ลองจับ Samsung Galaxy S4
Holding the Samsung Galaxy S4 in hand for the first time, there's very little difference to the Galaxy S III. Sure, the slimmer waistline adds to the tetchy feel, but overall the new flagship is nearly identical to the old one.
หลังจากที่ได้จับ Samsung Galaxy S4 ครั้งแรก รู้สึกได้เลยว่าแตกต่างจาก S3 เพราะมันบางกว่านิดหน่อย และโดยรวมแล้วมือถือเรือธงของ Samsung รุ่นนี้ ยังให้ความรู้สึกที่ไม่ Wow (ไม่แตกต่างจาก S3 สักเท่าไหร่นัก)
It even uses the same Hyper-glaze coating, which while not as bad as many make it look, is hardly the most premium finish to have. There's a change to the texture though, the faux metal brush replaced by a dotted pattern. We still cannot quite make up our mind as to whether this is a positive change or not. The color options available at launch are also different. The Galaxy S4 will be available in White Frost or Black Mist, so no more Pebble Blue - at least for now.
ตัววัสดุของเครื่องยังใช้การเคลือบแบบ Hyperglaze (ซึ่งก็ทำให้มันดูไม่สมกับเป็นรุ่นเรือธงเท่าไหร่นัก - ผู้แปลไม่ค่อยชอบผิวมันเงา) มีการเปลี่ยนลายบนพื้นผิวเล็กน้อยจากลวดลายพื้นผิวโลหะเปลี่ยนมาเป็นใช้แบบลายจุด ซึ่งเราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ดีขึ้นหรือไม่ (บางคนก็ชอบ บางคนไม่ชอบ - ผู้แปลคิดว่าน่าจะอารมณ์ประมาณนี้) และตัวเครื่องที่จะจำหน่ายก็มีหลายสีให้เลือกตาม Sumsung's Style ในช่วงหลัง ซึ่งแต่ละประเทศก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ 2 สีหลักคือ สีขาวน้ำแข็งใส และสีดำหมอกทะมึน โดยยังไม่มีสีน้ำเงินก้อนกรวดแบบ S3 ในขณะนี้ แปลว่าอาจจะมีมาทีหลังก็ได้
The Samsung Galaxy S 4 ที่จะวางจำหน่ายมี 2 สีให้เลือก คือ ขาวน้ำแข็งใส และดำหมอกทะมึน
The somewhat underwhelming first impression however all but changed when we switched on that gorgeous 5" FullHD AMOLED display. The thing is absolutely stunning - every AMOLED fan will love it and even those who aren't too fond of the oversaturated colors will have to admit that it's a brilliant piece of engineering. And don't worry - as usual, Samsung has included a setting to tune the saturation down for a more natural look.
จากสัมผัสแรกเรารู้สึกว่ามันน่าผิดหวังไม่ Wow เท่าไหร่ แต่แล้วทุกอย่างต้องเปลี่ยนไปเมื่อเราได้ลองหน้าจอ Full HD AMOLED ขนาดหน้า 5 นิ้ว มันทำให้เราถึงกับทึ่งในความสวยงามจริงๆ
- แฟนๆ ที่ชื่นชอบหน้าจอ AMOLED น่านะรักมันอยู่แล้ว แม้แต่คนที่ไม่ค่อยปลื้มในเรื่องการแสดงเม็ดสีที่สดเว่อร์เกินไปของมัน คุณอาจจะยอมรับว่ามันเป็นงานวิศวกรรมที่น่าทึ่งก็ได้นะ ถ้าได้ลองสัมผัสมันสักครั้ง เพราะทาง Samsung ได้เพิ่มฟีเจอร์การตั้งค่าความสดของสี ให้คนที่ไม่ชอบได้ปรับความสดลดลง
And the Samsung Galaxy S4 screen's strengths do not end with the unrivalled contrast and super punchy colors. It also offers viewing angles so wide that combined with the 441ppi pixel density, they make the screen look as if printed on paper. The impressively low-reflectivity also contributes to that effect and bodes well for the display's outdoor performance.
หน้าจอของ Samsung Galaxy S4 นั้นเมพสุดใน 3 โลกยากที่จะหาผู้ใดเทียบในด้านความต่างของส่วนสว่างและมืด (คือ แสดงผลขาวก็ขาวสุดๆ ดำก็ดำสุดๆ) การแสดงสีที่สุดเจ็บสะท้ายไปทั้งทรวง รวมถึงการแสดงสี จากมุมมองของหน้าจอที่พลิกไปๆมาๆ สีก็แทบจะไม่เพี้ยน ทั้งภาพหน้าจอยังละเอียดยิบถึง 441ppi (จำนวนเม็ด pixel ต่อ 1 ตารางนิ้ว) ใครสนใจเรื่องนี้เพิ่มเติมแวะไปดูได้ที่บล็อคพี่กาฝากครับ
ขนาด Samsung Galaxy S 4 ใหญ่กว่ารุ่นพี่ S3
We managed to shoot a quick video of the Samsung Galaxy S 4, demonstrating its hardware and the updated TouchWiz UI.
ทางเราได้จัดทำ Video เพื่อสาธิตเกี่ยวกับการใช้งานของเครื่องและโชว์ให้เห็นถึง TouchWiz UI. ที่พัฒนาขึ้น
Needless to say, the smartphone feels extremely snappy, even though the units we had at our disposal were all pre-release samples and their software wasn't finalized. The presence of Android 4.2 is felt with the lockscreen shortcuts, while Samsung's custom launcher has also been significantly improved.
ไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เพราะเครื่อง Galaxy S4 แสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ราบรื่นไม่สะดุด ถึงแม้ว่าเครื่องที่ได้รับมาจะเป็นเพียงเครื่องทดสอบ ไม่ใช่เครื่องที่วางจำหน่ายจริง (รวมถึง Software) โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับ Android 4.2 ที่ผ่านการโมดิฟายจาก Samsung
source: //www.gsmarena.com/samsung_galaxy_s_4-review-907p2.php
คำศัพท์ที่น่าสนใจในบทความ
Flagship = เรือธง (เปรียบว่าเป็น สุดยอดของ...)
Faux = เทียม (ของเทียม)
Underwhelming = น่าผิดหวัง Admit = ยอมรับ Brilliant = ฉลาด สุกใส ระยิบระยับ (เด่น) Unrivalled = ยากที่หาใครเทียบ Punchy = เราะราน
Snappy = คล่องแคล่ว
Disposal = กระบวนการกำจัด / สินทรัพย์ที่ยืม
Presence = การมีอยู่ในปัจจุบัน / สิ่งที่เกิดขึ้น
Felt = รู้สึก
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [