• ประเพณี
• I Luv Thailand
• ก็แค่สิงค์โปร์ - Singapore
• Hong Kong - Macau
• Incredible INDIA!
• Summer @ UAE
• Life in Philipines
• ไปเที่ยวกัน @ KL, Malaysia.
• บันทึก Facebok
• ฟังเพลงที่เราชอบ
• ใครเขียน เราชอบ เราเลยเก็บไว้อ่าน ขำ เงียบ ๆ คนเดียว (ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ที่มาคะ)
• รู้ไว้ใช่ว่า
• เรื่อง หมา หมา
• แบบสำรวจ
• ดู TV

ไปเที่ยว Bohol 3D2N -Take off and Land @ Alona Beach, Check in Hayahay dive hotel เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวทะเลทางใต้ วัตถุประสงค์คือ ต้องการไปดูสัตว์ที่ชื่อ ตาเซียร์ และทะเลทางใต้เป็นอย่างไร  มีเวลา 3 วัน 2 คืน เราออกจากมะนิลาวันศุกร์ กลับมะนิลาวันอาทิตย์บ่าย ถึงสนามบิน Tagbilaran Airport (Airport code is TAG) ..สนามบินเล็กมาก  รถส่งจากสนามบินไปอโลน่าบีช ชำระไป 500 เปโซ, จ่ายเงินเมือถึงปลายทางเท่านั้น  Alona Beach, เป็นชายหาดเล็ก ๆ ที่นักท่องเที่ยวมาลงมากที่สุด จริง ๆ แล้วก็มีหาดอื่นเช่น ดูมาลวน บีช แต่หาดเหล่านั้นจะเป็นหาดเงียบ เหมาะสำหรับพักผ่อน หรือ ทำอารมณ์โรแมนติกสะมากกว่า   Morning front of Hayahay hotel มาถึงก็เช้กอิน โรงแรมชื่อว่า Hayahay Dive Resort. ไม่มีสระว่ายน้ำ, เราจองห้องไม่สูบบุหรี่ จองผ่านเว็ปไซด์ไม่รวมอาหารเช้า ราคา 2,080 เปโซต่อคือนต่อห้อง  โรงแรมนี้มีฉายาว่าเป็น Pizza house สูตรฝรั่งจริง ๆ แล้วไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่ถนัดอาหารฝรั่งแต่เห็นคนส่วนใหญ่ก็มากินอาหารและพิซซ่าที่นี่  ทำเลของโรงแรมนี้ ทำให้เราประทับใจมากเพราะกลางหัวใจหาดเลย   Cleaning Daily if you ask for. เวลาจองโรงแรมทีนี่ต้องถามและติดต่อให้ละเอียด เพราะบางที่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่มีแอร์ ไม่มีผ้าขนหนู เราพอใจกับโรงแรมนี้อีกอย่าง โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเหมาะสำหรับคนดำน้ำ เขามีครูและสถานที่แนะนำด้วย  Excellent service! //stubbornbkkgirl.wordpress.com/2012/09/20/travel-bohol-3 el-philippines   Create Date : 24 กันยายน 2555     Last Update : 24 กันยายน 2555 6:00:04 น. Counter : 1404 Pageviews.   0 comment Share Tweet

