า Euphorbia Francoisii (ยูโฟเบีย ฟรองซัวซิไอ) ลองมาดูหน้าตาของโป๊ยเซียนที่เรียกว่ายูโฟเบีย ฟรองซัวซิไอกันว่ามีหน้าตาอย่างไร รูปสุดท้ายจะเป็น Euphorbia Ambovombensis โคลนใบผักกาด ซึ่งใบจะมีความสวยงามแต่ไม่มีสีสรร การปลูกเลี้ยงโป๊ยเซียนในกลุ่มนี้ก็ไม่ได้ยุ่งยากหรือมีขั้นตอนที่พิเศษอย่างไร การปลูกเลี้ยงนั้นคล้ายๆกับโป๊ยเซียนสายพันธุ์ที่เน้นดอกที่ปลูกกันโดยทั่วไปในประเทศไทย แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ 1. เครื่องปลูก อาจต้องระบายน้ำได้ดีและต้องโปร่ง 2. กระถางปลูก เนื่องจากเป็นไม้ที่โตช้าจึงควรใช้กระถางปลูกขนาดเล็กและมีรูระบายน้ำได้ดี และเลือกกระถางให้เหมาะสมกับขนาดของต้น 3. การรดน้ำ ควรรดน้ำเมื่อเครื่องปลูกแห้ง ยูโฟเบีย ฟรองซัวซิไอ เป็นไม้ที่ชอบน้ำเหมือนกับโป๊ยเซียนทั่วไปจึงไม่ควรปล่อยให้เครื่องปลูกแห้ง อาจทำให้ใบเหี่ยวจนเกิดการทิ้งใบได้ 4. แสงแดด ค่อนข้างชอบแสงแดดที่การพรางด้วยสแลน และให้แสงประมาณ 70% จะทำให้มีใบที่กระชับและสีสรรสวยงาม ไม่ควรเลี้ยงแดด 100% เพราะจะทำให้สีสรรจืดจางลงไป 5. ปุ๋ย เน้นที่ปุ๋ยสูตรเสมอ สำหรับไม้ที่โตพร้อมออกดอกก็สามารถเน้นปุ๋ยบำรุงดอกเป็นระยะ 6. อากาศ ฟรองซัวซิไอเป็นไม้ที่ชอบอากาศโปร่งมีลมพัดผ่าน ยิ่งในช่วงหน้าหนาวจะมีสีสรรที่เข้มขึ้นและมีการออกดอก นับว่าเป็นช่วงที่ต้นไม้สวยที่สุด สำหรับการปลูกเลี้ยงโดยละเอียดจะนำเสนอในบทความต่อไปครับ   Create Date : 06 มีนาคม 2555     Last Update : 6 มีนาคม 2555 12:55:26 น. Counter : 7053 Pageviews.   3 comment Share Tweet

ลูกไม้สีชมพู สีชมพู โอโรส พ่อแม่ = ? x ? , 16 - 32 ดอก ลูกศรีอัมพร x ? มีหลายต้น : ศรีอัมพรให้ลูกที่เหมือนศรีอัมพรค่อนข้างมาก ดวงตะวัน x ศรีสมโภชน์ : ดอกใหญ่กว่าพ่อแม่ 8-16 ดอก ดอกไปทางดวงตะวัน ดวงนฤมล x ? : 16-64 ดอก ดวงพัชราภา x ? : ได้ลักษณะไปทางดวงพัชราภา คาดว่าเป็นลูกดวงพัชราภา ดอกใหญ่ขึ้น บานทน แต่ดอกซ้อนเป็นชั้น   Create Date : 19 มกราคม 2551     Last Update : 19 มกราคม 2551 21:55:40 น. Counter : 1167 Pageviews.   Share Tweet

ลูกไม้สีแดง ดอกรูปถ้วย 16-32 ดอก   Create Date : 19 มกราคม 2551     Last Update : 19 มกราคม 2551 21:15:14 น. Counter : 633 Pageviews.   Share Tweet

