วัยรุ่น ปริญญา ดอกชบา คนตาบอด

ชีวิตของผม ทำงานกับ "วัยรุ่น" มาชั่วชีวิต
เมื่อยี่สิบปีก่อน ผมก็เคยเป็น "วัยรุ่น" มิได้เกิดมาแล้ว
มีอาวุโสเลยดังเช่นวันนี้

นั่นหมายถึง ผมเคยเป็นเด็กมาก่อน ผ่านพ้นวัยรุ่น เริ่มเข้าทำงาน
และ อาวุโสขึ้นตามลำดับ

ด้วยเกิดเป็น "คน" จึงมีเรื่องที่ต้อง "คน" จำนวนมาก
ผ่านการ "ถูกเคี่ยวเข็น" มาหลายเรื่อง ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง โกรธบ้าง รักบ้าง อกหักบ้าง หักอกเขาบ้าง
เคยผ่านมาแล้วทั้งนั้น .....

สิ่งที่เคยทำผิดพลาดในชีวิต คิดย้อนไป แลจำได้ว่ามีอยู่ไม่น้อย
โชคดีที่ทุกวันนี้มีโอกาสดี ที่สามารถได้ทำงานที่ตัวเองรัก
งานที่มีความพิเศษ คือสามารถพูด "ตรง" ได้เท่าที่อยากพูด
พูดแต่เรื่องจริงได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลใจนักว่า ผู้รับฟังจะชอบหรือไม่
เพราะมหาวิทยาลัย จ้างมาให้ "สอน" เรื่องจริง มิเช่นนั้น เขาไม่จ้าง

ทุกวันได้ทำบุญ โดยสร้าง "คน" โดยการ "เคี่ยวคน" ให้เป็น "คนเคี่ยว"
สู้ชีวิตต่อไปได้ เมื่อผ่านพ้นอ้อมกอดของมหาวิทยาลัย
แต่ผมก็ยังแปลกใจทุกครั้ง ที่ศิษย์ซึ่งผ่านการ "เคี่ยวเข็นเย็นค่ำ"
ที่เคยบ่นว่า "เหนื่อย ..… ท้อ" บางคน …..โกรธ
เมื่อถูกตำหนิ และไม่ได้ "คะแนน" ดังที่ตนเองคาดหวังตั้งใจเหล่านั้น
แวะเวียนกลับมาทักทาย และ เอ่ยปากว่า "อยากกลับมาเรียนกับผมอีก"
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเสร็จสิ้นการฝึกงาน

เพราะเขารู้แล้วว่า "เรื่องของคน" ฝ่าฟันยากกว่าเรื่องของ "งาน"
แต่หากไม่ "สามารถอาจหาญในงาน" ก็จะไม่ก้าวผ่าน "คน"

วันนี้ ผมยังคงได้ความรู้ใหม่จากการไปสัมมนานอกมหาวิทยาลัย
เทคโนโลยี ก้าวไปไม่หยุดนิ่ง ส่งผลให้ครูต้องก้าวตาม
ศิษย์จะเก่งไม่ได้ ถ้าครูของเขาไม่เก่ง ศิษย์จะเก่งได้ ต้องมีครูดี
แต่ครูที่ดี มิอาจเอ่ยอ้างส่วนธุลีใดในความสำเร็จของศิษย์
ว่าส่วนหนึ่งมาจากครู ….. และปริญญานั้น ได้มาจากความสามารถ
ของศิษย์เอง

ครู …. มักแอบมองความสำเร็จของศิษย์ ด้วยความชื่นชม
ซึ่งวันพระราชทานปริญญาบัตรในปีนี้ จะเป็นวันหนึ่งที่ครูหลายคน
รวมทั้งผม เฝ้ารอด้วยความสุข ไม่แตกต่างจากศิษย์
และก็เข้าใจเสมอว่า … เมื่อศิษย์ประสบความสำเร็จ
ครู …จะไม่ใช่คนแรกที่ศิษย์คิดถึง
ซึ่งเป็นเช่นนี้มานาน ไม่ว่าเรือจ้างลำนี้ จะพายย้อนกลับไปรับ "ศิษย์"
กลับไปส่งยังฝั่งนั้น ….อีกกี่รอบก็ตาม

ความสุขของครูหลายคน มีเพียงแค่เห็นศิษย์ของตน "สู้กับปัญหา"
เพราะคนที่มอง "ปัญหา" เป็น "ปัญหา" แต่ไม่ได้มองโอกาส ในปัญหานั้น
จะไม่มีวัน ผ่านพ้นปัญหานั้นไปได้ ไม่ว่าจะมีวัยวุฒิสูงขึ้นเพียงใด

ในความเป็นจริง ผมก็มีครูเป็นผู้ที่อ่อนวัยกว่า จำนวนไม่น้อย

วันนี้ ผมได้ไปเต้นแอโรบิคที่ศูนย์สุขภาพตามตารางการออกกำลังกายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
ครั้งที่ผมมาเต้นใหม่ ๆ ผมก็เต้นไม่ทัน ตามท่าต่าง ๆ ที่ trainer สั่ง
ผมทำได้แค่ยืนดูคนอื่น ๆ เต้น และแปลกใจว่าทำไมเขาเต้นทัน
และหลายคนที่เป็น "มือใหม่" เหมือนกับผม ก็เดินออกจากห้องไป
ทีละคน ...... ทีละสองคน