8/8/2012 วันนี้อัพเดท หากจะบินมาฟิลิปินส์ช่วงนี้ระวังและเช็กสภาพอากาศด้วยค่ะ [Tropical Storm Haiku hit Philippines] 6 August 2012 a Southwest Monsoon brought by Tropical Storm Haiku hit the Island of Luzon, Philippines and brought 24 hours of torrential rains that triggered disastrous flooding ที่มาภาคภาษาอังกฤษ  //ph.news.yahoo.com/stormwatch/ เมื่อเช้าหน้าออฟฟิต พอดีลงเวรดึกมา แบบว่า โอ้โห ไม่น่าเชื่อ น้ำตัดถนนทางขึ้นไปทางเหนือเอสซ่า ปล เราอยู่เมือง เคซอน (Quezon City)  มองอีกมุม ก็มีแต่น้ำ มองไปฝั่งตรงข้ามเห็นน้ำไหลลงที่ต่ำ แล้วก็เห็นรถคันนึงอยู่ตรงกลาง น่าสงสารเจ้าของรถจัง มองไปข้างล่างทางขึ้นเอ็มอาที โอ้โห น้ำมา นอนไปงีบนึง ตื่นมากำลังจะไปทำงาน แบบว่า ถนนโล่ง ไม่มีรถสักคัน เมืองประกาศโรงเรียนและคนทำงานหยุด แต่เราบ้านใกล้ทีทำงานก็ไป แต่ก็ไปด้วยความสมัครใจเห็นเรายังไปได้อยู่ ตามไปดูเมืองมากาติ กัน ภาพจากเพื่อนค่ะ  Buendia Avenue ขอให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ    Create Date : 08 สิงหาคม 2555     Last Update : 8 สิงหาคม 2555 0:27:59 น. Counter : 1013 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ขึ้นเครื่องบินคนเดียว ประสบการณ์เอ๋อๆ ครั้งแรก ภาษาอังกฤษงูๆๆปลาๆๆ- 4 ปีที่แล้ว - วันนี้ก็ยังอยู่ที่นี้ (ประสบการณ์ของเพื่อน) เหตุเกิดจากรู้จักกับพี่คนหนึ่งกินเที่ยวดื่มกันมานานแล้วด้วยความที่พี่เขาเก่งอังกิตบินไปไหนต่อไปแต่ตัวเราเองนั้นไม่เคยไปไหนเลยได้แต่ฟังพี่เขาเล่าเรื่องเครื้องบินแม้กระทั้งในประเทศยังไม่เคยบินเลย คืนก่อนวันขึ้นเครื่องหยิบกระเป๋าเดินทางเปิดซิบมันออกมาไม่ได้ถามใครเลยไม่มีใครบอกว่าต้องทำอะไรเตรียมอะไรอยากใส่อะไรใส่ลงไปเลย ในกระเป๋าเดินทางของฉันมีเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัว แล้วก็เข้านอนแต่นอนยังไงก็ไม่หลับเพราะกังวลไม่รู้ว่าเครื่องบินมันเป็นยังไง ตื่นเช้ามางัวเงียนิดหน่อยถามตัวเองว่า “กรูบินวันนี้แล้วหรอ” เครื่องบินขึ้นบ่ายสองโมง ตื่นมา07.00 น. มากมายด้วยความตื่นเต้นของเด็กกรุงเทพไม่เคยขึ้นเครื่องบิน พอถึงสนามบินแม่กับเพือนมาส่งเป็นครั้งแรกที่ต้องไปอยู่ต่างแดนคนเดียว ส่วนใหญ่เขาจะคิดว่าเราจะโดนหลอกไปขาย 555+ (ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นหละมีแต่แม่บอกว่าไม่ต้องกลับมาบ่อยนะ เพราะเปลือกค่าเครื่องบิน) หลังจากนั้นไปเช็กอินที่เคาร์เตอร์การบินไทยได้บอรด์ดิ้งพาสมาแล้วถามเขาว่านั่งตรงไหนพนักงานบอกว่าจะมีแอร์บอกบนเครืองนั่งตรงไหนหลังจากนั้นก็ผ่านไปด้วยดี ในมือก็จะมีบอรด์ดิ้งพาสฉันก็หันหลังกลับมาเห็นแม่ร้องไห้ แต่ฉันใจแข็งไม่ร้องไห้เพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง(แต่จริงกรูก็อยากร้องเหมือนกัน)คุยกับแม่ว่าไปละนะเดี่ยวถึงโน่นแล้วโทรหา แม่บอกว่า “อืมเดินทางปลอดภัย” และแม่ก็กลับไปพร้อมเพื่อนฉันได้บอกเพื่อนว่า “ดูแลแม่ให้ด้วยนะ”เพื่อนก็บอก “อื่มถึงแล้วโทรมาละ” ในใจตอนนั้นคิดว่าจะไปไหนทำอะไรอย่างไงในสนามบิน เหลือบดูนาฬิกาบอกกับตัวเองว่าเข้าไปเลยหละกัน ฉันเดินผ่านด่าน ต.ม.ประทับตราพาสปอร์ตน้ำตาก็ซึมใจหวิวๆๆๆ เดินไปเรือยๆ ถามเขาไปเรื่อยๆ พอมาถึงหน้าเกตก็รอนั่งเรียกขึ้นเครื่อง ก็มีคนมาคุยด้วยแต่ในใจตอนนั้นไม่อยากคุยกับใครเขาถามว่าครั้งแรกที่เดินทางหรอ เราตอบว่าใช่เพราะกลัวทำอะไรไม่ถูกอังกฤษก็ไม่เก่ง (แต่แอบเปรี้ยวอยากเดินทางคนเดียว555) ที่นี้ได้เวลาเดินขี้นเครื่องได้นั่งริมทางเดินคนเดียวไม่ติดกับใคร เข็มขัดยังคาดไม่เป็นเลย แล้วเลยถามแอร์โชคดีแอร์คนไทยโล่งใจไปเขามาสอนใส่เข็มขัด ที่นี้เครื่องบินจะออกละและมันรู้สึกเสียว ๆ ตอนหัวทิ่มขึ้นบนฟ้า ฉันมองซ้ายมองขวา เห็นพิ้นเอียงๆๆ รู้สึกว่าเครื่องบินจะตกไหมวะ ระหว่างอยู่บนเครื่อง ปวด...อยากเข้าห้องน้ำแต่กดส้วมไม่เป็นเลยแอบถามแอร์ว่าเวลาเข้าห้องน้ำกดยังไง แอร์บอกว่า “ให้ปิดฝาชักโครกแล้วจะมีน้ำไหลมาทำความสะอาดให้”เราก็เข้าใจละ หลังออกจากห้องน้ำได้เวลากินอาหารแล้วแจกใบผ่านเข้าประเทศปลายทางแกเรา ณ ตอนนั้น ฉันได้รับใบมา อังกฤษก็ยังอ่านไม่ออกสะกดไม่ออก เลยแอบถามแอร์อีกว่าแต่ละข้อแปลว่าอะไรให้แปลเป็นไทยให้หน่อย เราก็กรอกหมดผ่านไปด้วยดี . เครื่องบินมาถึงจุดหมายปลายทางลงมาจากเครื่องก็เดินตามๆๆผู้โดยสารคนอื่นๆว่าเขาไปไหนยังไงกัน พอมาถึงก็ต้องตรวจคนเข้าเมืองเราเราก็บอกว่า ให้บอกว่ามาเทียวเยี่ยมพี่สาว เพราะต.ม. คงกลัวเรามาขายตัวมั้งนะ (หุ่นชั้นก็ไม่ผ่านหละ ต.ม.คิดได้นะคะ) เพราะพาสปอรต์ยังใหม่ไม่มีการเดินทางเลย (เมื่อ4ปีที่แล้วนะแต่ตอนนี้เข้าออกจนเขาเบือหละมั่ง555) แต่ด้วยความโง่ของตัวเองอีกเลยถามต.ม.ว่าไปเอากระเป๋าที่ไหน แต่ด้วยอังกฤษไม่เป็นเลยถามว่า Where my bag แค่นี้ละ เขาเลยพูดไรไม่รู้แต่จะบอกว่าอังกฤษเราก็พูดไม่ได้ฟังก็ไม่เข้าใจอยู่แล้วดันมาเจอคนฟิลิปินส์พูดอังกฤษยิ่งฟังไม่เข้าใจงงเป็นไก่ตาแตกไปอีก เห็นเขาชี้โน่นนี่ ก็ไปตามที่เขาชี้ (จริงๆๆอยู่หลังต.ม.