5. Waking Life ผลงานการเขียนบทของ "เจฟฟ์ เมลลิงเกอร์" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงของชายคนหนึ่งที่อยากจะทำตามฝันของตัวเอง แต่ทว่ากับเรื่องราวและอุปสรรคต่าง ๆ มากมายมาคอยขัดขวางเขาอยู่เรื่อย ที่สำคัญไปกว่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังใช้วิธีการถ่ายด้วยภาพแบบเอนิเมชั่นเสมือนจริงผสมภาพการ์ตูนแทนการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ทั่ว ๆ ไปอีกด้วย ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ผู้ชมได้เข้าใจภาพและความรู้สึกของตัวละครนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
6. Closer ภาพยนตร์เรื่องนี้นำเสนอมุมมองที่ตรงไปตรงมา และตลกปนเสียดสีได้อย่างเจ็บปวด กับเรื่องราวความสัมพันธ์ยุคใหม่ของคนแปลกหน้า 4 คน คือช่างภาพสาวพราวเสน่ห์ "แอนนา" (จูเลีย โรเบิร์ตส์) นักเขียนหนุ่มไฟแรง "แดน" (จู๊ด ลอว์) สาวเซ็กซี่อารมณ์ลึกลับ "อลิซ" (นาตาลี พอร์ตแมน) และแพทย์หนุ่มสุดหล่อ "ลาร์รี่" (ไคลฟ์ โอเว่น) ที่โคจรมาพบกันโดยบังเอิญและตกหลุมรักกันโดยทันที นี่เองจึงนำมาซึ่งการทรยศ หักหลัง และการแก้แค้นสุดร้ายกาจ เพื่อให้ได้มาซึ่งรักแท้ของคนทั้ง 4
7. The Diving Bell And The Butterfly (Le Scaphendre Et Le Papillon)
อีกหนึ่งภาพยนตร์คุณภาพที่ว่าด้วยเรื่องของ "ฌอง โดมินิค โบบี้" (มาธิเออร์ อัลมาริค) อดีต บก.นิตยสารแฟชั่นชื่อก้องโลกที่ป่วยเป็นอัมพาตทั้งตัว มีเพียงแค่อวัยวะส่วนเดียวที่ขยับได้คือดวงตาข้างซ้าย เขาต้องทนทรมานท้อใจและเกือบสิ้นหวังกับการสื่อสารด้วยดวงตาเพียงข้างเดียว แต่จนแล้วจนรอดเขาก็อดทนต่อสู้กับความท้อแท้ใจนั้นมาได้ถึงขั้นที่ว่าสามารถเขียนหนังสือเกี่ยวกับตัวเขาเองโดยให้พนักงานของเขามาช่วยจดบันทึกตัวอักษรให้ทีละตัว ๆ จนได้เป็นหนังสือที่ชื่อว่า "The Diving Bell And The Butterfly" แต่สุดท้ายแล้วก็จากโลกนี้ไปหลังจากที่หนังสือของเขาได้วางจำหน่ายเพียงไม่กี่วันเท่านั้น
8. Sin Nombre เป็นเรื่องราวของ "ไซร่า" วัยรุ่นสาวชาวฮอนดูรัส มีโอกาสที่ได้มาเจอพ่อของเธอและทำตามฝันที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างเสรีในดินแดนแห่งเสรีภาพอย่างสหรัฐอเมริกา แต่การที่เธอจะพบกับพ่อของเธอได้นั้น เธอต้องเดินทางด้วยการหลบหนีเป็นต่างด้าวข้ามผ่านพรมแดนมาเท่านั้น ซึ่งในระหว่างการข้ามพรมแดนนี้เองก้ทำให้เธอได้พบกับเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เธอไม่เคยคาดหวังว่าจะเจอะเจอเลยแม้แต่น้อย
