พิพิธภัณฑ์ มหาเธร์ โมฮัมหมัด
นุ้ยไปมาตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมแล้วค่ะ แต่เพิ่งมีเวลาเข้ามาเขียนบล๊อค ไม่ว่ากันนะคะ

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ของสะสม ของนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย

ตั้งอยู่ที่เกาะลังกาวี ภายในมีทั้งของสะสมส่วนตัว และของที่ได้รับเป็นจากประเทศต่างๆ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  

ค่าเข้าชมคนละ 10 ริงกิตนะคะ ใครจะถ่ายภาพ ก็เสียค่ากล้องเพิ่มอีก 2 ริงกิตค่ะ จะได้สายคาดข้อมือมาแบบนี้

นุ้ยค่อนข้างชอบที่นี่นะคะ สถาปัตยกรรมเค้าสวยงาม ละเอียดมาก

แต่ตอนที่ไปนี่ร้อนมาก อาจจะเพราะคนไม่เยอะเลยไม่เปิดแอร์ ของเยอะมากๆ ถ้าจะเดินดูละเอียดๆ นี่คงต้องใช้เวลาเป็นวันๆ เลยค่ะ

ของมีหลากหลายมากค่ะ ดูกันตาลายเลย

รถก็มีไม่ใช่น้อย

สิ่งที่เราจะได้เจอเยอะที่สุดที่ลังกาวี ก็คือ กริชค่ะ ตามตำนานของพระนางมัดสุหรี

 เป็นคนไทย ก็ต้องเดินหาของขวัญที่มาจากเมืองไทยสินะคะ

เดินดูแล้วก็คิดไปว่า แล้วผู้นำประเทศของเราทั้งหลายล่ะ คงได้รับของกำนัลมากมายแบบนี้เหมือนกัน เราจะมีโอกาสได้เห็นมั้ยน๊า 

จะลงภาพทั้งหมดก็จะยาวไป แวะชมภาพเพิ่มเติมได้ที่บล๊อคของนุ้ยนะคะ

เป็นพิพิธภัณฑ์ของสะสม ของนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ตั้งอยู่ที่เกาะลังกาวี ภายในมีทั้งของสะสมส่วนตัว ...

Posted by Pooklook ตะลอนทัวร์ on 24 เมษายน 2015




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:15:29 น.
Counter : 1082 Pageviews.

0 comment
ซัวสะเดย กัมพูชา ตอนที่ 6 กบาลสเปียน ปราสาทบันทายคดี หมู่ปราสาทแม่บุญตะวันออก
รับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ก็เดินทางต่อไปที่กบาลสเปียนค่ะ ที่นี่มีจุดเด่นคือภาพจิตรกรรมต่างๆ ในน้ำตก จากทางเข้าใช้เวลาในการเดินไปน้ำตกพอสมควรเลยค่ะ เล่นเอาเหงื่อตกเหมือนกัน 

ถึงแล้วค่ะ 

ศิวลึงค์ใต้น้ำ

รูปแกะสลักตรงนี้ นุ้ยเห็นข่าวว่าโดนโจรกระเทาะออกไปแล้ว ยังทำใจ ว่ามาคราวนี้คงไม่ได้เห็น ปรากฏว่าเค้าซ่อมแซมเรียบร้อยแล้วค่ะ

ผีเสื้อเยอะค่ะที่นี่

ถ้ามาช่วงฤดูฝนน้ำคงเยอะกว่านี้นะคะ

เราใช้เวลาที่นี่ค่อนข้างนาน นานตอนเดินนี่แหล่ะค่ะ ได้อยู่ที่น้ำตกแป๊บเดียวเอง ตอนแรกตั้งใจกันไว้ว่าจะไปเบงเมเลียด้วย แต่คงไม่ทันแล้ว เสียดายมากๆ เลยค่ะ สงสัยจะได้กลับมาเที่ยวที่กัมพูชาอีกรอบแน่ๆ ออกจากบาลสเปียนเราจึงไปที่ปราสาทบันทายคดีเลย

นุ้ยรู้สึกว่าที่นี่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่นะคะ ระเบียงยังอยู่เลย

