ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส จ.ระยอง

นุ้ยเริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ตีสอง ตั้งใจไว้ว่าจะไปเก็บทางช้างเผือกกันสักหน่อย แต่สุดท้ายหลงกันไปหลงกันมาฟ้าเริ่มสางซะก่อนเลยไม่ได้ช้างมาสักรูปเลยค่ะ ตอนที่เราตั้งกล้องถ่ายรูปกันก็เปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้ เพราะแถวนั้นมืดมาก ปรากฏว่าแบตหมดค่ะ เช้ามืดรถผ่านก็น้อย โบกกี่คันกี่คันก็ไม่มีสายพายพ่วงแบต คันที่มีก็เป็นรถเล็กพ่วงรถเราไม่ได้ จนมีคุณลุงขี่จักรยานผ่านมา คงทำใจทิ้งพวกเราไปเฉยๆ ไม่ไหวจึงโทรเรียกเพื่อนให้มาช่วย เสียดายที่ไม่ได้ขอถ่ายรูปคุณลุงไว้ชัดๆ คนดีมีน้ำใจแห่งเมืองระยอง....เห็นแต่หน้าตัวเองเต็มจอเลย

รอกันเกือบชั่วโมงค่ะ เพื่อนของคุณลุงก็ขับรถกระบะมาถึง แต่ก็ไม่มีสายพ่วง โชคดีที่มีรถกระบะผ่านมาอีกคัน ที่รถเค้าไม่มีสายพ่วงหรอกค่ะ แต่มีที่บ้าน พี่เค้าเลยวนรถกลับไปที่บ้านเพื่อไปเอาสายพ่วงมาให้ พวกเราจึงรอดตายเดินทางต่อได้ ถามถึงค่าใช้จ่ายก็ไม่มีใครยอมรับเงินเราซักคนค่ะ คนระยองน่ารักจริงๆ

กว่าเราจะได้เข้าไปที่ทุ่งโปรงทองก็เกือบๆ จะแปดโมงแล้วค่ะ แดดเริ่มมาแล้ว อากาศร้อนจริงจังมาก ใครจะมาเที่ยวพกหมวก ร่ม ครีมกันแดดมาด้วยเลยนะคะ  ทุ่งโปรงทองสามารถเข้าได้ 2 ทาง คือ ทางอนุสรณ์เรือหลวงประแส กับทางวัดตะเคียนงาม ถ้าอยากจะเที่ยวแค่ทุ่งโปรงทองแนะนำเข้าทางวัดตะเคียนงามค่ะ จะเดินใกล้ ถ้าเข้าทางเรือรบเดินเป็นกิโลค่ะ นุ้ยก็เข้าทางวัดตะเคียนงาม

ทางเดินมีชำรุดหลายจุดนะคะ ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง เดินนิดเดียวก็ถึงทุ่งโปรงทองแล้วค่ะ

พวกนุ้ยพกของเล่นมาด้วยค่ะ แต่พอจะถ่ายนุ้ยนี่ฟองโดนพัดไปให้คนอื่นหมดเลย ตอนแรกก็ไม่อยากให้น้องเล่นกลัวรบกวนคนอื่น แต่ปรากฎว่าชอบใจกันใหญ่เลยค่ะ ขอยืมไปเป่าให้ถ่ายรูปกัน

แม่เป็นแบบ ลูกทำพร๊อพ

เมื่อก่อนไปเที่ยวไหนก็มีแต่รูปวิว รูปคนอื่น ไปก็เหมือนไม่ได้ไปกับเค้า แต่ถ้าไปกับกลุ่มเพื่อนที่เล่นกล้องด้วยกันมีรูปกลับบ้านแน่นอน

โฟโต้ชอบสุดฤทธิ์

เดินต่อค่ะ ยังไม่กลับ

แวะถ่ายรูปกันได้ตลอดทาง ที่นี่ไม่ได้สวยแค่ทุ่งโปรงทองนะคะ

รากใหญ่มาก บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ เดินไปจะได้ยินเสียงเป๊าะแป๊ะตลอดทาง ตอนแรกนุ้ยก็นึกว่าเสียงกิ่งไม้หล่น แต่ทำไมถี่จัง เพื่อนเลยบอกว่าเป็นเสียงของปูก้ามดาบ เสียดายที่นุ้ยถ่ายไม่ทันสักตัว วิ่งกันเร็วมาก

