Grand Mercure Roxy Hotel
นาน ๆ เข้าพักโรงแรมที่สิงค์โปรยามจำเป็น ก็เลยจำใจต้องมาพักที่ Grand Mercure Roxy Hotel//www.mercure.com/gb/hotel-3610-grand-mercure-roxy-hotel/index.shtmlราคาสำหรับลูกค้าทั่วไป คืนละประมาณ 168 SGD ราคาสำหรับลูกค้าเครือแอคคอร์ คืนละประมาณ 130+ SGDชอบโรงแรมนี้เพราะว่า 1.หน้าโรงแรมมีห้างน่ารัก ๆ ไว้เดิน2.หน้าโรงแรมเดินผ่านห้างไป ทะลุไปข้างหลังโรงแรม ผ่านที่พัก ข้ามถนนตามช่องอุโมงลอดใต้ดินก็ทะลุ east cost park3.โรงแรมมีบริการ free shuttle bus จาก โรงแรม-สนามบินชางกี่ 24 ชมถ้ามาจากสนามบิน ให้ติดต่อที่ ticket counter ชั้น G, Changi Airport Terminal 2 ตรงข้าม Mcdonal (อยู่ใกล้กับที่ขายตั๋ว Airport Bus เข้าเมืองเลย)4. ถ้าเรามีธุระ ตั้งแต่เส้น tempaniens, tai seng, eunos มีรถเมล์ผ่านฉิวไม่ต้องต่อสายอื่น ตรงไปอย่างเดียวสะดวก5. นั่งแท็กซี่ตอนเช้ามีค่าชาร์ตก็จริง ถ้าให้ โรงแรมเรียกให้ แต่รถไม่ติดเลย6. มีบริการอินเตอร์เน็ตฟรี ที่ด้านซ้ายมือของรีเซพชั่น แต่ในห้องต้องชำระเงินอะคะมาดูภาพประกอบดีก่วาที่ตั้งของโรงแรมอยู่ที่หน้าจอคะมองออกไปจากหน้าต่างก็จะเห็นวิวนี้และวิวนี้เดินข้ามถนนไปหน้าโรงแรมก็จะเจอห้างนี้กลับมาเข้าห้องกันดีกว่า เิิปิดตู้เสื้อผ้า เตรียมอุปกรณ์การพักผ่อนเพื่อที่ต่อสุ้ในวันพรุ่งนี้ฝันดีคะ
เที่ยวสิงค์โปร์ นอนที่ Habitat Hostel- Boutique FlashPackers Hostel และเที่ยวไปเรื่อย ๆ
หลังจากดูริวิวคนอื่น มาคราวนี้ ขอลองพักที่เองสักที หลังจากอาศัยบ้านญาติ ๆ มานานหาไปหามา ก็ลงตัวที่ HABITAT เพราะว่า ตั้งอยู่ใกล้ถนนออร์ชาร์ด ใกล้เอ็มอาร์ที และ เงียบเราเข้าไปจองและติดต่อด้วยตัวเองที่ //www.habitat-hostels.com.sg/html พอเข้าไปพักจริงๆ ก็สะดวกสบายกว่าที่คิด ที่สำคัญ สะอาดเราเลือกพักห้อง Blue - double bed (ห้องรวม ช-ญ เตียงใหญ่นอนได้ 2 คน)35 SGD ต่อหัว มีอาหารเช้า 24 ชม ทำครัวได้เองด้วย ที่นี่จะบริการตัวเอง ทำเอง กินเอง ล้างเองมีอินเตอร์เน็ต ไวน์เลส ห้องครัว โต๊ะกินข้าว ห้องดูหนัง ห้องรับแขก จากสนามบินไปที่พักโดย รถ Airport Shuttle Bus คนละ 9SGD ก็ส่งเราถึงหน้าที่พักเลยเราจึงใช้บริการทั้งไป และ กลับด้วยรถนี้คะและเก็บข้อมูลตะลุยดินแดนแห่งนี้เริ่มที่หน้าบ้านป้ายตามระเบียบพื้นที่รองเท้่าหน้าบ้านผนังที่ห้องรับแขกไปห้องนอนของเรา เตียงบน บังเิิอิญไม่มีคนนอน เราก็ปีนขึ้นไปนอนได้ ที่เราชอบเพราะหมอนนุ่มและแต่ละเตียงจะได้ 2 หมอน เตียงดับเบิ้่ลแบบนี้ก็ได้มาเลย 4 ใบแอบมองฝรั่งที่มาัพักข้าง ๆ เป็นอะไรที่ไม่วุ่นวาย พอเราม้วนตัวเข้าเตียงก็ต่างคนต่างนอนกระเป๋าก็วางข้าง ๆ เตียง ที่นี่มีไม้แขวนเสื้อให้ มีเก้าโซฟาเล็ก ๆ มีโต๊ะเล็ก มีที่เสียบไอพอดไว้ให้ด้วยระบบความปลอดภัยก็จะมี คีย์การ์ดให้เรา เป็นระบบสัมผัส อิอิ ไม่ได้เก็บรูปมามีล๊อกเกอร์อยู่ใต้ที่นอนบริเวณห้องครัวบริเวณระเบียงชั้น 2 ติดกับห้องนอนเตียงเดี๋ยวรวม ช-ญไปเที่ยว Singapore Flyer & Esplanadeไปเที่ยว Kusu Islandนั่งเรือ จาก Marina South Pier ไปเที่ยวเซ็นโตซ่านั่งรถไฟจาก vivo city 3SGD ราคาไป - กลับ บัตรก็ไม่ต้องคืน เก็บเป็นทีระลึกได้ตกกลางคืนก็เที่ยว QC, Boat Clay, St.James ได้เวลากลับด้วยรถ Airport shuttle bus ให้เจ้าหน้าีที่ที่ hostel โทรเรียกแล้วเขาก็มารัีบเวลา บ่ายสองโมงทางผ่านทางผ่านหลังจากเช็กอิน ก็เข้าไปข้างในบอกลากันด้วยภาพนี้ แอบนวดเท้าก่อนขึ้นเครื่อง
สิงกะปุระ ภาคสอง Singapore Part II
หลังจากดำมาจากสมุย คราวนี้มาดำต่อที่สิงค์โปร์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ก็พาข้าพเจ้ามาลงที่เทอร์มินอล 1 ด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย ผ่าน ตม หยิบท๊อฟฟี่เข้ากระเป๋า ตม ปั้มมา 30 วัน ด้วยความสบายใจ เดินไปโทรศัพท์ฟรีก่อนเลยทุกครั้งที่มาก็หาตู้โทรศัพท์โทรหาเพื่อนฝูง เห็นบางคนหยอดตังกันจัง หาเหรียญไม่ต้องหาเลยคะ ยกหูกดเบอร์เลย ญาติพี่น้องที่สิงค์ว่า ข้าพเจ้ามาถึงแล้วครับท่าน อินเตอ์เน็ตก็เหมือนกัน ขยับเม้าท์เล่นฟรีกันเลยนะคะพี่น้องและแล้วก็เดินเล่นสำรวจเทอร์มินอล 3 กัน กระจกทั้งนั้น สำรวจก่อน ห้องน้ำสะอาดกว่า โล่งกว่าดูกันนะว่า ป้ายนี้มีข้อมูลไรเป็นประโยชน์บ้างแล้วเราก็มาที่เทอร์มินอลสาม จากนั้นก็นั่งเอ็มอาร์ทีกลับบ้าน แล้วก็นอนพักนิดนึงอะว่าแล้วเที่ยวต่อกันเลยดีกว่า ชะแว็ปแอปเที่ยวต่อไปไหนดีเอ่ยวันนี้เราจะไป เกาะ Kusu ไปไหว้พระ ไปเยี่ยมญาต เยี่ยมเต่ากันดีกว่า เริ่มจากขี้เกียจ นั่งแท็กซี่ ไปลง เฮอร์เบอร์ฟร้อน แล้วเราก็เห็นส่ิงนี้ชิงช้าสวรรค์ สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองมาจากที่ลอนดอน (ไม่รู้จริงเปล่า เขาบอกต่อกันมาคะ เดี๋ยวจะไปนั่งแต่ติดไว้ก่อน)มาถึงแล้วท่าเรือเพื่อไปเกาะ kusu ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือแห่งใหม่ เพื่อต่อเรือไปยังเกาะ เล็ก ๆ ต่าง ๆ หรือประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้อีกด้วย เป็นท่าเรือ อาคาร สามชั้น และแล้วก็ขึ้นไปชมสีน้ำทะเลที่นี่กันดีกว่าคะสีน้ำทะลสวยไม่แพักันคะมาดูมุมสูงภายในตัวอาคารบ้างคะ แล้วเราก็นั่งเรือเฟอร์รี่ออกไป โดยหันหลังกลับมามองว่าเราเห็นอะไรที่เมืองสิงค์โปร์บบ้างโน่นไงเกาะที่เขาทำดิน สุดท้ายก็ได้เกาะใหม่ ๆ มากมายคะ แล้วเราก็มาถึง Kusu แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมากมายนักเนื่องจากห้ามถ่ายเป็นบางพื้นที่คะ ส่วนรูปที่เห็นนี้ คือด้านหลังของเกาะที่มีพื้นที่เพียงแค่ว่ายน้ำก็ถึง อินโดนีเซียนะคะ เรียกว่า ช่องแคบมะละกาคะจะเห็นเรือสินค้าลำใหญ่มากมาย เนื่องจากเรือเหล่านี้มาแวะที่ท่าเรือสิงค์โปร์เป็นน่านน้ำนานาชสติที่อุดมสมบูรณ์และใหญ่เป็นอันดับสามของเอเชียคะเรือนี่น่าจะไปญี่ปุ่นคะไหว้พระที่เกาะแล้วเราก็กลับเรื่อรอบบ่ายสาม กลับมานอนเอาแรง แล้วคืนนี้ออกต่อกันคะแล้วก็ไปเมอร์ไลออนกันคะ ไปดูวิวใหม่ ๆ กันดีกว่าคะแล้วเราก็ไปต่อที่ St.Jame power station ที่เที่ยวแห่งใหม่สำหรับคนที่นี่ เพราะเขาเิปิดถึงตีห้านะคะ รองเท้าแตะก็เข้าได้คะ ค่าตั๋วก็ตามธรรมเนียม แล้วก็ได้ดื่มฟรีมาหนึ่งดื่มคะแล้วเราก็เดินเปลี่ยนร้าน แล้วมาลงที่ร้านชื่อ ดราก้อนฟราย dragon Flyเขาและเธอร้องกันทุกวัน ร้องมันทุกครั้งที่เขาเปิดร้าน ส่วนมากเป็นเพลงจีนนะคะ แต่พอตกดึกก็ ดีเจตามระเบียบคะ แต่ไป ๆ มา ๆ ทำเรารู้สึกว่า เหมือนอาร์ซีเอ บ้านเราเลยอะ งงคนนี่ออกมาทีไรก็มีแต่สาวกรี๊ด ไม่ใช่เพราะหน้าตาของเขา แต่เป็นกีตาร์แอลวีคะวันนี้ตื่นสายมาเราก็ตั้งใจมาที่นี่ แล้วเราก็มาถึงเดินไม่ไกลจากเมอร์ไลออนมากนักเดินเข้างวงช้างใสเข้าไปเลยคะ เป็นที่รู้กันว่า กระเช้านี้บรรจุคนได้ ห้้าร้อยคน และหมุมไปเรื่อย ๆ ไม่เคยหยุด โดยเมื่อเราซื้อตั๋ว 28.5SGD ก็ใช้เวลา 30 นาทีต่อหนึ่งรอบคะเข้าข้างหลังออกข้างหน้านะคะ ข้างในก็เป็นแอร์คอน แล้วก็มีทีวี บรรยายอยู่ข้างในคะแล้วเราก็เห็นมุมนี้แล้วก็ไม่มีใครนั่งกัน เมื่อเรามาถึงจุดสูงสุดของที่นี่แล้วเราก็เห็นเดินไป ลองบาร์ หาต้นตำรับ Singapore Sling กรึ๊บ ๆ ก่อนกลับดีกว่า
Singapura Trip .... again and again!!
