เมื่อคุณหนูอยากรู้ มาเรียนคำว่า ใคร
การจะเรียนให้ได้ดีต้องถาม การจะถามให้ได้คำตอบ เราก็ต้องรู้คำปฤจฉาสรรพนาม หรือคำที่บอกรายละเอียดถึงใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ทำไม พวกนี้อันดับนี้เราเรียนการวางประโยคกันก่อน ภาษาเกาหลีคล้ายภาษาไทย ถ้าเราเห็นใครสักคนในรูปถ่าย เราจะชี้ถามห้วนๆก็ได้ว่า ใคร? คำว่าใคร ใช้คำว่า 누구 นูกู แล้วเพื่อให้สุภาพมันจะตามด้วย 세요? และเครื่องหมายคำถาม (ที่ขาดไม่ได้ในการเขียน) 누구 세요? ใครค้า 리에요. ลี่เองจ้าคำว่าใครในตัวอย่างนี้ยังไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับคำกริยา เมื่อมีกริยาเข้ามาร่วม เราจะมีคำแยกใช้สำหรับ ใคร ที่เป็นประธานและใคร ที่เป็นกรรม ดังนี้ค่ะ누구가 ที่จะย่อกลายเป็น 누가 ใช้สำหรับประธานใครและ 누구를 ใช้สำหรับกรรมใคร เช่น 누가 가요? ใครไปเวลาตอบก็เอาชื่อคน หรือคำนามแทนคนนั้นๆไปใส่แทนคำว่าใคร เช่น 리가요.หรือ 누구를 만나요? เธอจะพบใครเอาชื่อลี่ไปใส่อีกก็ได้ ง่ายดี ตอบว่า 리를 만나요.ทั้งคำถามและคำตอบเป็นกริยาตัวเดียวกัน เพราะในภาษาเกาหลี การทำคำถามคือการทำเสียงสูง และเขียนใส่เครื่องหมายคำถามเข้าไปค่ะกริยาสองตัวนี้คือ 가다 แปลว่าไป และ 만나다 แปลว่าพบ เจอ มาซ้อมผันกริยาสักหนอยไม๊คะ เพิ่งเจอกันไปบล็อกที่แล้วเอง 가다 가요가세요갑니다 만나다만나요만나세요만납니다 อ้าว ไหนใครคอมเพลนว่ายังอ่านไม่ได้ ไม่มีคำอ่านไทยให้ กลับปายบล็อกต้นๆ ด่วน ห้ามต่อนะ ถ้ายังไม่แม่น ใครแม่นแล้ว เดี๋ยวปายต่อ
ไอหย๊า อย่าเพิ่งปวดหัว วันนี้มาดูกริยากันบ้างดีกว่า
บล็อกที่แล้วปวดหัวจังอิ๊ บล็อกนี้เลยเอาเรื่องที่ไม่น่าปวดหัวแต่เรียนกันสบายๆ มาฝากค่ะ เรียนไปก็ไม่ได้หลักการอะไรมากหรอกนะคะ เน้นเรียนไปแบบลี่เนี่ยละค่ะ ถ้าใครเจอที่ผิด แวะมาบอกด้วยนะคะ อย่าทำเป็นผ่านเลยไป สิ่งที่ทำให้เกาหลีไม่ต่างจากเพื่อนญี่ปุ่นก็คือการผันกริยา เพราะกริยาของเขามีหลายระดับตามความสุภาพค่ะ ระดับแรก เรามาดู infinitive กันก่อน จากบล็อกที่แล้ว ก็มีกริยาให้ดูสองรูป คือ 입니다 และ 이다 เมื่อเราจะทำผันกริยาเพื่อใช้ในประโยคนั้น เราเลือกทำให้กริยาเดียวกัน ออกมาเป็นหลายแบบได้ดังนี้ค่ะ ลี่จะเลือกเอากริยาที่ทุกคนชอบก่อนนะคะ นั่นก็คือ คำว่า รัก (อะแฮ่ม) 사랑하다 ซะรังฮาดะ แปลได้ว่ารัก และถูกรักด้วย (อะน้า)มาดูการผันแบบแรก แบบจะสุภาพไม่สุภาพแหล่ แบบกึ่งๆ เอ๊ะยังไง เราผันด้วยการทำการตัด 다 ทิ้ง นำ 하 มาเติม + 여요 ยอโยะ แต่เวลาใช้จริงๆ มันจะกลายเป็น 해요 แฮโย อย่ามาถามลี่นะคะ ลี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็เขาสอนมาแบบนี้ง้า ดังนั้น แบบกึ่งสุภาพจึงได้มาเป็น 사랑해요 ซารังแฮโยต่อด้วยแบบที่สอง แบบนี้ขอนำเสนอตัวอย่าง ที่เรียนไปแล้ว คำว่า 안녕하세요 เอ้า อ่านค่า ลี่ไม่บอกคำอ่านแล้วนะคะ ใคร๊ยังจำไม่ได้อีก กลับไปอ่านบล็อกก่อนหน้าเดี๋ยวนี้เลยคำนี้เป็นกริยาที่แปลว่ามีความสงบสุข สุขสบาย เต็มๆว่า 안녕하다 แต่ผันด้วยรูปสุภาพขึ้นไปอีก จึงตัด 다 ทิ้ง เติม 세요 เข้าไป ประโยคเกาหลีที่เราได้ยินบ่อยๆ ว่าลงท้าย เซโย นั่นก็เพราะกริยามันถูกทำให้เป็นรูปสุภาพขึ้นมาแล้วนั่นหละค่ะ ระวังนิดนึงค่ะ ในการผันกริยาเพื่อใช้กับตัวเอง พูดถึงตัวเองนั้น คนเกาหลีจะไม่ใช้กริยารูปสุภาพนี้ค่ะ เขาจะใช้แค่รูปกึ่งสุภาพเท่านั้นเอง เป็น ซารังแฮโย นัยว่าถ่อมตัว ใครเชี่ยวชาญวัฒนธรรมเกาหลีมาอธิบายโหน่ยค่านอกจาก สองแบบนี้แล้ว เราก็จะเจอกริยา ผันด้วยรูป ㅂ니다 เหมือนตัวอย่าง กริยา 입니다 ด้วยค่ะ รูปแบบนี้ลี่ได้ยินบ่อยเลยล่ะ ตอนดูเรื่องกุง เมื่อแม่พระเอกพูดกับแม่ซะมี หรือย่าของพระเอก ก็จะได้ยิน - นีดะๆ เนี่ย คำว่ารักนั้นเมื่อผันในแบบนี้มันก็จะออกมาเป็น 사랑합니다 ซารังฮัมนีดะ (เสียง บ นั้น นัยว่าเพื่อความลื่นไหลในการออกเสียง จะกลายเป็นเสียง ม ไป ค่ะจากการฟังแล้วฟังอีก ก็ได้ยินเป็น -มนีดะ ตลอดเลยค่ะ) สำหรับเรื่องนี้แนะนำให้อ่านเพิ่มที่ เวบนี้ค่ะมาลองผันกันอีกตัวนะคะ จะได้ดูตัวอักษรเพิ่มด้วยกริยา มี 있다 ผันได้เป็น 있어요 อักษรที่เพิ่มเข้ามานี้คือ เสียง ซ หนักๆ เพราะมันมี ㅅ ติดกันสองตัวนะคะ เวลาอ่านไม่ต้องไปออกเสียงเป็นอิซดะ นะคะ ออกแค่อิดดะ ก็พอแล้ว แต่เมื่อผันแล้ว มันจะเชื่อมเสียงเป็นอิซซอโยะ กริยามีนี้เดี๋ยวจะเจอบ่อย มาถึงตรงนี้เพื่อนๆคงจะเอาออกแล้วสิคะว่ากริยาที่เจอมาจากบล็อกที่แล้ว 이다 และ 입니다 นั้นคือตัวเดียวกัน ที่ทำการผันแล้วออกมาเป็นรูปทางการ นั่นเองค่ะ
