ทัศนคติคือสิ่งเล็กๆ ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่

เมื่อดวงตะวันสำคัญมากกว่าขึ้นและตก

เมื่อดวงตะวัน..สำคัญมากกว่าขึ้นและตก
27 เม.ย. 2551, 11:36 น.

วัยหนุ่มสาวของพวกเรา
เมื่อได้ออกเดินทางท่องเที่ยว
เราต่างให้ความสำคัญกับดวงตะวันขึ้นและตกเสมอ...

เมื่อแรกเห็นดวงตะวันขึ้นที่ปลายฟ้า
มันอาจเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่สวยงาม
เมื่อได้เห็นดวงตะวันลับขอบฟ้า
มันอาจเป็นความทรงจำที่แสนประทับใจในอีกวันหนึ่ง
หากได้มีเพื่อนที่รู้ใจอยู่เคียงข้าง....
นั่งเหม่อมองไปตรงนั้น
เหมือนกับมองสิ่งสวยงามด้วยสายตาคู่เดียวกัน
อารมณ์เดียวกัน
ความหมายเดียวกัน
ดวงตะวันดวงนั้นวันนั้นเวลานั้น...
จึงมีความสำคัญมากกว่าการขึ้นและตกเสมอ

ที่ภูกระดึงในความรู้สึกผม...

ที่ไหน...ดวงตะวันไม่เคยขึ้นสวยงามเทียบเท่า"ผานกแอ่น"
ที่ไหน...ดวงตะวันไม่เคยตกสวยงามเทียบเท่า"ผาหล่มสัก"
จะมีสถานที่ท่องเที่ยวสักกี่ที่
ที่เราต้องหล่อมหลอมดวงใจ
ผูกมัดอารมณ์ให้เป็นหนึ่งเดียว
ป่ายปีนภูสูง..หวังจะได้ไปหลับนอนบนลานสน
เพื่อจะได้ตื่นขึ้นมาฝ่าสายลมหนาวและหมอกหนา
เพื่อจะได้บุกป่าฝ่าทุ่งหญ้าเลาะเหลี่ยมผา
หวังจะได้ชมภาพดวงตะวันขึ้นและตก
ดวงตะวันดวงเดิมกับที่เราต่างเห็นกันอยู่ไม่รู้เบื่อ...
หากในความสำคัญนั้น..มันต่างกันลิบลับ

สามครั้งกับความทรงจำที่ภูกระดึง
ทั้งต้นฝน...ปลายฝนและต้นหนาว
สิ่งสำคัญจึงไม่อาจมองเห็นได้ด้วยดวงตา
อย่างที่ปรากฎในเรื่อง "เจ้าชายน้อย"

ในภาพถ่ายยังมีความหลัง
ในความหลังยังมีความทรงจำ
และในความทรงจำยังมีความสำคัญในตัวมันเองเสมอ
ภาพที่ผานกแอ่นและผาหล่มสัก
จึงสำคัญมากกว่าการขึ้นและตกของดวงตะวันในวันหนึ่งๆ
"ข้างหลังภาพ"ที่เราอาจมองไม่ได้ด้วยดวงตา
ยังมีความหมายแฝงอยู่
มันยังนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น

ลองหยิบภาพดวงตะวันขึ้นและตกที่เคยเก็บไว้
มองย้อนเข้าไป
................
คุณเห็นอะไรในนั้น




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:41:31 น.   
Counter : 321 Pageviews.  

ใบไม้สั่น..หัวใจหวั่นไหว

ใบไม้สั่น...หัวใจหวั่นไหว
10 เม.ย. 2551, 21:39 น.

