Group Blog
 
All blogs
 

*** เมื่อฉัน ปลูกแคคตัส 1 ***








แคคตัส หรือ กระบองเพชร ไม่เคยได้อยู่ในสายตาของฉันเลย ก็เคยปลูกเมื่อ 20 สิบปีที่แล้ว ซื้อมาเห็นว่าหนามแปลกดี เอามาวางที่ระเบียงช่วงบ่ายแดดจัดมาก ก็มีดอกให้เห็นครั้งนึง แล้วต้นก็แห้งตายไปเพราะไม่ได้ใส่ใจ

จนกระทั่งมาเห็นเพื่อนในเว็บเค้าโพสต์รูปกันก็เห็นว่า สวยมากๆ โอ!!! แม่เจ้า ฉันตกหลุมซะแล้ว รักเข้าอย่างจัง!!!

ฉันจะลองปลูกดูบ้างสิ ก็ไปสนามหลาง 2 ไปเจอร้านขายแคคตัส ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย สายพันธุ์อะไรก็ไม่รู้เรื่อง รู้อย่างเดียว

เอาดอกใหญ่ๆนะและออกดอกเก่งด้วย

ฉันบอกคนขายหนุ่ม คนขายทำหน้าฉงนนึดนึง แล้วก็หยิบ ต้นแคคตัสให้ฉันดู นี่แหละดอกใหญ่ ฉันมองดูด้วยสายตาไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็เอานะ 3 ต้นร้อย เอาต้นไหนบ้าง คนขายถามฉัน ก็เอาต้นนี้แหละ เอาแบบเดียวกันสามต้นเลย คนขายก็หยิบให้และ เอาแบบนี้ด้วย ฉันได้มา 6 ต้น คนขายเอาใส่ลงในถุงกระดาษ ฉันอยู่พูดคุยกับคนขายอีกแป๊บนึง จ่ายเงินก็ไปต่อ

ต้นนี้คือ สองต้นแรกที่ฉันได้มา








หนามดูสวยดี แต่ไม่เห็นออกดอกเก่งแบบคนขายบอกเลย ตอนซื้อมาต้นเล็กนิดเดียว ฉันเปลี่ยนกระถางใหม่หมด

พอปลูกไปได้ 6-7 วันฉันเห็นการเปลี่ยนแปลงไวมาก ไวเหมือนโกหกนะ แต่นี่คือเรื่องจริง ดูเจ้าแคคตัสโตขึ้นมากเลย คงเนื่องด้วยดินที่ฉันผสมขึ้นเองใหม่หมด ฉันซื้อหาแคคตัสมาอีกหลายสิบต้น ต้นไหนมีลูกออกหน่อ ฉันดึงออกเกือบหมด แล้วมาเพาะชำในกระถางเล็กๆ เพราะไม่ต้องการให้ต้นแม่เอาอาหารไปเลี้ยงลูก แต่จะให้เลี้ยงตัวเองให้มากๆ แล้วเค้าจะออกดอกให้ฉันเห็น

ฉันคิดเอง ความจริงอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้

มาถึงร้านที่สอง ฉันได้ดินปลูกที่เค้าขาย มา 5 ถุงมาถึงบ้าน แกะดูแล้ว ก็เห็นว่า มีทราย แกลบเผา และดินก้ามปู คงมีขุยมะพร้าวบ้างนิดหน่อย

ฉันเปิด Google หาวิธีปลูกเลี้ยงแคคตัสและการผสมดิน ฉันก็ลงมือผสมบ้างดินที่ฉันใช้ปลูก ก็มีดังนี้

1. ดินผสมใบก้ามปู 1 ส่วน

2. ทรายหยาบก่อสร้าง 1 ส่วน

3. พีทมอส 1 ส่วน

4. หินภูเขาไฟ เบอร์ 0 1 ส่วน

5. หินที่ใช้ปลูกไม้น้ำผักสลัด (เปอไลท์ ) 1 ส่วน

6. ขุยมะพร้าว 1 ส่วน

7. ปุ๋ยคอกเก่า ที่หมักน้ำหมักชีวภาพ นิดหน่อย

8. แกลบเผาดำๆ 1 ส่วน

นี่คือดินผสมของฉันทั้งหมด

เยอะนะส่วนผสมดินแคคตัส แต่ก็เอาล่ะ เพื่อต้นและดอกอันสวยงาม หลงรักเค้าแล้วนิ ทำได้หมดแหละ

ฉันว่า แคคตัสชอบมากนะ เพราะจากที่ฉันปลูกแคคตัส เอาดินเก่าออกเปลี่ยนมาใช้ดินผสมของฉัน แคคตัสลั้ลล้ากันมาก โตไวจนเห็นได้ชัด มิหน่ำซ้ำ ยังทยอยออกดอกให้เห็นอีกด้วย ตอนซื้อมายังไม่เห็นดอกเลย ฉันว่าเค้าคงชอบดินของฉันแหละนะ











ทั้งหมดนี้อีกไม่นานคงได้เห็นดอกของเค้า เพราะกำลังแทงช่อดอกกันทุกต้นเลย คุ้มค่ากับการเลี้ยงจริงๆ




 

Create Date : 31 สิงหาคม 2558    
Last Update : 2 กันยายน 2558 19:44:33 น.
Counter : 5099 Pageviews.  

*** บางสิ่ง ***






ซื้อต้นนี้มาเพราะชอบดอกไม้ชนิดนี้ แต่พอปลูกๆไป โอ...เจ้าช่างขึ้นง่ายดายซะเหลือเกิน ขึ้นมันทุกที่ เราก็ต้องตามเก็บตามถอนไปทั่ว แม้แต่ในน้ำที่ปลูกไม้น้ำยังไปขึ้นได้อีก ความจริงดอกของเธอก็สวยดี

สมชื่อจริง ต้อยติ่งใครนะช่างตั้งชื่อได้เหมาะเจาะ ต้อยติ่ง เธอน่าสงสารจริงๆ ที่ถูกเราถอนทิ้งไปบ้างเมื่อไม่ต้องการ ยังไงก็แล้วแต่เราก็ยังชอบเธอนะ แม้ว่าเธอจะชื่ออะไร

ต้อยติ่ง

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี


การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
(unranked): Angiosperms
(unranked): Eudicots
(unranked): Asterids
อันดับ: Lamiales
วงศ์: Acanthaceae
สกุล: Ruellia
สปีชีส์: R. tuberosa
ชื่อทวินาม
Ruellia tuberosa
L.
ชื่อพ้อง

Ruellia clandestina


ต้อยติ่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Ruellia tuberosa) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กในวงศ์ Acanthaceae เติบโตได้ดีทั้งกลางแจ้งและในร่ม ต้นเจริญเต็มที่สูง 6½ นิ้ว ใบกลมรี ตาแตกยอดได้สี่ข้าง ออกดอกสีม่วงน้ำเงินเฉพาะตอนฤดูฝน เมื่อผสมเกสรแล้วจะให้เมล็ด 7-8 เมล็ดอยู่ในฝัก เมื่อฝักแก่จะกลายเป็นสีน้ำตาลหรือสีดำ พอฝักโดนน้ำ (โดยธรรมชาติคือน้ำฝน) ก็จะแตกออกทำให้เมล็ดกระเด็นไปตกที่อื่น ซึ่งเป็นเทคนิคของการขยายพันธุ์ (เด็ก ๆ ชอบเล่นโดยนำฝักแก่ใส่ลงในน้ำให้แตก) ชื่ออื่นที่เรียกเช่น อังกาบฝรั่ง, เป๊าะแป๊ะ, minnieroot, popping pod, cracker plant เป็นต้น

รากของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยารักษาโรคไต โรคไอกรน หรือแม้แต่เป็นยาขับเลือด ถ้าใช้ในปริมาณที่เจือจางก็สามารถกำจัดสารพิษในเลือด บรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ ส่วนใบของต้อยติ่งสามารถใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ หรือใช้พอกแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ แต่ต้อยติ่งมักจะถูกถอนทิ้งเพราะคนคิดว่าเป็นวัชพืช

สรรพคุณของต้อยติ่ง

รากช่วยรักษาโรคไอกรน (ราก) รากใช้เป็นยาขับเลือด (ราก) รากต้อยติ่งสามารถนำมาใช้เป็นยารักษาโรคไตได้ (ราก) สรรพคุณต้อยติ่งฝรั่ง รากช่วยดับพิษในร่างกาย (ราก) ช่วยทำให้อาเจียน (ราก) สรรพคุณต้อยติ่ง ใบใช้เป็นยาถ่ายพยาธิ (ใบ) รากหากนำมาใช้ในปริมาณที่เจือจางสามารถช่วยจำกัดสารพิษในเลือดได้ (ราก) ช่วยบรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ (ราก) ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ (ราก) ใบใช้พอกแก้อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ (ใบ) เมล็ดใช้พอกฝีเพื่อดูดหนองและช่วยลดการอักเสบ (เมล็ด) เมล็ดใช้พอกแผลเรื้อรัง ช่วยสมานบาดแผล แผลมีฝ้ามีหนอง และช่วยเรียกเนื้อ (เมล็ด) เมล็ดมีสรรพคุณช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น (เมล็ด) สรรพคุณสมุนไพรต้อยติ่ง เมล็ดช่วยแก้อาการผดผื่นคัน (เมล็ด) ต้อยติ่งทั้งต้นเอาชนิดที่ไม่แก่ ดอกยังไม่ร่วงโรย นำมาถอนเอาทั้งรากไม่ให้รากขาดและอย่าให้เมล็ดแตก ประมาณ 4-5 ต้น แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด โขลกค้นเอาแต่น้ำมาดื่ม ตะช่วยแก้อาการปวดเข่า ขาชา ร้าวลงได้ ซึ่งใช้เลาในการรักษาเพียง 7 วันก็หาย (ทั้งต้น) รากใช้ผสมเป็นยาแก้พิษ ดับพิษ และทำเป็นยาเบื่อ (ราก) ประโยชน์ของต้อยติ่ง ฝักใช้เป็นของเล่นของเด็กๆ ด้วยการสะสมฝักแก่จัด (สีน้ำตาลเข้มเกือบดำ) เก็บไว้ในที่แห้งเมื่อมีโอกาสก็นำมาจุ่มน้ำ (หรือน้ำลาย) แล้วเอาไปโยนใส่เพื่อนๆ สักพักหนึ่งฝักก็จะแตกตัวออกดังแป๊ะ พร้อมกับดีดเมล็ดออกโดยรอบ ทำให้เพื่อนตกใจหรือเจ็บคันๆ หรือบางครั้งก็แอบไปใส่ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง หรือแม้แต่คอเสื้อ ซึ่งแม้จะรู้ตัวแต่ก็มักจะเอาออกไม่ทัน ฝักก็จะแตกออกเสียก่อน (ฝัก)





 

Create Date : 06 สิงหาคม 2558    
Last Update : 6 สิงหาคม 2558 9:45:36 น.
Counter : 855 Pageviews.  

*** เมื่อฉันปลูกเมล่อน 5 ***




ฉันอัพบล็อกนี้เพื่อประสบการณ์ในการปลูกเมล่อนให้ได้ผลดี และเป็นที่พอใจกับคนปลูก อาจจะไม่เก่งเท่าชาวสวนมืออาชีพ แต่ก็จะสามารถปลูกกินเองโดยไม่ต้องไปซื้อหาให้เสียเงิน และได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วย

ซึ่งในความคิดของฉันนั้น เมล่อนปลูกยาก เนื่องจากมีโรคแมลงมารบกวนเยอะ และเมล่อนเป็นพืชที่อ่อนไหวง่าย ไม่ค่อยทนต่อโรคและแมลง คงเนื่องจากเป็นพืชนำเข้ามาจากต่างประเทศ เค้าคงต้องใช้เวลาในการปรับตัวนานหน่อย

การปลูกเมล่อนของฉันนั้น ได้ผลยังไม่เป็นที่น่าพอใจ บางต้นให้ลูกไม่สวย บางต้นลูกแคระแกรน และรสชาติ , รสชาด ( อันไหนเขียนถูกกันแน่ ตอนเรียน เขียนว่า รสชาด มาตลอด ) ยังไม่ดีพอ ยังไม่หวานเหมือนกับที่ซื้อในห้าง และพอแก่จัดมีการเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ซึ่งไม่เหมือนในห้างที่เค้าขายกัน แต่ก็มีกลิ่นหอมมาก ส่งกลิ่นออกมาเลย ยิ่งดมใกล้ๆกลิ่นจะหอมมากๆ



ด้วยความพยายามจะให้การปลูกเมล่อนได้ผลดีมีรสหวาน ฉันเลยไปเข้ากลุ่มในเฟซ เข้าไปสอบถาม แต่ก็น่าเศร้ามาก ที่ไม่มีใครตอบฉันเลย ไม่เป็นไรฉันมาเรียนรู้และหาวิธีด้วยตัวเองก็ได้

ฉันปลูกเมล่อนไปแก้ปัญหาไป ก็ได้เรียนรู้อีกว่า การปล่อยให้เมล่อนมีกิ่งแขนงและใบมากๆ จะช่วยทำให้ ผลออกมาใหญ่และสมบูรณ์กว่าการปล่อยให้มีกิ่งเดียวโดดๆที่ฉันเคยกระทำมา คงเนื่องจากมีใบเป็นตัวช่วยปรุงอาหารให้กับลำต้นและส่งผลไปที่ผล

ต้นที่ฉันตัดใบออกเกือบหมด และต่อมามีกิ่งแขนงออกมาหลายกิ่ง ฉันปล่อยให้ใบเยอะจนเกะกะไปหมด แต่พอเค้าออกผลมา ผลสวยใบโตมาก โอ่งเล้ง ( ภาษาของบ้านฉัน ) และผลสร้างลายได้หมดผล ลูกนี้น้ำหนักคงไม่ต่ำกว่า 2 กิโลกรัม

ต้นนี้คือต้นที่โรครุมกินและมีใบเยอะ



และนี่คือผลของต้น



และนี่อีกต้นที่มีใบเยอะ ผลใหญ่มากจนลูกยาวคล้ายแตงทิเบต ลูกใหญ่มากๆ น่าจะหนักเกิน 2 กิโลกรัม



การปลูกเมล่อนของฉันครั้งนี้ให้ประโยชน์กับฉันมากๆ หลายอย่าง อันแรกคือฉันได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่การอ่านในตำรา อันที่สอง ฉันได้เรียนรู้ว่าต้นไม้บางชนิดไม่ได้ปลูกกันง่ายๆ เหมือนที่คิด ส่วนอันอื่นๆก็มี แต่ในแง่ลบฉันไม่ขอกล่าวแล้วกัน คิดว่าคนทุกคนคงมีเหตุผลส่วนตัว

สำหรับผู้ที่ต้องการปลูกเมล่อนนั้น สามารถปลูกกินเองได้ แต่ต้องสร้างปัจจัยให้กับพืชชนิดนี้มากหน่อย เช่นหมั่นดูแลและพ่นยาป้องกันอย่างสม่ำเสมอ ถ้ามีโรคอย่าเพิ่งคิดว่าต้นนี้ต้องไม่ได้แล้วควรกำจัดทิ้ง ความเป็นจริง การแก้ปัญหาให้อาจจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีเอง






 

Create Date : 07 สิงหาคม 2557    
Last Update : 9 สิงหาคม 2557 5:55:10 น.
Counter : 3417 Pageviews.  

*** เมื่อฉันปลูกเมล่อน 4 ***




การปลูกเมล่อนเป็นอะไรที่แปลกประหลาดมากๆ คาดหวังอะไรไม่ได้เลย

การ ปลูกเมล่อนก็ให้แง่คิดอะไรได้หลายอย่าง

อันแรกคาดหวังไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติ ถ้าเป็นชาวสวนปลูกเป็นอาชีพ เค้าคงสามารถป้องกันได้ทุกรูปแบบ อันที่สองโรคแมลงรุมกินเยอะ อันที่สามผลออกมาไม่รู้รสจะดีหรือเปล่า เพราะจากที่เอามากินรสสุดจืดมาก เพราะยังไม่แก่จัดและงอมได้ที่ก็ไม่อาจเดาได้

จืดชืดเหมือนหืดยักษ์ตามภาษาที่บ้านของฉันมักจะพูดบ่อยๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหืดยักษ์ใครเป็นคนไปชิมมาก่อน

แต่ช่างเหอะเอาเป็นว่ารสจืดมากๆ

ของฉันบอกตามตรงว่าสุดเซ็ง เพราะยาฆ่าแมลงก็ใช้ไม่ได้

ไม่อยากเป็นคนมือถือยาฆ่าแมลง แต่ปากบอกรักษาศีล เมล่อนของฉันสุดจะทนทานต่อแมลงมากๆ คือทนต่อยาฉุน เหล้าขาว น้ำส้มสายชู น้ำส้มควันไม้

ฉันใช้ทุกอย่าง แต่เจ้าแมลงต่างๆ ตัวก็เล็กแสนเล็กจนแทบมองไม่เห็น แต่เจ้าช่างทนทานจริงๆ สุดทนทาน ฉันเลยยอมแพ้ จนต้นเมล่อนหลุดร่วงตายไปเลย 5 ต้นที่ปลูกอยู่นอกมุ้ง มีอยู่ต้นหนึ่ง ผลเกือบจะแก่อยู่แล้ว แต่ต้นก็มาตายซะก่อน

ต้นนี้เหี่ยวก่อนผลจะแก่จัด ฉันเลยปล่อยเลยตามเลย



ฉันยอมรับว่าการปลูกเมล่อนนั้นยากจริงๆ ทั้งไรแดงที่สุดทนทาน และแมลงเต่าเหลืองตัวเล็กๆอีก

ที่ปลูกอยู่ในมุ้งก็ถูกไรแดงรุมกินจนใบเหลือง ผลก็แก่ช้า ที่รอดมาได้ก็สะบักสะบอมบางต้นฉันต้องตัดใบทิ้ง ปล่อยให้แตกแขนงมาใหม่ และเพิ่งมาออกลูกอ่อนอีกแรมเดือนกว่าผลจะโต




ต้นนี้เดิมเกือบตายแล้ว ฉันต้องตัดใบออกเกือบหมดเพราะโดนโรครุมกิน แต่เมล่อนก็แตกใบออกมาใหม่ ฉันเลยปล่อยให้มีกิ่งหลายๆกิ่ง ปล่อยเผื่อโดนโรครุมอีก











สรุปว่าเมล่อนปลูกยากมาก ปราบเซียนเลยก็ว่าได้ ใครปลูกได้ผลดีฉันขอคารวะงามๆสามครั้ง







 

Create Date : 17 กรกฎาคม 2557    
Last Update : 17 กรกฎาคม 2557 18:56:43 น.
Counter : 2792 Pageviews.  

*** เมื่อฉันปลูกเมล่อน 3 ***





การปลูกเมล่อนสำหรับบ้านมีเนื้อที่ไม่มาก ฉันว่าก็สามารถปลูกได้ ขอแค่มีแสงแดดจัดๆสักวันละ ห้าถึงหกชั่วโมง เมล่อนเป็นต้นไม้ที่ดูเรียบร้อยมาก กิ่งไม่เก้งก้างเกะกะ

ตอนปลูกช่วงแรกจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก แต่พอเมล่อนถึงเวลาออกดอก ช่วงนี้แหละ พวกแมลงจะลั่นล้ากันมาก บางพวกมาเก็บเกี่ยวเกสรหวานๆ แต่บางพวกมาไข่ทิ้งเอาไว้ก็มี


ที่บ้านของฉันไม่ค่อยมีผีเสื้อ จะมีแต่ตัวต่อตัวใหญ่ๆ มาเก็บเกสร แต่ก็แปลกที่ตัวต่อเหล่านี้ไม่เคยทำร้ายฉันเลย แต่ฉันก็ไม่ประมาท ไม่เข้าใกล้ตัวต่อมากนัก พอเมล่อนติดลูกในวันรุ่งขึ้นฉันก็รีบห่อตั้งแต่เช้าๆ เจ้าแมลงลั่นล้าต่างๆ ก็จะไม่มีโอกาสวางไข่ในผลเมล่อนของฉัน



ฉันปลูกเมล่อน ทั้งนอกมุ้งและในมุ้ง เนื่องจากอยากจะเห็นความแตกต่างในการปลูก ฉันได้ข้อสรุปว่า ดีกันคนละแบบ

ในมุ้งก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา แมลงตัวใหญ่ไม่ได้เข้าไป คงมีแต่แมลงตัวเล็กๆแบบเต่าสีเหลืองๆ จะกัดกินใบ แต่ยังไม่เห็นวางไข่หนอนในผลเมล่อน

ฉันอดปลื้มใจไม่ได้เมื่อเห็นลูกเมล่อนเติบโตแบบอิสระไร้การห่อหุ้ม










ฉันปลื้มใจได้ไม่นานนัก ที่เห็นแมลงเต่าตัวเล็กไม่วางไข่ แต่ก็ไปกัดกินผลเมล่อน ปากแมลงนั้นเล็กคงทำได้เพียงค่อยกัดเมล่อนเป็นวงๆเล็กๆแผลไม่ลึกมากแค่ผิวๆ ฉันไม่ปลื้มแล้ว ต้องหาอุปกรณ์มาห่อหุ้มเหมือนเมล่อนนอกมุ้ง แต่ไม่ป้องกันอะไรมากนักเหมือนข้างนอก

เมล่อนปลูกในมุ้งของฉันก็เจอแมลงตัวเล็กมากๆ น่าจะเป็นไรแดงมาเกาะที่ใต้ใบบางต้นทำเอาใบซีดเหลืองไปเลย เดือดร้อนให้ฉันต้องเอาใบยาสูบผสมเหล้าขาวมาฉีดไล่อีก แต่ไม่รู้เจ้าแมลงตัวเล็กเท่าจุดๆจะหนีไปไหม





ฉันคิดว่าปลูกเมล่อนในมุ้งแล้วจะไม่มีปัญหา แต่กลับเจอแมลงตัวเล็กที่น่าจะร้ายกว่าแมลงตัวใหญ่ที่ปลูกนอกมุ้ง ที่นอกมุ้งไม่มีตัวไรแดงมีแต่หนอนซึ่งก็ห่อผลได้ แต่ในมุ้งไม่มีหนอน

แต่มีตัวไรแดงตัวจิ๋วๆ







 

Create Date : 27 มิถุนายน 2557    
Last Update : 27 มิถุนายน 2557 12:26:56 น.
Counter : 4489 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

รักดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




นามแฝง ชื่อ รักดี

ชอบดอกไม้ รักหมา

ไม่รังเกียจแมว

ไม่อาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

อยู่กับปัจจุบัน

และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ไม่กังวลหรือเป็นทุกข์

กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง












Friends' blogs
[Add รักดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.