ธรรมะสู่การปฏิบัติ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ เมื่อกล่าวถึง อริยมรรคมีองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ นี้เป็นเครื่องรองรับจิตแล้ว ถ้าไม่ทำความเข้าใจให้กระจ่าง มักจะถูกมองข้าม จากพวกนักตำรานิยมที่ติดหนึบอยู่วิปัสสนา(นึก)ของตน พวกนักวิปัสสนา(นึก) ทั้งหลายส่วนใหญ่แล้ว มักให้ความสำคัญไปที่ มหาสติปัฏฐาน ๔ กาย เวทนา จิต ธรรม โดยเฉพาะในหมวดจิตตานุปัสสนา(ดูจิต)เป็นพิเศษ เพราะเข้าใจไปเองว่าเหมาะกับพวกมีปัญญามาก คือ ทิฐิจริตหรือวิปัสสนา(นึก) นั่นเอง โดยลืมไปว่ามีพระพุทธพจน์รับรองไว้อย่างชัดเจนว่า การจะทำให้มหาสติปัฏฐาน ๔ บริบูรณ์ขึ้นมาได้นั้น จะต้องเจริญให้มากและประกอบอยู่เนืองๆ ในอานาปานสติบรรพะให้ยิ่งๆ ขึ้น จนชำนิชำนาญอย่างคล่องแคล่ว เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เราก็ต้องสืบสวนทวนความลงไปว่า เรื่องอานาปานสตินั้น พระพุทธองค์ได้ทรงมีพระพุทธพจน์กล่าวไว้ที่ไหนบ้าง ปฐมบทพื้นฐาน (สติปัฏฐาน) ในบรรพะแรกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในมหาสติปัฏฐาน ๔ นั้นคือ เริ่มต้นที่อานาปานสติบรรพะ หรือ พิจารณากายในกายกายอยู่อย่างไรเล่า ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไปสู่ป่าก็ดี ไปสู่โคนไม้ก็ดี ไปสู่เรือนว่างก็ดี นั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติไว้เฉพาะหน้า เธอมีสติหายใจออก มีสติหายใจเข้า (อานาปานสติปัฏฐานพิจารณากายสังขารคือ ลมหายใจ) เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจออกสั้น เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า เราหายใจเข้าสั้น ย่อมสำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้ตลอดกองลมหายใจทั้งปวงหายใจออก ย่อมสำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้ตลอดกองลมหายใจทั้งปวงหายใจเข้า ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขารหายใจออก ย่อมสำเหนียกว่า เราจักระงับกายสังขารหายใจเข้า ฯลฯ (อานาปานบรรพะ มหาสติปัฏฐานสูตร) จากที่ยกมานี้ พอสรุปได้ว่า การปฏิบัติอานาปานสตินั้น เป็นพื้นฐานสำคัญของ สัมมาสมาธิ ที่มีอยู่ในอริยมรรคมีองค์ ๘ ซึ่งเทียบเคียงได้กับพระพุทธพจน์ที่มีมาใน มหาจัตตารีสักกสูตร ความว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สัมมาสมาธิของพระอริยะ อันมีเหตุ มีองค์ประกอบ คือ สัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ เป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ประกอบแล้วด้วยองค์ ๗ เหล่านี้แล เรียกว่า สัมมาสมาธิของพระอริยะ อันมีเหตุบ้าง มีองค์ประกอบบ้าง ฯ (มหาจัตตารีสกสูตร) สรุป เมื่อกล่าวถึงอริยมรรคมีองค์ ๘ ก็เป็นการกล่าวถึงสติปัฏฐาน ๔ และอริยสัจ ๔ ไปในตัวด้วยเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน เชื่อมโยงถึงกัน คือ เป็นการฝึกฝนอบรมจิตของตน เพื่อให้หลุดพ้นจากอุปธิทั้งหลาย ขณะที่กำลังเพียรปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนาอานาปานสติ (สัมมาสมาธิ) อยู่นั้น องค์ธรรมสำคัญที่มาประกอบด้วยคือ สัมมาวายามะ และสัมมาสติ จิตจึงรวมลงเป็นสมาธิ สงบตั้งมั่น เมื่อจิตเป็นสมาธิแล้ว จิตย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริงว่า เมื่อ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณปรวนแปรไป จิตของเราหาปรวนแปรกระสับกระส่ายตามไปด้วยไม่ เจริญในธรรมทุกๆท่าน ธรรมภูต อนุโมทนาสาธุครับ
โดย: shadee829 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:9:47:29 น.
อนุโมทนา สาธุ ขอบคุณค่ะ
โดย: เงาของพระจันทร์ IP: 110.171.10.255 วันที่: 10 มิถุนายน 2554 เวลา:14:15:57 น.
|
ในความฝันของใครสักคน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] หน้าแรก Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์ Group Blog All Blog |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |