ดอยห่มฟ้า รีสอร์ท เชียงราย ตอนที่ 1
ดอยห่มฟ้า...รีสอร์ทกลางไร่องุ่น การเดินทางไปยังรีสอร์ทแห่งนี้จึง ต้องใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย ห่างจากสนามบิน 30 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปดอยแม่สลอง แล้วแยกเข้าถนนย่อยไปอีก 7.8 กิโลเมตร ผ่านถนนลูกรัง ฝุ่นตลบสองข้างทางเป็นป่าไผ่ ไปกันแบบงง ๆ เพราะป้ายหายเป็นระยะ ๆ ครั้นจะถามคนก็ไม่ใครให้ถาม สัญญาณฮัลโลก็ไม่มี สุดท้ายก็ไปถึงหมู่ 9 บ้าน ป่าเมี่ยง ต.ป่าตึง อ. แม่จัน อันเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทจนได้ แต่ใช่ว่าจะถึงที่พักเห็นแต่อาคารตั้งอยู่ลิบ ๆ บนเนินเขา รถเข้าไม่ได้ต้องนั่งแพ ข้ามอ่างเก็บน้ำ แม่เปิน อ่างธรรมชาติขนาดใหญ่ไปอีกฝั่ง แล้วนั่งรถขึ้นเนินไปอีก ถึงจะถึงที่พัก ผ่านไร่องุ่นสองข้างทางที่ยังพอเห็นพวงสีม่วง ๆ ให้เห็นอยู่บ้างเพราะเพิ่งผ่านฤดูเก็บเกี่ยวไปเมื่อไม่นานมานี้
สุพจน์ ตั้งวิฑูรธรรม ประธาน บริษัท คัลเลอร์คิง จำกัด และ เจ้าของดอยห่มฟ้า รีสอร์ท เล่าว่า อันที่จริงเขาทำธุรกิจ ค้าพลอย ส่งออก เป็นคนเมืองกรุง ไม่ใช่คนท้องถิ่น แต่ได้มาปักหลักซื้อที่ดินแถวนี้เมื่อ 9 ปีก่อนรวม ๆ แล้ว 1,300 ไร่ เพื่อปลูกองุ่น และสร้างโรงงานผลิตไวน์ ซึ่งกว่าจะหาพื้นที่ที่เหมาะ ๆได้ก็ใช้เวลานาน จึงมาลงเอยที่นี่ ส่วนธุรกิจรีสอร์ทนั้นเพิ่งเปิดบริการเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แต่ก็มีโรงแรมแถวสีลมชื่อ ซัฟฟาย เทล เป็นโรงแรมสามดาวอยู่ด้วย ดังนั้นภาพที่เห็นของรีสอร์ทแห่งนี้จึงตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ตรงกลางเป็นล้อบบี้ มีหลังคาคล้ายร่มขนาดใหญ่ ตัวล็อบบี้เปิดโล่ง ออกสไตล์บาหลี ผสมล้านนา เน้นความทันสมัย มุมหนึ่งแบ่งเป็นที่สำหรับรับประทานดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมมื้อเช้า ส่วนพระอาทิตย์ก็ต้องไปดูที่มุมสระว่ายน้ำมองไปรอบ ๆ ด้านจะเห็นเนินเขาน้อยใหญ่ กลางคืนเห็นไฟในเมืองสว่างไสว และแม้กระทั่ง ไฟป่าที่ลุกโชติช่วงทั้งคืน ทิวทัศน์รอบข้าง เห็นไร่องุ่น ไร่ชา ที่ปลูก แบบขั้นบันได เขียวชอุ่ม สุดลูกหูลูกตา มีถนนลาดยางทอดยาว ไปถึงเห็นอ่างน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ คดเคี้ยวไปมา โรงงานผลิตชาใหญ่เบ้อเริ้มตั้งอยู่ไม่ไกลนัก แต่น่าเสียดายที่โรงงานผลิตไวน์ถูกซ่อนอยู่ในหุบเขามองไม่เห็น จากสภาพที่ดินที่เป็นทั้งหุบเขา อ่างน้ำธรรมชาติ ที่เหมาะสำหรับปลูกและผลิตไวน์ ดังนั้นนอกจากการผลิตไวน์ และที่พักแล้ว ธรรมชาติจึงเป็นจุดขายที่สำคัญสำหรับที่นี่ และหนีไม่พ้นกิจกรรมทางการท่องเที่ยวอีกหลายหลากที่ตามมา ส่วนของที่ตัวบ้านพัก ได้ตั้งขึ้นตามไล่เขา และมีเพียง 23 ห้องเท่านั้น ถือเป็นทดสอบตลาด ว่ามีความต้องการแค่ไหนถ้าได้รับความนิยม แผนการลงทุนโรงแรมในระดับหลายร้อยห้องจะเกิดขึ้นแน่ แต่ขณะนี้เพียงแค่เริ่มเทสต์ตลาด จุดขายของที่นี่แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกัน อ่างน้ำในห้องนำนิลมาปูรอบ ๆ อ่างเป็นสีดำ หรืออ่างอาบน้ำบางห้องจะถูกเนรเทศมาอยู่นอกห้องให้แช่ น้ำกันแบบ เย้ยฟ้า ท้าธรรมชาติ แต่ถ้าเขินก็มีม่านปิด บางห้องมีอ่างจากุซซี่ให้นอนแช่ตัวเล่น จากจุดเริ่มต้นที่ไร่องุ่น จึงทำให้ขณะนี้เริ่มเห็นผลผลิตที่เป็นกอบเป็นกำ โดยมีการลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญจากประเทศถิ่นกำเนิด ฝรั่งเศสเข้ามาควบคุมการปลูกและผลิตไวน์จนได้ไวน์คุณภาพ ได้มาตรฐาน ฝรั่งเศส ขณะนี้มีผลผลิตสองยี่ห้อได้นำออกป้อนตลาดเมื่อสองปีที่ผ่านมาคือ นาปา วัลเล่ย์ ณ ป่าเมี่ยง และ แม่จัน วัลเล่ย์ แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาดไวน์ไทยแต่ นาปาฯ นั้นได้รับรางวัลจากการประกวดไวน์ที่สิงคโปร์ เป็นเครื่องการันตี ขายราคาขวดละ 350-550 บาท ส่วนแม่จัน วัลเล่ย์นั่นเป็นไวน์พรีเมียม ขายขวดละ 1,250 บาท มีกำลังการผลิตรวมปีละ 10 ตันหรือราว 3-4 หมื่นขวดและได้เริ่มเป็นยอมรับของผู้บริโภค มีโรงแรมห้าดาวทั้งกทม.และภูเก็ตเริ่มสั่งไปขายไม่ว่า โรงแรมสุโขทัย โรงแรมแมริออท เป็นต้น
ผลิตน้ำผลไม้ น้ำดื่ม ยี่ห้อ คิโยอิ อีกด้วย รวม ๆ แล้วทั้งโครงการใช้เงินลงทุนไปร่วม 700 ล้านบาท รวมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและย้ำว่า "ผมตั้งใจจะผลิตไวน์ไทยไปขายเมืองนอก เป็นการรับประทานอาหารไทยควบคู่กับไวน์ไทย ตั้งเป้าถึงขั้นส่งขายที่ฝรั่งเศส เพราะคิดว่า คุณภาพไวน์ไทยไม่แพ้ของนอก " เริ่มเลยนะค่ะรปที่ 1รูปที่ 2รูปที่ 3 รูปที่ 4 รูปที่ 5 รูปที่ 6 รูปที่ 7 รูปที่ 8 รูปที่9 รูปท่ 10 รูปที่ 11 รูปที่ 12 รูปที่ 13 รูปที่ 14 รูปที่ 15 รูปที่ 16 รูปที่ 17 รูปที่ 18 รูปที่ 19รูปที่ 20 รูปที่ 21 รูปที่ 22 รูปที่ 23 รูปที่ 24 รูปที่25 รูปที่ 26 รูปที่ 27 รูปที่ 28 รูปที่ 29 รูปที่ 30 รูปที่ 31 รอตอน 2 นะค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=shoppingrome&month=29-12-2008&group=1&gblog=59
Create Date : 28 ธันวาคม 2551 | | |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2552 8:03:50 น. |
Counter : 1830 Pageviews. |
| |
|
|
|