ด้านในของแต่ละปราสาทก็มักจะเจอผู้เฒ่าผู้แก่พาสวดมนต์ไหว้พระแบบนี้ค่ะ

อยากเห็นตอนยังสมบูรณ์จัง ว่าจะเป็นยังไง

เพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันค่ะ หมดแรงกันหมดแล้ว ปราสาทที่กัมพูชานี่สูงๆ ทั้งนั้นเลย

ถัดไปเป็นปราสาทตาสม และเราจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ตกกันที่หมู่ปราสาทแม่บุญตะวันออกค่ะ หน้าตาของทั้งสองที่นี้จะคล้ายๆ กันเลย ขนาดนุ้ยกลับมาดูรูปทีหลังยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ว่าที่ไหนเป็นที่ไหน

ปราสาทแม่บุญตะวันออก ทางขึ้นชันมากค่ะ ขึ้นมาถึงมองลงไปแทบหัวใจวาย คิดเลยว่าจะกลับลงไปทางเดิมยังไงได้ตกลงไปตายแน่ๆ แต่พอเดินๆ ไปก็เจอทางลงอีกด้านนึงค่ะ

นักท่องเที่ยวมารอพระอาทิตย์ตกกันเต็มไปหมด

มองลงไปด้านล่าง

นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ เวลายืนอยู่บนนั้น กลัวโดนชนตกลงมามากๆ เลย ไม่มีอะไรกั้นด้วย

ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:13:51 น.
Counter : 1655 Pageviews.

0 comment
ซัวสะเดย กัมพูชา ตอนที่ 5 ชมปราสาทพระขรรค์ ปราสาทบันทายสรี
วันที่ 3 ในดินแดนกัมพูชา ตอนแรกวางแผนไว้ว่าเช้ามืดจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ทีนครวัดอีกรอบ แต่ตื่นกันไม่ไหวค่ะ เลยจะไปเที่ยวปราสาทรอบนอกเมืองเสียมเรียบกันเลยนะคะ วันนี้รถที่กลุ่มนุ้ยเหมาไว้ ขับรถจัดรถแท๊กซี่มาให้เพราะแต่ละที่ค่อนข้างไกลค่ะ จุดแรกที่เราไปคือปราสาทพระขรรค์

นุ้ยอ่านรีวิวมาเจอที่นี่ค่ะ เลยบอกเพื่อนว่าต้องมาที่นี่ให้ได้ เค้าว่าทัวร์ไม่ค่อยมาลง ทำให้มีนักท่องเที่ยวไม่เยอะ

นุ้ยค่อนข้างชอบที่นี่นะคะ ยังสวยงามอยู่เลย นักท่องเที่ยวก็น้อย

มีคนเล่าให้ฟังว่า ที่นี่สร้างขึ้นในยุคเดียวกับปราสาทตาพรหม พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างปราสาทตาพรหมให้มารดา สร้างปราสาทพระขรรค์ให้กับบิดาค่ะ 

มีการซ่อมแซมเป็นระยะๆ

นุ้ยยืนมองตรงนี้อยู่นานเลยค่ะ สงสัยว่าทำหลังคาแบบนี้ยังไง วางหินยังไงมันถึงไม่ร่วงลงมา

ก่อนจะกลับออกมา มองเข้าไปในแต่ละห้อง ก็เห็นมีภาพสลักอยู่ แต่นุ้ยก็ไม่กล้าเข้าไปดูค่ะ เพราะมืดมาก ไม่ได้ติดไฟฉายมาด้วย

สถานที่ถัดไป คนไทยเรียกว่า ปราสาทบันทายสรี แต่ชาวกัมพูชาเค้าเรียกปราสาทบันทรีสไลค่ะ

ที่นี่นักท่องเที่ยวเยอะค่ะ

ปราสาทนี้โดดเด่นตรงที่เป็นสีชมพู (แต่นุ้ยว่าสีเหมือนดินแดงเลยค่ะ)

นุ้ยอยู่ทีนี่แว๊บเดียวค่ะ เพราะเบื่อคนเยอะ จะกลับออกมาทางเดิม ก็เจอป้ายห้ามผ่าน ต้องย้อนกลับไปออกด้านหลัง เดินวนไปวนมาจนเหนื่อยค่ะ ที่นี่ทางเข้าทางออกจะเป็นคนละทางกัน