9. Snatch เรื่องราวเกี่ยวกับการปล้นเพชรที่กลายเป็นเรื่องชุลมุน ยุ่งเหยิงและสับสนของวงการมวยผิดกฎหมาย ซึ่งมีกลุ่มคนหลายกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย จึงนำมาซึ่งการหักหลัง การหลอกลวง และแผนตบตาแบบซับซ้อนหลายตลบ เพื่อให้ได้มาซึ่งเพชรเม็ดโตมูลค่ามหาศาล ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เบนิซิโอ เดล โทโร่, เดนนิส ฟาริน่า, ไมก์ รีด, เจสัน สแต็ตแธม, สตีเฟ่น แกรห์ม, อลัน ฟอร์ด, แบร็ด พิตต์ และ วินนี่ โจน กำกับการแสดงโดย กาย ริชชี่
10. Spirited Away ภาพยนตร์การ์ตูนจากแดนปลาดิบเรื่องนี้ สามารถสื่อสารได้กับคนทุกระดับ ที่เป็นเหมือนแบบจำลองของสังคมปัจจุบันที่มีคนทุกประเภทอาศัยปะปนกันอยู่ กล่าวคือคนส่วนใหญ่ถูกเน้นไปด้วยความโลภ ทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา โดยเฉพาะตัวละครที่โดดเด่นที่สุดอย่าง "วิญญาณไร้หน้า" ซึ่งเป็นตัวแทนของความเปลี่ยวเหงา ไม่มีใครสนใจในวิญญาณตนนี้ แล้ววันหนึ่งวิญญาณนี้ก็พบว่าการเป็นผู้มั่งคั่งจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจในตัวเขามากขึ้น ซึ่งนี่เองก็เป็นตัวสะท้อนให้เห็นถึงภาวะของคนในสังคมปัจจุบันที่เห็นเรื่องของเงินทองเป็นสำคัญนั่นเอง
11. The Descent ภาพยนตร์แนวผจญภัยสยองขวัญกับเรื่องราวของ 6 หญิงสาวที่ได้มาพบกันเพื่อการผจญภัยประจำปีในดินแดนห่างไกล แต่ทว่าจุดหมายปลายทางของพวกเธอนั้น เป็นถ้ำที่ยังไม่เคยมีการสำรวจมาก่อน และไม่มีใครจะมาช่วยชีวิตพวกเธอได้ นอกจากนี้ยังมีตัวประหลาดรอคอยพวกเธอให้กลายเป็นเหยื่ออยู่ใต้ถ้ำแห่งนั้นที่คอยจู่โจมพวกเธอทั้ง 6 โดยไม่มีการเตือนใด ๆ ทั้งสิ้น
12. Once ภาพยนตร์เพลงสัญชาติไอริชที่กำกับและเขียนบทโดย จอห์น คาร์นี่ย์ และนำแสดงโดย เกล็น แฮนซาร์ด และ มาร์เกตา เออร์โกลว่า กับเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจของสองชีวิตที่โคจรมาพบกันบนถนนเมืองดับลินอันสับสนวุ่นวาย คนหนึ่งคือนักดนตรีข้างถนนที่ไม่กล้าร้องเพลงของตัวเอง อีกคนหนึ่งคือสาวเชกลูกหนึ่ง ที่พยายามหาทางปรับตัวเข้ากับเมืองใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งในระยะเวลาสั้น ๆ ที่ได้รู้จักกัน ทั้งคู่ต่างค้นพบพรสวรรค์ในตัวกันและกัน และช่วยผลักดันให้ฝันของอีกฝ่ายเป็นจริง หนังได้รับการยกย่องว่าอัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยมีกลิ่นอายหนังเพลงคลาสสิคในอดีตผสมกับโลกไร้ขนบของหนุ่มสาวชาวดับลิน
13. Oh Brother, Where Art Thou? "แม็คกิว" คือนักโทษในรัฐมิซซิสซิปปี้คุยโม้ว่าเขามีสมบัติมูลค่า 1.2 ล้านเหรียญซ่อนอยู่ที่บ้านในห้องใต้ดิน และกำลังตกอยู่ในอันตรายจากน้ำที่กำลังท่วม เขาชักชวนนักโทษอีกสองคน คือ "พีท" และ "เดล" ให้หนีออกไปช่วยตามล่าสมบัติด้วยกัน ขณะที่ทั้งสามคนมุ่งตามหาสมบัติ เขาต้องหลบหนีจากการตามล่าของฝ่ายกฏหมาย และยังต้องเผชิญกับผู้คนภายนอกที่ล้วนแต่ประหลาด มหัศจรรย์ รวมถึงเหตุที่ไม่คาดฝันต่าง ๆ อีกมากมาย