นั้นละ555) พอรับกระเป๋าได้ละติดต่อเพื่อนที่นี้ก็ไม่ได้ เงินจะแลกพูดอังกฤษก็ยังไม่ได้ยืนเป็นงงไก่ตาแตกอีกรอบ กรูจะต้องนอนที่สนามบินหรอเนี่ย ติดต่อใครก็ไม่ได้จนในที่สุดเพื่อนของพี่คนนั้นก็มา  เราเองก็กลัวว่าเขาจะมาหลอกว่าเป็นเพื่อนของเพือนเราที่ให้มาทำงานที่นี้แต่เราก็ไม่เชื่อบอกว่าถ้าอย่างนั้นติดต่อเพื่อนเราให้ได้แล้วเราจะไปตามที่เขาบอกจนติดต่อเพื่อนเราได้ เขาก็บอกว่าคนนั้นเพื่อนเขาไม่ต้องกลัวหลังจากนั้นเขาก็ชี้ไปที่คนขับรถของบริษัทว่านี้คือคนขับรถของบริษัทเราก็เลยโล่งใจไปก็เป็นอันจบการเดินทางและก็เจอพี่เขาด้วยหละ อยากจะฝากน้องๆๆที่ไม่เคยขึ้นเครื่องบินหลักการง่ายๆๆที่ขี้นเครื่องบินต่างประเทศ เตรียมเอกสารให้พร้อม พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ใบตรวจคนเข้าเมือง อยู่บนเครื่องเพื่อความปลอดภัยอย่าคุยกับคนแปลกหน้าหรือคุยแค่หอมปากหอมคอพอ เตรียมเอกสารและรายละเอียดให้เรียบร้อย อย่าตกใจมีสติ พบปากกาด้วยขี้นเครื่องจะได้ไม่ต้องยืมใครพอยืมแล้วคนให้ยืมชอบมองหน้า ท้ายนี้ขอให้การเดินทางครั้งแรกของคุณราบรื่นเดินทางถึงที่หมายปลอดภัยโดยสวัสดิภาพ   Create Date : 07 สิงหาคม 2555     Last Update : 12 สิงหาคม 2555 5:29:43 น. Counter : 7151 Pageviews.   13 comment Share Tweet

ไปเที่ยวเกาะ Zambales! มีโอนกาสไปเที่ยวเกาะใกล้ ๆ เมืองเคซอน ซิตี้ ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 3 ชั่วโมง เริ่มจากเรานั่งรถบัส Victoria Line. ค่ารถ 300 กว่าเปโซ ขึ้นท่ารถที่ สถานีคูเบา แล้วรถบัสก็พาเราขึ้นไปทางเหนือ เข้าทางด่วน แล้่วเรารถบัสก็พาเราไปถึงเมือง โอลองกาโปะ Olongapo เำพื่อที่เราจะต้องต่อรถบัสไปยัง St. Cruise ไปยังจุดหมายเรา ใช้เวลา 45 นาที จากนั้น เราก็ต่อเรือน้อย ๆ อีก 30 นาที ไปยังเกาะของเรา ชื่อว่า Nagsasa Cove. แล้วเราก็เพลิดเพลินธรรมชาติ 2 ข้าง ๆ เพื่อนชาวฟิลิปินส์ของเราได้เล่าให้ฟังว่า เกาะแห่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ภูเขาไฟปินาตูโบแตก จึงทำให้มีเวิ้งแห่งนี้เกิดขึ้นมา พร้อมต้นสน ประปราย ซึ่งที่นี่ยังไม่มีน้ำไฟ ดังนั้น การมาเที่ยวครั้งนี้จึงตะลุยอย่างเต็มที่ จะสังเกตเห็นว่าภูเขาที่นี่จะเป็นก้อนใหญ่ ๆ ภายใต้ก้อนโตนี้จะเป็นก้อนหินทั้งหมด นั่งเรือต่อ ลำนี้นั่งได้ 3 คน เสียค่าใ้ช้จ่ายคนละ 1 พันเปโซ จะรวมลูกหาบ เต็น น้ำ น้ำแข็ง และ island hoping ใครชอบถ่ายรูป รับลองมาที่นี่ได้ถ่ายแบบลำบาก ๆ แน่ บรรยากาศยามเย็น และนี่คือที่พักของเราคืนนี้ ตื่นเช้ามาวันใหม่ หลังจากทำกับข้าวแบบลูกเสือแล้ว (จริง ๆ ไม่ได้ทำ ให้พวก ผช ทำ) ก็เตรียมออกเที่ยวเกาะอื่นต่อ เราทุ่งหน้าไปยัง Spanish Lighthouse. เรือมาจอดเที่ยบท่า แล้วเราก็เดินขึ้นเขาต่อ แบบว่าแดดไล่หลังมาก และแล้วเราก็ได้ไต่ขึ้นไปยังประภาคารสูงสุดของจุดนี้ ซึ่งทีนี่มีประวัติว่าทหารชาวสเปนมาสร้างไว้ ณ ตอนที่ประเทศฟิลิปินส์เป็นเมืองขึ้นสมัยก่อน แล้วเราก็เดินลงมา ขึ้นเรือ มุ่งหน้าไปยังจุดหมายอีกเกาะ Potipot Island,Zambales. แอบมีตูดเพื่อนก้มเก็บหอยนิดนึง แล้วเราก็ปีนขึ้นไปถ่ายรูปบ้าง ไม่สวยอ้วน ๆ กลม ๆ แต่เราสนุกมากค่ะ เชื่อมั้ยคะ ว่าร้อน ๆ แบบนี้ ยังมีคนเดินเอาไอศกรีมมะพร้าวมาขายให้เราหายเย็น 20 เปโซ ค่ะ ได้ไอติมแล้วเราก็ .... กระโดดสูง หลังจากกระโดดลงมา เดี๋ยนก็จมน้ำทันที เพราะทรายมันยุบ โอ้วว ไม่ใช่ เล่นมากเหนื่อยค่ะ ทริบนี้ หมดเงินไป 2 พันเปโซ คุ้มกับ 2 วัน 1 คืน สนุกแบบลุย ๆ ค่ะ   Create Date : 18 มีนาคม 2555     Last Update : 18 มีนาคม 2555 16:31:05 น. Counter : 1103 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Enjoy dry seasaon @ Ilocos trip > Vigan > Wind Mills > Pagudpud beach ตามหัวเรื่องกันเลย เราได้มีโอกาสไปเที่ยวทางเหนือของที่นี่กันบ้าง แต่ภาคเหนือที่นี่ไม่ได้หนาวมาก จะแตกต่างกันคนละบรรยากาศกับบาเกียว เนื่องจากมีเพื่อนชาวฟิลิปินส์ใจดี อาสาขับรถกันไป (เพื่อนไปฮันนีมูน 55) เราก็ไปช่วยเป็น กขค เขาดีกว่า ขับรถออกจาก เคซอน ซิตี้ (มะนิลา) ตอนตี 5 หลับ ๆ ตื่น ๆ มองข้าง ๆ แถวนี้จะใกล้ภูเขาไฟบินาตูโบ สมัยก่อนลาวาเคยหล่นไหลมาทางนี้ ข้างล่างก็กลายเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยลาวา แต่พอแห้ง ก็จะเห็นเป็นสีเทา ๆ แบบนี้ค่ะ เริ่มเข้าอิโลคอสน้อท ที่เที่ยวในเมืองนี้ที่ดัง ๆ ก็คือ วิแกน และ วินมิว ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า เริ่มจากข้ามสะพานเหล็กนี้ไปก่อน มีเรื่องเล่าว่าปีที่แล้ว พายุที่ชื่อ "ออนดอย" เข้ามาพังสะพานนี้ไปเลยทีเดียว แล้วเราก็มาถึงเมือง วีแกน เต็มไปด้วยรถม้า ขออนุญาตแปะประวัติเป็นภาษาอังกฤษ //www.camperspoint.com/spip.php?article244 History of Vigan Juan de Salcedo, grandson of Miguel Lopez de Legazpi, settled in Vigan in 1572 and renamed the area Villa Fernandina after his King’s son. He built Vigan patterned after his grandfather’s construction of Intramuros. In 1755, the seat of Nueva Segovia, the diocese of northern Luzon that was first established in Cagayan, was moved to Vigan. The cathedral was built in 1790 and 1800 and stood out among Vigan’s beautiful sights. Since then, the city was developed by the Chinese merchants and artisans