สมาชิกหมายเลข 3519206
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






เราคือนักเขียนบล็อกอิสระ
เราที่หลงใหลการค้นหาแรงบันดาลใจให้ชีวิต
เราก็คือเมฆที่สว่างได้ด้วยตัวของมันเอง
ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร...

The clouds are always improvising,
but the culprit is wind.
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3519206's blog to your web]
Links
 

 
(บันทึกสิ้นปี) Official Journal: What I learn from 2016





ความรัก ความสัมพันธ์

ในช่วงต้นปี 2016 การใช้ชีวิตอย่างอิสระ "โสด" โดยที่ไม่คิดจะผูกมัดกับใครนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีและมันทำให้เรามีความสุข
แม้บางครั้งจะมีบางช่วงบางเวลาที่เหงา รู้สึกโดดเดี่ยวไปบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ยังคงรู้สึกสบายดีที่ยังมีเพื่อนๆที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง
และยังมีครอบครัวที่ยังอยู่พร้อมหน้าแบบนี้ แต่ใครจะฝืนกฏธรรมชาติได้ล่ะ "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" "ทุกสื่งทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงเสมอ"
เพราะงั้นมันจึงได้เกิดขึ้น เมื่อเราได้เจอและรู้จักกับคนคนหนึ่ง เขาดูเป็นคนจริงจัง มีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ และน่าค้นหา เราจึงตัดสินใจคุยและติดต่อคบกันตั้งแต่นั้นมา
ในแต่ละวันที่ผ่านไปมีทั้งดีใจ เสียใจ สุขและเศร้าปนเปกันไป กับเรื่องของความรู้สึกเอาแน่เอานอนกับมันไม่ได้วันนี้หัวเราะ วันพรุ่งนี้อาจร้องไห้ วันนี้ถอดใจและหมดหวัง
พรุ่งนี้อาจมีหวังและรู้สึกเติมเต็มก็ได้ จากเป็นคนที่คิดต่อต้านและฝืนกฎธรรมชาติ เพราะมัวคิดแต่จะยึดมั่นและไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ทำให้เราเริ่มมองจากความเป็นจริง
ยอมที่จะเปิดตาและเปิดใจ เรียนรู้ที่จะมองทุกอย่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง พยายามมองมันด้วยจิตและความคิดที่ไม่ปรุงแต่งใดๆ คิดทบทวนและพิจารณาจากความเป็นจริงมากขึ้น
พยายามมีสติและควบคุมอารมณ์และไม่คิดฟุ้งซ่าน แม้ว่าตอนนี้จะพบว่ามันยากที่จะทำได้100% แต่เชื่อว่าถ้าหากเราทำได้เช่นนั้นแล้ว เราก็จะปล่อยวางและสบายตัวมากขึ้น
ลดความรู้สึกทุกข์และความไม่สบายใจลงได้ ส่วนหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความคิดความอ่านของเราได้มากมายขนาดนี้ก็เพราะ ธรรมะและเซ็น
ในปัจจุบันนี้วัยรุ่นหนุ่มสาวน้อยคนนักที่หันมาให้ความสนใจการศึกษาธรรมะเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันของเราน้อยลงทุกที
เพราะมัวแต่ให้ความสำคัญกับวัตถุ ค่านิยมหรือกระแสโซเชียลต่างๆที่ล้วนเกิดขึ้นและไปอย่างรวดเร็ว
การศึกษาหลักคำสอนและธรรมะเพื่อการดำรงชีวิตอย่างเข้าใจได้ง่ายและไม่ซับซ้อนเพียงวันละนิด
ช่วยจัดระบบความคิดและขัดเกลาให้กระจกที่ขุ่นมัวอยู่ในใจนั้นค่อยกลับมาใสและมองทุกอย่างชัดเจนขึ้นได้
วันเวลาที่นับวันผ่านพ้นไปสามารถพิสูจน์อะไรได้หลายอย่าง นั่นรวมไปถึงความคิด พฤติกรรมและการกระทำของคนทุกคน
เมื่อแรกเจอคนเราส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตนในสิ่งที่เราต้องการให้อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นไปเช่นนี้ แต่กลับไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของเราซะทีเดียว
กลับเลือกที่จะซ่อนนิสัยเสียหรือข้อบกพร่องของตนเองไว้ข้างใน และแสดงออกแต่ในแต่ด้านที่ดีงาม ที่ต้องการทำให้ผู้อื่นประทับใจเท่านั้น
แต่ทุกสิ่งบนโลกนี้มีทั้งขาวกับดำ และเทา เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน เหมือนปลาทองที่มีจุดด่างสีดำ
หากมองสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ผิดแปลกอะไร เราก็จะมองเห็นอะไรได้กว้างมากยิ่งขึ้น
สำหรับเราแล้ว ความรักคือการเรียนรู้ เรียนรู้เพื่อเติบโตและพัฒนากันทั้งสองฝ่าย หากเขายังมองไม่เห็นความจริงข้อนี้หรือหากเขากำลังหลงทาง
จงชี้ทางและปฏิบัติให้เขาได้เห็น เขาอาจจะยังมองไม่เห็นหรือเห็นแล้วแต่ไม่เข้าใจในตอนนี้ เดี๋ยวนี้
แต่หากเราเชื่อและหวังว่าสักวันเขาจะเห็น นึกขึ้นได้และเข้าใจ นั่นก็เท่ากับเรามีส่วนช่วยให้ตัวเขาจะได้เติบโตและพัฒนาให้ดีกว่าที่ตัวเขาเป็นอยู่
ให้เขาได้เห็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตของใครอีกคน ให้เขาได้เปิดใจและมองโลกได้กว้างขึ้นเหมือนกับที่ตัวเราเองก็กำลังทำและเป็นอยู่

