เสียงปรบมือ และ หยดน้ำตา สองคราในสัปดาห์เดียว
เป็นจำนวนสองครั้งแล้ว ที่ภายหลังชั้นเรียน รายวิชา RTV 305 การผลิตรายการโทรทัศน์ 1 จบสิ้นลงได้มีเสียงปรบมือดังกึกก้อง จากนักศึกษาเกือบทั้งห้องและวันนี้ นักศึกษาหลายคนน้ำตาซึมให้เห็น ทำเอาผมใจหายเหมือนกันหากเมื่อถึงวันที่ผมจะไม่ได้สอนศิษย์เหล่านี้แล้ว จะต้องมาถึงจริง ๆ สักวันวันนี้ ..... เราเดินมาด้วยกันเพียงครึ่งทางเท่านั้น และวันนี้ ผมเพียงแต่เปิดตัวอย่างของงานโฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นหนึ่งและพิมพ์ข้อความ บอกเล่า .เพียงตั้งใจที่จะพิมพ์ข้อความสื่อสาร กระตุ้นให้ศิษย์ตั้งใจทำข้อสอบให้ดีที่สุดเพราะผมอยากให้ทุกคน ได้วัดความรู้อย่างสุดความสามารถ อย่างสุจริตผมก็นึกไม่ถึงว่า จะได้เสียงตอบรับในเชิงบวกที่มากมายขนาดนี้ขอบคุณมากครับ ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้ผู้สอนในความเป็นจริงแล้ว ศิษย์ทุกคนมีความสำคัญสำหรับผมมากหากไม่มีศิษย์ให้สอน ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องมีครูที่นี่วันนี้ ศิษย์ของผมกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องรับบททดสอบขอให้มีความพยายามอย่างที่สุด ที่จะทำให้ได้ อย่างเต็มความสามารถขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกกำลังใจ และเสียงปรบมืออย่าง " ตั้งใจ " ในวันนี้วันที่ผมจะไม่ได้สอนพวกเราอีกแล้ว " จริง ๆ " ก็ต้องมาถึงสักวันหนึ่งแต่เมื่อวันนั้นมาถึง ผมก็หวังว่าศิษย์ของผมทุกคน จะมีความรู้เพียงพอที่จะไปต่อยอด หรือ นำไปปฏิบัติได้ถึงแม้จะไม่ได้เก่งกาจ อัจฉริยะ แต่ก็คงจะไม่ด้อยไปกว่าศิษย์ผู้ใด ในโลกหล้า มหาสมุทรนี้เพราะเราเป็นศิษย์ มีครู เช่นกันขอให้ความสำเร็จ บังเกิดแด่ผู้พากเพียรครับ
ในวันที่ศิษย์ เป็นกำลังใจให้ครู
ถึงแม้ผมจะรู้ล่วงหน้า มากว่าหนึ่งเดือน ว่าในวันนี้ จะเป็นวันที่ตารางชีวิตของผม หนาแน่น และสาหัสมาก และก็ได้เตรียมการวางแผนไว้อย่างดีที่สุด ที่จะ " จับปลาหลายมือ " ให้ได้ " ปลา " มากที่สุด ถึงแม้ว่าปลาที่จับได้ จะหลายชนิด และตัว "ใหญ่" ไม่เท่ากัน ผมก็ต้องทำ เพราะมี "หน้าที่" ที่ต้องจับปลาเหล่านี้ ..…ให้ได้ บททดสอบชีวิตช่างหนักหน่วงเสียจริงจริง นอกจากจะต้องสอนตามตารางสอน 3 Section เมื่อรวมกันหมายรวมถึงต้องพูดต่อเนื่องกว่า 6 ชั่วโมง ยังมีภารกิจเข้าอบรมอีก 2 หัวข้อ และดูงานนอกมหาวิทยาลัยอีก 1 แห่งแล้ว วันนี้ ….. อาการคออักเสบที่ก่อตัวตั้งแต่เสาร์ที่ผ่านมา ก็กำเริบขึ้นมาอีก แถมเริ่มส่อแววที่จะพูดไป ไอไป เช่นเดียวกับที่เคยเกิด เมื่อสี่เดือนก่อน ผมตื่นแต่เช้า เดินทางไปทำงานตามแผนที่วางไว้ เริ่มต้นงานด้วยการเข้าอบรมงานแรก แล้วกลับมาสอนรอบเช้า จากนั้น ขับรถไปดูงานแสดงผลิตภัณฑ์กล้องที่โรงแรมโซฟิเทล นั่งฟังบรรยาย และ ชมงานในภาพรวมได้ชั่วโมงเศษ ก็บึ่งรถกลับมาทานข้าว และ เข้าสอนตอนเที่ยงครึ่ง ผมได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากลูกน้องที่เป็นผู้ช่วยสอน เตรียมอุปกรณ์ประกอบการบรรยายให้เสร็จสรรพ และผมก็พยายามอย่างที่สุดที่จะบรรยาย กลุ่มเรียนรายวิชาการผลิตรายการโทรทัศน์ ภาคทฤษฎี ในเวลาเที่ยง ให้ดีที่สุด เพราะเรื่องที่สอน เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก ที่นักศึกษาจะเข้าใจ ผมบอกนักศึกษาตรง ๆ ว่าวันนี้ ผมไม่ค่อยสบายนัก แต่ผมจะพยายามสอน ขอให้นักศึกษาพยายามเรียนเช่นกัน ผมบรรยายไป ทานน้ำไป ในขณะที่ใจเริ่มสั่น เริ่มเวียนศีรษะ และเจ็บคอมาก ใจหนึ่งนั่น อยากจะหยุดการบรรยาย ณ เดี๋ยวนั้น แล้วบอกนักศึกษาในห้องเรียนกว่าแปดสิบคนว่า " พอแค่นี้ก่อนได้ไหม มาเรียนต่อสัปดาห์หน้า " แต่…… ไม่ว่าจะบรรยายไปนานเท่าใด นักศึกษาของผมก็ "อดทนอย่างมาก" ที่จะเรียน เรียน เรียน ไม่มีใครในแปดสิบคนนี้คุยกันแม้แต่คนเดียว และส่วนใหญ่ ก็พยายามตอบทุกคำถาม ที่ผมถาม เพื่อประเมินความเข้าใจระหว่างสอน ผมพูดเรื่องที่น่าจะเข้าใจยาก และทดสอบด้วยคำถามลวงจำนวนมาก นักศึกษาก็พยายามที่จะตอบให้ได้ เป็นอย่างนั้น จนเกือบหมดชั่วโมงเรียน จนอีกสิบนาทีจะหมดเวลา ผมตัดสินใจบอกนักศึกษาว่า ผมไม่รู้ว่าพวกคุณมีความสุขที่มาเรียนไหม แต่ผมมีความสุขที่ได้มาสอน วินาทีนั้น ผมเห็นนักศึกษาหลายคนพยักหน้า บอกกับผมว่า "เขามีความสุข " เมื่อเด็ก ๆ มีความสุข ผมจะท้อถอยได้อย่างไร ผมก็กัดฟันสอนต่อให้ครบตามเป้าหมาย เมื่อเนื้อหาเรื่องสุดท้าย สอนครบตามที่กำหนดไว้ในโครงการสอนแล้ว ผมถามนักศึกษาของผมว่า สองชั่วโมงก่อนหน้านี้ มีความรู้แค่ไหน วินาทีนี้ ความรู้มีมากขึ้นไหม เสียงตอบกลับมา นับสิบเสียง " รู้มากขึ้นครับ รู้มากขึ้นค่ะ " วินาทีนั้น ผมพูดไปอย่างที่คิดว่า " ผมก็ดีใจครับ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ " นักศึกษาหลายคน ยกมือไหว้ ขอบคุณและหลายคนยิ้มแย้มมากกว่าสัปดาห์ก่อน อาจเป็นเพราะการเรียนในครั้งนี้ เขาเข้าใจมากขึ้นก็ได้ ถ้านักศึกษาของผมไม่ตั้งใจเรียนขนาดนี้ ผมคงไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะสอน ในวันที่สาหัสเช่นวันนี้ วันที่ศิษย์ เป็นกำลังใจให้ครู ได้มากเกินกว่าที่พวกเขาคิด ผมไม่แน่ใจว่า ผมจะไปประกอบอาชีพใด ที่จะรักมากกว่าไปกว่าการเป็นครู ฤาผมจะเป็นครู มานานเกินไปแล้ว
วันนี้ ได้ทำดีแล้ว แต่ยังไม่ดีที่สุด
วันนี้ ตั้งแต่เช้าจรดเย็นผมได้ทำในสิ่งที่อยากทำหลายอย่างและได้ทำ " ครบ " ทุกอย่างอย่างที่ตั้งใจแล้วแต่ วันนี้ ...ผมยังตระหนักว่า สิ่งที่ทำ ยังไม่ดีที่สุด ยังต้องทำอีกหลายอย่างและทำอีกหลายสิ่ง ทั้งสิ่งใหม่ ที่ยังไม่ได้ทำและทำสิ่งที่ทำวันนี้ เพิ่มเติม และต้องทำให้ดีกว่าเดิมถึงแม้วันนี้ ได้ทำดีแล้ว แต่ยังไม่ดีที่สุด ยังทำดีได้ มากกว่านี้แต่ ... เมื่อสิ้นสุดวันนี้แล้ว ผมก็ยังอิ่มใจที่ได้ทำ มิใช่แค่คิด .... แต่ไม่ได้ลงมือทำและไม่ต้องมานั่งเสียใจ ว่าไม่ได้ทำ สิ่งที่คิดว่าจะทำ เพราะได้ทำ ในสิ่งที่ิคิดจะทำ ได้ครบอย่างที่คิดแล้ว