who inherited the next aristocracy. Intramuros of Manila suffered serious damage from successive forces of war including WWII but the Mestizo District of Vigan remained unharmed. Due to inevitable waves of change, commerce moved down to lower districts of Luzon leaving Vigan a sight of unforgettable events in the past. Vigan witnessed several revolts of Filipinos against the Spaniards. One of them was Diego Silang, who overtly raised a violent battle against the invaders. After his death, his wife continued the battle but similarly then captured and executed. Vigan as well is the native home of Padre Burgos, one of three Filipino priests who were executed by the Spaniards to warn the natives of putting up more revolts against them. His house is now recognized as a prestigious museum containing articles used by the Tinguians (the tribe once inhabited the district), details of the arrivals of the Spaniards, and the Filipinos’ difficult life at the time of their occupation. ด้วยจากเป็นเมืองเก่า สมัยสเปน จึงเต็มไปด้วยรถม้า โบสถ์และทางเดือน อารมสแปนนิสเลย ที่นี่คนนิยมมาถ่ายรูปแต่งงานกันบ่อย ๆ แวะเข้าโบสถ์หน่อย อธิฐานสะหน่อย สาธุขอให้ลูกหมูได้แต่งงานไว ๆ ด้วยเถอะ 30+ ออนเซลล์ และยังเงียบสนิทเลยยย มาชิมอาหารพื้นเมือง เรียกว่า "ลองกานิซ่า" ทำมาจากเนื้อหมูทั้งดุ้น แล้วก็ยัดใส่อะไรไม่รู้ คล้า่ย ๆ กุนเชียงบ้านเรา แวะไปพิพิธภัณฑ์ประธานาฺธิบดีสักหน่อย แวะไปดูโรงแรมที่มีคาสิโน ข้างในกัน แต่ไม่ได้ไปเล่นคาสิโนแค่แวะเข้าไปดูพักเหนื่อยเพราะนั่งรถนานเหลือเกิน แล้วเราก็ขับรถต่อไปเรื่อย ๆ ไปถึง วินมิล ที่ ๆ เขาเอาไว้ปั่นไฟให้กับเืมืองแถวนี้ ที่นี่ทรายจะเป็นสีดำ ทะเลติดกับทะเจฟิลิปินส์ ขับเข้าเมืองดีกว่า แดดเริ่มร้อนและแล้วเราก็แวะอีกโบสถ์นึง รอบ ๆ โบสถ์ทำด้วยอิฐสีดำ แวะไปดูเขาทำเครื่องปั้นดินเผา คล้ายที่ราชบุรีบ้านเราเลย คุณลุงผินที่นั่งอยู่หน้าแหล่งทำเครื่องปั้นดินเผา แวะไปเรื่อยตามภาพเลยละกัน มีทั้งกิน ชม และ โยน มีวัดด้วยอยู่แถว ๆ ปังกาสินัน ตามลายแทงกันไปเลยค่ะ   Create Date : 10 ตุลาคม 2554     Last Update : 10 ตุลาคม 2554 20:56:00 น. Counter : 1518 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• stubbornbkkgirl
• beproud
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com