ว่าด้วยเรื่อง การเปิดร้านกาแฟ ตอน กาแฟแต่ละประเภท
            เชื่อว่าหลายๆท่าน คงเคยมีความคิดที่อยากทำธุรกิจของตัวเอง และหนึ่งในธุรกิจที่หลายๆคนฝันถึงก็คือ การมีร้าน Coffee Shop เป็นของตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่ เหตุผลหลักๆ จะเป็นความชอบ อาจจะดูเท่ห์ ดูดี จึงทำให้มีคนสนใจธุรกิจนี้ค่อนข้างเยอะ
            
            แต่การจะทำธุรกิจร้านกาแฟ ให้ประสบผลสำเร็จ ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง ไม่ใช่แค่มีทุนอย่างเดียว ในบทความตอนนี้ จะพูดเกี่ยวกับ กาแฟประเภทต่างๆ ที่ผู้ที่สนใจจะทำธุรกิจร้านกาแฟจะต้องรู้ไว้ ซึ่งจะกล่าวถึง ประเภทกาแฟที่ คนส่วนมากนิยมดื่ม ไปดูกันเลยครับ

1.กาแฟเอสเปรสโซ(Espresso)


            เอสเปรสโซเย็น ถือเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบรสชาติที่เข้มข้นของกาแฟ เอสเปรสโซ (Espresso) คือกาแฟที่มีรสแก่และเข้ม มีวิธีการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วที่บดละเอียด ที่มาของชื่อ เอสเปรสโซ มาจากคำภาษาอิตาลี "Espresso" แปลว่า เร่งด่วน
             เอสเปรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปตอนใต้ โดยเฉพาะประเทศอิตาลี การสั่งกาแฟหรือ "คัฟแฟะ" (caffè) ในร้านโดยทั่วไปก็คือสั่งเอสเปรสโซ เอสเปรสโซได้รับการผลิตที่อิตาลี 
             เอสเปรสโซมีต้นกำเนิดที่อิตาลีในช่วงที่อิตาลีล่าเอธิโอเปียเป็นอาณานิคม กาแฟก็นำมาปลูกที่อิตาลีส่วนใหญ่ ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่วไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเปรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นช็อต (แก้วแบบจอก) เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป (ประมาณ 1-2 ออนซ์ หรือ 30-60 มิลลิลิตร แตกต่างตามพฤติกรรมการดื่มของแต่ละประเทศ)
             การสั่งเอสเปรสโซตามร้านกาแฟทั่วไป มักสั่งตามปริมาณ กล่าวคือ เป็นช็อตเดียวหรือสองช็อต เอสเปรสโซมีความไวสูงในการทำปฏิกิริยากับออกซิเจน เพื่อไม่ให้เสียรสชาติจึงควรดื่มตอนชงเสร็จใหม่ ๆ
              ผงกาแฟที่ใช้ ขึ้นอยู่กับแต่ละระบบการชง ระบบการชงแบบแรงดันน้ำหรือแรงอัดจะต้องใช้ผงละเอียด แต่ไม่ถึงกับเป็นแป้ง
              แต่เมื่อกาแฟเอสเปรสโซ ได้เข้ามาในเมืองไทย ด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน จึงมีการนำเอสเปรสโซมาปรับให้เข้ากับเมืองไทย โดยการใส่น้ำแข็ง และเพิ่มความหวานมัน โดยการใส่นมและน้ำตาลเพิ่มเข้าไป เป็นเครื่องดื่มเย็นที่นิยมในบ้านเรา แต่เอสเปรสโซ จริงๆ จะเป็นเครื่องดื่มร้อน เป็น น้ำกาแฟล้วนๆ ไม่มีปรุงแต่ง นะครับ

2.กาแฟคาปุชชิโน(Cappuccino)     
   
 

