5 วิธี ที่ทำให้เจ้านายรัก
สิ่งที่นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก อย่างหนึ่งในการทำงานก็คือการที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าเจ้านายของคุณนั้นพึงพอใจในผลการทำงานของคุณ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่เศรษฐกิจเป็นเช่นนี้ หัวหน้างานของคุณเป็นคนในไม่กี่คนเท่านั้นที่อาจจะช่วยคุณให้รอดพ้นจากการถูกปลดออกก็ได้ และยังรวมถึงอาจสามารถช่วยผลักดันคุณให้ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นไปได้อีกด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างตัวคุณและเจ้านายของคุณก็อาจมีการจืดจางลงได้ซึ่งก็เหมือนกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอื่นๆ ทั่วไป เมื่อเวลาผ่านไป คุณอาจจะพอใจในความสัมพันธ์ที่จืดจางนั้น หรืออาจรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทำให้ดีกว่านั้นได้อีกแล้วล่ะ ซึ่งหากคุณกำลังคิดอย่างนั้นอยู่ เราขอแจ้งข่าวดีให้คุณทราบว่า ไม่มีคำว่าสายเกินไป เรามาแอบดูวิธีการปฏิบัติงานกับหัวหน้างานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เคล็ดลับของ Alexandra Levit ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานเขียนเรื่อง "New Job, New You: A Guide to Reinventing Yourself in a Bright New Career" ดังต่อไปนี้ กันเถอะ หากคุณทำตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้ ไม่เพียงแต่คุณจะมีการงานที่มั่นคงเท่านั้น แต่คุณจะได้รับความชื่นชมยกย่องจากเจ้านายของคุณอีกด้วย 1. รู้จักถ่อมตัว พูดง่ายๆ ก็คือ คุณจะต้องคิดไว้เสมอว่าคุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคุณเอง "ห้ามคุณเข้าไปหาเจ้านายของตัวเองในลักษณะที่คุณมีสิทธิพิเศษราวกับว่าเจ้านายของคุณนั้นมีหน้าที่รับผิดชอบในการผลักดันคุณให้ก้าวไปยังตำแหน่งที่สูงขึ้นไป หากแต่คุณควรเน้นไปที่การคิดว่าคุณจะสามารถทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ชีวิตของเจ้านายของคุณง่ายขึ้น มีความสอดคล้องตามเป้าหมายของบริษัท และทำให้ตัวเจ้านายของคุณดูดีในสายตาของเจ้านายระดับต่อไป" 2. ซื่อสัตย์ ทุกคนล้วนทำสิ่งผิดพลาดได้ทั้งนั้นและคุณก็เช่นกัน ดังนั้น คุณจะต้องพร้อมรับมือกับสิ่งผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นให้ดี "เมื่อคุณทำสิ่งใดผิดพลาด ให้ยอมรับ และจากนั้นก็สอบถามเจ้านายของตัวเองว่าจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์นั้น คุณอย่าปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในวังวนของการโกหกหลอกลวงหรือกระทำสิ่งใดๆ ที่จะส่งผลให้คุณหมดความน่าเชื่อถือได้" 3. เคารพในเวลาของเจ้านาย ถ้าหากคุณคิดว่าเวลาของคุณมีค่ามาก เวลาของเจ้านายของคุณก็มีค่าเช่นกัน ดังนั้น คุณจะต้องใช้เวลาของตัวเองให้มีค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด "เมื่อคุณต้องเข้าไปหาเจ้านายของตัวเองเพื่อพูดคุยถึงเรื่องหลายเรื่องในเวลาเดียวกันนั้น คุณควรจะมีการจัดทำแบบตรวจ (Checklist) ให้เจ้านายดูด้วย และอย่าใช้เวลาพูดคุยในแต่ละเรื่องเหล่านั้นมากเกินไป เจ้านายของคุณจะมีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะพูดคุยกับคุณถ้าหากว่าเจ้านายรู้ว่าคุณจะเข้ามาพูดคุยในห้องทำงานเพียงไม่นาน" 4. ฝึกช่วยเหลือตัวเองบ้าง คุณจะต้องคิดไว้ว่าหัวหน้าของคุณนั้นคงจะไม่สามารถฟันฝ่าทุกวิกฤตไปพร้อมกับคุณได้เสมอ หรือคงไม่สามารถช่วยเหลือคุณในการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ที่ยากทุกครั้งที่คุณพบในการทำงาน "การที่คุณจะเข้าไปหาเจ้านายของตัวเองพร้อมกับปัญหาหรือเรื่องข้องใจหนึ่งๆ นั้น คุณจะต้องแน่ใจก่อนว่าคุณได้ทำการค้นหาวิธีการในการแก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวคุณเองก่อนแล้ว จากนั้น คุณก็จะต้องเตรียมวิธีการแก้ไขปัญหาไว้ในใจเพื่อจะนำมาใช้ร่วมกับการช่วยเหลือจากเจ้านาย" 5. ทำตัวเป็นพนักงานประเภท "ได้ค่ะ/ครับ" "เมื่อเจ้านายขอให้คุณทำอะไรสักอย่าง ถ้าเป็นไปได้ คุณจะต้องรับปากว่าจะดำเนินการสิ่งนั้นให้แก่เจ้านายได้ คุณจะต้องห้ามพูด คำว่า "ผมไม่มีเวลา" หรือ "มันทำไม่ได้หรอก" ออกไปจากปากคุณเด็ดขาด ในการทำงาน เมื่อคุณรู้แล้วว่าอะไรที่คุณจะต้องทำให้สำเร็จ ให้รีบลงมือทำโดยไม่ลังเล และถ้าหากว่าเจ้านายของคุณขอให้คุณช่วยเหลืองานใดๆ ในลักษณะที่ช่วยกันทำเป็นกลุ่ม คุณก็ควรจะต้องอาสาตัวเป็นคนแรกด้วย "ถ้าหากว่าคุณพร้อมสำหรับการทำงานตามคำสั่งของเจ้านายอยู่เสมอ เจ้านายของคุณก็จะมองว่า คุณเป็นพนักงานที่มีประโยชน์อย่างยิ่งแก่ทีมงานและเป็นพนักงานที่สามารถฝากความหวังไว้ได้" รู้เคล็ดลับกันแล้ว เรามาทำให้ เจ้านาย
รักเรากันเถอะ
Create Date : 14 ธันวาคม 2552
Last Update : 14 ธันวาคม 2552 8:28:22 น.
Counter : 610 Pageviews.
25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว
ชีวิตเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยง มีขึ้นมีลง หากอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมี และสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่รู้จักความทุกข์ แล้วคุณจะรู้จักความสุขได้อย่างไร คนเราไม่อาจมีความสุขได้ตลอดเวลา เราต้องไขว่คว้า แสวงหาและชื่นชมจึงจะได้มาซึ่งความสุข มีคนเคยกล่าวว่า ความสุขหาได้ ความทุกข์ไม่ต้องหา...มาเอง ดังนั้นเรามาลองดูวิธีการสร้างสุขกันดีกว่า 25 วิธีมีความสุขกับสิ่งรอบตัว เก็บมาฝากค่ะ เพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข 1. คิดใหม่ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักใกล้ตาย จะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง หรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุก คนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี พรุ่งนี้ ก็ได้ 2. จดบันทึก เขียนเล่าเรื่องถึงสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกช่วย แก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่ รกสมองออกไปได้ด้วย 3. มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใดหรือหากวันหนึ่งต้องเล่า เรื่องชีวิตตนเองให้หลาน ๆ ฟังคุณจะเล่าอะไร แล้วคุณพลาดการนัดกับเพื่อน เพื่อไปดูหนัง ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมองย้อนกลับไป 4. อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถข้าง ๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลน ก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลย 5. ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้ว อย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้ หนักใจเหนื่อยกาย ไหน ๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จ ๆ ไปเลย 6. เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงน่าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลก ใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระช่วยบ้าง เปลี่ยนแปลงตัวเองด้านการแต่งกาย ทรงผม ทานอาหารรสชาดใหม่ ๆ 7. อย่าเปรียบตัวเองกับคนอื่น ใครจะมีสระว่ายน้ำ บ้านหลังใหญ่ๆ รถหรูคันใหม่ไม่ต้องสนใจ หากดูให้ดี ๆ คุณอาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นต้องทำงานสัปดาห์ละเจ็ดวัน ไม่มีเวลาเจอคนในบ้านหรือเพื่อนฝูงหรืออาจต้องผ่อนหนี้สินไปอีกหลายสิบปี 8. กำจัดข้าวของรกบ้าน เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือเก่า ที่ไม่ใช้แล้ว ยกไปบริจาคเถิดได้บุญกุศล 9. รู้จักเอ่ยคำว่า ไม่ ไม่ต้องลงมือทำเองทุกเรื่องเพราะชีวิตคุณก็วุ่นวายพออยู่แล้ว 10. รดน้ำต้นรัก รักคู่ครองของคุณอย่างที่เขาเป็นที่คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนไปนั้นเป็นความจริงหรือทุกอย่างเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่งก็ต้องบำรุงรักษาเป็นของธรรมดา ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาก็เช่นกัน ต้องมีการดูแลใจใส่กันบ้าง 11. อย่าให้ความคุ้นเคยกลายเป็นไม่ไว้หน้า หากคุณให้เกียรติเพื่อน หรือผู้อื่น คู่ครอง และคนในครอบครัว คุณก็ควรได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกัน 12. มอบความรักให้คู่ครอง ครอบครัว และเพื่อน ๆ อย่าเขินที่จะบอกคนเหล่านี้ว่า คุณ รัก พวกเขาตรงไหน เมื่อเขาทำอะไรดี ๆ ก็กล่าวคำชื่นชมบ้าง คำชมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยทำร้ายใคร 13. อย่ารับปรับทุกข์ทุกเรื่อง หากปัญหาของเพื่อนเริ่มมีผลกระทบต่อตัวคุณก็ไม่ต้องฝืนทำตัวเป็นเสาหลักให้เขา พิงอยู่เรื่อยไป ให้เพื่อนหัดแก้ปัญหาและก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยตัวเอง 14. ติดต่อเพื่อนเก่า ยังไม่สายเกินไปที่จะโทรศัพท์ ส่งอีเมล์ หรือเขียนจดหมายถึงเขา ส่ง SMS 15. บำรุงอารมณ์ด้วยสีเขียว ตัดดอกไม้สดจากสวน หรือตื่นแต่เช้าไปตลาดซื้อดอกไม้ที่สดใสนำมาใส่แจกัน 16. ไปทะเลกันดีกว่า ทิวทัศน์กว้างไกล สายลม เกลียวคลื่น สองเท้าเปลือยเปล่าย่ำบนผืนทราย และแสงแดดลูบไล้แผ่นหลัง ไม่มีอะไรทำให้จิตใจเริงรื่นชื่นบานได้ดีกว่านี้อีกแล้ว 17. สร้างสรรค์ผลงาน จะเป็นภาพเขียน เย็บปักถักร้อย อบขนม จัดสวน หรืออะไรก็ได้ 18. สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกไปข้างนอกหรือเปิดหน้าต่างกว้าง ๆ สูดหายใจให้เต็มปอด คุณจะรู้สึกว่าอากาศเสียถูกขับออกจากตัว 19. ออกไปเดินเล่น การออกกำลังกายเบา ๆ จะช่วยเติมชีวิตชีวาให้คุณทั้งร่างกายและจิตใจ 20. ดูหนังตลก และหัวเราะให้สบายใจ 21. ย้ายเครื่องเรือน และของแต่งบ้าน หรืออาจทาสีห้องและผนังใหม่ด้วย 22. รอคอยสิ่งดี ๆ เช่น วันหยุดพักร้อน ออกท่องราตรีกับเพื่อนฝูง ไปดูหนัง ฟังเพลง หาร้านอาหารอร่อย ๆ ที่ไม่เคยไป รอโทรศัพท์จากคนรู้ใจ 23. ชวนเพื่อน/ คนรู้จัก หรือใครก็ได้ มากินมื้อค่ำ จัดห้องโต๊ะอาหารที่บ้านให้แปลกไปจากเดิม เสริฟ์เครื่องดื่มค็อกเทล เปิดเพลงเสริมบรรยากาศ สนุกกับการเตรียมอาหาร ทุกคนจะปลาบปลื้มหากเห็นว่าคุณทุ่มสุดฝีมือแล้วค่ำ คืนนั้นก็จะครึกครื้น 24. ยิ้มไว้ ยิ้มเป็นโรคติดต่อ ไม่เชื่อลองยิ้มดูสิ 25. ทำให้คนอื่นมีความสุข บ้าง ทำเพื่อตัวเองมามากแล้วก็น่าจะทำเพื่อคนอื่นบ้าง อาสาช่วยงานกุศล บริจาค พากันไปท่องเที่ยวหาความสุข หรือช่วยทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คนอื่นมีความสุขข้อมูลจาก : //www.global-report.net
Create Date : 29 กันยายน 2552
Last Update : 30 กันยายน 2552 18:59:15 น.
Counter : 248 Pageviews.
เคล็ดลับชนะอุปสรรค
หลายคนที่พบเจออุปสรรคในชีวิตมากมาย แต่ก็สามารถฝ่าฟันไปได้จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นตำนานเล่าขานให้เป็นตัวอย่างและเป็นกำลังใจแก่คนรุ่นหลัง เคล็ดลับของพวกเขาคือ ใช้สติและปัญญา จัดการกับปัญหา แทนที่จะยอมจำนน วิธีต่อไปนี้จะช่วยให้สามารถพลิกวิธีคิดและเรียกสติขึ้นมาสู้กับอุปสรรคได้ข้อที่ 1 มองว่าอุปสรรคเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป การมองว่าแท้จริงแล้วอุปสรรคก็เป็นเช่นเดียวกับทุกสิ่งในโลก คือไม่ใช่ของจีรังยั่งยืน เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมคลี่คลายไปได้ เพียงแต่อาจต้องใช้ความพยายามและเวลาสักหน่อย การคิดเช่นนี้จะช่วยคลายความหวาดกลัวหรือวิตกกังวลได้ข้อที่ 2 ฝึกเป็นนักคิดสร้างสรรค์ กระตุ้นตัวเองให้มองหาวิธีแก้ปัญหาในมุมใหม่ๆ เช่นคิดในทางตรงข้าม คิดแง่บวก คิดเชื่อมโยง หรือนอกกรอบ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการแก้ไขปัญหาและจะทำให้อุปสรรคไม่ใช้อุปสรรคอีกต่อไปข้อที่ 3 ตีปัญหาให้แตก แยกปัญหาออกเป็นข้อๆ แล้วค่อยๆ แก้ไปทีละเปลาะ วิธีนี้ต้องใช้จินตนาการสร้างภาพจำลองการแก้ไขปัญหาขึ้นในหัวให้ชัดเจน วิธีนี้จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายขึ้น เห็นแนวทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน และจัดการกับปัญหาแต่ละส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพข้อที่ 4 ควบคุมจิตใจให้สงบเยือกเย็น ผู้ที่จิตใจสงบไม่ซัดส่ายไปตามอารมณ์ มักเป็นผู้ที่อยู่ห่างไกลจากความทุกข์ และจิตใจที่สงบยังช่วยให้คนเรามีเหตุมีผลมากขึ้น คุณจึงควรหาวิธีฝึกจิตใจให้คุ้นเคยกับความสงบเยือกเย็นไว้เสมอ ข้อที่ 5 สร้างขวัญและกำลังใจให้ตนเอง กำลังใจจากคนรอบข้างเป็นสิ่งที่เราไม่อาจบังคับได้ ดังนั้นคนฉลาดจึงต้องหาวิธีสร้างขวัญและกำลังใจให้ตนเอง เพื่อให้พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้เสมอไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง
Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 15:19:18 น.