เดินได้ 2 ที่ก็หิวแล้วค่ะ บอกให้พี่คนขับรถพาไปทานข้าว พี่เค้าบอก เมื่อวานขับรถให้ฝรั่งหิวบ่ายสอง วันนี้ขับรถให้คนไทย สิบเอ็ดโมงกว่าๆ หิวแล้ว เราก็พากันหัวเราะค่ะ วัยกำลังกินกำหลังนอนทั้งนั้นเลย 

ค่าเสียหายมื้อนี้ค่ะ




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:13:23 น.
Counter : 1328 Pageviews.

2 comment
ซัวสะเดย กัมพูชา ตอนที่ 4 บันทายคดี ตาพรหม นครวัดยามเย็น
รับประทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางมาที่ปราสาทบันทายคดี ซึ่งอยู่ไม่ไกล

เมื่อหลายปีก่อน นุ้ยเคยไปอรัญญประเทศ ตอนนั้นเจอขอทานชาวกัมพูชามากมาย แต่เดี๋ยวนี้ขอทานน้อยลงมากเลยนะคะ 

เวลาเจอเด็กๆ นั่งอยู่ แรกๆ ก็ไม่กล้าถ่ายรูป กลัวโดนขอเงิน แต่ก็ไม่เห็นน้องๆ เค้าจะว่าอะไร ก็เลยถ่ายกันสนุกสนานเลย

ที่นี่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยเยอะค่ะ เดินได้สบายๆ 

รูปสลักก็จะคล้ายๆ กับที่อื่น 

เหลือบมองกล้องตัวเอง แบตลดลงไปแล้วครึ่งนึง เลยไม่กล้าถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ ต้องไปอีกลายที่ ต้องใช้มือถือถ่ายด้วยบ้าง

อยากเขกหัวตัวเองที่งกไม่เข้าเรื่อง ไม่ยอมซื้อแบตมาเพิ่มอีกซักก้อน

เครื่องบูชาเค้าแปลกดีนะคะ

สถานที่ต่อไป คือปราสาทตาพรหมค่ะ ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก เพราะเป็นฉากในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง tomb rider จากบริเวณทางเข้าต้องเดินไปอีกไกลเลยค่ะ

ที่นี่พังไปเยอะเชียวค่ะ แต่ก็มีการซ่อมแซมกันอยู่ตลอด

บอกไม่ถูกเหมือนกันนะคะ ว่าควรปล่อยให้ผุพังไปตามกาลเวลา หรือควรชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ดี

นักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ ที่เบื่อคือกลิ่นบุหรี่ ที่นี่ทั้งชาวบ้านทั้งนักท่องเที่ยวสูบบุหรี่กันเยอะเหลือเกิน ต้องสวมหน้ากากไว้ตลอดเวลาเลย

มุมมหาชนค่ะ วันนี้เกือบได้ทะเลาะกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี คนไทยกับฝรั่งกำลังต่อแถวรอถ่ายรูปกันอยู่ นักเที่ยวเกาหลีมาจากไหนไม่รู้ เดินแทรกมาบังตอนที่กรุ๊ปนุ้ยกำลังยืนถ่ายรูปอยู่เลยค่ะ ไทยกับฝรั่งก็ได้แต่มองหน้ากัน

มุมสงบๆ จะอยู่ด้านในค่ะ ที่นี่เป็นปราสาทหลังใหญ่ เดินกันเหนื่อยเหมือนกันค่ะ ขนาดมาช่วงหน้าหนาวยังร้อนมากๆ ใครมาช่วงหน้าร้อนนี่เตรียมน้ำดื่มติดตัวไว้เลยนะคะ

ปราสาทที่กัมพูชานี่เดินดูลวดลายต่างๆ ได้เพลินดีนะคะ 

วันนี้เราจะจบทริปกันที่นครวัดค่ะ คนขับสามล้อพาเราเข้ามาทางด้านหลัง

เข้ามาทางด้านหลังจะเจอบรรยากาศที่เงียบสงบร่มรื่นมากค่ะ เดินมาใกล้ๆ นครวัด ก็จะเจอปราสาทหลังเล็กๆ แอบอยู่

ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ปราสาทก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถ่ายรูปยังไงก็เก็บความตื่นตาตื่นใจจากมุมนี้ไม่ได้ ต้องมาสัมผัสเองค่ะ

ตอนแรกนึกว่านักท่องเที่ยวน้อยแล้วซะอีก 

แต่พอเข้ามาภายใน

เค้าว่ากันว่า นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ จะชอบมาดูทรงผมของนางอัปสรา ที่มีมากมายนับไม่ถ้วนเลย ช่างฝีมือเค้าเก่งมากเลยนะคะ จินตนาการได้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ

วันนี้เดินไม่ทั่วแน่ๆ เลยค่ะ นุ้ยขาล้าเต็มทนแล้ว

ปราสาทก็มีลักษณะๆ ขึ้นๆ ลงๆ กินแรงไปเยอะเลยค่ะ

ตัวปราสาทมี 3 ชั้นนะคะ แต่นุ้ยเดินขึ้นไปไม่ไหวแล้ว ขอชมด้านล่างๆ แล้วกันวันนี้

นางอัปสราโดนลูบจนผิวมันเลยนะคะ นุ้ยก็แอบคิด ถ้าเป็นเราโดนคนแปลกหน้าจับหน้าอกแบบนี้ จะอวยพรให้เค้าหรือ

ไม่ต้องถามเลยว่าฝีมือนักท่องเที่ยวชาติไหน

นครวัดยามเย็น ก็สวยไปอีกแบบนะคะ

ยืนคุยกับเพื่อนอยู่ หางตาเห็นอะไรเคลื่อนไหวแว๊บๆ ที่สระน้ำ เลยหันไปดู แล้วต้องเปลี่ยนเป็นเลนส์เทเลมาเก็บภาพเลยค่ะ

พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแล้ว เตรียมตัวกลับที่พักค่ะ

ยังมีนักท่องเที่ยวรอเก็บบรรยากาศยามเย็นต่อไปอีก

มีทั้งคนทีกลับออกไป และเข้ามาใหม่ สงสัยเหมือนกันนะคะ ว่าเค้ารอดูอะไรกัน เพราะที่นี่ตอนกลางคืนไม่ได้เปิดไฟ




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:12:54 น.
Counter : 1238 Pageviews.

0 comment
ซัวสะเดย กัมพูชา ตอนที่ 3 เที่ยวนครธม
ออกจากนครวัดแล้วเราก็เดินทางต่อมาที่นครธมค่ะ ตอนแรกเลย นุ้ยก็นึกว่านครธม คือ ปราสาทอีกปราสาทนึงซะอีก ตอนคนขับบอกจะพาไปที่บายน นุ้ยยังถามว่าทำไมไม่พาไปนครธมด้วย สรุป นครธม คือ ชื่อเมือง มีปราสาทบายนอยู่ใจกลางเมือง และประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างอีกมากมาย มีกำแพงล้อมรอบตัวเมืองด้วยนะคะ

ขนขับตุ๊กตุ๊ก จอดให้เราขึ้นไปถ่ายรูปบนกำแพงเมืองด้วยค่ะ สูงเอาการ เล่นเอานุ้ยขาสั่นเลย เพราะมันไม่มีรั้วกั้น

กรุ๊ปเราเข้าจากทางด้านหลังของตัวปราสาทค่ะ เพราะคนน้อยกว่า

แสงกำลังสวยเชียว

ใจกลางปราสาทนักท่องเที่ยวเยอะมากค่ะ นุ้ยเข้าไม่ถึงมุมมหาชน ที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกันเลย

ด้านในคนเยอะมาก ขอออกมาเดินชมด้านนอกดีกว่าค่ะ

เดินดูแล้วก็ได้แต่สงสัย คนโบราณสร้างกันได้ยังไง หินแต่ละก้อนก็หนักมาก เอามาซ้อนๆ กันยังถึงเป็นปราสาทหลังมหึมาได้ แถมยังมีลายแกะสลักอีก เก่งจริงๆ เลยนะคะ

