ทำความรู้จักกับ "โรงเรียนการบินกำแพงแสน"
วันนี้จะมาเล่าเรื่องราวของรังนกรังใหญ่ ที่ทำหน้าที่บ่มเพาะเหล่าลูกเจี๊ยบรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้ออกไปรับใช้ชาติในฐานะนักบินของกองทัพอากาศไทย โดยบทความที่ผมเขียนขึ้นนี้หวังว่าจะสร้างแรงบัลดาลใจให้กับน้องๆ ที่มีความฝันอยากขับเครื่องบินรบ ^^
เรามาทำความรู้จักกับโรงเรียนการบินกันก่อนดีกว่า เป็นอันทราบกันหว่า ก่อนจะขับรถเป็นนั้นก็ต้องมีคนสอนให้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ หรือโรงเรียนสอนขับรถ เช่นเดียวกันกับเครื่องบิน ก็ต้องมีโรงเรียนเหมือนกัน แต่จะเรียนยากกว่าหน่อย เพราะรถยนต์วิ่งอยู่บนพื้นดิน แต่เครื่องบินนั้นอยู่บนฟ้า มีขึ้น-ลง ลอยอยู่บนอากาศ และปัจจัยต่างๆอีกที่เกี่ยวข้องกับการบิน ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ และอีกบลาๆๆๆ
บรรยากาศการฝึกบินครับ กองบินหนึ่งที่โคราชผมว่าบินบ่อยแล้วน่ะ แต่ที่นี้ขึ้นกันทั้งวันเลย ^^
เดิมทีนั้นสถานที่ตั้งโรงเรียนการบินอยู่ที่กองบิน 1 นครราชสีมา ที่ตั้งฝูงบิน F-16 ของบ้านเรานี้ล่ะครับ แต่ช่วงสงครามเวียดนาม สหรัฐอเมริกามาขอใช้พื้นที่กองบินหนึ่ง อาจจะเพราะว่ามีระบบต่างๆที่เอื้อต่อการเป็นฐานบินรบให้กับเครื่องบินขนาดใหญ่ จึงออกงบให้เราไปสร้างสนามบินใหม่ เราจึงเลือก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม มาเป็นที่ตั้งโรงเรียนการบิน มาจนถึงปัจจุบัน
การจะเข้ามาเป็นศิษย์การบินของกองทัพอากาศได้นั้น ก่อนอื่นต้องเป็นนักเรียนเตรียมทหาร(ในส่วนของกองทัพอากาศ) ซึ่งจะเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหารอยู่ 3 ปี (เทียบเท่ามัธยมปลาย) จากนั้นไปต่อที่โรงเรียนนายเรืออากาศอีก 4 ปี(เทียบเท่ามหาวิทยาลัย) ซึ่งในช่วง 4 ปีในโรงเรียนนายเรืออากาศ แต่ละคนก็จะเลือกสาขาที่จะเรียนได้ ซึ่งหลักจะเน้นการเรียนการสอนไปในสาขาทางวิศวกรรม ไม่ว่าจะเป็นสาขา อากาศยาน,โยธา,เครื่องกล บลาๆๆ [ขอแก้ไขข้อมูลใหม่ ปัจจุบัน เรียนเตรียมทหาร 2 ปี และโรงเรียนเหล่าอีก 5 ปี ครับ]
นักบินในชุดหมีสีน้ำเงินนั้นเป็น หน.ฝูงบิน blue pheonix ครับ ในขณะเดียวกันก็เป็นครูการบินด้วย พี่นักบินในชุดหมีสีเขียวนั้นก็เป็น ศบ. ในการดูแลครับ
พอจบปี 4 ก็จะสมัครเข้าเป็น ศบ. (ศิษย์การบิน) โดยการคัดเลือก ศบ. จะคัดจาก ผลการเรียนและวิชาชีพทหาร,คะแนนภาษาอังกฤษ,ลักษณะผู้นำทางทหาร,คะแนนสร้างชื่อเสียงและคุณธรรม,คะแนนการทดสอบร่างกาย รวมถึงการสอบสัมภาษณ์,การทดสอบความถนัด Appitude Test ,ตรวจโรคที่เวชศาสตร์การบิน ซึ่งมีเกณฑ์คือ ผ่าน และ ไม่ผ่าน
