punnamaru

Epidemoid Cyst 2

ตลอดเวลาที่นั่งรถกลับบ้าน เหมือนได้นั่งนิ่งๆ ทำใจ
พอทำใจยอมรับได้แล้ว สติก็เริ่มมา คุยกับพี่สิ เอาไงดีพี่ ที่แน่ๆ หมอคนนั้นเราไม่เอา ห่ะๆ

งั้นหาหมอไหนดี แน่นอนต้องหมอที่เก่งที่สุดสิ สำหรับลูก น้อยกว่านี้ไม่ได้หรอก ((เอิ้ก....))
ก็หาข้อมูลจากคนรู้จัก แนะนำคุณหมอศรันย์ ซึ่งประจำอยู่ศิริราช และมาออกตรวจที่รพ.ธนบุรีด้วย เป็นคุณหมอด้านศัลยกรรมประสาท ((ซึ่งพบว่ามีไม่เยอะเลยนะคะ คุณหมอด้านนี้))
เอ้าไปค่ะ บ้านอยู่รังสิต ไปรพ.ธนบุรีก็ไปค่ะ แค่ข้ามกรุงเทพไปเท่านั้นเอง ไม่ไกลๆๆ
ไปถึงรพ.ธนบุรี คนไข้เยอะมากค่ะ นี่ขนาดรพ.เอกชนนะคะ รอพบหมออยู่ 4 ชม. ไล่จับเด็กเหนื่อยเลยค่ะ
คนไข้ทางด้านนี้ส่วนใหญ่เ็ป็้นคนแก่ และคนที่ประสบอุบัติเหตุนะคะ เด็กปัณณ์เด็กสุด ((อ่ะนะ มันแหงอยู่แล้ว อายุขวบกะไม่ถึงเดือน จะหาคนไข้เด็กกว่านี้ก็ยากหน่อยอ่ะ))

คุณหมอศรันย์คลำดู ก็มีความเห็นว่าต้องทำ MRI เพื่อดุว่าก้อนเนื้อมันมีรากลงไปถึงสมองหรือไม่ หรือเ็ป็นก้อนเนื้อแค่ที่ผิวเท่านั้น

ปกติการทำ MRI ไม่ได้เจ็บปวดอะไรนะคะ แค่เข้าไปในอุโมงค์ มีเสียงดังนิดหน่อย นอนนิ่งๆ ก็เรียบร้อย แต่การทำ MRI สำหรับเด็ก 1 ขวบ มันต่างกันค่ะ เพราะคุณท่านคงไม่ให้ความร่วมมือในการนอนนิ่งๆ แน่ๆ ก็เลยต้องมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นคือวางยาสลบก่อนทำ

ฟังดูง่ายมั้ยคะ สบายๆ นะคะ แต่อิชั้นน่ะ เครียด

แล้วคิว MRI ก็มิใช่จะได้มาง่ายๆ ขนาดรพ.เอกชนน้า ตอนแรก รพ.จะนัดมาทำ MRI ตอนบ่าย
คิดในใจ ไม่เคยมีลูกใช่มั้ยคะ ถึงคิดว่าเด็กจะอดข้าวอดน้ำได้ครึ่งวันอ่ะ
ขอเป็นเช้าค่ะ คิวแรก รอหลายวันหน่อยไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอคิวแรกเท่านั้น

เอารูปเครื่อง MRI มาให้ดูนะคะ มาจากที่นี่ค่ะ //en.wikipedia.org/wiki/MRI


ขั้นตอนทำ MRI สำหรับเด็กนะคะ เขาจะให้กินยานอนหลับ ((แทนยาสลบ เพื่อลด effect ที่จะเกิดกับเด็ก)) ซึ่งอันนี้ก็ทามานทรกรรมจริงๆ ค่ะ ต้งกรอกยานอนหลับ ซึ่งเด็กปัณณ์ ((ตอนนั้น)) ไม่เคยกินยา เพราะไม่เคยป่วย ((ยกประโยชน์ให้นมแม่ล้วนๆ จ้า)) ก็เลยร้องซะ กว่าจะปล้ำกินยาได้
พอกินยาเสร็จเขาก็พาลงมาที่ห้อง MRI แต่ลูกอิชั้นประสาทแข็งค่ะคุณคะ ไม่หลับอ่ะ ทำไงก็ไม่หลับ พี่สิต้องอุ้มกล่อม แล้วขอโทษนะคะ ขอบ่นนิดนึง คุณพนักงานห้อง MRI ก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือใดๆเลย แทนที่จะทำบรรยากาศเงียบๆ เพื่อให้เด็กหลับ คุณน้องเธอเล่นเดินเข้าเดินออก เก็บโน่นนี่ เสียงดัง แล้วแมวที่ไหนมันจะหลับคะ

แล้วในที่สุด ด้วยความสามารถระดับปารมาจารย์ของสามี คุณลูกก็หลับไปในที่สุด

ตอนช่วงที่ทำ MRI เขาจะมีตัวล็อคมาล็อคหัว และตัวให้นิ่งๆ มี head phone กันเสียง ซึ่งในระหว่างทำเสียงดังมากค่ะ เราอยู่กับลูกในห้อง MRI ลุ้นที่สุดในชีวิต กลัวลูกตื่น เพราะเสียงมันดัง แล้วมีหลายจังหวะด้วยนะคะ ไม่ใช่ดังต่อเนื่องโทนเดียว

และแล้วเวลาผ่านไป 20 นาที เสร็จไป เราก็โล่งใจ
แต่....
คุณน้องพนักงานประจำห้อง MRI ทำพลาด ลืมฉีดสีเพื่อดูเส้นเลือด ((ใช่เรียกฉีดสีเปล่าไม่แน่ใจนะคะ แต่ต้องเอายาใส่ในน้ำเกลือ แล้วจิ้มเข็มเหมือนให้น้ำเกลืออ่ะค่ะ))
ซึ่งที่จริงขั้นตอนนี้ควรจะทำก่อน เพราะการที่จะมาจิ้มน้ำเกลือเด็กหลับ เด็กก็ตื่นอ่ะดิ แล้วก็เป็นไปตามคาด เด็กปัณณ์ตื่น แล้วคราวนี้กล่อมไงก็ไม่หลับต่อแล้วคร้าบ เลยไม่ได้ทำต่อ

แต่ว่าก็ยังมีความโชคดีบนความโชคร้ายอยู่บ้าง คือการทำ MRI ในช่วงแรก เพียงพอแล้วสำหรับการวินิจฉัยโรค

สรุปว่าก้อนเนื้อก้อนที่ว่าคือ Epidemoid Cyst
แล้วมันคือไรง่ะ หน้าที่การงานก็ใกล้เคียงกับการแพทย์เสียเหลือเกิน สถาปนิกกับวิศวกรเนี่ย
ไม่เป็นไร หาข้อมูลเอาในเนทได้ มีเจ้าพ่อกูเกิ้ลอยู่ทั้งคน
ข้อมูลมีเยอะมากๆนะคะในเนท สรุปว่า มันก็คือก้อนเนื้องอกธรรมดา ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศทุกวัย และไม่มีอันตรายใดๆ

หูย โล่งอกไปพะเรอเลยคะตอนนั้น แต่ว่า ((อีกแระ)) มันต้องผ่าออกเท่านั้นค่ะ

เพราะฉะนั้นขั้นตอนต่อไป คือผ่าตัด เฮ้อ....




 

Create Date : 12 เมษายน 2550   
Last Update : 12 เมษายน 2550 10:06:31 น.   
Counter : 920 Pageviews.  

Epidemoid Cyst 1

Blog นี้ขอเขียนไว้บันทึกความจำ และเผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดีนะคะ

เด็กปัณณ์ หรือ เด็กชายปัณณะ เกิดวันที่ 22 กรกฎาคม 2548 น้ำหนักแรกคลอด 3220 กรัม ยาว 52 กิโลกรัม ด้วยการผ่าตัด เนื่องจากแม่มีปัญหาไม่สามารถคลอดด้วยวิธีธรรมชาติได้
สุขภาพแข็งแรงดี พัฒนาการปกติค่ะ

แต่มีเรื่องนึงที่ไม่ปกติ คือ เด็กปัณณ์มีก้อนเนื้อขนาดประมาณ 1 นิ้ว นูนออกมาตรงตำแหน่งกระหม่อมที่เปิดพอดี
ในช่วงแรก คุณหมอเด็กบอกว่า คงไม่มีปัญหาอะไร อาจจะเป็นถุงน้ำ คาดว่าจะสามารถหายไปเองได้

จากรูปนี้จะพอเห็นนะคะ ตรงกระหม่อมอ่ะค่ะ นูนๆ ขึ้นมา คลำเจอได้ง่ายๆ เลย


เด็กปัณณ์ก็ปกติดีนะคะ ไม่ได้อาการเจ็บปวด หรืออะไร ยังเล่นซนเหมือนเด็กอื่นๆ ชอบทำท่าโยคะเด็ก คือโก้งโค้งเอาห้วปักพื้น

เราและสามีก็ไม่คิดอะไรมาก เชื่อคุณหมอ ว่าเด๋วมันจะหายไปได้เอง
ในวันที่ไปฉีดวัคซีนตอนครบขวบ คุณหมอเด็กประจำก้มาคลำดูอีกครั้ง แล้วแนะนำว่า ตอนนี้มันก็ยังไม่หายไป หมออยากให้ไปคุยกับคุณหมอด้านศัลยกรรมเด็ก เพื่อรับฟังความเห็นเพิ่มเติม

ในตอนนั้น เราและสามีก้ยังไม่คิดอะไรมาก มั่นใจมากว่าคงไม่มีอะไร โดยเฉพาะเรา วึ่งมั่นใจสุดๆ ว่า เด็กปัณณ์ปกติ เด๋วมันจะหายไปเอง

และวันที่นัดหมอศัลยกรรมเด็กมาถึง คุณหมอคลำดูแล้วบอกว่า หมอบอกอะไรไม่ได้ ต้องให้คุณหมอทางด้านศัลยกรรมประสาทมาดูอีกที เพราะตำแหน่งของก้อนเนื้ออยู่ตรงกระหม่อม ไม่มีกระโหลกขั้น หมอไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นก้อนเนื้อที่มีรากลงไปถึงสมองหรือไม่ และใน่ความเห็นเบื้องต้นของหมอ แนะนำว่า ควรจะต้องผ่าตัดเอาออก เพราะมันจะไม่หายไปเองแน่นอน

ขอสารภาพเลยว่า พอฟังหมอพูดแค่นั้น เหมือนโลกถล่มเลยค่ะ คำว่า neurosurgeon มันกระแทกความรู้สึก มันดูรุนแรง และซีเรียสจริงๆ เลย นี่เขาพูดถึงลูกเราจริงๆ เหรอ เจ้าเด็กซ่าส์คนนี้เนี่ยนะ

คุณหมอศัลยกรรมเด็กก็ติดต่อคุณหมอด้านศัลยกรรมประสาทให้ แต่บังเอิญว่าคุณหมอไม่อยู่ เลยเป็นการคุยระหว่างหมอ 2 ท่านทางโทรศัพท์ ซึ่งเราก้นั่งอยู่ด้วย คุณหมอศัลยกรรมประสาทสั่งว่าให้ทำ MRI รอเลย แล้วหมอจะเข้ามาดูว่าจะทำอะไรต่อไป