จิ้มลำบาก แต่อยากจิ้ม คงพอเดาออกนะครับว่าหัวข้อที่กำลังจะพูดถึงนี้น่าจะเกี่ยวกับการผสมพันธุ์โป๊ยเซียน สำหรับคนที่มือคันๆแบบผมชอบจับนู่นผสมนี่ ก็ผสมแล้วมันได้ลุ้นดีนะครับ คอยดูลูกที่จะออกมาว่าหน้าตาเป็นยังไง เหมือนที่ได้จินตนาการไว้หรือไม่ หากใครได้อ่านไปแล้วถ้าที่บ้านมีต้นโป๊ยเซียนสายพันธุ์ดีๆอยู่สัก 2 สายพันธุ์ขึ้นไปก็ลองเอามาผสมกันดูนะครับ จะได้มีลูกไม้สวยๆเป็นของตัวเองบ้าง แล้วก็ตั้งชื่อเป็นของตัวเองซะเลย เข้าเรื่องการผสมโป๊ยเซียนกันเลยดีกว่าครับ 1. อับดับแรกของการจับต้นโป๊ยเซียนมาแต่งงานกันก็ต้องดูฤกษ์ยามกันหน่อย ฤกษ์ยามที่เหมาะสมผมได้นั่งทางใน(หลับ) ดูแล้วก็ควรจะเป็นช่วงเวลา 9 โมงถึง 10 โมงเช้า สำหรับต้นโป๊ยเซียนเลี้ยงใต้ซาเรนหรือโดนแดดเช้าถึงเที่ยง เหตุผลเพราะ เป็นช่วงที่เกสรตัวผู้จะเจริญเติบโตเต็มที่ แต่ถ้าใครใจร้อนจะเลื่อนเวลาเป็นสัก 8 โมงเช้าก็ได้ แต่ก็อย่าให้เลยฤกษ์ที่บอกไปมากนะครับเพราะช่วงเวลาเกินกว่านี้เกสรตัวผู้อาจจะหลุดออกมานอกกระเปาะโดนลมพัดปลิวไปหมดนนั่นเอง กระเปาะเกสรตัวผู้ที่พร้อมจะผสมพันธุ์ก็จะเป็นดังภาพ 2 ภาพนี้แหละครับ ที่เห็นเป็นก้านๆขึ้นมากตรงกลางดอกสีเหลืองส้ม มีตุ่มกลมๆ 2 อันนั่นแหละครับใช่เลย ดอกนี้จะเห็นชัดกว่า 2. ได้เจ้าบ่าวแล้วก็มาดูตัวเจ้าสาวกันต่อครับเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวชอบก็จะต้องเป็นสาวเอาะๆแหละครับแต่เอาะๆแบบแรกแย้มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ให้โตเต็มที่จะดีกว่าครับ อายุเธอก็น่าจะอยู่ในราวๆวันที่ 2 หรือ 3 ของการบานหรือสังเกตง่ายๆก็คือ ปรกติเกสรตัวเมียจะอยู่ตรงกลางของดอกมีอยุ่ด้วยกัน 3 ก้านตรงปลายของแต่ละก้านจะมีเส้าเกสรตัวเมียเป็นลักษณะก้อนกลมๆอยู่ตรงปลาย ก้านละ 2 อัน แต่บางที่พวกโป๊ยเซียนดอกใหญ่ๆ ก็จะมี 4 ก้าน การสังเกตเกสรตัวเมียที่พร้อมผสมพันธุ์เต็มที่ ก้านทั้ง 3 หรือ 4 จะต้องแยกออกจากันและเส้าเกสรตัวเมียที่เป็นก้อนกลมๆ 2 อันจะแยกออกจากกัน หรือดูที่สีจะเป็นมีลักษณะเป็นมันสดใส ลักษณะกลีบดอกก็จะยังบานไม่เต็มที่ ดังรูปด้านล่างเลยครับ เห็นเส้าเกสรตัวเมียมั้ยคับ ดูดีๆน่ะ ช่อรวมก็แบบนี้ครับ 3. ได้เจ้าบ่าวเจ้าสาวแล้วเราก็ทำตัวเป็นกามเทพสื่อรักกันเลย เริ่มจากเอาเข็มเย็บผ้ามา 1 อัน