ปกตินักเรียนนายเรืออากาศรุ่นๆ หนึ่งจะมีจำนวน ประมาณ 80 คน ปีที่แล้วเปิดรับ ศบ. 56 คนครับแบ่งเป็น นนอ. ไทย 50 คน และ นนอ.ที่จบจากต่างประเทศ 6 คน (ก็จากเพื่อนบ้านเรานี้ล่ะครับ) โดยแต่ละปีอาจจะมีระเบียบใหม่ โดยคำนวณอัตราส่วนตามจำนวนคนที่สมัครนะครับ
สำหรับคนที่ Check ไม่ผ่าน จะมีโอกาส Recheck อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นครับ ถ้าไม่ผ่านอีกจะได้กลับไปบรรจุ ในหน่วยที่เรียนมา เช่น จบวิศวกรรมโยธา ก็ไปกรมช่างโยธา ทอ. จบวิศวกรรมอากาศยาน ก็ไป กรมช่างอากาศ
เมื่อผ่านการคัดเลือกดังข้างต้นแล้ว ก็จะถูกส่งมาเรียนที่โรงเรียนการบินครับผม โดยการเรียนบินที่นี้นั้น จะแบ่งเป็น 2 ชั้น คือ ชั้นประถม และ ชั้นมัธยม โดยจะแบ่ง ศบ. เป็น 2 พลัด (เพื่อให้จำนวนนักเรียนพอๆกับเครื่องบินที่มีอยู่ในฝูง)
เครื่อง CT-4 ของฝูงบิน 604 ซึ่งเป็นฝึกบินพลเรือน ของกองทัพอากาศ
สำหรับ ศบ.ชั้นประถม จะฝึกบินกับเครื่อง CT-A/B/E (มีชื่อเล่นว่า chicken) โดยเป็นเครื่องบินฝึกที่ซื้อมาจากประเทศนิวซีเเลนด์ในปี 2517 (รุ่น A) 24 เครื่อง ในปี 2535 (รุ่น B) 6 เครื่อง และในปี 2544 ได้ซื้อรุ่น E 16 เครื่อง มาทดแทนชุดแรก (รุ่น A) ที่มาอายุใช้งานสูงแล้ว
CT-4 เป็นเครื่องบินขนาดเล็ก สองที่นั่งเคียงกัน เหมาะกับการฝึกบินเบื้องต้น ด้วยการออกแบบง่ายๆ ที่ยังไม่มีระบบซับซ้อนมากนัก
บรรยากาศการเรียน ของ ศบ.ชั้นประถม
เครื่อง simulator ของ CT-4
ต่อกันที่ ศบ.ชั้นมัธยม จะฝึกบินกับเครื่องบินที่มีสมรรถนะสูงขึ้นมาอีก อย่าง PC-9 (ชื่อเล่นว่า mustang) ที่จัดซื้อมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ 26 เครื่อง ในปี 2534 ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบสองที่นั่งเรียงกัน โดยกองทัพอากาศไทยใช้ PC-9 จำนวน 6 ลำ เป็นเครื่องบินผาดแผลงของฝูงบิน blue phoenix อีกด้วย
บรรยากาศการเรียนของ ศบ.ชั้นมัธยม
เครื่อง simulator ของ PC-9
อุปกรณ์ติดตัวอีกอย่างของนักบินคือ procedure หรือคู่มือการบินครับ ต้องทำตามขั้นตอนให้เป็นนิสัย ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของนักบินไม่ว่าจะทหารหรือพาณิชย์
โดยเมื่อจบหลักสูตรการบินชั้นมัธยม ก็เลือกกันอีกที ว่าใครจะได้ไปบินกับเครื่องบินรุ่นใด โดยคัดเลือกจากคะแนนที่ได้จากการฝึก (ตั้งแต่คะแนนการบิน คะแนนความประพฤติ และอีกบลาๆๆ) ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ได้คะแนนสูงสุดย่อมมีโอกาสเลือกที่ลงได้ก่อนเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าคงไม่พ้นเครื่องบินขับไล่ แต่ก็มีหลายๆครั้งที่เครื่องบินลำเลียงอย่าง C-130 ถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ จบล่ะครับ หวังว่าจะได้ประโยชน์กับน้องๆที่กำลังตามฝันตัวเองกันอยู่น่ะคร้าบ อย่าลืมว่าแค่ฝันอย่างเดียวไม่พอหรอก ต้องลงมือทำด้วย ^^ ปอลิง.ผิดตรงไหนก็เตือนกันด้วยน่ะคร้าบ ผมเป็นแค่พลเรือนที่บ้าเครื่องบินเฉยๆ 5555
ในแต่ละรุ่น จะมี ศบ. หนึ่งเดียว ที่ยอดเยี่ยมที่สุด จะถูกประดับชื่อเอาไว้ ในรูปอาจจะคุ้นชื่อท่านนี้กันดีน่ะครับ เพราะท่านเป็นผู้ฝูงกริพเพนคนแรกของไทย
ลาด้วย PC-9 ของฝูงบินผาดแผลง blue phoenix
รวม 8 คำถาม กับการคัดเลือก ศบ. (ตอบโดย ศบ.เองเลยครับผม)
1) พอเรียน นนอ. ชั้น 4 แล้วจะได้เรียน ร.ร.การบินทุกคนมั้ย? แล้วคัดเลือกยังไง? ตอบ ไม่ได้เป็นทุกคนครับ สำหรับการคัดเลือกศิษย์การบินนั้นเป็นดังนี้ครับ เริ่มจาก นนอ. สมัครคัดเลือกเข้าเป็นศิษย์การบิน (ศบ) และมีเกณฑ์การคัดเลือกคือ พิจารณาองค์ประกอบต่อไปนี้ครับ ส่วนที่ 1 1 ผลการเรียนและวิชาชีพทหาร 2 คะแนนภาษาอังกฤษ 3 ลักษณะผู้นำทางทหาร 4 คะแนนสร้างชื่อเสียงและคุณธรรม 5 คะแนนการทดสอบร่างกาย ซึ้งทั้งหมดนี้จะเป็นคะแนนครับ ส่วนที่ 2 1 การสอบสัมภาษณ์ 2 การทดสอบความถนัด Appitude Test 3 ตรวจโรคที่เวชศาสตร์การบิน ซึ่งมีเกณฑ์คือ ผ่าน และ ไม่ผ่าน สำหรับโควตานะครับ ปกติ นนอ รุ่นหนึ่งจะมีจำนวน ประมาณ 80 คน ปีที่แล้วเปิดรับ ศบ. 56 คนครับ แบ่งเป็น นนอ. ไทย 50 คน และ นนอ.ที่จบจากต่างประเทศ 6 คน สำหรับปีนี้อาจเป็นระเบียบใหม่ โดยคำนวณอัตราส่วนตามจำนวนคนที่สมัครนะครับ 2) ฝึกบินแล้วมีโอกาสตกมั้ย ? ถ้าตกแล้วไปไหน? ตอบ ไปวัดครับ !(อันนี้พี่เขาตอบมาจริงๆ 55) สำหรับคนที่ Check ไม่ผ่าน จะมีโอกาส Recheck อีกครั้งหนึ่งเท่านั้นครับ ถ้าไม่ผ่านอีกจะได้กลับไปบรรจุ ในหน่วยที่เรียนมา เช่น จบวิศวกรรมโยธา ก็ไปกรมช่างโยธา ทอ. จบวิศวกรรมอากาศยาน ก็ไป กรมช่างอากาศ 3) ครูการบิน 1 ท่านฝึกศิษย์กี่คน? ตอบ 1-2 คนครับ 4) ต้องบิน ct-4 กี่ ชม. จึงจะไปบิน Pc-9 ได้ อยู่กับเครื่องบิน ทั้งสองแบบประมาณเท่าไหร่ ตอบ CT-4 90 ชม. และ PC-9 110 ชม. ครับ รวมกันก็ 200 ชม. 5) การแบ่งช่วงการฝึก ตอบ แบ่งเป็น ชั้นประธม ซึ่งบินกับเครื่อง CT-4 เมื่อจบมาแล้วจะได้ปีกครึ่งปีกครับ จากนั้นก็จะเป็นชั้นมัธยมซึ่งบินกับ PC-9 แต่ในช่วงแรกเข้ามาใหม่ เรียนภาคพื้นก่อนบิน CT-4 จะเรียนกันเล่นๆในหมู่ ศบ. ว่าศิษย์การบินชั้นอนุบาล (แต่ไม่มีใน คำสั่งครับ เรียกกันเฉยๆ) 6) ระยะเวลาที่อยู่ในโรงเรียนการบิน ตอบ 14 เดือนครับ 7) จบแล้วเลือกบ.ยังไง ใช้เกณฑ์อะไรวัด ตอบ หลักๆก็ให้เราเลือกเครื่องก่อน 8) จบแล้วเลือกไปบินสายอะไรได้บ้าง ตอบ หลักๆ มีดังนี้ 1. กองบิน 4 จำนวน 10 คน (สายขับไล่) 2. กองบิน 6 จำนวน 10 คน (สายเครื่องบินลำเลียงธุรการ) 3 . กองบิน 23 จำนวน 1 คน (บินอัลฟ่าเจ็ทเลย) 4. กองบิน 5 จำนวน 1 คน (อันนี้ไม่แน่ใจ ผมว่าภารกิจคล้ายๆ กองบิน 6)
Create Date : 17 เมษายน 2558 | | |
Last Update : 17 เมษายน 2558 20:02:03 น. |
Counter : 46634 Pageviews. |
| |
|
|
|