หากวันนั้น ผมเดินตามเขาไป แล้วไม่กลับมาเต้นอีก

ในวันรุ่งขึ้น " ผมก็จะเต้นไม่ทัน อยู่เช่นเดิม "

ผมไม่ได้อายุ 20 เหมือนลูกศิษย์ ที่จะเคลื่อนไหวร่างกายได้เร็วนัก
และก็คงเหนื่อยเร็วกว่า ด้วยวัยที่ล่วงเลยมากกว่าพวกเขาเกือบสองเท่า
แต่ผมมองในทางดี ว่าวันนี้ไม่ทัน พรุ่งนี้ก็ต้องดีขึ้น …. พรุ่งนี้ต้องทัน
วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้ต้องไหว
เต้นไม่ไหวก็หยุด หยุดยืนดูคนอื่นเต้นต่อไปด้วยความชื่นชม
และ "จดจำ" ท่าเต้น ของคนที่เต้นดีไว้ วันพรุ่งนี้ เราจะเต้นดีกว่าเดิม

ผู้ที่อ่อนวัย ซึ่งเต้นได้อย่างคล่องแคล่วเหล่านั้น เป็นครูของผมเช่นกัน

สิ้นสุดวันนี้แล้ว ผมนึกถึงเพลงของวง "เฉลียง" เพลงหนึ่ง

"ศิษย์" ของผมหลายคน อาจไม่เคยฟังบทเพลงของวงดนตรีวงนี้
และอาจไม่เข้าถึงถ้อยคำ อันเปี่ยมไปด้วยสัมผัสที่คมคายเหล่านี้ได้ลึกซึ้งนัก
แต่จากเนื้อเพลงที่ปรากฎนี้ คงสรุปให้เห็นชีวิตที่ต้องก้าวต่อไปได้ดี

" ต้นชบาและคนตาบอด " คือชื่อของเพลงนี้

…..
ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ จับดวงใจแม้ใครบังเอิญได้เดินมองมา

อาจจะพบเห็น เห็นด้วยตา ต้นชบาขึ้นในโรงเรียนสอนคนตาบอด

ไม่อาจชมดอกชบา ด้วยดวงตาสองตามีกรรมโลกจึงมืดมน
ไม่อาจพบเห็นเหมือนบางคน ว่าดอกผลนั้นมีสีสันรูปทรงอย่างไร

บอดก็เพียงสายตาเท่านั้น แต่จิตใจก็ยังผูกพันความงาม
อาจจะรับรู้ไปตาม สูดกลิ่นงามฟังเสียงวิไลร่มไม้บังเงา

ต่างก็เพียงผู้จะชม สิ่งจะชมสำคัญมันนั้นคืออันใด

" เหตุกับผลนั้นหรือว่าใจ ต้นชบาก็มีความหมายไปตามคนมอง "

สิ่งจะงามอยู่กับใจ บอดที่ใจ เห็นไปอย่างไรไม่มีวันงาม

" โลกจะสวยนั้นสวยไปตามจิตที่งาม มองโลกสดใสไปในทางดี "
..…..


Create Date : 05 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2552 22:39:47 น. 2 comments
Counter : 338 Pageviews.  
 
 
 
 
พี่มาแล้วค่ะ
add เรียบร้อยแล้วค่ะ
จะได้ไม่พลาดการติดต่อกัน

เรื่องราวน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ
พี่หนูจะติดตามทุกเรื่องนะคะ
 
 

โดย: kimmybangkok (kimmybangkok ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2552 เวลา:17:14:16 น.  

 
 
 
แวะมาอ่านอีกรอบ ก็ได้เห็นความงดงามของตัวอักษร
ความคิด มุมมอง และองค์ประกอบของงานเขียนที่สละสลวยค่ะ
พี่เชื่อค่ะ ว่าแต่ละตนล้วนมีเส้นทางของตนเอง หากคุยกันโดยไม่ทราบว่าเป็นใคร ก็จะเดาได้ว่าทำอาชีพอะไร คุณป๊อป"เกิดมาเพื่อสิ่งนี้" ชัดเจนมากค่ะ
พี่ไม่เคยคิดว่าอาชีพครูเปรียบเป็นเรือจ้าง พี่หนูก็มีพี่สาวเป็นครูค่ะ
พี่เชื่อเสมอว่า ครูก็คือผู้มีพระคุณ ที่ให้เรามีความรู้ มีสติปัญญา และสอนเราให้เป็นคนดี
พี่ศรัทธากันคุณครูทุกคนค่ะ
อัพเมื่อไหร่ อย่าลืมบอกนะคะ
พี่จะหมั่นคลิกอีกแรงหนึ่งค่ะ
 
 

โดย: kimmy (kimmybangkok ) วันที่: 9 ธันวาคม 2552 เวลา:21:30:49 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

Backup
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Backup's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com