อ่านไม่ผิดครับ เข็ม-เย็บ-ผ้า เอามาแคะเกสรตัวผู้ วิธีแคะก็เอาเล็บจากนิ้วหัวแม่มือเราไปรองไว้ที่กระเปาะเกสรตัวผู้ด้านใดด้านหนึงจากนั้นเอาปลายเข็มกดลงไปที่อีกด้านหนึ่งถ้าเกสรตัวผู้มีความสมบูรณ์ดีก็จะมีเกสรสีเหลืองดันตัวออกมาจากแรงกดของเราติดอยู่ที่ปลายเล็บ หรือจะใช้ปลายเข็มแทงลงไปในกระเปาะแล้วเขี่ยเอาเกสรตัวผู้ออกมาก็ได้ ก็จะได้ดังภาพที่เห็นครับ เมื่อมีของดีอยู่กับตัวแล้วอย่าเผลอทำหล่นหายนะครับ กว่าจะได้มาแสนลำบาก 4. จะรอช้าอยู่ทำไมก็เอาผงทองคำที่ได้ไปป้ายลงบนเกสรตัวเมียเลยซิครับ เจ้าสาวเค้าพร้อมอยู่แล้ว แต่ทำแบบเบาๆนะครับ เด็กเค้ายังใหม่อยู่ไม่เคย ทำแรงไปเดี๋ยวก้านเกสรตัวเมียหักมีลูกไม่ได้จะหาว่าไม่เตือน ค่อยๆป้ายเกสรตัวผู้ลงบนยอดเกสรตัวเมียเบาๆเกสรตัวผู้ก็จะเกาะบนยอดเกสรตัวเมีย ก็ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละครับ เค้าก็จะทำหน้าที่ของเค้าเอง 5. หลังจากนั้นทำดอกอื่นๆอีก ทำไปจนกว่าคุณจะพอใจครับ ถ้าไม่เมื่อย ไม่เหนื่อยน่ะ หลังจากแต่งงานแล้วก็อย่าลืมจดทะเบียนสมรสกันด้วยนะครับ อาจใช้ป้ายพลาสติกที่ใช้เขียนชื่อพวกกล้วยไม้มาติดไว้ก็ได้ การเขียนก็ให้เขียนชื่อแม่ x ด้วยชื่อพ่อ ใส่วันที่จดทะเบียนไว้ เช่นแม่ชื่อดวงนฤมล พ่อชื่อทรัพย์ประเสริฐ จะได้เป็น ดวงนฤมล x ทรัพย์ประเสริฐ 16/1/51 จากนั้นจึงเอาไปติดไว้กับช่อดอกเป็นอันเสร็จพิธีถูกต้องตามกฏหมาย 6. วันรุ่งขึ้นถ้าวิวาห์กันด้วยดีเกสรตัวเมียมันก็จะเริ่มเหี่ยวๆ และก้านเกสรตัวเมียทั้ง 3 อันก็จะกลับมารวมกันอยู่ตรงกลางเหมือนดังรูปข้างล่างนี้ (ผสมมา 2 วันละ) 7. หลังจากนั้นเมล็ดโป๊ยเซียนก็จะค่อยๆโตขึ้น กว่าจะเก็บเมล็ดได้ก็ใช้เวลาจากวันผสมประมาณ 14 วัน ดอกที่ติดเมล็ดก็จะเป็นดังภาพ เมล็ดมันก็จะนูนๆขึ้นมา มี 3 -4 เมล็ด ถ้าเราจิ้มเก่งๆเมล็ดก็จะแต่งตึงทั้ง 3 หรือ 4 เมล็ด ในวันที่ 14 หรือ 15 ก็พร้อมที่จะเก็บเมล็ดได้ ช่วงนี้ต้องระวังมากเพราะเมื่อเมล็ดโตเต็มที่จนก้านชูเมล็ดยื่นส่งเมล็ดออกมา เปลือกหุ้มเมล็ดก็พร้อมที่จะแตกออกดีดเมล็ดให้กระเด็นออกไป วิธีป้องกันก็คือหาซองยาพลาสติดมาครอบแล้วรูดซิบที่ซองยาปิดที่ก้านดอกให้มิดชิด อย่าให้เด็กๆหนีไปได้ จากภาพข้างบนจะต้องเก็บเมล็ดทันที แล้วค่อยเอามาแกะเปลือกออก ภายในจะมีเมล็ดสีดำๆ เล็กกว่าเมล็ดพริกไทยอีก เมล็ดที่สมบูรณ์จะต้องแข็งๆ กลมๆ ตึงๆ แล้วเราจะรอช้าอยู่ทำไม ก็เอาเมล็ดไปเพาะเลยครับ 8. การเพาะก็หากระถางเล็กๆมาใช้ดินที่ปลูกโป๊ยเซียนนั่นแหละครับใส่กระถาง เกลี่ยหน้าดินให้เรียบ แล้วเอาไม้จิ้มลงไปสัก ครึ่งเซนติเมตร แต่ไม่เกิน 1 เซนติเมตร ไม่ต้องลึกมากเดี่ยวเด็กๆ แทงยอดไม่พ้นดิน จากนั้นก็เอาเมล็ดใส่ลงไปรูละ 1 เมล็ด กลบดินแล้วรดน้ำเบาๆใช้สเปรย์เอาก็ได้ครับ ให้ชุ่มๆ แล้วยกไปวางไว้ให้ไกลมด อีก 3 วันเมล็ดก็จะงอกออกมาให้ได้ตื่นเต้นกัน 9. การเลี้ยงดูเด็กๆ ก็รดน้ำตามปรกติสัก 1 เดือนก็เริ่มเอาปุ๋ยละลายน้ำรดอาทิตย์ละครั้ง ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือสูตรเสมอ หรือสูตรตัวหน้าสูงสลับสูตรเสมอก็ได้ แต่ใช้แบบเจือจางกว่าพวกต้นโตนะครับ อาจใจ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 ลิตร รดก็ได้ 10. อีกไม่นานประมาณ 3 เดือน ลูกไม้น้อยๆของคุณก็จะเริ่มให้ดอกแรกกันแล้ว ปรกติไม้ที่เพิ่งออกดอกก็จะให้ดอกไม่เกิน 4 ดอก ออกดอกครั้งแรกไม่ต้องไปคิดเลยว่าจะออกช่อละ 16 - 32 ดอก ต้องรอให้ต้นโตๆก่อนครับ ผ่านไปสัก 5 เดือนนั่นแหละถึงจะเห็นอนาคตละว่าสดใสหรือไม่ ถ้าเพิ่งออกดอก ก็เอาไว้ลุ้นสี กับความใหญ่แหละครับ ถ้าดอกแรกใหญ่ดอกชุดถัดไปก็จะใหญ่แน่นอน นอกนั้นก็เลี้ยงให้โตขึ้น ลุ้นจำนวนดอกต่อช่อ แล้วก็ลักษณะอื่นๆ ต่อไป ส่วนต้นไหนถ้าไม่ยังไม่ออกดอกก็รอต่อไปครับ แต่ 5 เดือนก็น่าจะออกดอกได้แล้วหรือต้นสูงสัก 1 ฟุตก็น่าจะออกดอกได้แล้ว ถ้าไม่ยอมออกดอกให้จับเอาไปเลี้ยงที่มีแดดเยอะๆหน่อยแต่ไม่ใช่แดดแบบตรงๆนะครับสมัยนี้แดดมันแรงมากๆ ใบจะไหม้เอา ให้โดนแค่ครึ่งวันเช้าจะดีกว่าครึ่งวันบ่าย ไม่นานก็จะออกดอกเองครับ จบแล้วล่ะมิตรรักแฟนโป๊ยเซียนทั้งหลาย ปล: เทคนิคนี้เป็นเทคนิคผสมแบบส่วนตั๊วส่วนตัวใครสายตาสั้นๆก็ผสมง่ายหน่อยเพราะต้องเพ่งใกล้ๆเหอๆๆๆ จริงๆจะใช้พู่กันเขี่ยเกสรก็ได้ครับแต่ผมชอบแบบชัวร์ๆมากกว่า จิ้มมันทีละอันทีละดอกไม่ผิดฝาตัวตัวแน่นอน คำเตือน: คนชราไม่ควรทำตามอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ   Create Date : 16 มกราคม 2551     Last Update : 16 มกราคม 2551 18:51:38 น. Counter : 1742 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Webmaster - Bloggang