คำชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องหูกระป๋อง คำชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องหูกระป๋อง (ชมรมนักพัฒนาอุตสาหกรรมไทย)  จากการที่มีผู้สอบถามและนำหูกระป๋องและฝาเครื่องดื่มบำรุงร่างกายมามอบให้แก่ชมรมนักพัฒนาอุตสาหกรรมไทย เพื่อทำชิ้นส่วนของขาเทียมจำนวนมาก ทางชมรมฯ ขอขอบคุณและชื่นชมในความเอื้ออาทรของทุกท่านเป็นอย่างยิ่งและใคร่ขอชี้แจงข้อเท็จจริงในการนำเศษวัสดุเหลือใช้มาผลิตขาเทียมให้ทุกท่านได้ทราบดังต่อไปนี้          1. หูกระป๋องหรือฝาเครื่องดื่มเป็นโลหะประเภทอลูมิเนียม ดังนั้นอลูมิเนียมทุกชนิด เช่น กระทะ ขัน กะละมัง ที่เป็นอลูมิเนียมสามารถนำมาใช้ได้ทั้งหมด          2. การรณรงค์นำของเหลือใช้มาทำประโยชน์เป็นสิ่งที่ดี แต่ไม่ควรบริโภคเพื่อหวังจะนำหูกระป๋องมาเพื่อทำขาเทียมช่วยเหลือผู้พิการเพราะหูกระป๋อง 4,200 อัน มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม มีมูลค่าเป็นเศษอลูมิเนียมเพียง 50 บาท จะหลอมได้ชิ้นส่วนเพียง 5 ชิ้น ในขณะที่เราต้องเสียเงินซื้อเครื่องดื่มอย่างน้อยถึง 42,000 บาท           3. เหตุใดถึงเลือกเฉพาะหูกระป๋องหรือหูเครื่องดื่มบำรุงกำลัง ถ้าต้องการอลูมิเนียมเพื่อทำขาเทียมจริง ๆ ก็ควรจะรับบริจาค หม้อ ขัน กระทะ เครื่องต่าง ๆ ที่มีส่วนของอลูมิเนียม จะได้ปริมาณมากมาย (ถ้าท่านมีศรัทธาอยากจะช่วยเหลือผู้พิการส่งเงินบริจาคไปยังที่อยู่ของหน่วยงานที่ขอบริจาคจะดีกว่าที่จะรวบรวมหูกระป๋อง เพราะนอกจากไม่คุ้มค่าแล้วยังเสียความรู้สึกที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้แก่นักฉวยโอกาสหาผลประโยชน์ให้แก่ตน)          4. เศษอลูมิเนียมทุกชนิดต้องนำมาหลอมที่อุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส เพื่อจะแปรรูปเป็นอลูมิเนียมแท่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการหลอมอลูมิเนียมแท่งและค่าจัดส่งมากกว่าค่าวัตถุดิบ ถ้าหน่วยงานใดที่ต้องการชิ้นส่วนขาเทียม ทางชมรมฯ ยินดีจะผลิตให้พอกับความต้องการและไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น          5. ความสามารถในการประกอบขาเทียมจากเศษอลูมิเนียม100 กิโลกรัม เมื่อนำมาทำชิ้นส่วนของขาเทียมจะได้ชิ้นส่วนถึง 500 อัน ผู้ประกอบขาเทียมต้องใช้เวลาประกอบหลายปี ดังนั้นการรณรงค์เพื่อเก็บหูกระป๋องกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศจึงเป็นเรื่องการสร้างภาพของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และควรจะให้ประชาชนได้รู้ความจริง          6. การดื่มน้ำกระป๋อง เป็นการสิ้นเปลือง เพราะแผ่นโลหะที่นำมาทำกระป๋องต้องนำเข้า และต้องจ่ายค่ากระป๋องเพิ่มจากน้ำขวดปรกติถึง3 บาท          7. การสร้างศรัทธาและจิตสำนึกเพื่อช่วยเหลือคนพิการเป็นสิ่งที่ดี แต่การโฆษณาเพื่อส่งเสริมการขายและนำสถาบันเบื้องสูงมาอ้างเช่นนี้ทำให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาเข้าใจผิดเป็นจำนวนมาก เรื่องอย่างนี้…ผู้คุ้มครองผู้บริโภคน่าจะดูแลให้ทั่วถึง ขอขอบคุณข้อมูล ชมรมนักพัฒนาอุตสาหกรรมไทย Free TextEditor   Create Date : 08 สิงหาคม 2554     Last Update : 8 สิงหาคม 2554 9:54:34 น. Counter : 332 Pageviews.   0 comment Share Tweet