บล็อกนี้ ตามสัญญา 은 และ 는 และอื่นๆอีก
จากบล็อกที่แล้ว ลี่ติดคำไว้สองคำเราชักจะเริ่มลงไปในแกรมม่าแล้ว ลี่ก็ไม่ค่อยชอบเลย อึน 은 และ 는 นึน คำสองคำนี้ ใช้วางตามหลังคำที่เราต้องการบ่งบอกว่าเป็นสิ่งที่เราพูดถึงในประโยค เดี๋ยวอธิบายต่อนะคะ ไม่งั้นไม่จบเรื่องตัวอักษรแล้วจะไม่ได้เรียนอย่างอื่นต่อกันสักทีแต่ที่เห็นว่า ทำไมใช้คำว่า อึน หลังคำว่าเธอ และใช้คำว่า นึน หลังคำว่าฉันนั้น ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับความหมายเลย แต่มาดูกันค่ะ 당신은 나는 바보 입니다เราเห็นได้ว่า ตรงคำว่า ดังชิน 당신 นั้น มีตัวสะกด น ดังนั้นตัวเลือกที่ตามมาจึงเป็น อึน 은และ นา 나 เป็นคำที่มีเสียงสระเปิด เราต้องเลือกใช้ นึน 는 ค่ะเรื่องกริยาที่ตามมานั้น อิบนีดะ ตามที่เราเห็นในการเขียน แต่เวลาออกเสียงจริง คนเกาหลีเขาจะออกว่า อิมนีดะ 입니다 หลายๆคนคงได้อ่านมาแล้วจากบล็อกเพื่อนๆท่านอื่นเพิ่มเติมนะคะ ลี่มีแหล่งให้อ่านเพิ่มและฝึกทำแบบฝึกหัดค่ะ ขอบคุณเจ้าของผู้เขียน จากเวบ Sri Siam ค่าทีนี้ที่ติดไว้ว่า 은 กับ 는 นี้คืออะไร มันไม่ใช่กรรมค่ะ มันจะใช้เพื่อเน้นการเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น ถ้าจะให้เข้าใจง่ายต้องดูประโยคนี้ค่ะ 이것이 연필 이에요. และ 이것은 연필 이에요. อักษรใหม่ที่โผล่เข้ามาคือ ตัว ㅍ ที่ออกเสียงเป็น พ ค่ะ ช่วยมองให้มันออกเป็นพ พานหน่อยนะคะ 이것 นี้ แปลว่า this ตามด้วยมาร์กเกอร์แสดงประธาน 연필 แปลว่า ดินสอ 이에요 เป็นกริยา ที่แปลว่าเป็นอยู่คือ ที่ผันออกมาจาก 이다 แต่มีรูปไม่สุภาพเริ่ดหรูประโยคนี่ถ้าแปลตามไทยก็แปลว่า นี่ ดินสอ คือกริยา 이다 เวลาใช้ก็ผันได้สองแบบอีก ตามการออกเสียงคือ-예요 เยโยะ ใช้เมื่อคำนามลงท้ายด้วยสระ เป็นเสียงเปิด -이에요 อีเอโยะ เมื่อคำนามลงท้ายด้วยพยํญชนะ อย่างเช่นคำว่า 연필 ยอน พิล ข้างบนเป็นต้น 이것은 연필 이에요 จึงต่างกับประโยคแรก 이것이 연필 이에요. แค่ตรงที่มาร์กเกอร์ ที่ทำเป็นตัวเข้มไว้ตัวอย่างที่เห็นนี้ ลี่นำมาจากเวบ เรียนเกาหลี //langintro.com/ค่ะเวลาเราพูดแนะนำตัว ก็ใช้กริยา 이다 นี้ได้เป็นตัวอย่างนี้ค่ะA: 안녕하세요. 리예요. สวัสดีจ้า ลี่ค่าB : 안녕하세요. 수몬이에요. สวัสดีคร้าบ สุมลครับโอ้ยปวดหัวตื้บ ปวดหัวว่าจะเรียงลำดับข้อมูลยังไงดี กลัวคนอื่นสับสนค่ะชื่อคุณสุมล นี่มีตัวอักษรใหม่เพิ่มให้หนึ่งตัวด้วยนะคะ คือ เสียง ม เป็นรูปสี่เหลี่ยมค่ะ ㅁ เดี๋ยวลี่จะพยายามเก็บตัวอักษรที่เหลือ พร้อมกับรีวิว ข้อมูลเก่าแล้วก็ขึ้นแกรมม่าใหม่ๆ ทีละนิดนะคะ
ตัวอักษร ตอนที่ สี่ แล้ว
หลังจากจับโน่นผสมนี่ ท่องจำไปได้อีกตรึม มาต่อกันค่ะเทคนิคเหล่านี้ ก็ไม่ได้เอามาจากไหน ลี่คิดเอาเองไว้ใช้ตอนกำลังเรียน เพราะงั้นถ้าไม่เวิร์ค สำหรับคุณผู้อ่าน ห้ามโวยนะค้าวันนี้ตามเรียนไปเรื่อยๆ ได้บล็อกมาอีกที่นึง แนะนำตัวอักษรได้ครบถ้วนเหมือนกันค่ะ นอกเหนือจากเวบดีๆ สองแห่งที่ลี่แนะนำไปในบล็อกแรกๆ แล้วก็ยังมี บล็อกของคุณ Manophillia อีกที่ให้ไปอ่านกันเพิ่มเติมอีกนะคะ แถมยังมีลิงค์ดีๆ พาไปหาที่เรียนเกาหลีออนไลน์อีกหลายที่เลยค่ะ ลี่ช้อบชอบ ขอบคุณมากๆค่ะบล็อกนี้จะแนะนำคำเรียกตัวเอง ไปพร้อมๆกับเรียนตัวอักษรเพิ่มนะคะเริ่มจาก ฉัน - 서 ㅓ ตัวสระนี้เป็นสระใหม่ ที่ลี่ยังไม่ได้แนะนำ เขียนคล้ายกับ ㅏแต่หมุนกันคนละทาง ตัว ㅏ นี้เป็น อา แต่ ㅓ คือ ออ ค่ะ จำ ㅕ ยอกันได้ใช่ไหมคะจาก 안녕 งั้นเราไปดูตัวต่อไปต่อมา ด้วยภาษาพ่อขุน คำว่า กรู ลี่ไม่กล้าเขียนตรงนะคะ กลัวบล็อกไม่ขึ้น คำนี้เขียนว่า 나 อ่านเองนะคะ ถ้าอ่านไม่ถูก ขอไล่กลับไปดูบล็อกแรกๆ ค่ะ ไปซะดีๆเมื่อกี้มีสองเสียงให้เรียนไปแล้ว ออ และ ยอ เราได้เรียนไปว่า ㅏ คืออา ถ้ามันมีสองขา ก็จะกลายเป็น ㅑ ยา นะคะ เดี๋ยวลี่จะเอาตัวอักษรเป็นคำๆมาให้ลองอ่านกันตรงท้ายบล็อกนี้ค่ะตามมาติดๆ เมื่อมีฉันก็ต้องมีเธอ 당신 ตรงนี้มีตัวใหม่อีกหนึ่งตัว ㄷคือตัว ด คำนี้อ่านไม่ยากค่ะ แปลได้ว่าเธอหรือคุณ สุภาพหน่อย อ่านได้แล้วไม๊คะ ผ่านนะเมื่อมีกรู ก็ต้องมีมรึง หรือคำสรรพนามที่ไม่ค่อยจะสุภาพหน่อย เพื่อความสะใจในการพูด เขาใช้คำนี้ค่ะ 너 สลับกับคำว่ากรูเนอะ ก็ง่ายต่อการท่องของพวกพ้องเพื่อนเรียนเกาหลีของลี่กันไปนะคะ (ลี่น่ะจำได้แล้ว เลยมาแปะบล็อกเนี่ยล่ะค่ะ)เดี๋ยวขอเก็บสรรพนามที่สาม สำหรับการนินทาไว้ก่อนนะคะ เรามาดูสรรพนามแบบพหูพจน์บ้าง ฉัน เธอ และก็เรา ค่ะ เราคือ 저희 ตรงนี้ก็มีอีกหนึ่งสระใหม่ คือตัวขีดเดียว แนวนอนนี้ เป็นสระ อึ-อือ ค่ะ แต่เอ๊ะๆ มันยังไง ก็มีสระแล้ว ทำไมยังมเจ้าตัวสระอี ตามมาอีกㅢ ถ้าเกิดมันมาด้วยกันนั้น จะกลายเป็นสระผสม ออกเสียงรวมกันเป็น อืย (อืออี ติดกันลองพูดดูสิคะ) คำนี้อ่านว่าอะไร จำได้หรือยัง ขอจับยัดสระให้ท่องทีเดียวสองตัวนะคะ คือ อือ ㅡ และอึย ㅢ ถ้าจำได้แล้ว ไปต่อกันเล้ยคำว่าพวกตรูเนี่ย ก็จะเขียนในแนวขึ้นต้นด้วยเสียง น อีก เดาได้เลยค่ะ เอ้า อ่าน 우리 เอาละวา ลี่หลอกเอาตัวอักษรใหม่มาให้เรียนอีกแล้ว บทนี้เยอะจริงๆ แต่คงยังไม่ทันงงนะคะ นี่คือ ㅗ สระโอ ที่เราเรียนไปแล้ว ตัวใหม่ที่เข้ามา ตีลังกากลับหัวกันนี้ จำได้ง่ายมาก เพราะมันมีขายาวลงข้างล่าง เราคนไทยนึกออกไม๊คะว่าสระอะไร ㅜ มันก็คือ สระอุ อู นั่นเองค่ะท่านผู้ชม จำคู่กันไปนะคะ แล้วถ้าลี่ให้สองตัวนี้มา จะเดาได้ไม๊คะ ว่าคืออะไรㅠ และ ㅛ ให้ตัวเองไปสิบคะแนน สำหรับเพื่อนๆคนเก่ง ที่ใช้วิธีลัดการจำแบบเดียวกะลี่ค่ะ สองขาสองตัวนี้ ก็คือเสียง ยู และเสียง โย นั่นเองค่า รอบนี้ยาวมาก ขอรวมคำศัพท์มาให้เพื่อนๆผู้อ่าน ฝึกทดสอบตัวเองกันตรงนี้นะคะ 저 และ 나 당신 และ 너 저희 และ 우리 당신들 และ 너희들 สองตัวล่างสุด แปลว่าพวกเธอ และพวกแก คงอ่านกันได้แล้วนะคะ เพราะมีตัวอักษรที่เรียนไปครบทุกตัวแล้วลี่มีประโยคเด็ดจากชื่อเพลงดังมาให้ซ้อมกันสำหรับวันนี้ค่ะ 당신은나는바보입니다 เป็นเพลงจากเรื่อง Goong นี่เองล่ะค่ะ อักษรทุกตัวเราเรียนกันมาหมดแล้ว ลองอ่าน และพยายามแปลนะคะ ตัวพิเศษทีเพิ่มเข้ามานั้น은 และ 는 ขอยกยอดไปบล็อกต่อไปเลยค่ะ