มาทริปนี้ใช้กล้องใหญ่บ้าง กล้องมือถือบ้างตามอารมณ์เลยค่ะ 

กลุ่มนุ้ยไม่ได้จ้างไกด์ เลยไม่มีใครมาคอยอธิบายเรื่องราวของปราสามแต่ละหลังให้ฟัง เสียดายเหมือนกันค่ะ

เดินไป ก็แอบบ่นในใจไป ทำไมไม่ทำเรียบๆ ไปเลยเนอะ เดินขึ้นเดินลงจนเหนื่อย แล้วข้าทาสบริวารสมัยก่อนวันๆ ต้องเดินวันละกี่รอบก็ไม่รู้ คงเหนื่อยมาก บันไดก็มักจะแคบด้วยนะคะ เดินตัวเปล่าๆ มีแค่กระเป๋ากับกล้องยังลำบาก แล้วถ้าต้องถือถาด ถือของ โอย..ไม่อยากจะคิดค่ะ

ออกจากบายน ก็เดินต่อไปที่ปราสาทบาปวนค่ะ ที่นี่นุ้ยขึ้นไปชมแค่ชั้นเดียว แล้วกลับลงมา เพราะขี้เกียจเดิน และเค้าห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ขึ้นไป นุ้ยเลยลงมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ที่พาลูกมาด้วยค่ะ พี่เค้าไม่กล้าทิ้งลูกไว้ข้างล่างคนเดียว แต่นุ้ยก็เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนทิ้งเด็กให้รอข้างล่าง แล้วตัวเองขึ้นไปชมปราสาทนะคะ

ที่ปราสาทนี้ทางขึ้นกับทางลงอยู่คนละด้านกันค่ะ แล้วปราสาทใหญ่มาก ทำให้เกิดการพลัดหลงกัน สัญญานมือถือไม่มีซะด้วย รอกันเป็นชั่วโมงก็ไม่เจอค่ะ จนตัดสินใจเดินออกมาด้านนอก ถึงได้เจอกัน มาถึงตอนนี้ก็หิวข้าวมากแล้วค่ะ เลยไม่มีอารมณ์จะเดินดูอย่างอื่นเลย ทั้งที่บริเวณนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกเยอะนะคะ ถ้ามีโอกาสได้มาอีกก็คงจะดี

บริเวณด้านนอกมีปราสาทเล็กๆ อีก 12 หลัง คนขับรถบอกว่าเป็นของนางสิบสองค่ะ นุ้ยก็นึกว่าตำนานนางสิบสองมีแต่เมืองไทยที่เดียวซะอีกนะเนี่ย

ออกจากที่นี่ นุ้ยก็ไปหาอาหารกลางวันกันแถวปราสาทบันทายคดีค่ะ บอกคนขับรถให้พาไปร้านเล็กๆ ถูกๆ เค้าบอกว่าตามแหล่งท่องเที่ยวก็ราคาพอๆ กันหมด ตอนที่สั่งผัดกระเพราก็ถามเค้าแล้วว่าราดข้าวหรือเปล่า เค้าก็พยักหน้า เลยสั่งข้าวผัดกระเพรามา 2 จาน สรุปเป็นอาหารจานเดียวค่ะ เราเลยได้กินผัดกระเพราหมูจานใหญ่ๆ 2 จาน ส่วนข้าวเปล่านี่เติมได้เรื่อยๆ ข้าวเค้าหอมมากนะคะ ติดใจข้าวเปล่า ที่ร้านนี้เราก็คิดได้ว่า ครั้งต่อไปเราสั่งเป็นกับข้าวและข้าวเปล่าจะถูกกว่าสั่งเป็นอาหารจานเดียว ที่เป็นแกงๆ คือ amok ค่ะ อาหารประจำชาติของกัมพูชา คล้ายแกงเขียวหวานบ้านเรา แต่จืดกว่าเยอะ ส่วนอีกจาน คือ ไก่สะเต๊ะ น้ำจิ้มไก่สะเต๊ะนี่มีรสชาดที่สุดในบรรดาอาหารทั้งหมดที่สั่งมาเลยค่ะ อยู่ที่นี่คิดถึงพริกน้ำปลามากๆ 

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ 




Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2559 15:12:27 น.
Counter : 751 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  

ท่องเที่ยวไปตามใจฉัน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog