Group Blog
 
All blogs
 

*** เมื่อฉัน ปลูกแคคตัส 5 ( แปลงโฉมแคคตัส ) ***






คราวก่อนฉันได้เล่าถึงการเลือกซื้อแคคตัสต้นใหญ่มีหน่อเยอะรอบๆต้น เมื่อดูภายนอกก็ไม่ได้เห็นอะไรที่ไม่ค่อยสวย ต้นอวบเขียว มีหน่อยเยอะดี แต่พอถอดกระถางออก แกะหน่อออก ตัดรากเก่าออก ก็มีสภาพแบบที่เห็น

ถ้าเป็นคนที่ปลูกใหม่ๆเห็นแบบนี้คงตกใจ คิดว่าต้นไม้เป็นอะไรหรือเปล่า เลี้ยงต่อไปจะรอดมั้ย

ของฉันมองดูด้วยตาก็น่าห่วงอยู่ เอามือจับๆดูก็เห็นว่ายังแข็งๆดี คงเป็นธรรมชาติของแคคตัสที่อายุมากแล้ว มีโขดรากที่ใหญ่แข็งพอควร ไม่มีส่วนไหนเน่าเละ



ฉันเอามาปลูกใหม่ ก่อนปลูกทาด้วย น้ำยาเร่งราก B1 ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วปลูกใหม่ เมื่อปลูกแล้ว ก็มีสภาพแบบที่เห็น




ปลูกใหม่แล้ว เลี้ยงเค้าให้ออกราก ไม่นานแคคตัสจะออกดอกให้ดูได้อย่างงดงาม

ที่เห็นเป็นจุดๆสีน้ำตาลนั่นไม่ใช่โรคอะไร เป็นแผลที่แห้งแล้วจากการแกะหน่อออก

เป็นการแปลงโฉมแคคตัสได้อีกแบบหนึ่ง ต้นแคคตัสของฉันมองดูสวยงามน่ารักแล้ว








 

Create Date : 11 กันยายน 2558    
Last Update : 11 กันยายน 2558 9:12:05 น.
Counter : 1860 Pageviews.  

*** เมื่อฉัน ปลูกแคคตัส 4 ***






การปลูกแคคตัสนี้ ฉันนับว่าเป็นเรื่องสนุกไปอีกแบบ ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงมีคนหลงใหลแคคตัสกันมาก แคคตัสเป็นไม้เล็กๆกระจุ๋มกระจิ๋มน่าเอ็นดู การปลูกก็ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้แรงมาก ยกไปมาสะดวก ไม่เหมือนต้นไม้กระถางใหญ่ จะยกทีไม่ไหวหนักเกิน เวลาออกดอกก็สวยสุดๆ สวยจนน่าทึ่งว่าไม่น่าเชื่อ ต้นไม้มีหนามแหลมๆจะออกดอกได้สวยเพียงนี้



แม้ว่าบางต้นบางสายพันธุ์จะบานดอกแค่วันเดียว แต่ก็ทำให้ได้ชื่นชมความงามได้เต็มอิ่ม บางดอกก็บานหลายวัน

ฉันชอบถ่ายภาพดอกไม้ ก่อนนอนก็จะเอามาดูแล้วก็หลับฝันดี สมองโล่งแจ่มใสมากๆ



แคคสตัสที่ฉันซื้อมาหลายสิบต้นนั้น ตอนซื้อมายังไม่มีดอก ก็ยังไม่รู้ว่าสีของดอกต้นนี้เป็นสีอะไร กลีบของดอกเป็นแบบไหน ช่วงหลังๆฉันจะบอกคนขายว่าต้องการสีนั้น สีนี้ คนขายก็มีบ้าง ไม่มีบ้าง พอเอามาปลูกเลี้ยงแล้ว ก็ต้องมาลุ้นเอาเอง ก็สนุกไปอีกแบบ



แคคตัสของฉันกำลังจะมีดอกอีกหลายต้น ฉันพอดูเป็นแล้ว ว่าต้นไหนจะมีดอกให้เชยชม ต้นนี้คงอีกไม่นาน เค้าก็จะบานดอก




ต้นนี้พอดอกเหี่ยวก็ติดฝัก เหมือนพริกเลย ยังคิดอยู่เลยว่าจะหัดเพาะดีหรือไม่ กลัวออกมาแล้ว จะเยอะเกิน เป็นภาระเลี้ยงไม่ไหว เพราะเท่าที่มีก็ไม่น้อยแล้ว







 

Create Date : 10 กันยายน 2558    
Last Update : 10 กันยายน 2558 9:35:06 น.
Counter : 1648 Pageviews.  

*** เมื่อฉัน ปลูกแคคตัส 3 ***







ฉันชอบเลือกซื้อแคคตัสแบบต้นเล็กๆ เนื่องจากฉันชอบปลูก ฉันชอบเปลี่ยนกระถางใหม่ ชอบเปลี่ยนดินใหม่

ถ้าซื้อต้นใหญ่ก็มีข้อดีคือ ต้นเค้าถูกเลี้ยงมานานแล้ว อายุมากแล้ว

ข้อเสียก็มี คือ บางต้นอาจจะมีโรคติดมาด้วย มีแผลติดมาด้วย เนื่องจากการเปลี่ยนกระถางหลายรอบแล้ว ตรงโคนต้นจะมีรอยเหลืองๆบ้าง ถ้าไม่นิ่มเละ ก็ไม่ผิดปกติอะไร และต้นใหญ่ถ้าเปลี่ยนกระถาง ต้องตัดแต่งรากใหม่ เนื่องจากเค้าอยู่ในกระถางเดิมนานแล้ว ดินไม่ค่อยมีปุ๋ย

และข้อเสียอีกอย่างคือ ราคาก็แพงกว่าต้นเล็กๆด้วย

นี่คือต้นใหญ่ที่ฉันซื้อมา พอถอดกระถางก็เห็นช่วงล่างที่มีดินและหินปิดไว้และมีหน่อรอบๆต้น ฉันแกะหน่อ ออกแล้ว เอามาล้างรากตัดรากเก่า พักไว้เตรียมปลูกใหม่



ฉันชอบต้นเล็กๆ เพราะเปลี่ยนกระถางได้ง่ายมาก เมื่อฉันได้ต้นแคคตัสมาแล้ว ฉันก็เตรียมกระถางซึ่งใหญ่กว่าเดิมไม่มากนัก กะว่าเค้าโตขึ้นได้อีกหน่อย

ฉันใช้ช้อนพลาสติกเล็กๆเขี่ยหินปิดหน้าดิน และเทออกให้หมด จากนั้นก็เอาปลายช้อนเขี่ยหน้าดินออกให้มากๆ จนเหลือประมาณครึ่งนึงจากนั้นก็เอามือจับโคนต้นและค่อยๆเททั้งต้นทั้งดินออกมาดู ถ้าเห็นว่ามีรากขาวๆกำลังเดิน ก็ไม่ต้องตัดแต่งรากอะไรเลย ค่อยๆเอาใส่ลงในกระถางใบใหม่ที่เตรียมใส่ดินเอาไว้ครึ่งกระถางที่โรยปุ๋ยออสโมโค้ท 5-6เม็ด มีดินกลบปิดบางๆ

ฉันจับต้นแคคตัสให้อยู่กึ่งกลางกระถาง ตักดินใส่รอบๆกดดินให้ต้นไม้ไม่ล้ม โรยปุ๋ยอีกสัก 5-6 เม็ดตรงขอบๆกระถาง ก่อนโรยกรวดหรือหินทับดิน

เป็นอันจบขั้นตอนการเปลี่ยนกระถางของฉัน

และการเปลี่ยนกระถางทุกครั้งฉันจะไม่รดน้ำ วางไว้ในที่ไม่ถูกแดด วันรุ่งขึ้นค่อยรดน้ำได้ตามปกติ เนื่องจากรากของแคคตัสบอบบางมากและไวต่อการกระทบกระเทือนจากการเปลี่ยนดิน

การเปลี่ยนกระถางแบบนี้ ต้นแคคตัสจะสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้แบบไม่ต้องหยุดชะงัก ถ้าเปลี่ยนแบบเบามือและระวังไม่ให้รากกระทบกระเทือน






 

Create Date : 09 กันยายน 2558    
Last Update : 9 กันยายน 2558 9:59:18 น.
Counter : 2301 Pageviews.  