คุณหมอศัลยกรรมเด็กเลยถามว่า เราจะเอายังไง เรายังงงๆ อยู่อ่ะค่ะ ทำอะไรไม่ถูก แต่ลึกๆ ในใจ บอกว่า ไม่ทำ ไม่ทำอะไรทั้งนั้น จะกลับบ้าน จะพาลูกกลับบ้าน ก่อนมารพ. ลูกยังเ็ป็้นเด็กปกติ แต่แค่คำพูดหมอคำเดียว ลูกต้องกลายเป็นคนไข้ที่ต้องผ่าตัดสมอง ต้องทำ MRI โอ้ว รับไม่ได้อ่า ((ตอนนั้นอารมณ์เว่อร์นะคะ อย่าสนใจ อ่านข้ามไปได้ค่ะ))

คุณหมอคงเห็นเรานั่งงง ก็เลยบอกว่า ตามความเห็นของผม ควรให้พบคุณหมอก่อนที่จะทำ MRI เพราะการที่จะทำอะไรโดยผ่านการคุยทางโทรศัพท์ ผมไม่เห็นด้วย แต่ก็แล้วแต่คุณแม่นะครับ

ในความรู้สึกเราตอนนั้น คุณหมอคนนี้น่ารักมากๆ ส่วนคุณหมอศัลยกรรมประสาทท่านนั้น เราก็ไม่รู้นะคะว่าอาจเป็นสไตล์การทำงานของเขา แต่มันคนละแนวคิดกับเรา เราก็เลยพาลูกกลับบ้านมาตั้งหลัก คิดอะไรไม่ออกทั้งนั้นในเวลานั้น




 

Create Date : 12 เมษายน 2550   
Last Update : 12 เมษายน 2550 9:18:30 น.   
Counter : 1215 Pageviews.  

ฮือๆๆๆ แม่ง่วงน้า

มาทำงานด้วยความมึน ปวดตาตุบๆ สงสัยเพราะห้องมันไม่มืด
เหตุมาจากเด็กปัณณ์นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นมาร้องๆๆๆ ตอนดึก
คุณสามีเลยไอเดียกระจ่าง ลองเปิดไฟนอน
เหอๆๆๆๆ ดันได้ผลซะอีกแหนะ หลับยาวเลยลูกชั้น
เวงกำ ต่อไปคงต้องเปิดไฟมันทุกคืน

ไม่รู้เป็นไร ช่วงนี้ตื่นบ่อย แถมร้องไห้ แล้วต้องอุ้มๆๆๆ กล่อมๆๆๆ
พอเ็ห็้นว่าหลับ แล้วจะวาง คุณก็ตื่นมาร้องใหม่ ก็ต้องอุ้มขึ้นมาใหม่
อุ้มๆๆๆ กล่อมๆๆๆ พอหลังแตะที่นอน ก้ร้องใหม่
ก็ต้องเริ่มกระบวนใหม่อีกครั้ง วนอยู่อย่างนี้ ประมาณ 5-6 รอบ

ที่พูดมาทั้งหมด สามีทำนะคะ อิชั้นหลับค่ะ ห่ะๆ
ก็คุณเขาติดพ่ออ่ะ จะไปช่วยอุ้มเขาก็ไม่เอาอิชั้นอ่ะค่ะ
แม่มีไว้เล่นเท่านั้นคร้าบ พ่อมีไว้อ้อน
อิอิ มีแอบสบาย (บนความง่วงของสามี)




 

Create Date : 11 เมษายน 2550   
Last Update : 11 เมษายน 2550 9:31:50 น.   
Counter : 525 Pageviews.  

1  2  3  4  

UtsU
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




คุณแม่ลูกหนึ่ง เป็นมนุษย์เงินเดือน ชีวิตหวือหวาเป็นช่วงๆ ตามแต่ชะตาจะพาไป

[Add UtsU's blog to your web]