มุมถ่ายรูปไม่ได้มีแต่ที่ทุ่งโปรงทองนะคะ จุดสวยๆ ยังมีอีกเยอะ

ในน้ำเราจะเห็นหอย เป็นปลามากมายเลยค่ะ สมกับเป็นเส้นทางศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลน

ใกล้จะถึงทางเข้าทางอนุสรณ์เรือรบประแสแล้ว

คุณป้ากำลังเก็บหอยนางรมค่ะ บอกว่าเอาไปขายตรงเรือรบประแส เพราะฉะนั้นคอนเฟิร์มว่าหอยสดจริง เก็บให้เห็นกันจะๆ 

มาถึงจุดนี้พวกนุ้ยก็หิวข้าวตาลายแล้วค่ะ รีบๆ เดินไปหาข้าวกินกัน ไม่ได้ถ่ายรูปเรือรบเลย แถวเรือรบมีร้านอาหารหลายร้านนะคะ ราคารับได้และก็รสชาดใช้ได้เลย (หรือเพราะหิวก็ไม่รู้) พออิ่มแล้วก็จะกลับไปที่รถ แต่เดินย้อนกลับไปไม่ไหวแล้วเลยใช้บริการรถรับจ้างค่ะ คันนึงนั่งได้ 4 คน คนละ 30 บาท 

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ....

ขอบคุณเพื่อนช่างภาพที่ช่วยถ่ายภาพนุ้ยด้วย https://www.facebook.com/lek.miramalee

Create Date : 24 มีนาคม 2559 Last Update : 24 มีนาคม 2559 8:38:57 น. Counter : 2189 Pageviews.		9 comment
Share Tweet

ครั้งแรกกับการบูรณะพระพุทธรูป...วัดหนองตางู จ.อุทัยธานี

กิจกรรมคราวนี้เกิดขึ้นมาจากคุณพ่อของรุ่นพี่นุ้ยไปทำบุญที่วัดแถวบ้านบ่อยๆ แล้วเห็นว่าพระพุทธรูปที่วัดชำรุดเสียหาย จึงตั้งใจที่จะทำการบูรณะ คุยกับช่างที่รับเหมาแล้วกำหนดงบประมาณไว้ที่ 5 หมื่นบาท รุ่นพี่นุ้ยจึงโพสต์เฟสบุ๊คเพื่อบอกบุญกับเพื่อนๆ นุ้ยก็แชร์ต่อค่ะ พี่นกจากกลุ่มทหารเรืออาสามาเห็นเข้าก็มาคุยด้วย บอกว่าได้ไปทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มพุทธอาสามาหลายครั้ง เค้ามีสีอยู่เดี๋ยวจะขอมาให้คงประหยัดไปได้เยอะ คุยไปคุยมาคุณบอลหัวหน้ากลุ่มพุทธอาสาสนใจอยากจะร่วมบูรณะองค์พระด้วย จึงเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา

ใช้ระยะเวลาแค่เดือนกว่าๆ โครงการนี้ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาและเริ่มลงมือกันตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม โดยมี พี่นกจากลุ่มทหารเรืออาสา คุณบอลและน้องป๊อปจากกลุ่มพุทธอาสาเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เพื่อขัดสี และซ่อมแซมองค์พระในเบื้องต้น นุ้ยและเพื่อนๆ เดินทางตามไปสมทบในวันที่ 5 มีนาคม 

เริ่มจากการกระเทาะส่วนที่หลุดร่อนออก และขัดสีองค์พระ

จากนั้นก็ลงสีรองพื้นสองรอบค่ะ

ช่วยกันคนละมือคนละไม้

ลงสีทอง

ตกแต่ง

ถือโอกาสบูรณะพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ไปด้วยเลย

เก็บสีบริเวณฐานพระเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

สีที่ผสมไว้ยังเหลือ นำไปทาสีกำแพงโรงเรียนได้อีกค่ะ

ถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึก

ขอนุ้ยเข้ากล้องบ้าง

เช้าวันอาทิตย์นุ้ยกลับไปที่วัดอีกรอบค่ะ เพื่อนำเงินส่วนที่เหลือจากหักค่าใช้จ่ายไปถวายหลวงพ่อ เห็นผลงานแล้วก็อดชื่นใจไม่ได้

สรุปแล้วค่าใช้จ่ายในการบูรณะพระครั้งนี้อยู่ที่ประมาณหมื่นห้า ระดมทุนกันมาได้ประมาณหมื่นเจ็ด ยังมีเหลือถวายวัดนะคะ นอกจากจะประหยัดงบแล้ว จิตอาสายังได้ความอิ่มอกอิ่มใจกลับไปด้วย อนุโมทนาบุญจิตอาสาและผู้บริจาคทุกท่านนะคะ

สนใจร่วมกิจกรรมกับกลุ่ม "ทหารเรืออาสา ประชาชนร่วมใจ" ได้ที่ https://www.facebook.com/groups/1418804538385583/

Create Date : 08 มีนาคม 2559 Last Update : 8 มีนาคม 2559 11:30:11 น. Counter : 1165 Pageviews.		2 comment
Share Tweet

ลุยเดี่ยวเที่ยวนครศรีธรรมราช ตอนที่ 3

ออกจากวัดพระมหาธาตุนุ้ยก็ข้ามมาฝั่งตรงข้ามค่ะ แล้วเดินไปทางด้านขวามือนิดเดียวจะเจอร้านกาแฟไทชิ

แต่ยังไม่ได้เข้าไปใช้บริการก็เห็นว่ามีเรือนโบราณอยู่ใกล้ๆ จึงเดินเข้าไปดูค่ะ

ที่นี่คือบ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ค่ะ เข้าชมฟรีนะคะ

เข้าไปชมด้านในกันค่ะ

สำหรับประวัติของบ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์เข้าไปชมได้ที่ //baantankhun.com/?action=read&table=history&id=38

นุ้ยนั่งอยู่ที่นี่นานเชียวค่ะ เพราะว่าไม่ค่อยมีคน เงียบ สงบ และลมเย็นสบายด้วย รอเวลาเก็บภาพวัดพระมหาธาตุยามเย็น

มาถึงเวลานี้ก็จบทริปนครศรีธรรมราชของนุ้ยแล้วล่ะค่ะ เพราะอีกวันต้องเดินทางกลับไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวไหนต่อแล้ว

ถ้ามีโอกาสนุ้ยจะกลับมานครศรีธรรมราชอีกสักครั้ง มีที่เที่ยวอีกมากมายที่ยังไม่ได้ไปเยือนเลย ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2559 Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2559 14:53:57 น. Counter : 918 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

ลุยเดี่ยวเที่ยวนครศรีธรรมราช ตอนที่ 2

เวลาที่ไปเที่ยวคนเดียวนี่จะขี้เกียจมากเลยนะคะ คิดว่าจะตื่นแต่เช้าไปชมบรรยากาศตลาดในเมือง แต่ก็ตื่นไม่ทัน

สายๆ ถึงจะยอมอาบน้ำออกจากที่พักเพื่อกลับไปที่วัดพระมหาธาตุอีกครั้ง ใช้บริการพี่วินอีกเช่นเคยค่ะ

นุ้ยเพิ่งสังเกตในวันที่สองนี่เองนะคะว่าถนนเส้นนี้ไม่มีสายไฟฟ้า เค้านำสายไฟลงดินหมดแล้ว

อยากให้กรุงเทพเป็นแบบนี้บ้างจัง หน้าบ้านนุ้ยนี่สายไฟขาด หย่อนเต็มไปหมด แทบจะพันคนเดินผ่านไปผ่านมาเลยทีเดียว

บริเวณยอดพระธาตุยังมีการซ่อมแซมอยู่นะคะ

ซุ้มหน้าต่างๆ บริเวณรอบๆ โบสถ์ก็ละเอียดสวยงามนะคะ

ด้านขวาของวัดคนเยอะเชียวค่ะ นุ้ยเก็เลยเดินไปดู เค้าให้อาหารนกกันนี่เอง

เดินมาอีกนิดก็เจอป้ายนี้ เค้าเขียนว่าห้ามให้อาหารนกบริเวณนี้ ให้เอาไปให้ที่ลานทรายไกลๆ แต่ทำไงได้ ที่ลานทรายมันร้อน คนเลยให้กันแถวจุดที่ซื้อนี่แหล่ะค่ะ

พี่สาวคนนี้ก็คอยกวาดใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาตามแรงลมตลอดเลยค่ะ 

เดินมาทางด้านขวา (หันหน้าเข้าวัด) อีกนิด จะเจอมณฑปพระพุทธบาทจำลอง 

และพิพิธภัณฑ์วัดพระมหาธาตุ

ค่าเข้าชมแล้วแต่จิตศรัทธานะคะ หยอดตู้ทำบุญแล้วจะได้บัตรแบบนี้มา ด้านในพิพิธภัณฑ์ห้ามถ่ายภาพ นุ้ยเลยไม่มีภาพมาให้ชม ถึงจะไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้าภายใน แต่ก็ขอทำตามกฏที่เค้าวางไว้ดีกว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้าวของเครื่องใช้โบราณซึ่งทำให้รู้ว่าช่างสมัยก่อนมีความละเอียดประณีตมาก ของทุกชิ้นทำด้วยความตั้งใจที่จะทิ้งฝีมือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชม

ออกมาจากพิพิธภัณฑ์ด้วยประตูด้านในก็จะเข้าสู่ซุ้มพระเจดีย์-พระวิหารคด ที่มีพระพุทธรูปเรียงราย 

เริ่มจากรูปทางด้านซ้ายเมื่อออกจากประตูมาก่อนนะคะ นุ้ยไม่ได้เดินเข้าไปดูข้างในว่ามีอะไรอีกหรือเปล่า

นุ้นเดินไปทางด้านขวาค่ะ

มีกระดูกปลาวาฬมาจัดแสดงด้วย นุ้ยยังไม่เคยเห็นปลาวาฬตัวเป็นๆ เลยค่อนข้างทึ่งที่ปลาวาฬตัวใหญ่ขนาดนี้

อุ๊ย ป้ายอะไร

ท่าทางจะมีคนอ่านป้ายไม่ออก จริงๆ ก็ไม่ต้องมีป้ายเตือนคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะคะว่าไม่ควรทำ

ถึงจะมีป้ายแบบนี้ ก็ยังมีคนเขียน

ด้านนอกของซุ้มพระเจดีย์

วนกลับมาถึงบริเวณที่จุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระธาตุแล้วนะคะ ช่วงที่ไปนี่อากาศร้อนเหลือเกิน นุ้ยเลยยอมแพ้ เดินออกไปหาร้านกาแฟเย็นๆ แล้วค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ 

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2559 Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2559 14:53:06 น. Counter : 683 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

ลุยเดี่ยวเที่ยวนครศรีธรรมราช ตอนที่ 1

ตั้งชื่อเรื่องซะดูน่าตื่นเต้น เหมือนจะได้ไปเที่ยวเยอะแยะ จริงๆ แทบไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ

ทริปนี้นุ้ยเดินทาง 12-14 กุมภาฯ คิดไว้ว่าจะได้ใช้วันวาเลนไทน์กับใครบางคน สุดท้ายต้องเหลือตัวคนเดียวกระทันหัน

ก็เสียใจนะคะ แต่ความเสียดายเงินค่าตั๋วเครื่องบินมีมากกว่า คิดอยู่หลายตลบว่าไปหรือไม่ไปดีเพราะนุ้ยไม่เคยไปเที่ยวคนเดียวเลย

แต่ก็คิดว่าทุกคนก็ต้องมีครั้งแรกนะคะ อีกอย่างก็อยู่เมืองไทยหลงยังถามทางได้ก็น่าจะพอเอาตัวรอดได้

เป็นมือใหม่หัดเที่ยวคนเดียวยังไม่กล้าไปไหนไกล ทริปนี้เลยขออยู่แค่ในตัวเมืองก่อน (ใจจริงๆ อยากไปคีรีวงค่ะ)

นี่เป็นครั้งแรกนะคะที่นุ้ยมานครศรีธรรมราช และเป็นครั้งแรกที่ลงสนามบินเล็ก รู้สึกว่าสนามบินน่ารักจัง เล็กกระทัดรัด

จากสนามบิน รถสาธารณะอย่างเดียวที่มีคือแท๊กซี่ลิมูซีนค่ะ ค่าบริการเข้าเมือง 300 บาท อ่านในเพจสนามบินมีแต่คนบ่นว่าแพง มาใช้บริการจริงๆ นุ้ยก็ว่าแพงนะคะ เพราะสนามบินกับตัวเมืองห่างกันนิดเดียวเอง แต่พี่คนขับก็ใจดี ช่วยแนะนำที่พัก และพาวนไปดู ตอนเสิร์ชหาที่พักนุ้ยว่าจะพักที่บ้านสุพรรณิการ์ค่ะ แต่พี่เค้าว่ามันอยู่ในซอยลึก ไม่มีรถสองแถวผ่านจะออกไปเที่ยวไหนลำบาก หลังจากไปดูที่พักแถววัดพระมหาธาตุมาแล้ว นุ้ยก็ยังชอบบ้านสุพรรณิการ์มากกว่าค่ะ

ที่พักราคา 550 บาทต่อคืนค่ะ มีอาหารเช้าเป็นโอวัลติน กาแฟ ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ขนมปังปิ้ง และกล้วยหอมให้

โดยรวมถือว่าโอเคนะคะ สงบเงียบ สะอาด พนักงานบริการดี

นุ้ยก็ใช้กล้องใหญ่ถ่ายรูปที่พักด้วยนะคะ แต่พอกลับมาหายไปไหนหมดไม่รู้ สงสัยจะเผลอฟอร์แมทเม็มโมรี่ไป

สำหรับเรื่องอาหารกลางวัน เดินไปนิดเดียวก็เจอหมู่บ้านแล้วค่ะ มีทั้งร้านอาหารตามสั่งและร้านขายของชำ

ตอนเดินกลับมาที่พักมีมอเตอร์ไซด์วินผ่านมาพอดี เป็นคุณลุงสูงอายุ นุ้ยก็ถามว่าไปวัดพระมหาธาตุเท่าไหร่ แกบอกแล้วแต่จะให้

ยากนะคะกับการคำนวนค่ารถ แต่นุ้ยก็ซ้อนแกไปแล้วให้ไป 40 บาท มาถึงวัดเพิ่งนึกได้ว่าตอนกลับไม่รู้จะบอกเค้าว่าให้ไปส่งที่ไหน

นามบัตรที่พักก็ไม่ได้เอามา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่กระเป๋าตังกับมือถือ แต่ก็ช่างก่อน ไหว้พระก่อนดีกว่า

แต่ละที่ก็จะมีการจัดดอกไม้บูชาพระที่ไม่เหมือนกันนะคะ แม้แต่พวงมาลัยยังร้อยไม่เหมือนกันเลย

กำลังมีการจัดงานแถลงข่าวงานห่มผ้าพระบรมธาตุในวันมาฆบูชาค่ะ แต่นุ้ยเพลียแดดมากแล้ว อยู่รอดูไม่ไหว ขอกลับที่พักไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ก่อนกลับก็แวะซื้ออาหารนำกลับไปที่พักเลยค่ะ ไม่งั้นคงออกมาลำบาก ใช้บริการพี่วินเช่นเคย บอกว่าไปส่งบ้านสุพรรณิการ์พี่เค้าก็ไม่รู้จัก ดีที่ยังจำพิกัดคร่าวๆ ได้ พี่เค้าก็พาวนไปหา พอมาถึงเค้าบอกว่า ถ้าเข้าอีกทางนะถึงนานแล้ว ค่าบริการ 30 บาทค่ะ

วันแรกจบทริปแต่เพียงเท่านี้ค่ะ พักเอาแรงไว้ว่ากันใหม่วันที่สอง ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2559 Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2559 14:51:06 น. Counter : 1481 Pageviews.		2 comment
Share Tweet