*** เมื่อฉัน ปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ( ปลูกครั้งที่ 2 ) ***






เมื่อคราวก่อน ฉันปลูกเมล่อน แบบซองๆไป ผลออกมาไม่ค่อยเป็นที่พอใจเท่าไหร่ มีโรครุมกินเยอะ ลูกเบี้ยวไม่ค่อยสวย รสไม่ค่อยหวาน ก็เพิ่งเริ่มปลูกครั้งแรก ลองผิดลองถูก ปลูกแบบในมุ้งและนอกมุ้ง โรงเรือนทำแบบไม่ค่อยแข็งแรง แมลงยังเข้ามาได้บ้างเล็กน้อย

ฉันยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เอาใหม่ คราวนี้ฉันต้องปลูกให้ได้ผลดีให้ได้ ฉันไปบอกหลานสาว ซึ่งไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นบ่อยๆ ฉันบอกเค้าว่าให้ช่วยซื้อเมล็ดเมล่อนมาให้ฉันหน่อย

หลานสาวของฉันน่ารักมาก เธอบอกกับฉันว่า ที่เป็นเมล็ดหายากไม่รู้ไปซื้อที่ไหน เธอเลยบอกแฟน ( ชาวญี่ปุ่น ) ของเธอว่าอยากได้เมล็ดเมล่อน แฟนของเธอเลยพาไปซื้อ ผลเมล่อนในซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคาผลละ 5,000 เยน ประมาณ 1,500 บาทไทย ไม่รู้เทียบค่าเงินถูกต้องหรือเปล่า

หลานสาวซื้อผลเมล่อนกินแล้ว ก็ควักเมล็ดเอามาให้ฉัน

เมื่อฉันได้เมล็ดเมล่อนมาแล้วก็ลงมือปลูกตามวิธี คือ แช่เมล็ดไว้ 3 ชั่วโมง แล้วรินน้ำทิ้ง เอาเมล็ดห่อผ้าเปียกไว้ 2 วัน พอเมล็ดงอกรากได้ ประมาณ ครึ่งนิ้ว ฉันก็เอามาจิ้มในกระถาง 12 นิ้วที่เตรียมดินเอาไว้ ดินที่เตรียมไว้ต้องระบายน้ำได้ดี เมื่อรดน้ำแล้วน้ำไม่ขังราก เพราะเมล่อนชอบน้ำ แต่ไม่ชอบให้น้ำขัง เครื่องปลูกต้องอุดมไปด้วยแร่ธาตุอย่างสมบูรณ์มากๆ


ฉันปลูกเมล่อนคราวนี้ ไม่มีโรคมารบกวนเลย แมลงก็ไม่มากัด ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะฉันได้ทำโรงเรือนใหม่ ซึ่งแข็งแรงกว่าเดิมมาก และเมล็ดเมล่อนที่ได้มาคงจะทนทานต่อโรคต่างๆ







เมล่อนของฉันติดผลหมดทั้ง 6 ต้น ลูกสวยสมบูรณ์มาก ไม่ต้องใช้ยาฉุน ฉีดอีกเลย ต้นแข็งแรงใบงาม ฉันใส่ปุ๋ยยูเรียอ่อนๆ พอต้นใหญ่สักครึ่งเมตร ฉันก็ให้ปุ๋ย สูตร 15-15-15 อาทิตย์ละครึ่งช้อนชา จน ติดผล แล้วมาใส่ปุ๋ยสูตร 9-25-25 ตรากระต่าย ตอนผลโตสักหน่อย




ลูกเมล่อนเกือบแก่จัดแล้ว จะขึ้นลายนูนเด่นชัดกว่าเมื่อปลูกคราวก่อน



เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว เอามากิน รสหวานมากๆ คนที่กินจะออกปากชมว่า รสดีมากหวานหอมเหมือนน้ำผึ้ง

ฉันว่าฉันปลูกเมล่อนได้ประสบความสำเร็จระดับนึงแล้ว เมล่อนจะปลูกให้ได้ผลดีต้องปลูกปลายๆปี ช่วงอากาศเย็นๆ เมล่อนจะชอบมาก





 

Create Date : 07 กันยายน 2558    
Last Update : 7 กันยายน 2558 15:08:16 น.
Counter : 3221 Pageviews.  

*** เมื่อฉัน ปลูกแคคตัส 2 ***







การปลูกแคคตัสนี้ความจริงถ้าจะปลูกให้ได้ผลดี ให้เค้าออกดอกให้ชื่นชม ก็เป็นเรื่องยุ่งยากอยู่พอควร อันดับแรก สถานที่ปลูกแคคตัส

แคคตัสไม่เหมือนพืชไม้ดอกไม้ประดับทั่วๆไปที่จะปลูกตรงไหนก็ได้

พวกที่อยู่ตามธรรมชาติ ส่วนที่เป็นพื้นนั้นเป็นทะเลทรายแห้งแล้ง แคคตัสจึงอยู่ได้ แต่หากคนนำมาปลูก ให้อยู่ตามที่เป็นดินธรรมดา ชื้นเเฉะ ตากแดด ตากฝน เค้าก็จะตายได้ง่าย คงมีบางสายพันธุ์ที่เค้าปรับตัวได้นานมากแล้วจึงอยู่ได้แต่น้อยมาก

แคคตัสมีข้อจำกัดอยู่พอควร เช่นต้องการได้รับแสงแดดจัดๆ

ส่วนวันละกี่ชั่วโมงอันนี้แล้วแต่อุปนิสัยของแต่ละต้น ถ้าไปศึกษาตามเว็บเค้าก็จะบอกเอาไว้คล้ายๆกันคือ 5-6 ชั่วโมงช่วงเช้า สำหรับของฉัน ได้รับแสงเกือบทั้งวัน และสังเกตได้ว่าเค้าออกดอกไวมากๆ คงเนื่องจากได้รับแสงแดดเต็มพิกัด



สถานที่ปลูกแคคตัส อันดับแรก ต้องได้รับแสงแดดเต็มที่ตามที่ต้นเค้าต้องการ อันดับต่อไปต้องการดินที่เค้าชอบและอุดมสมบูรณ์ ต้องไม่เปียกน้ำฝนบ่อยๆ เพราะต้นแคคตัสอยู่ในกระถางเล็กๆ ถ้าได้รับน้ำตลอดเวลาต้นเค้าจะเน่าง่าย เพราะแคคตัสเป็นไม้ทะเลทรายอยู่ที่แห้งแล้ง

เมื่อแคคตัสไม่ชอบเปียกเเฉะ

ฉันต้องหาบ้านให้เค้าแล้วล่ะ เรือนปลูกต้นไม้น้ำ (Hydroponics ) ยังมีที่ว่างพอ ให้ฉันได้ปลูกแคคตัสเพราะมีหลังคากันฝน

แต่กระนั้นก็ยังไม่รอดพ้นไปจากน้ำฝนอยู่ดีเพราะเวลาฝนตก ลมจะพัดแรงและต้นแคคตัสของฉันจะเปียกปอนกันหมด ฉันเลยทำหลังคากันฝนให้อีกชั้นหนึ่ง ก็ต้องดูแลเค้าหน่อย เลี้ยงเค้าแล้วก็ต้องดูแลอย่างดี


แคคตัสก็ตอบแทนฉันเหมือนกัน พากันออกดอกหลายต้น เมื่อวานก็บานดอกไปต้นนึงแล้ว สีสดมากๆ ( รูปข้างบน )

สำหรับโรคแคคตัสก็คงต้องมีบ้าง ของฉันตอนนี้ยังไม่เห็นวี่แวว ก็ดูแลเค้าไปก่อน อาจจะฉีดพ่นยากันราให้ตามสมควรบ้าง ในอนาคต

แคคตัสต้องการดินที่ดีมีปุ๋ยอุดมสมบูรณ์ แสงแดดเต็มที่ สถานที่ต้องไม่ชื้นเเฉะ ฉันว่า แค่นี้ทุกคนก็สามารถปลูกแคคตัสให้ได้ผลดีแล้ว ส่วนความรักความเอาใจใส่ก็ต้องมีให้แล้วแต่ละคนว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน ส่วนของฉันคงมีให้มากพอแหละ



ฉันเสาะหาบ้านเล็กๆให้แคคตัส ซื้อมาจากสนามหลวง 2 พอฝนตกก็ปิดฝา สำหรับลูกเล็กๆหรือหน่อที่ฉันปลิดออกมาเพาะชำใหม่ ฉันลองดึงต้นมาดูเค้าออกรากด้วย หนูๆพร้อมจะเติบโตแล้ว พอฝนตกก็ปิดฝากันฝนให้เด็กๆ



ต้นนี้ตอนซื้อมาหัวเล็กนิดเดียว ไม่กี่อาทิตย์ เผลอแป๊บออกดอกแล้ว บนยอดขนฟูๆ คือช่อดอกของเค้า







 

Create Date : 02 กันยายน 2558    
Last Update : 2 กันยายน 2558 19:40:58 น.
Counter : 1978 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  

รักดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




นามแฝง ชื่อ รักดี

ชอบดอกไม้ รักหมา

ไม่รังเกียจแมว

ไม่อาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

อยู่กับปัจจุบัน

และทำปัจจุบันให้ดีที่สุด

ไม่กังวลหรือเป็นทุกข์

กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง












Friends' blogs
[Add รักดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.