          คัปปุชชีโน (Cappuccino) เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มประเภทกาแฟซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี คัปปุชชีโนมีส่วนประกอบหลักคือเอสเปรสโซและนม
           การชงคัปปุชชีโนส่วนใหญ่มักมีอัตราส่วนของเอสเปรสโซ 1/3 ส่วน ผสมกับนมร้อนผ่านไอน้ำ 1/3 ส่วน และนมตีเป็นฟองละเอียด 1/3 ส่วนลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยหน้าด้วยผงอบเชยหรือผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ ส่วนผสมของคัปปุชชีโนต่างจากของลัตเตมัคคียาโตซึ่งประกอบไปด้วยนมเป็นส่วนใหญ่และนมตีฟองเพียงเล็กน้อย
          ในประเทศอิตาลี ผู้คนมักดื่มคัปปุชชีโนเป็นอาหารเช้าโดยเฉพาะ โดยอาจมีขนมปังแผ่นหรือคุกกี้ประกอบ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าวิถีชีวิตของชาวอิตาลีมักไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้าแบบเป็นกิจลักษณะ คัปปุชชีโนและขนมปังเบา ๆ จึงเหมาะเป็นอาหารรองท้องสำหรับยามเช้า และด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่ดื่มคัปปุชชีโนในช่วงอื่นของวัน แต่สำหรับต่างประเทศรวมถึงประเทศไทยสามารถดื่มคัปปุชชีโนได้ทุกเวลาโดยไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก
           แต่เมื่อคัชปุชชิโน เข้ามาในประเทศไทย ก็มีการปรับเปลี่ยนส่วนผสม ระหว่างกาแฟและนมสด โดยขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน แต่รสชาติหลักของคาปูชิโน่ จะต้องมีรสกาแฟเด่นกว่ารสชาติของนม อาจจะพูดได้ว่า เป็นกาแฟใส่นมสด และเอกลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างของ คัชปุชชิโน ก็คือ ฟองนมละเอียดที่อยู่บนกาแฟ จะดื่มร้อนหรือเย็น ก็ได้ ถือเป็นกาแฟที่คอกาแฟชื่นชอบ

3.ลัตเต้ (Latte)



           ลาตเท หรือ แลตเท (อังกฤษ: latte) คือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยเทเอสเปรสโซ 1/3 ส่วน และนมร้อนที่ตีด้วยไอน้ำจากเครื่องชง 2/3 ส่วน ลงในถ้วยพร้อม ๆ กัน และจะหยอดฟองนมหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ทับข้างบน กาแฟชนิดนี้มีหน้าตาคล้ายกับกาเฟโอแลของฝรั่งเศสมาก แต่กาเฟโอแลมักเตรียมจากกาแฟดำที่ชงแบบหยด[1] ผสมกับนมที่อุ่นให้ร้อนในอัตราส่วนเท่ากัน
            "ลาตเท" ในภาษาอังกฤษเป็นรูปคำที่ตัดย่อมาจากชื่อกาแฟชนิดเดียวกันในภาษาอิตาลีว่า คัฟเฟลลัตเต (caffellatte, caffelatte) หรือ คัฟแฟะลัตเต (caffè latte) แปลว่า "กาแฟนม" ดังนั้น หากไปสั่ง "ลัตเต" (latte) ตามร้านเครื่องดื่มในประเทศอิตาลี ก็จะได้เพียงนมเท่านั้น ลาตเทเริ่มเป็นที่นิยมนอกประเทศอิตาลีในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1980
            ในการชงลาตเท ผู้ชงกาแฟที่ชำนาญงานจะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนมและฟองนมลงบนกาแฟ ทำให้เกิดลวดลายต่าง ๆ เรียกว่า ศิลปะลาตเท (latte art) หรือศิลปะฟองนมในถ้วยกาแฟ
          ลัตเต้ เป็นกาแฟที่จะมีส่วนผสมของนมอยู่มากกว่ากาแฟ พูดอีกอย่างก็คือ นมใส่กาแฟ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ลัตเต้ กับ คัชปุชชิโน่ จะมีนมผสม และ มีฟองนมอยู่บนหน้ากาแฟ บางคนก็คิดว่าคัชปุชชิโน่ กับ ลัตเต้ เหมือนกัน แต่ที่จริงแตกต่างกันด้านสัดส่วนการผสม ให้จำง่ายๆว่า คัชปุชชิโน่ คือ กาแฟผสมนม ลัตเต้ คือ นมผสมกาแฟ 

4.มอคา (Mocha)

              โมคา หรือ มอคา (อังกฤษ: mocha) หรือ โมคัชชีโน(อิตาลี: mocaccino) เป็นเครื่องดื่มกาแฟที่คล้ายกับลาตเทกล่าวคือ มีเอสเปรสโซ 1/3 ส่วน และนมร้อน 2/3 ส่วน แต่แตกต่างกันที่โมคาจะมีส่วนผสมของช็อกโกแลตด้วย โดยมักจะใส่ในรูปน้ำเชื่อมช็อกโกแลต เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็นใส่น้ำแข็ง มักมีวิปครีมปิดหน้า
             โมคายังหมายถึงกาแฟอะแรบิกาชนิดหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่บริเวณเมืองท่าโมคาในประเทศเยเมน กาแฟโมคามีสีและกลิ่นคล้ายช็อกโกแลต (แม้ว่าจะไม่มีส่วนประกอบของช็อกโกแลตในโมคาเลยก็ตาม) อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กาแฟโมคาเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
             มอคา หรือ มอคค่า เป็นกาแฟที่มีส่วนผสมของช็อคโกแลต หรือ บางร้านอาจใส่โกโก้แทน ลักษณะเด่น ของมอคา คือจะมีกลิ่นหอมของชอคโกแลต ผสมกับกลิ่นกาแฟ และมีรสชาติที่กลมกล่อมของรสช็อคโกแลต และ กาแฟ มักเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟ(จากการสอบถามผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟ โดยผู้เขียน)

5.อเมริกาโน ( Amaricano)

           คัฟแฟะอาเมรีคาโน (อิตาลี: caffè americano) หรือ กาเฟอาเมริกาโน (สเปน: café americano) คือเครื่องดื่มกาแฟชนิดหนึ่ง มีวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเปรสโซ การเจือจางเอสเปรสโซซึ่งเป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อน ทำให้คัฟแฟะอาเมรีคาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มที่มาจากเอสเปรสโซ
            คัฟแฟะอาเมรีคาโนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่แก่และหนักถึงขั้นเอสเปรสโซ คอกาแฟส่วนใหญ่นิยมดื่มคัฟแฟะอาเมรีคาโนโดยไม่ปรุงด้วยนมหรือน้ำตาล เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟซึ่งแตกต่างจากกาแฟธรรมดา
              สำหรับที่มาของชื่อ "อาเมรีคาโน" หรือ "อาเมริกาโน" ซึ่งหมายถึง "แบบอเมริกัน" นั้น ว่ากันว่าเอสเปรสโซล้วน ๆ เข้มข้นเกินไปสำหรับคอกาแฟชาวอเมริกัน จึงมีการเสิร์ฟกาแฟเอสเปรสโซที่ทำให้เจือจางด้วยน้ำร้อนแทน แม้ว่าชื่อกาแฟจะหมายถึงกาแฟแบบอย่างอเมริกัน แต่คัฟแฟะอาเมรีคาโนก็มิได้เป็นกาแฟที่ชาวอเมริกันนิยมดื่มจนกระทั่งยุครุ่งเรืองของร้านกาแฟแบบลูกโซ่สตาร์บัคส์ในปี พ.ศ. 2533 ถึงกระนั้น คัฟแฟะอาเมรีคาโนก็ไม่จัดเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากนัก
              ตอนนี้ในประเทศไทย อเมริกาโน่เย็น ไม่ใส่น้ำตาล กำลังเป็นที่นิยม ถือเป็นกาแฟที่ไม่มีส่วนผสมใดๆ นอกจากน้ำเปล่า ซึ่งทำให้ผู้ดื่มได้รสสัมผัสจากกาแฟแท้ ๆ ดังนั้นร้านกาแฟจะต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพมาใช้ โดยส่วนตัว ผู้เขียนว่า ถ้าร้านไหน ทำกาแฟเอสเปรสโซร้อน และอเมริกาโน่เย็น ที่เข้าถึงรสชาติ และ กลิ่น ของกาแฟ ได้ เชื่อได้ว่า เมนูกาแฟอื่นๆ ก็ไม่ต้องกังวลถึงรสชาติ 

             นี่คือ หลักๆ ของกาแฟที่ได้รับความนิยม ในบทความต่อไป ผมจะมาแนะนำวิธีการชงกาแฟ การใช้ส่วนผสม กับร้านกาแฟที่มีรสชาติดี และ ร้านที่บรรยากาศน่านั่ง ครับ..

     
 



Create Date : 15 กรกฎาคม 2562
Last Update : 15 กรกฎาคม 2562 21:01:03 น.
Counter : 499 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เมษกัญจน์
Location :
ตาก  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



สวัสดีครับ
ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ ถ้ามีข้อเสนอแนะหรือติชม ยินดีรับทุกความคิดเห็นครับ หรือ ถ้าอยากให้บล็อกนำเสนออย่างไร รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