14. Punch Drunk Love เรื่องราวของ "แบร์รี่ อีแวน" (อดัม แซนด์เลอร์) หนุ่มเจ้าของกิจการเล็ก ๆ ที่กำลังประสบปัญหามากมาย หนึ่งในนั้นคือ การมีสัมพันธ์กับผู้คนรอบกายที่ไม่ค่อยมีใครอยากจะสุงสิงด้วย เพราะเขาเป็นคนที่ควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องเจอกับการเจ้ากี้เจ้าการของพี่น้องที่เป้นผู้หญิงทั้งเจ็ดคนอีกต่างหาก จนกระทั่งแบร์รี่ได้เจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ชอบเข้า เรื่องราวความรักและเรื่องวุ่น ๆ อีกสารพัดจึงได้เริ่มต้นนับแต่นั้นมา
15. Boogie Nights มาร์ค วอห์ลเบิร์ก มารับบทเป็น "เอ็ดดี้ อดัมส์" ชายหนุ่มที่มาจากครอบครัวชนชั้นกลางที่มีปัญหากับครอบครัวและหาทางแยกตัวเองออกมาจากครอบครัวที่มีปัญหานั้น แต่อย่างไรก็ดีเขาก็มีสิ่งหนึ่งที่ภาคภูมิใจมาก ๆ ก็คือเจ้าน้องชายผู้แสดงถึงความเป็นชายชาตรี โดยเขาคิดอยู่เสมอว่า ผู้ชายทุก ๆ คนล้วนมีของดีของตัวเอง ดังนั้นแล้ว เขาจึงตัดสินใจบุกเบิกวงการหนังโป๊สร้างเงินสร้างทองขึ้นมามากมาย จนกระทั่งถึงเวลาที่สูงสุดคืนสู่สามัญ เขาก็ต้องกลับมาใช้ชีวิตที่ลำบากขึ้นอีกครั้ง ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของวงการหนังโป๊ของอเมริกาใน ช่วงปี 1977 - 1984 จากยุครุ่งเรืองสุดขีด จนถึงยุคต่ำสุด จากร่ำรวยเงินทอง จนต้องขายบริการแลกเศษเงิน
16. The Fountain ภาพยนตร์เรื่อง "The Fountain" กล่าวถึงการผจญภัยของบุรุษนายหนึ่งที่พยายามช่วยชีวิตสตรีคนรักของเขา ผ่านวิบากกรรมที่ต้องเกิดในหลายภพหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็น นักรบ นักวิทยาศาสตร์ และนักบุกเบิก โดยมีความเกี่ยวข้องกันเพียงหนึ่งเดียวคือความรักและความผูกพันธ์ของเขาที่มีต่อหญิงผู้เป็นที่รักเท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สองดารามากความสามารถทั้ง "ฮิวจ์ แจ็คแมน" และ "ราเชล ไวซ์" มาร่วมรับบทนำที่รับรองว่าจะทำให้ประทับใจแบบไม่รู้ลืมแน่นอน
17. The Closet (Le Placard) ภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ฉบับเมืองน้ำหอมนี้ ว่าด้วยเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชีวิตได้รับการเพิกเฉย ทั้งภรรยา ลูกชาย หัวหน้างาน และคนอื่น ๆ รอบตัว จนทำให้เขาท้อแท้ใจคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย แต่ทว่า ก็มีเพื่อนบ้านที่แสนดีมาคอยช่วยเตือนสติไว้ได้เสียก่อน แถมยังมีวิธีการแปลก ๆ มากมายที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาที่ทำให้ผู้คนรอบข้างได้หันมาสนใจเขาและมองเขาเป็นคนสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม
18. Mystery Men ภาพยนตร์ฮีโร่สุดฮานี้ เกิดขึ้นเมื่อนครแชมเปี้ยนอยู่ในภาวะสงบสุข ได้พ้นภัยจากแหล่งอันธพาล "กัปตันอเมซซิ่ง" ยอดมนุษย์ผู้พิทักษ์สันติสุข จึงเกิดความเบื่อหน่าย แม้ว่าเขาจะจ้างนักประชาสัมพันธ์โหมโฆษณาอาชีพของเขา แต่เขาก็ยังกลัวว่าทุกคนจะมองข้ามเขาไป เขาจึงคิดอุบายประหลาด จึงวางแผนปลดปล่อยผู้นำฝ่ายอธรรม "คาซาโนว่า แฟรงเกนสไตน์" ออกจากโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อให้ก่ออาชญากรรมอีกครั้ง
19. Rubber ถือเป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ปนสยองขวัญที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เมื่อยางรถยนต์ธรรมดาที่เคยเห็นกันทั่วไปนั้น ดันเป็นสิ่งที่มีชีวิตขึ้นมาได้แบบไร้สาเหตุ แถมยังเกิดมามีพลังจิตที่สามารถระเบิดสิ่งตรงหน้าให้แหลกเป็นผุยผงได้ภายในพริบตา หรือถ้าจะพูดกันง่าย ๆ ภาพยนตร์เรื่องคืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่แสดงออกถึงจินตนาการที่ไร้ข้อจำกัด ตัวร้ายหรือสัตว์ประหลาดไม่จำเป็นต้องมาในรูปแบบตัวต่างดาวนอกโลกเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป หากแต่นำเอาของใช้ทั่ว ๆ ไปที่ใช้กันมาแต่งแต้มเพิ่มสีสันให้มีชีวิตขึ้นแบบง่าย ๆ เรียกได้ว่าฉีกกรอบเดิม ๆ ของภาพยนตร์แนวนี้ได้อย่างลงตัว
20. Kung Fu Hustle ภาพยนตร์สุดฮาของ "โจวซิงฉือ" ดาราตลกหน้าเป็นชั้นแนวหน้าของเอเชียเรื่องนี้ สร้างรายได้ถล่มทลายสถิติไปทั่วภาคพื้นเอเชีย และครองตำแหน่งภาพยนตร์ตลกแอ็คชั่น ที่กวาดรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง และยังได้รับคำชมให้เป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นในเรื่องของฉากแอ็คชั่น สเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็กต์ที่ตื่นตาตื่นใจ รวมไปถึงการดำเนินเนื้อเรื่องที่เรียกเสียงฮาจากคนดูได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถ้าใครที่ยังเคยดู ขอแนะนำให้รีบหามาดูโดยด่วน เพราะสนุกมาก ๆ
21. Magnolia อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่น่าดูชมกับเรื่องราวของ "เอิร์ล" (ทอม ครูซ) ชายที่กำลังจะตาย ความปรารถนาสุดท้ายของเขาคือการได้พบลูกชายที่หายไป ลินดา ภรรยาของเขา ภารโรงหนุ่ม นายตำรวจที่กำลังมีความรัก เด็กน้อยอัจฉริยะ พิธีกรเกมโชว์ ผู้คนเหล่านี้เป็นความบังเอิญของเหตุการณ์ โอกาส และสถานที่เชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีตและเหตุมหัศจรรย์ พวกเขาทั้งหมดได้ร่วมกันสานต่อเรื่องราวในชีวิตประจำวันของแต่ละคน
22. 12 Angry Men นี่คือภาพยนตร์ที่คลาสสิคสุด ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะหาดูชมอย่างยิ่ง 12 Angry Men เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับเด็กชายอายุ 18 ปี โดนข้อหาฆ่าพ่อตัวเอง และในวันที่มีการพิพากษาซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลง หากลูกขุนให้ความเห็นว่า "ผิด" เด็กคนนี้ต้องโดนโทษประหาร แต่หากลูกขุนบอกว่า "ไม่ผิด" เขาจะรอด ซึ่งเด็กคนนี้ อายุ 18 ถูกพ่อทำร้ายเป็นประจำ เหตุเกิดขึ้นในสลัม แม่ตายตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เคยโดนข้อหาชิงทรัพย์ ถูกจับ 2 ครั้ง เพราะแทงกัน และบัดนี้ชีวิตเขาอยู่ในมือของลูกขุนทั้ง 12 คนที่จะตัดสินว่าเขา ผิด หรือ ไม่ผิด
23. Enter The Void Enter The Void เป็นภาพยนตร์ที่ว่าด้วยเรื่องของหนุ่มนักค้ายาชาวตะวันตกที่ไปอาศัยอยู่ในกรุงโตเกียวกับปฏิบัติการปกป้องน้องสาวแท้ ๆ ของเขาที่ทำงานเป็นนักเต้นระบำเปลื้องผ้าตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้กันไว้เมื่อสมัยยังเด็ก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องคอยหลบหนีจากการตามไล่ล่าของตำรวจด้วย เรื่องราวจึงมีความซับซ้อนมากขึ้นไปจากเดิม
24. Cash Back เรื่องราวของ "เบ็น วิลลิส" (ฌอน บิ๊กเกอร์สตาฟ) ซึ่งถูกแฟนสาวทิ้งไป เขากลายเป็นโรคนอนไม่หลับ จากนั้นก็เริ่มทำงานกะดึกที่ซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อให้คืนอันแสนยาวนานผ่านพ้นไป และที่นี่เองทำให้เขาได้จินตนาการว่าตนเองสามารถหยุดเวลาได้ และด้วยวิธีการดังกล่าว เขาสามารถชื่นชมกับความงามทางศิลปะและผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกที่เวลาหยุดหมุน โดยเฉพาะ "ชารอน" สาวน้อยที่มีหน้าที่แพ็คของ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับของเขาเอง
25. The Big Lebwoski เป็นภาพยนตร์แนวชีวิตผสมตลกเฮฮา เบาสมอง คลายเครียด กับเรื่องราวของอดีตทหารผ่านศึกเวียดนามที่ตกงานแต่คลั่งกีฬาโบว์ลิ่ง ใช้ชีวิตเหลวไหลไปวัน ๆ จนกระทั่ง ความเหลวไหลนั้นนำไปสู่ความเจ็บแสบ เมื่อพาเข้าไปพัวพันกับลูกสาวสุดเพี้ยนของเศรษฐีที่คิดว่าตัวเองเป็นจิตรกรเหาะได้ เป็นคนเฟี้ยวฟ้าว วาดภาพได้ ทั้ง ๆ ที่เปลือยกายล่อนจ้อน จนเกิดเรื่องราวสุดอลหม่านเกิดขึ้นมากมาย
เรียกได้ว่าทั้ง 25 เรื่องที่ได้กล่าวไปนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นภาพยนตร์ที่น่าหาดูหรือเก็บสะสมอย่างยิ่ง และเชื่อได้เลยว่า คงจะทำให้หลาย ๆ ท่านได้มีภาพยนตร์ในดวงใจเพิ่มขึ้นมาอย่างแน่นอน...ลองไปหาชมกันดูนะจ๊ะ