3D2N อยู่นานกว่านี้ ไม่รู้จะทำไรแล้ว ถึงสนามบิน สิ่งแรกที่ทำเป็นประจำ คือ โทรศัพท์หาเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องว่า วันนี้มีใครอยู่บ้าง ขอซุกหัวนอนหน่อย แบบว่า ถ้ายังอยู่ใน สนามบินก็ โทรฟรี อะนะ ทั้งมือถือและเบอร์บ้าน โทรไปเลยหลังจากเข้าบ้าน ตั้งโต๊ะ ฟาดอาหารเย็นแล้ว เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาก็ออกเที่ยวซะเลย งานนี้ขอออกตอนกลางคืนก่อนแล้วกัน ไปเดินแถว Clak klay กันเลย เดินบนสะพานเลยเพราะกลางวันเดินไม่ได้ รถเยอะมั่ก มั่ก ไปต่อที่ Music of Sound (MOS) ดีก่า มีแนวตรี 3 แบบ เริ่มด้วย ต่อแถว เสียตังค่าเข้าคนละ 16 SGD ได้ 2 drink (หากเป็นพนักงานบริษัทฯ inter ดัง ๆ แล้วยื่นบัตรพนักงาน ก็จะได้สิทธิ์ ซื้อ 1 แถม 1 ด้วยแหละ) แล้วก็เลี้ยวขวา จะผ่าน tecno, trance music เดินตรงไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอบันได ขึ้นไปชั้น 2 นั่งได้ และก็มีห้อง VIP ด้วยแหละ แบบว่าดื่มเยอะไปหน่อย ขอตัวนะถ้าออกจากห้องน้ำแล้วเลี้ยวขวาก็จะทะลุไปดนตรียุคเก่า ๆ ประมาณ 60s or 80s ด้วยแหละ สีสันตามเพลง แดง ๆ ดำ ๆ แล้วถ้าเดินผ่านตรงนั้นมาตามบันได้ ลงไปทางออก แล้วลอดใต้บันได จะเจอทางเข้า zone hip hop แต่ไม่มีรูปนะ แบบว่า คนมหาศาลเลย สถานที่ ตกแต่ง เหมือนประมาณว่า ติดอยู่ในกรงเล็ก กรงน้อย ประมาณเนี้ย ส่วนเรา เราอยู่ได้แป๋ปเดียวเพราะคนเยอะ เลยกลับบ้านดีก่า เช้าแล้ว วันนี้มีสัญญากะหลานว่า จะไปดูเต่า แล้วก็ไหว้พระที่ Kusu Island..โดยนั่งเรือจาก sentosa ข้ามไปที่เกาะ ตามประสาคนท้องถิ่นหนะถึงแล้วจ้าเกาะเต่า หรือ ที่ชาวพื้นเมือเรียกว่า Kusu island....คนที่นี่เชื่อว่า เป็นการบูชาเพื่ออายุยืน มั่งมีศรีสุข ตลอดปีตลอดชาติจ้าจากนั้น กลับเข้าเมืองกัน ก่อนที่จะไม่มีเรือให้กลับ เพราะที่เกาะนี้ไม่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวค้างคืนนะ ไปไหนดีหว่า อ้อไปหน้าอะไรกิน เดินดูของแถว little india ดีก่า เดิน เดิน และเดินไปเดินดูของต่อที่ Bugis กันร้านนี้น่าเข้าที่ซู๊ดเลยยBudget packpackers (www.bugisbackpackers.com/) เหมือนในหนังสือเลย สวยดี เป็นที่พักแนวประหยัด ราคาก็ถูกมั่ก มั่ก ใกล้ตลาดด้วย เริ่มหิวแล้ว ลองกินอาหารมาเลย์ ดีกว่า เหรืญเดียวเอง มีนามว่า Nasiloma เป็นข้าวห่อใบตอง ข้าวในห่อนี้จะคลุกกับอะไรสักอย่างบอกไม่ถูก มีปลาทอด 1 ตัวเล็ก แล้วก็มีน้ำพริกมาเลย์ 1 ห่อเล็ก มีช้อนให้ด้วย วิธีโซ้ยก็ คลุกทุกอย่างเข้ากัน แล้วก็จัดการหม่ำได้เลยยังไม่อิ่มหรอกแค่นี้ นี่แค่เบา ๆ เพราะว่าวันนี้มันัดกะญาติ ๆ ไปลองลิ้มชิมรสอันโอชะ ของร้าน Shabu Shabu Singapo กัน ประมาณว่า มีทุกอย่างแบบลงตัวเริ่มด้วยนั่งรถไปลง Golden Mile แล้วเดินไปตึกข้าง ๆ ร้านนี้จะอยู่ชั้นใต้ดิน พยายามไปเร็วหน่อย เพราะ พอพระอาทิตย์ตกดินแล้ว คนเยอะมาก รอ รอ แล้วก็รอ จนสั่งอะไรก็ฟาดเรียบ รับทานแบบไม่พูดไม่จา ข้าวมันไก่ก็อร่อย สุกี้ก็กลมกล่อมสไตล์ สิงค์ สิงค์แต่หม้อสุกี้จะเล็กไปหน่อยเหมือนหม้อต้มยำบ้านเรา แต่อิ่มนะ ขอบอกนั่งรถเมล์กลับบ้านแล้ว ขอนั่งหลังนะเพระ อิ่มมากมาย ใครจะไปไหนก็ไปเหอะ ไม่ไหวแล้วแป็ปเดียว ได้เวลาก็กลับ กทม แล้ว กลับเองตามระเคยประมาณว่า ก่อนกลับขอ ลา Merlion ก่อนนะไว้มาใหม่นะจ๊ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