ความรักคือความเข้าใจซึ่งกันและกัน คนรักที่เอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวเองนั่นเป็นความรักที่เห็นแก่ตัว จงอย่ายึดถือว่าตัวเราเป็นจุดศูนย์กลางของทุกสิ่ง
จงทำความเข้าใจถึงทุกสิ่งทุกอย่างของอีกฝ่าย เรียนรู้ ศึกษา และพิจารณา ไตร่ตรองถึงเหตุและผลของสิ่งที่เป็นและเกิดขึ้นในตัวเขาคนนั้น
จงอย่ามองหรือตัดสินเรื่องราวเพียงด้านเดียวมุมเดียว หากเราทำเช่นนี้ได้จะบังเกิดความเข้าใจและการยอมรับในตัวตน การยอมรับความจริง
ใจเราก็จะไร้ข้อกังขา ไร้กังวล และผ่อนคลายในที่สุด เพราะมันเป็นของมันเช่นนั้น

ความรักคือการให้ ในทุกวันนี้ คนที่มีความรักหรืออยู่ในความสัมพันธ์ส่วนมากมักคอยถามตัวเองอยู่เสมอว่า "ฉันต้องการอะไร? หรือฉันอยากได้อะไร?"
เราคอยจะนึกถึงแต่ผลประโยชน์ กำไรขาดทุน สิ่งนี้นะหรือคือความรักความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์และจริงใจ หากยังไม่เข้าใจ
ขอจงมองตัวอย่างความรักที่มีแต่ให้จากความรักของพ่อและแม่ที่มีให้กับลูก
หรือหากจะยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คงจะเป็นความรักของพระพุทธเจ้าหรือพระเจ้าที่มีให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้
หากเราเรียนรู้ที่จะให้มากกว่ารับซะบ้าง เราจะพบว่าเรามีความสุขมากกว่าการนั่งรอรับการให้ของใครบางคนซะอีก
เราจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและนี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งของความหมายของชีวิต



Create Date : 26 ธันวาคม 2559
Last Update : 26 ธันวาคม 2559 15:27:46 น. 0 comments
Counter : 664 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.