Counter : 289 Pageviews.
เคล็ดลับในการสร้างเสน่ห์
หลายคนคงอยากมีเสน่ห์ มีคนรัก คนเมตตา แต่น้อยคนจะรู้ว่า แท้จริงเสน่ห์เป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้วในตัวเอง เพียงแต่ยังขาดการบริหารจัดการที่ดีในการนำเสน่ห์ที่มีออกมามัดใจคนรอบข้าง 6 ข้อต่อไปนี้คือสูตรง่ายๆ ที่จะเพิ่มเสน่ห์ให้คุณ โดยไม่ต้องพึ่งปัจจัยภายนอกที่ไหนข้อที่ 1 สั่งสมความมั่นใจ ก่อนที่จะให้เสน่ห์ปรากฏออกมาสู่ภายนอก เราต้องรู้จักสร้างเสนห์ให้เกิดขึ้นภายในเสียก่อน ด้วยการสร้าง ความมั่นใจ ให้ตนเอง แทนที่จะย้ำคิดเสมอว่าตัวเองมีปมด้อย คุยไม่เก่ง บุคลิกไม่ดี แล้วปล่อยให้ความคิดแง่ลบแสดงออกแต่สิ่งที่เป็นลบ ลองมองข้ามปมด้อยของตัวเองไปเสียบ้าง แล้วหันมาเรียกความมั่นใจด้วยการคิดเชิงบวกว่า คนเราย่อมมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน การรู้จุดด้อยของตนเองจึงเป็นเรื่องดี เพราะทำให้ปรับปรุงตัวเองได้ทันท่วงที หลังจากนั้นก็หันมาพัฒนาจุดเด่นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น และพยายามลดทอนจุดด้อยให้ลดลงไป เพียงเท่านี้ความมั่นใจก็จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวข้อที่ 2 ฝึกเป็นผู้ให้ ก่อนจะให้ใครรักหรือเมตตานั้น เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือเปล่าว่า เราเองเคยมอบความรักให้ผู้อื่นหรือเปล่า เพราะความรักเป็นสิ่งที่ไม่ใช่แค่นั่งรอแล้วจะเกิดตรงหน้า แต่ต้องเริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้ด้วยความจริงใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน เมื่อนั้นความรักความเมตตาจากผู้อื่นจึงจะสะท้อนย้อนกลับมาสู่เราข้อ 3 ใช้ภาษากายในเชิงบวก ในการสร้างเสน่ห์นั้น ภาษากายหรือบุคลิกภาพที่เป็นบวกคือสิ่งสำคัญซึ่งเราต้องฝึกฝนให้เป็นนิสัย คิดดูสิ หากเราหน้าบึ้งตึงทั้งวัน ใครพูดอะไรก็เอาแต่ส่ายหน้า กอดอก ยักไหล่ไม่เห็นด้วยท่าเดียว ที่นี้จะมีใครบ้างที่กล้าเดินเข้ามาคุย ตรงกันข้าม หากเรายิ้มแย้มแจ่มใส เวลาคุยก็พยักหน้า สบตา หรือแม้ไม่ชอบก็ยังพยายามยิ้มและทำใจให้เป็นกลางไว้ คราวนี้ใครๆก็อยากจะพูดคุยกับเราข้อ 4 พูดดีเป็นศรีแก่ตัว กุญแจอีกดอกหนึ่งที่จะไขไปสู่การสร้างเสน่ห์คือการพูดจา แต่คำพูดที่มีเสน่ห์ไม่ได้หมายถึงวาจาที่ไพเราะหรือสื่อสารรู้เรื่องเท่านั้น แต่ยังมีความหมายครอบคลุมไปถึง การพูดดี คือพูดเป็นบวก พูดมีสาระ พูดแล้วเกิดประโยชน์ และที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ รู้จักพูดให้ถูกกาลเทศะ รู้ว่าเมื่อไรควรพูดอะไร มากน้อยแค่ไหน และพูดด้วยท่าทีอย่างไร การพูดดีนอกจากจะเป็นการสร้างมิตรภาพใหม่ๆให้เกิดขึ้นแล้ว คนพูดดียังสามารถซื้อใจคนนับร้อยนับพันได้โดยไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว ข้อที่ 5 เป็นผู้ฟังที่ดี เสน่ห์ใช่ว่าจะเกิดจากการพูดอย่างเดียว บ่อยครั้งการเป็นผู้ฟังที่ดีก็ทำให้คนอื่นอยากคบหากับเรามากขึ้น ด้วย แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ใช่แค่นั่งฟังคนอื่นพูดเท่านั้น ทว่ายังหมายถึงการคิดตาม มีอารมณ์ร่วม ยอมรับและเข้าใจในสิ่งที่เขาพูดอย่างแท้จริงด้วยข้อที่ 6 สร้างเสน่ห์ที่หัวใจ สิ่งที่ปฏิบัติยากที่สุดและเป็นหัวใจของการสร้างเสน่ห์คือ ความจริงใจ เพราะเสน่ห์ที่แท้จริงและยั่งยืนไม่ใช่เรื่องของการเสแสร้งแกล้งทำ แต่ต้องมาจากเนื้อแท้จากใจของเราจริงๆ
Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 14:16:30 น.
Counter : 559 Pageviews.
คาถาสะกดใจเจ้านาย
ถ้าอยากมีความสุขและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน สิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เป็นอันขาดก็คือ ต้องรู้ว่าทำงานอย่างไรถึงจะโดนใจเจ้านาย เพราะแม้คุณจะเป็นลูกน้องแสนขยัน สู้งานหนักทุกชนิด นิสัยดีสุดยอด แต่ถ้าทำงานไม่เข้าตานายเอาเสียเลย เรี่ยวแรงที่ทุ่มเทลงไปคงสูญเปล่าต่อไปนี้คือคาถาสะกดใจเจ้านาย หากคุณนำไปปฏิบัติได้ครบทุกข้อแล้ว นายยังไม่โปรดให้มันรู้ไป ข้อที่ 1 เก่งไม่กลัว แต่กลัวช้า บนโต๊ะทำงานของคุณมีงานรอสะสางอยู่กี่ชิ้น บางที่อาจจะมีมากเสียจนขี้เกียจนับ สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ กำหนดส่งงานแต่ละชิ้น เพื่อเรียงลำดับการทำงานให้ถูกต้อง ถ้าคุณส่งงานได้ตามกำหนดเวลาทุกๆครั้ง นายจะมั่นใจในตัวคุณ (Brian Tracy นักเขียนชื่อดังบอกว่า การทำงานที่ยากที่สุดเป็นอันดับแรกของวัน จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และทำงานในชั่วโมงที่เหลือได้อย่างมีความสุข) ข้อที่ 2 ขยันรายงาน ทุกครั้งที่นายมอบหมายงานให้ คุณควรรายงานถึงความคืบหน้าให้นายทราบเป็นระยะๆ ไม่ว่างานที่ทำอยู่นั้นจะไปได้ดีหรือซวนเซก็ตาม เพราะการได้รับรู้ความคืบหน้าของงานทีละขั้น หากเกิดปัญหาขึ้น นายจะได้ช่วยแนะทางแก้ให้ได้อย่างทันท่วงที ข้อที่ 3 ทำชีวิตนายให้ง่ายขึ้น ทำทุกอย่างให้นายรู้สึกว่าการทำงานกับคุณเป็นเรื่องแสนสะดวกเข้าไว้ เช่น ถ้าต้องส่งรายงานสักฉบับ คุณควรเลือกเขียนด้วยวิธีที่ทำให้นายอ่านแล้วเข้าใจง่ายที่สุด หรือหากต้องรายงานให้นายทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ควรเตียมวิธีแก้ปัญหาไปเสนอด้วยอย่างน้อย 2-3 วิธี ข้อที่ 4 ดรีมทีม ลูกน้องที่ฉลาดทำงานคือลูกน้องที่รู้จักทำงานเป็นทีม ไม่ใช่ลูกน้องที่นั่งทำงานจนดึกดื่นอยู่คนเดียว คุณต้องรู้จักวิธีบริหารเวลาและกระจายงานออกไปบ้าง ส่วนเรื่องใดที่ชำนาญและช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมได้ ก็ไม่ควรนิ่งเฉย ข้อที่ 5 นาย is number one การคิดถึงนายในแง่บวกจะทำให้คุณยิ้มรับคำตำหนิติเตียนได้อย่างสบายใจ เพราะการติในวันนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกันในวันหน้า หากคุณเจอปัญหาที่แก้ไม่ตก ก็จงอย่ารีรอที่จะเดินเข้าไปขอคำปรึกษาจากเจ้านายข้อที่ 6 รอบรู้ ความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ สนใจติดตามข่าวสารบ้านเมือง และหาความรู้รอบตัวอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณเป็นคนทันสมัย มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของลูกน้องที่เจ้านายที่ไหนก็อยากได้ ข้อที่ 7 ลดช่องว่าง สร้างสัมพันธ์ การพูดคุยเรื่องอื่นบ้าง นอกจากเรื่องงาน จะทำให้คุณเป็นคนน่าคบและช่วยลดช่องว่างระหว่างเจ้านายกับลูกน้องได้ดี เพราะความเข้าอกเข้าใจเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานร่วมกัน แต่หากรู้สึกเกรงใจที่จะพูดคุยกับนายเกี่ยวกับเรื่องที่นอกเหนือจากเรื่องงาน ขอแนะนำให้ลองเริ่มด้วยการถามถึงสิ่งที่นายสนใจ หรือนำข่าวสาวบ้านเมืองมาเล่าสู่กันฟังไปก่อนก็ได้เพิ่มความขลังด้วยความกระตือรือร้นตลอดเวลา มาทำงานก่อนสักครึ่งชั่วโมง จะได้ไม่ต้องรีบจนหน้า ผม ที่เซตไว้กระเจิดกระเจิง นอกจากนั้นการได้ใช้เวลายามเช้าไปกับการจิบเครื่องดื่ม หรือทำธุระส่วนตัวเล็กๆน้อยๆก่อนเริ่มงาน ยังช่วยให้คุณเริ่มวันได้อย่างกระปรี้กระเปร่าขึ้นด้วย จด ดีกว่า จำ พยามยามจดสิ่งที่คุณต้องทำ แทนที่จะจำไว้ในสมองเพียงอย่างเดียว จัดโต๊ะทำงานให้สะอาดและเป็นระเบียบ จะช่วยเพิ่มกระสิทธิภาพการทำงานได้ เพราะคุณไม่ต้องรื้อเอกสารทั้งกองเพื่อหาจดหมายหรือเอกสารเพียงหนึ่งฉบับ แถมยังได้พื่นที่การทำงานเพิ่มขึ้นด้วย
Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 8:32:09 น.
Counter : 604 Pageviews.
sireeyada
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
こんにちは.... ようこそ !!! สวัสดีค่า เพื่อนๆทุกคน (เอ๊ะ..รึเปล่า) เอาเป็นว่าใครก็ตามที่ (หลง) เข้ามาชม my blog ก็ขอขอบคุณนะเจ้าคะ... อิ.อิ..^__^ さようなら...おやすみなさい :-P