เขาขอแต่งงานแล้ว เย้ เย้
เขาขอแต่งงานแล้ว เย้ เย้ ยังจำวันนั้นได้ดี คิดถึงทีไรแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ วันที่แฟนขอแต่งงานน่ะ ฟังดูแล้วมันก็ไม่น่าสนใจเท่าไร แต่ว่าสำหรับเราไม่เคยถูกขอแต่งงานมาก่อนก็เลยตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาคุกเข่าขอแต่งงาน เหมือนในหนังรักๆที่เราเคยดู เรามาด้วยวีซ่าคู่หมั้นกว่าจะผ่านขั้นตอนวีซ่าคู่หมั้นได้นี่ก็ใช้เวลาพอสมควรเกือบปีแน่ะจำได้ว่าแฟนเริ่มยื่นขอวีซ่าที่อเมริกา June 2010 กว่าจะผ่านขั้นตอนมาจนถึงได้เดินทางมาก็ปาเข้าไปเป็นปี ตอนนี้เราก็มาอยู่อเมริกาได้ก็หลายเดือนแล้ว เรามาถึงที่นี่เดือนกันยายน 2011ตอนที่มาถึงใหม่ๆเราก็แพลนว่าจะต้องรีบแต่งงานภายในเดือนกันยาแล้วก็ยื่นขอปรับสถานะในเดือนธค.กะว่าไห้ได้กรีนการ์ดเร็วๆจะได้รีบหางานเลย แต่แฟนเรากลับบอกให้รอก่อนเพราะเขาเริ่มไม่แนใจ กลัวว่าเราจะแต่งงานกับเขาเพื่อหวังกรีนการ์ด อ้าว เป็นงั้นไป สงสัยเป็นเพราะว่าเราเร่งเขามากเกินไปอ่ะป่ะเนี่ยแต่ใครมาวีซ่าคู่หมั้นก็ต้องแต่งงานแหละ ถ้าไม่แต่งก็ต้องกลับไทยสถานเดียว แต่แฟนก็บอกว่ารอก่อน เอ้ารอก็รอ แล้วก็คิดว่า รู้งี้ตรูขอวีซ่าคู่สมรสมาก็ดีหรอกเนี่ย จะได้กรีนการ์ดเลยไม่ต้องรอ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเราแต่งงานแล้วคิดแต่เรื่องกรีนการ์ดนะคะ เราแค่อยากทำงานเร็วๆแค่นั้นแหละ แล้ววันหนึ่งแฟนเราก็บอกว่าจะพาไปดินเนอร์สุดสัปดาห์ ปรกติเราก็จะไปดินเนอร์นอกบ้านตอนวีคเอนอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่าเป็นดินเนอร์ปรกติ แต่คุณเธอแต่งตัวซะหล่อเชียววันนั้น แถมบอกให้เราแต่งตัวให้แมทช์กับเขาอีก เราก็เลยเลือกชุดสีน้ำตาลให้เข้าสีกันกับเขา แล้วเราก็ขับรถไปที่ South mountain เป็นภูเขาอยู่นอกเมืองที่อริโซน่า แฟนบอกว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน ที่ south mountain พระอาทิตย์เกือบตกดินแล้ว พอเราไปถึง ก็มีคนมากันหลายคันบางคนมาปิกนิคบางคนขับรถเล่นชมวิวมาดูพระอาทิตย์ เราก็พากันไปนั่งบนโขดหินดูพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เริ่มเห็นเป็นสีส้มเข้มขึ้นเรื่อยๆพอสักพักก็พาเราเดินลงไปที่เนินข้างล่างคงกะให้ห่างไกลคนอื่นพอสมควร แล้วอยู่ดีๆคุณเธอก็คุกเข่า แล้วยื่นกล่องแหวนที่ซื้อมาจาก Jared ให้เรา แล้วถามเราว่า Will you marry me ?
Engage Ring เราก็ตกใจอ่ะสิ เพราะไม่คิดว่าเขาจะขอแต่งงาน ก็เราไม่รู้ธรรมเนียมฝรั่งว่าจะต้องขอแต่งงานแบบคุกเข่า ยื่นแหวน อะไรแบบเนี้ย แล้วพอนึกได้ กลัวเขาเปลี่ยนใจ เนื่องจากเป็นรถด่วนขบวนสุดท้ายแล้วด้วย ฮ่า ฮ่า เราก็เลยรีบตอบด้วยเสียงตื่นเต้นว่า YESSSS , I will marry you. แทบไม่ต้องคิดให้เสียเวลาเลยค่ะ ในที่สุดก็สำเร็จ เพราะว่าเขาขอแต่งงานแล้ว เย้ เย้ พอหลังจากดูพระอาทิตย์ตกแล้ว เรากับแฟนก็ไปดินเนอร์ กินซูขิที่ร้านอาหารญี่ปุ่น Shogun ยังจำความรู้สึกตอนที่แฟนขอแต่งงาน ในวันนั้นได้ดี ดีใจที่ได้เอามาเขียนบล้อก ขอบคุณที่มาเยี่ยมค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 29 กันยายน 2554 |
Last Update : 16 ธันวาคม 2554 3:42:58 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1115 Pageviews. |
|
|