ช้อปเครื่องสำอางก็ช่วยโลกได้นะ สาวๆที่เสพติดการช้อปปิ้งโดยเฉพาะเครื่องสำอาง บางทีก็อาจมีแว่บๆขึ้นมาที่รู้สึกว่ามีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเพิ่มขึ้น จากการบริโภคมากเกินพอดี แต่จะอดใจให้ไม่ช้อปก็คงจะทรมานแน่ๆ มีไอเดียเก๋ๆให้สาวๆลองพิจารณาดูค่ะ หยิบมาจาก //www.sabai-arom.com นะคะ 1. ต้องมีส่วนผสมจากธรรมชาติ และใช้เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เครื่องสำอางเหล่านี้มักใช้สารสกัดที่นำมาจากธรรมชาติ และปลอดภัยต่อผิวของคุณ เช่นใช้สมุนไพรไทย ใช้พืชพันธุ์ที่ปลูกแบบออร์แกนิก เป็นต้น และหากใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ช่วยโลก ก็จะแสดงให้เห็นเลยว่าผ่านกรรมวิธีอย่างไร เช่นการใช้คำว่า Eco, Biodynamic และ Organic เป็นต้น 2. บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้จะใช้คำว่า Biodegradable เพื่อแสดงให้เห็นว่าสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ หรืออย่างน้อยๆ ก็ผลิตจากแก้วที่สามารถรีไซเคิลได้ และบางผลิตภัณฑ์ก็เสนอไอเดียแบบรีฟิล หรือซื้อชิ้นย่อยมาเติมได้ 3.มีช่องทางกล่าวถึงสิ่งแวดล้อม หากผลิตภัณฑ์มีความมุ่งมั่นในการรักษาสิ่งแวดล้อม ไม่พลาดเลยที่เครื่องสำอางเหล่านี้จะเสนอไอเดีย และให้แนวทางข้อมูลไว้ในช่องทางของสื่อต่างๆ รววมทั้งเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์ด้วย (หรือมีรางวัลการันตีอีกต่างหาก) 4. สนับสนุนวัตถุดิบที่ดี เครื่องสำอางที่ดีจะเริ่มต้นจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ หากแสดงให้เห็นว่านำวัตถุดิบมาจากแหล่งใด หรือสนับสนุนกลุ่มชุมชนใดที่เน้นความใส่ใจในการคัดสรรด้วยแล้ว ก็ยิ่งน่าสนับสนุนเข้าไปใหญ่ 5. ไม่ทดลองกับสัตว์ ถึงจะฟังดูเป็นเรื่องจริธรรม แต่ถ้าประเด็นนี้ไม่มาพร้อมกับการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยแล้ว คุณคงรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ จริงไหม หากผลิตภัณฑ์ดีจริง แต่ยังมีการทดลองกับสัตว์อยู่ 6. ขั้นตอนการผลิตไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ เบื้องหลังการทำงานนี่ล่ะสำคัญ เพราะการใส่ใจสิ่งแวดล้อมต้องดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิต การบรรจุ การทดลอง และการกำจัดของเสีย การผลิตที่ดีจะไม่ทำลายระบบนิเวศน์แต่เป็นการส่งเสริมเสียด้วยซ้ำ 7. ต่อต้านสิ่งสังเคราะห์ โดยเฉพาะเมกอัพ และสกินแคร์ทั้งหลาย ที่จะเลี่ยงส่วนผสมที่เป็นสารสังเคราะห์ อาทิ น้ำหอมสังเคราะห์ แต่งกลิ่นสังเคราะห์ การย้อมสี หรือใช้ปิโตรเคมี พร้อมกันนั้นก็เลือกใช้แพ็คเกจที่เป็นมิตรกับธรรมชาติไปพร้อมๆ กันด้วย ....ยิ้มออกแล้วใช่มั๊ยคะ ง่ายๆแค่นี้ก็ช้อปต่อได้อย่างสบายใจแล้ว แต่อย่าลืมว่า...ช้อปอย่างมีสติด้วยนะ ^^   Create Date : 23 ตุลาคม 2552     Last Update : 23 ตุลาคม 2552 10:58:34 น. Counter : 235 Pageviews.   0 comment Share Tweet

100 places to remember before they disappear เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ภาวะโลกร้อน จะทำให้เกิดปรากฎการณ์ต่างๆที่เราก็เริ่มเผชิญกับมันมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาแล้วนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น พายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหว ต่างๆนานา เวบ 100places.com เค้าก็เลยจัดอันดับสถานที่ที่เราควรจะไปดูให้เห็นกับตาก่อนที่มันจะหายไป... แต่อีกความหมายหนึ่ง มันอาจจะไม่ได้หายไปก็ได้ แต่มันจะไม่เหมือนเดิม เช่น แนวประการังถูกทำลายไม่เหลือให้เราเห็นอีกแล้ว เมืองที่เคยเขียวชะอุ่มก็กลับแห้งแล้งเป็นทะเลทราย ภูเขาน้ำแข็งที่ไม่เหลือซาก หรือ ดินแดนในเขตร้อนก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ กรุงเทพเราก็ติดอันดับนะ และมันจะหายไปเนื่องจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูง ซึ่งมีสถานที่เยอะมากที่จะเปลี่ยนแปลงเนื่องจากระดับน้ำทะเลขึ้นสูงและภูเขาน้ำแข็งละลาย ซึ่งพวกนี้มันคงจะจมหายไปในทะเลแน่ๆ บางที่ดูแล้วก็น่าตกใจ อย่างเช่น ปักกิ่ง มีโอกาสที่จะกลายเป็นดินแดนที่แห้งแล้งสุดๆ ในขณะที่หมู่เกาะฮอนดูรัสซึ่งเป็นเกาะกลางทะเล ก็จะกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง ที่เอามาเล่าเนี่ยไม่ได้ต้องการให้ตระเวนไปเที่ยวจนครบ 100 ที่นะ แต่อยากบอกว่า..เราต้องช่วยกันคนละนิดคนละหน่อยแล้วแหละ หลายๆพลังรวมกันก็กลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้ เราจะได้มีโลกไว้อยู่ได้นานๆ ตามไปดู >> //www.100places.com ตอนนี้มีการจัดนิทรรศการภาพถ่าย 100 places to remember before they disappear ที่โคเปนเฮเกน จนถึงวันที่ 27 ธ.ค. 52 เปิดตลอด 24 ชม.จ๊ะ   Create Date : 01 ตุลาคม 2552     Last Update : 1 ตุลาคม 2552 10:36:40 น. Counter : 347 Pageviews.   0 comment Share Tweet

• PuiFaiCanDy
• malaguena
• Beebella
• siriyakorn
• assima01
• kobnon
• afternoontea
• Webmaster - BlogGang

• TaLenT by DoDeVar
• แม่ขะจานซิตี้.คอม
• BlogGang.com