คล้ายๆจะมีคลื่น...ทั้งที่ไม่มีลม
บางครั้ง...ความเงียบก็เป็นเพื่อนที่ดี
ค่ำคืนที่แสนยาวไกลเช่นคืนนี้
เพื่อนที่ดีคนนี้อยู่กับเราแล้ว
..........................
จากบางส่วนใน "บันทึกวันตะวันตกฟ้า-คืนพระจันทร์ตกน้ำ"

บันทึกของค่ำคืนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน
เมื่อครั้งนอนฟังเสียงความเงียบสงบอยู่ริมทะเลกระบี่
มีหลายครั้งในความทรงจำที่ได้สัมผัสกับความเงียบ
แต่ในค่ำคืนนั้น
ผมได้รับรู้แล้วว่า...ความเงียบเป็นเพื่อนที่ดี
หากทุกวันนี้...โอกาสที่จะได้เพื่อนคนนี้มาอยู่ใกล้ก็ใช่ว่าจะง่าย

วันกลางฤดูหนาวเหนือดอยสุเทพที่ขุนช่างเคี่ยน
ศาลาริมทางที่ปกคลุมด้วยร่มเงาเป็นทิวแถวของต้นนางพญาเสือโคร่ง
กาแฟอุ่นๆคั่ว-บด-สดจากไร่
แดดอ่อนส่องทะลุลำไม้ กระทบกลีบดอกสีชมพูที่หล่นร่วงเป็นทาง
เงียบ..สงบ แต่อบอุ่น
ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร นอกจากใบไม้ที่ไหวเอนตามลมต้อง..
ผมนอนอยู่ตรงนั้นนานโข
นอนฟังเสียงใบไม้สั่น...
หัวใจหวั่นไหว...ผมรู้สึกอย่างนั้น

การได้พบเพื่อนเก่าที่แสนดีที่ตรงนี้
ไม่ทันที่จะทักทาย..ใจกลับคิดเลยไปไกล
อีกนานเท่าไหร่-กว่าเราได้พบกันอีกครั้ง


Windows Live Spaces




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 20:16:48 น.   
Counter : 203 Pageviews.  

เที่ยวตามใจปอง ท่องตามทางมี

เที่ยวตามใจปอง...ท่องตามทางมี
2 พ.ค. 2551, 20:43 น.

เหมือนจะร้อนแดดเมษาฯ
แต่ยังรู้สึกว่า ไอฝนพฤษภาฯกำลังจะกลับมา...
ปลายร้อนต้นฝนปีหนึ่งในชีวิตนักศึกษาสถาปัตย์
หลังจบโปรเจ็คก่อนเข้าสู่ฤดูกาลทำวิทยานิพนธ์
อาศัยเพื่อนสาวเจ้าถิ่นเมืองตราด
เมืองชายทะเลสุดตะวันออกด้ามขวาน...
กว่ายี่สิบชีวืตของพวกเราจึงมีโอกาสเหมาเรือประมงน่ารักๆ
หมายมุ่งเอาชีวิตไปถลุงในท้องทะเลที่อุดมไปด้วยเกาะแก่งกว่า 50 เกาะ
หากจุดหมายหลักคือเกาะกูด
เกาะไกลสุดที่เราต้องใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งลังแสงทิพย์
...กว่าจะถึงที่หมาย....
แถมจุดแวะพักหมู่บ้านชาวประมงซื้อเสบียงอีกหลายจุด
(ความจริงแวะหายาเส้นมากกว่า
และแม้ต้องทอดสมอไกลหาด....
พลพรรคสิงห์อมควันทั้งหลายยังอุตส่าห์ว่ายผลัด 4x100
คาบแบงค์ในถุงพลาสติคไปหาแลกเอามาจนได้)
จึงเหมือนการฉายหนังม้วนเก่าวนไปมาอยู่บนเรือหลายรอบ
ก๊ง กึ่ม เมา..เมาแล้วโดดน้ำ
ดีดกีตาร์ ถ่ายรูป ร้องเพลง...ร้องเพลงแล้วโดดน้ำ
เล่นไพ่ ดูดยา ปีนดาดฟ้า...ปีนดาดฟ้าแล้วโดดน้ำ
วนไปมาอย่างนี้
เจอสะพานปลาสวยๆ...ขึ้นฝั่งทำอาหาร กินแล้วโดดน้ำ
เจอหาดกว้างๆสวยๆ...ขึ้นฝั่งเตะบอล เตะบอลแล้วโดดน้ำ
วนไปมาอย่างนี้
หาดไหนสวยพอยึดได้ เรายึด...ปักหลักตั้งแคมป์
นอนผิงไฟ ผิงดาว....กินเหล้าและเล่าเรื่องเก่าๆ
บรรยากาศของมิตรภาพ...เป็นสิ่งที่สวยงามจริงๆ

กลอนสั้นบทหนึ่ง ที่เหลือรอดมาจากทริปนั้น
มันนอนนิ่งอยู่ในสมุดบันทึกในสภาพต้องบูรณะ

"ตกเย็น เต็นท์กาง ย่างปลาหมึก
ตกดึก พายุฝน ถล่มเต็นท์
หม้อถั่วเขียว-กระเซ็น
ไม่เป็นอันนอน"
(หาดคลองเจ้า,เกาะกูด)

คืนนั้น...หมายมั่นที่จะทำลายล้างแสงทิพย์ลังที่สาม
หลังจากได้ปลาหมึกย่างเป็นเครื่องเคียง
พร้อมกับถั่วเขียวหม้อยักษ์
คาดว่าราตรีนั้นยังอีกยาวไกล
กลายเป็นว่า พายุลูกยักษ์โหมลงมาเหมือนจะมาวัดใจสมาชิกภาพ
ว่าจะรักและยึดมั่นในวงเหล้าเพียงใด
และนั่นก็ได้พิสูจน์ตัวพวกเราแล้วว่า
เราต่างไม่ได้ชอบการร่ำสุรา
หากชอบเพียงบรรยากาศการร่ำสุราอย่างโกวเล้งท่านว่า
เพราะบรรยากาศยังกะแหลมตะลุมพุกในคืนนั้น
ทำเอาพวกเราต้องแยกย้ายกันไปรักษาชีวิตและเต็นท์ตนเอง
มากกว่าที่จะมาปักหลักร่ำสุราที่ไม่ได้บรรยากาศอย่างนั้น....

แล้วไอฝนพฤษภาฯ ก็กลับมาอีกครั้งจริงๆ...




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:35:55 น.   
Counter : 172 Pageviews.  

วันตะวันตกฟ้า..คืนพระจันทร์ตกน้ำ

วันตะวันตกฟ้า...คืนพระจันทร์ตกน้ำ
2 พ.ค. 2551, 21:45 น.

...วันที่ว่ายาวนานสำหรับคนผ่านทางอย่างพวกเรา คืนนี้กลับยาวนานยิ่งกว่า...แต่มันกำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ไม่อยากจะคิดว่า เวลาที่มีความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพราะเรามีความสุขกันดี แม้ว่าทั้งวันนี้จะผ่านไปอย่างเชื่องช้าก็ตาม....

อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม, 22 มีนาคม 2540

อ่านบันทึกเก่าๆ..บันทึก "วันตะวันตกฟ้า...คืนพระจันทร์ตกน้ำ"
เป็นโฟโต้ทริปในกลุ่มเพื่อนที่พร้อมใจกันลงใต้
มีพระอาทิตย์ขึ้นกับพระอาทิตย์ตกเป็นตัวเอกของเรื่อง
อ่านแล้วรับรู้ถึงความละไมในชีวิตของตนเอง ณ ห้วงเวลานั้น
บางทีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
การหันกลับมามองตัวตนในอดีต
น่าจะช่วยให้ตัวเราเข้าใจตัวเราเองมากขึ้น....
ความสุขในช่วงเวลาหนึ่งๆของชีวิต
เกิดขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เหนือสิ่งอื่นใด....เรามีความสุขกับชีวิตได้เสมอ
ยิ่งเมื่อมีความหลังที่ยิ้มหัวกับมันได้ทุกครั้ง
มันยิ่งจะทำให้เรามีกำลังใจให้ทำแต่ละวันนี้ให้เป็นวันที่ดี
เพื่อที่เวลาหนึ่งเมื่อวันข้างหน้าที่เราหันมองกลับมาในวันนี้
เราจะยิ้มหัวกับมันได้เช่นนี้....

ชีวิตมันควรจะเป็นอย่างนั้น...

ตอนท้ายของบันทึก
มันแสดงออกให้รู้ว่า
ความรู้สึกอ่อนโยนต่อโลกมันมีมากเพียงใด...

.....จากสามแยกวังมะนาวเลี้ยวขวาไปตามธนบุรีปากท่อ รถเริ่มมากเมื่อตอนฟ้าเปลี่ยนสี ผมเองนั่งคิดถึงวันที่เราทั้งหกได้เจออะไรร่วมกัน เห็นอะไรในเวลาเดียวกัน
วันก่อนๆ ตอนนี้เราเฝ้าดูอะไรกันอยู่นะ...
ฟ้าสีสวยๆที่หัวหิน..ดวงอาทิตย์ลับฟ้าที่หาดนพรัตน์ธารา ที่หาดปากเมง ที่หาดเจ้าไหมทั้งวันฟ้าหม่นและฟ้าแจ่ม หาดสุรินทร์ที่ภูเก็ต คอคอดกระ...ถึงวันนี้ตอนนี้ บนสะพานแขวนก็ยังมีฟ้าสีสวยๆให้เราได้หยุดคิดถึงวันที่ผ่านมา
ทุกที่ทางมีเสน่ห์ของตัวเอง กรุงเทพฯฟ้ายังสวย เรามีเวลาหยุดมองมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง...
ฟ้ามืดสนิทและรถติดสนิท ไฟหน้ารถที่ส่องพื้นถนนตอนฝนตกดูแล้วรู้สึกเหงาพิลึก ละอองเม็ดฝนที่โปรยผ่านแสงโคมไฟถนนนั่นอีก เห็นแล้วก็ตรัสรู้เดี๋ยวนี้เองว่า เพลงอกหักในมิวสิควีดีโอทำไมต้องมีฝนตก...
มันจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งไป การเดินทางสอนให้ผมเรียนรู้และยอมรับการจากลา เพราะชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง เราจึงมีชีวิตวนเวียนอยู่กับการจากลาและการพบเจออยู่ร่ำไป
หกคืนเจ็ดวันไวเหมือนโกหก อะไรที่ว่ายาวนานมักจะดูรวดเร็วในตอนถึงบทสรุปสุดท้ายเสมอ บทสรุปคืนวันที่ได้ผ่านทางกับเพื่อนๆที่มีแต่ความเข้าใจกันบอกอะไรกับผมบ้าง?...ผมไม่รู้...ผมรู้เพียงแต่ว่า นี่เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ต้องเก็บสะสมไว้กับตัวเองตลอดไป
บันทึกกำลังจะปิดเล่ม ละครกำลังจะปิดฉาก นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..."มนุษย์จะมีค่าก็ด้วยสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสร้างสรรค์..." อมตะวาจาของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ประโยคนี้ก้องอยู่ในหัวใจผมเสมอ
การเดินทางเป็นกำไรชีวิตหนึ่งที่ได้มา ไม่ใช่ดันทุรังทำเพื่อเป็นผู้พิชิตเสมอไป...
ที่สยามยังไม่ดึก แต่รถรากลับน้อยอย่างไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก...ISUZU 4 WD สีน้ำเงินคลุกโคลนจะไม่ต้องแบกน้ำหนักคับรถเหมือนหลายวันก่อน...
เสียงร่ำลาและมือที่โบกไปมายังติดตา-ฝังใจ อาจประทับอยู่ในความทรงจำส่วนไหนส่วนหนึ่ง ในความมีอยู่จะรับรู้ถึงมันได้เสมอ...นานวันไปอาจหาไม่เจอ นั่นอาจไม่สำคัญเท่ากับวันนี้ที่เราต่างรู้ว่า
เราต่างเป็นความทรงจำที่ดีของกันและกัน....
เท่านั้นคงเพียงพอแล้ว

ปิดบันทึก
หาดทรายขาว,เกาะช้าง 2พ.ค.2542




 

Create Date : 03 พฤษภาคม 2551   
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 10:20:45 น.   
Counter : 315 Pageviews.  