เริ่มเกิดความรักที่จะเรียนภาษาเกาหลีต่อกันรึยังคะ
จากสิบตัวที่เรียนไปก่อนหน้านี้ เราได้เรียนㄴㅇㅅㄱㅎ ㅏㅣ ㅕㅛㅔ ไปแล้ว ลองอ่านสิคะ ยังจำได้หมดรึเปล่า ฝั่งซ้ายคือพยัญชนะ ฝั่งขวาคือสระมาเรียนคำตอบรับกันไปด้วยเลยดีกว่า คำว่าใช่ เขียนด้วย 네 ถ้ายังอ่านเองไม่ได้กลับไปอ่านบล็อกที่ผ่านมาก่อนนะคะ คำนี้อ่านว่า เน หรือบางครั้งเราก็จะเห็นอีกคำ 예 ลองเดานะคะ ในเมื่อตัว อ ไม่อ่านออกเสียงในกรณีนี้ ตัวที่คล้ายสระเอ มีสองขานี้จะออกเสียงเป็น ย ยักษ์อีกแล้ว มันจึงอ่านว่า เย ค่ะ จำง่ายกว่าเนอะ เพราะมันออกเสียงเหมือน yeh ของพวกเมกัน ที่แปลว่า yesแล้วถ้าคำนี้ล่ะ 아니오อ่านมาได้สองตัวแรก แต่ลี่หลอกเอาสระใหม่มาให้เรียนอีกแล้ว ฮี่ๆ สระตัวนี้ที่แน่ๆไม่ได้ออกเสียงเป็น ย แน่ๆ เพราะมีแค่ขาเดียว มันคือสระโอ ค่ะ สระโอมีขายาวๆขึ้นไปข้างบน เหมือนกับสระตัวนี้แหละคะ (โห พยายามคิดเปรียบเทียบเอาจนได้กะหล่อนเซ่ะ) อานิโอ ที่เวลาเขาพูดกันเราได้ยินว่าอันนิโย แปลว่าไม่ ค่ะ ได้ไปสองตัวเองเนอะ เอาอีกสักนิด사랑 คำนี้หลายคนเห็นบ่อยแล้ว มันคือคำว่า ซารัง ที่แปลว่ารัก คนที่เรียนตามลี่มาพร้อมๆกัน คงจะอ่านได้แล้ว มาเหลือตัว ร.ล ที่เป็นตัวใหม่ ลองพยายามจำให้ ㄹ เป็น ร เรือ หรือ ล ลิงนะคะ เดี๋ยวก็จำได้ไปเองอีกคำ คำนี้ไม่ค่อยดี แต่เรียนไปเหอะ 바보 มีตัวพยัญชนะตัวเดียว ซ้ำสองครั้งเลย มันอาจจะดูตัวยืดตัวสั้นต่างกันแต่ดูรูปแล้ว เหมือนตัวเอใหญ่ภาษาอังกฤษตีลังกา นี้คือ บ ค่ะ ถ้าเริ่มจำตัวสระโอได้แล้ว จากที่เพิ่งผ่านตาไปแว้บนึง คำนี้บาโบ แปลว่า บ้า เอ้ย เขาแปลมาเป็นอังกฤษว่า Stupid ค่ะ ก็ประมาณงี่เง่า ได้มั้งคะ อย่ามาถามภาษาไทยกะลี่ค่ะ ย่ำแย่มากค่ะ ขอประทานโทษจริงๆเอาสี่ตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวลี่ว่างจากงานแล้วจะแว้บมาเพิ่มให้อีก ตอนนี้ลี่จำได้เกือบหมดแล้วค่ะ มาแบ่งแนวการจำกันเนอะใครที่เรียนมา พอเป็นผู้รู้ ช่วยตามตรวจให้ลี่ด้วยนะคะ ถือว่าช่วยสอนคนที่ไม่รู้แต่อยากเรียน ขอบพระคุณทุกคนค่า