การเลี้ยงใส้เดือน ตอนที่ ๒
ความชื้น ไส้เดือนต้องการความชื้นอย่างพอเพียงสําหรับการเจริญเติบโต แต่ไม่ควรให้แฉะหรือมีน้ำขัง ไม่ควรให้ไดรับแสงโดยตรง ซึ่งเป็นสาเหตุใหอุณหภูมิสูง ไส้เดือนแห้งตาย หยุดการขยายพันธุระยะฟักไข่ ควรใหวัสดุเลี้ยงอบอุ่น งดให้น้ำเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั้งผิวหน้าดิน 1-2 นิ้วเริ่มแห้ง หลังจากนั้นจะใหมีความชื้นตามปกติ การถ่ายเทอากาศ ไส้เดือนสามารถคงชีวิตอยู่ได้ในสภาพที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำ และ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซดสูง หรือในที่มีน้ำขัง ถ้าหากมีออกซิเจนที่ละลายน้ำในปริมาณที่พอเพียง แต่โดยทั่วไปในกรณีที่มีน้ำขังเป็นสาเหตุใหชะงักการเจริญหรือตาย ความเป็นกรด-ด่าง โดยทั่วไปไส้เดือนสามารถเจริญไดในดินที่มี pH 4.2-8.0 แตการเลี้ยงเพื่อการค้าต้องควบคุมให้มีสภาพเป็นกลาง (pH 7) ในสภาพเป็นกรดควรใส่ปูนขาวหรือโดโลไมด์ ภาชนะสําหรับเลี้ยง การเลี้ยงเพื่อขยายพันธุสามารถใช้ ลังไม้ ตะกร้าไม้ไผ่ ตะกร้าพลาสติก ถังซีเมนต์กลม ส่วนการเลี้ยงเป็นการค้าใชบ่อซีเมนตขนาดขึ้นอยู่กับพื้นที่ความสะดวกในการทํางาน โดยที่อาศัยหลักที่ว่าในพื้นที่ 1 ตารางเมตรจะต้องมีใส้เดือนที่จะอาศัยอยู่สบาย น้ำหนักประมาณ ½ ก.ก.หรือจำนวนตัวโดยประมาณ 500 ตัว และแยกออกมาใสภาชนะใหมทุก 30-60 วัน พื้นบ่อควรทำทางระบายน้ำไม่ให้น้ำขัง ด้านข้างบ่อควรมีทางระบายน้ำและบ่อเก็บน้ำสำหรับเก็บน้ำหมักที่ได้จากการย่อยสลายอินทรียวัตถุที่เรานำมาเป็นอาหารใส้เดือน
Create Date : 10 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:10:12 น. |
Counter : 1244 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การเลี้ยงไส้เดือน ตอนที่ ๑
สภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิ ความชื้น การถ่ายเทอากาศ อาหาร และสภาพความเป็นกรด ด่าง มีอิทธิพลต่อการขยายพันธุ การเจริญเติบโตและสุขภาพของไส้เดือน อุณหภูมิ ไส้เดือนจะตายเมื่ออุณหภูมิถึงจุดเหยือกแข็ง อุณหภูมิที่เหมาะสมอยูระหว่าง 29.4 - 32.2 ๐ ซบางสายพันธุสามารถดํารงชีวิตไดในอุณหภูมิ 37.8 ๐ ซ แตต้องมีการพลางแสงอย่างดี และมีความชื้นพอเพียง การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อ การค้าจะเลี้ยงในอุณหภูมิ 15.6-26.7 o ซ ในระยะวางไข่และฟักไข่ ควรควบคุมอุณหภูมิประมาณ 15.6-21 o ซ แสง ไส้เดือนไม่ต้องการแสงสว่าง แสงอุลต้าไวโอเล็ท เป็นอันตรายต่อไส้เดือน เมื่อถูกแสงแดดที่มีความเข้มแสงสูงไส้เดือนจะเกิดอาการอัมพาต ปล่อยน้ำเมือกจากลำตัวออกมาเพื่อรักษาความชื้นแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งเป็นกลไกรักษาชีวิตให้อยู่รอดของใส้เดือน ดังนั้นจึงจําเป็นต้องใชภาชนะปิดป้องกันแสง และไม่ต้องการถูกรบกวนจากการคุ้ยเขี่ย เพราะว่าหลังจากการคุ้ยเขี่ย ใส้เดือนจะหยุดกินอาหารไประยะหนึ่ง ดังนั้นการขุ้ยเคี่ยโดยไม่จำเป็นจึงเป็นพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง
Create Date : 10 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:16:38 น. |
Counter : 2204 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
ประโยชน์ของไส้เดือน
-ย่อยสลายขยะสด ขจัดเศษอาหารในครัวเรือน เศษผักตามท้องตลาดสด -ช่วยลดขั่นตอนการผลิตปุ๋ยชีวภาพ -เป็นตัวดัชนี ชี้วัดคุณภาพของดินในท้องที่นั้นๆ ถ้าพื้นที่ใดมีใส้เดือนอยู่ปริมาณมากแสดงว่าพื้นที่นั้นดินยังมีความสมบรูณ์ มีสารพิษและโลหะหนักเจือปนน้อย -ช่วยเพิ่มช่องว่างอากาศในดิน ทำให้ดินมีคุณภาพดีขี้น -ลดต้นทุนค่าอาหารในกิจการเลี้ยงสัตว์ เช่น กบ ปลาสวยงาม ไก่ชน ปลาเศรษฐกิจ เหยื่อตกปลา เป็นต้น
Create Date : 10 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2550 15:08:23 น. |
Counter : 2427 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การขยายพันธุ์
ถึงแม้จะมีสองเพศในตัวเดียวกัน (hermaphroditic)แต่ไส้เดือนจะไม่ผสมตัวเอง การผสมพันธุ์เกิดขึ้นโดยการสัมผัสกับตัวอื่นและแลกเปลี่ยนน้ำเชื้อตัวผู้ไข่ฟักออกเป็นตัวภายในเวลา 3 อาทิตย ไข่อยู่ในถุง ประกอบด้วยตัวอ่อน 2-20 ตัว หรือเฉลี่ย 4 ตัว คัดตัวเต็มวัยอายุ 2-3 เดือน ปล่อยในบ่อขยายพันธุ ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ไส้เดือนวางไขทุก 7-10 วัน การฟักไข่ใช้เวลา 21 วัน ปริมาณไส้เดือนจะเพิ่มขึ้น เป็นสองเท่าในเวลา 60-90 วัน การให้อาหารจะวางเป็นแถวตามแนวขวาง เพื่อให้ไส้เดือนสัมผัสกัน
Create Date : 09 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:36:52 น. |
Counter : 789 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
การจัดกลุ่มของไส้เดือน
Nightcrawlers : Lumbicus terrestris L.(Lumbricidae) ไส้เดือนเขตหนาว กินอาหารจากด้านล่างกอง สามารถเก็บจากแปลงปลูกหรือสนามหญ้าในตออนกลางคืน ใช้เป็นเหยื่อตกปลาไม่นิยมเลี้ยงในเชิงการค้า เนื่องจากขยายพันธุ์ช้า และต้องการสภาพแวดล้อมพิเศษ เลี้ยงยาก ขนาดลําตัว 6-10 มิลลิเมตร ยาว 90-300 มิลลิเมตร สีด้านในจะเข้มกว่าด้านนอก อยู่ลึกลงไปในดินถึง 2.5 เมตร อายุ 862 วัน หรือเกินกว่า 6 ปี โตเต็มวัยในเวลา 350 วัน ไข120-160 ฟองต่อตัวต่อปี เหมาะสำหรับปล่อยลงไปในแปลงปลูกไม้ผล เนื่องจากเจาะลงไปในดินลึก ช่วยในการไหลซึมผ่านของน้ำ
European Night Crawlers (Dendrabaena veneta )หรือ (Eisenia hortensis ) หลายบริษัทไดขยายพันธุเพื่อการค้า สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี European night crawler มีความยาว 4-8 นิ้ว
African Night Crawler : Eudrilus eugeniae เป็นสายพันธุ์เขตร้อน มีขนาดใหญ่ ทนทานต่ออุณหภูมิสูงได้ดีกว่า Eisenia foetida โดยเฉพาะเมื่อมีความชื้นอยู่อย่างพอเพียง แต่ไม่สามารถเจริญไดในอุณหภูมิต่ํากว่า 7 องซาเซลเซียส เมื่อรวมกันมากจะมีกลิ่นเหม็น และชอบหนีออกจากภาชนะที่เลี้ยงในเวลากลางคืน
Field worms (Garden worm): Allobophora caliginosa เหมาะสําหรับเหยื่อตกปลา ขยายพันธุ์ช้าไม่เหมาะสําหรับการนํามาเลี้ยงเพื่อการค้า
Manure worms หรือ Compost worms(Bandings, red wigglers or angleworms); Eisenia foetida (Savigny Lumbricidae) นิยมเลี้ยงในเชิงธุรกิจ รูปร่างกลม ขนาดลําตัว 3-5มิลลิเมตร ยาว 35-130 มิลลิเมตร สีม่วง หรือ แดง หรือแดงเข้ม หรือน้ำตาลปนแดง อายุ 4-5 ปไข่ 900 ฟองต่อตัวต่อปี Red worms; (Red mash worms, Red wriggler)Lumbricus rubellus(Hoffmeister),1843 อยู่ในกลุ่ม manure worms แต่แตกต่างที่ขนาดและสีRed worms มีขนาดใหญ่กว่าและสีเข้มกว่า ปัจจุบันผู้เลี้ยงไส้เดือนเป็นการค้าใช้สายพันธุmanure และ red worms ร้อยละ 80-90 ทนทานต่ออุณหภูมิสูง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่แตกต่างได้ดีกินวัสดุอินทรีย์แถบทุกชนิดที่อยูในกระบวนการย่อยสะลาย
Create Date : 09 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 16 สิงหาคม 2551 23:48:34 น. |
Counter : 632 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|