ฝันเก้อ...ละเมอค้าง

ไม่รู้ในใจเธอมีใคร
รู้ไหมมีใครเข้าใจเธอ
ฉันรู้ใจฉันสักวันต้องพบเจอ
กับเธอ...บอกฉันให้ตัดใจ
แต่ฉันยังอยู่เฝ้าดูเธอ
เสมอแม้เธอคู่กับใคร
เธอรู้ใจฉันใช่หวงแต่ห่วงใย
อย่างไร...ไม่เปลี่ยนแปรหัวใจ

....แม้ไม่มี...สิทธิ์คิดใฝ่ฝัน
แต่ขอยืนยันในรักฉันให้เธอ
อีกนานเพียงไหน...ใจคงฝันเก้อ
เพราะเธอ...เพราะเธอ

อยากรู้ในใจเธอมีใคร
อยากรู้มีใครเข้าใจเธอ
ฉันรู้ใจฉันสักวันต้องพบเจอ
กับเธอ..บอกฉันให้ตัดใจ

เพลงฝันเก้อละเมอค้าง
ละครน้องใหม่ คณะสถาปัตย์ มข.รุ่น 7
พฤศจิกายน 2537


วันหนึ่งหลงเข้าไปในเว็บกระปุกฟังเพลง
เห็นรายชื่อเพลงสองสามเพลงแล้วสะดุดตา
เพราะระบุว่า เป็นเพลงละครสถาปัตย์ มข.
โดยเฉพาะที่ระบุว่า ละครขมิบฝัน
เป็นการ"ขมิบฝัน"ตอนที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้

เพลงฝันเก้อละเมอค้าง
มีโอกาสเปิดตัวเป็นหนึ่งในยุคบุกเบิกของการร่วม"ขมิบฝัน"
โดยขมิบความฝันใหญ่ๆให้เล็กลงแบบเจียมตัวให้เป็นละครน้องใหม่
ที่แม้ภายหลัง
จะเบ่งตัวเองออกมาเป็นละคนเวทีสถาปัตย์ มข.เต็มตัว
แต่ยังคงความ "ขมิบฝัน" ไว้ไม่เปลี่ยน

คืนท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บเดือนพฤศ ปี 37
ที่ลานกิจกรรม มข.
ละครน้องใหม่ทั้ง 16 คณะ
มีโอกาสปั้นฝันตนเองออกมาตามแต่ถนัดในแต่ละสาขาที่ร่ำเรียน
เป็นละครใสๆ
เป็นหนึ่งในพื้นที่ว่างที่ให้โอกาสแต่ละคนได้ลองลงมาเล่น
พลพรรคขมิบฝันก็เช่นกัน
แม้ปัจจุบันหลายคนจะเบ่งฝันไปกว้างไกล
ไกลตามเส้นทางที่เลือกเดิน....
แต่วันที่เริ่มต้นความฝัน
ไม่ว่าจะเริ่มจากการเม้มฝัน การขมิบฝัน การขมวดฝัน การแอบฝัน...
จนกระทั่งมาถึงวันที่ถึงฝั่งฝัน..วันที่"สมฝัน"
หรือแม้กระทั่งวันที่ไม่ถึงฝั่งฝัน...วันที่"ผิดฝัน"
.....................................
วันเหล่านั้น
มันช่างมีความหมายยิ่งใหญ่ที่ไม่แตกต่างกันเลย












 

Create Date : 01 มีนาคม 2551   
Last Update : 1 มีนาคม 2551 17:51:08 น.   
Counter : 248 Pageviews.  


คีตกวี
Location :
สุรินทร์ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add คีตกวี's blog to your web]