ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน เพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ@ชลบุรี
ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ@ชลบุรี
สำนัก งานป่าไม้จังหวัดได้จัดตั้งศูนย์ฯ ขึ้นเพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลน และให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่ประชาชน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเป็นสะพานไม้ที่ยาว 2,300 เมตร ซึ่งยาวที่สุดในประเทศไทย ตลอดเส้นทางความยาว 2,300 เมตร บนสะพานทางเดินศึกษาธรรมชาติของศูนย์ฯ จะได้พบเห็นความหลากหลายทางธรรมชาติ ของป่าชายเลน ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ไม้ป่าชายเลนและสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ระหว่างทางจะมีศาลา ชีวภาพใต้น้ำ สะพานแขวน และมีบอร์ดให้ความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนเป็นระยะๆ นักท่องเที่ยวจะได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ศูนย์ศึกษา ธรรมชาติปาชายเลนแห่งนี้ อุดมไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก ตะบูนดำ ตะบูนขาว แสมดำ แสมขาว โปรงแดง โปรงขาว ลำพูน และพืชอีกหลายชนิด นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำอีกหลากหลายชนิด ได้แก่ กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย หอยนางรม หอยแครง ปูก้ามดาบ ปูแสม ปลานวลจันทร์ ปลากะพงขาว ปลาตีน และนกอีกนานาชนิด ข้อมูลจาก : //www.chumchonburi.com/buri/node/1300 ชลบุรีเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งบางแสน พัทยา ฯลฯ แต่ว่า ณ ที่แห่งนี้ยังมีพื้นที่อนุรักษ์ท่ามกลางความเจริญของหมู่เมือง รวมทั้งพื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และป้องกันชายฝังของเมืองขลบุรี สถานที่แห่งนี้น้อยคนนักจะไปเยี่ยมเยียนพอดีได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมจึงนำภาพมาฝากเพื่อนๆครับ ติดชมกันได้เลยกับ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(ชลบุรี)" ผมได้เขียนรีวิวไว้ใน Pantip ตามไปดูได้นะครับ  ที่แห่งนี้จะมีสะพานไม้ทอดยาวให้เดินชมป่าชายเลนกันประมาณ 2,300 เมตรมีการพาชมเป็นหมู่คณะพร้อมวิทยากรด้วยแต่ต้องนัดล่วงหน้าน่ะ                                    สิ้นสุดการเดินทางครับถ้าใครยังไม่เคยไปแนะนำให้ไปเที่ยวนะครับไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมากนักและช่วยกันอนุรักษ์ให้ที่ท่องเที่ยวดีๆแบบนี้ยังคงมีต่อไปนะครับ naturenote คนชอบเที่ยวพาลุย ...
วัดถ้ำเขาหลวง@เพชรบุรี
วัดถ้ำเขาหลวง จังหวัดเพชรบุรีนอกจากเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกเรื่องราวมาเป็นมาต่าง ๆ มากมาย อันสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนเพชรบุรีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันแล้ว ยังมีศาสนสถานสำคัญ ๆ เช่น วัดวาอาราม โดยเฉพาะวัดถ้ำที่สร้างอยู่บนภูเขาน้อยใหญ่ทั่วจังหวัดเพชรบุรี จากเขตตัวเมืองห่างออกไปยังทิศที่ตั้งของเขาวังราว 5 กิโลเมตร มีวัดถ้ำแห่งหนึ่งที่สร้างอยู่บนเนินเขาขนาดเล็ก มียอดสูงเพียง 92 เมตร ดังนั้นเส้นทางการเดินทางขึ้นไป จึงไม่ลำบากนัก ทางขึ้นนั้นลาดชันไม่มากนัก สามารถใช้รถหรือเดินเท้าก็ได้ วัดถ้ำแห่งนี้มีอายุได้ราวร้อยปีเท่านั้น สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชประสงค์จะสร้างวัดบนยอดเขา เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเสด็จประพาสมายังถ้ำแห่งนี้ และด้วยทรงมีพระราชดำริว่าถ้ำเขาหลวงนี้ มีความวิจิตรงดงามด้วยมีหินงอกหินย้อยทั่วทั้งผนังถ้ำ ภายในยังมีช่องกว้างที่แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามากระทบแนวหิน ก่อให้เกิดความหลากหลายของสีสันภายในถ้ำ อีกทั้งโพรงหินที่แตกเป็นช่อง ทำให้มีอากาศเย็นสบายและไม่อับชื้น จนสามารถมองเห็นความสวยงามภายในถ้ำได้ทุกซอกทุกมุม กล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมีสายพระเนตรถึงความงามของถ้ำเขาหลวงแห่งนี้ จึงได้โปรดฯ ให้สร้างบันไดคอนกรีตยาวประมาณ 10 เมตร ตั้งแต่เชิงเขาไปจนถึงเบื้องล่างของถ้ำ และทรงโปรดฯ ให้บูรณะพระพุทธรูปโบราณหลากรูปที่ประดิษฐานอยู่ ณ ถ้ำนี้มาก่อนยุครัตนโกสินทร์ ซึ่งสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปโบราณเหล่านี้น่าจะได้มาจากนักจาริกแสวงบุญจากที่ต่าง ๆ นำมาประดิษฐานไว้ อาทิ พระพุทธไสยาสน์ ขนาด 6 เมตร พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ เป็นต้น ครั้นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสมายังเพชรบุรี จึงได้ทรงมีพระราชประสงค์ให้จัดสร้างอารามขึ้นภายในถ้ำเขาหลวง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระชนก โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปเพิ่มเติม ซึ่งในหมู่พระพุทธรูปสร้างใหม่นี้ มีอยู่รูปหนึ่งที่ทรงโปรดฯ ให้ประทับตรา ประจำรัชกาลที่ 1-5 ไว้ที่ฐานพระด้วย ปัจจุบันวัดถ้ำเขาหลวงแห่งนี้ได้มีการบูรณะ และพัฒนาให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยการจัดให้มีวิทยากรหรือมีผู้แนะนำเกี่ยวกับความเป็นมาของวัดถ้ำเขาหลวง และร้านค้า เพื่อไว้บริการนักท่องเที่ยว และที่นี่ยังมีฝูงลิงจำนวนมากมาอาศัยอยู่ ข้อมูลอ้างอิงจาก : //th.wikipedia.org/wiki/วัดถ้ำเขาหลวง จากข้อมูลด้านบน เราได้มีโอกาสไปเที่ยวเพชรบุรีมาซึ่งจังหวัดเพชรบุรีนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและอยู่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพมากนัก โดยใน Blog นี้เราจะนำเสนอการเยือนวัดถ้ำเขาหลวงคอยติดตามกันได้เลยครับ เมื่อขึ้นมาถึงวัดถ้ำเขาหลวงบริเวณลานจอดรถจอบปุ๊บมาปั๊บ...ตุ๊กตาจรเข้
ไม่ใช้คันเราคันเดียวนะคันอื่นก็มี...ได้สาเหตุมาว่าลิงเยอะวางไว้ลิงจะได้ไม่มาข่วนรถ - -! เลยอุดหนุนป้าแก่ซื้อกล้วยให้ลิง
ให้อาหารลิงเสร็จก็เตรียมเข้าถ้ำกันเลยมาเจออาคารนี้ก่อน
เจอป้ายแล้วแดงว่ามาไม่ผิดที่
บริเวณบันไดทางขึ้นลงหลัก จริงๆมีอีกทางแต่เค้าไม่เปิด
กำลังจะงไปเยือนแล้วจ้าคุ้นๆไหมภาพนี้
เดินต่อลงมาที่นี่คยมาถ่ายหนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร
ถ้าใครจำไม่ได้ตอนพระนเรศวรเข้าตีเมืองคังทางช่องทางลับ
ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่มากมายและมีช่องให้แสงลอดผ่านลงมา
กราบไหว้พระกันสักหน่อยมาถึงที่แล้ว
ไฮไลท์ของถ้ำนี้คือช่องที่แสงลอดผ่านมายังพื้นถ้ำหากไปในช่วงเวลาที่เหมาะสมแสงจะส่องมาพอดี
มีทางเดินภายในถ้ำค่อนข้างสะดวกแต่ช่วงในๆอาจจะมืดและทึบไปหน่อยเดินก็ระวังกันหน่อยนะครับ
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามมากมายให้ได้ชมกัน
ขอปิดท้ายด้วยภาพนี้นะครับ เนื่องจากอีกส่วนนึงไม่ค่อยมีอะไรมีเพียงธรรมชาติชองเขาที่เป็นทางเข้าอีกทางและมีชองแสงลอดผ่าน
ในส่วนของวัดถ้ำเขาหลวงก็เป็นอีกที่นึงที่น่าสนใจและมีธรรมชาติที่สวยงามในแบบฉบับของถ้ำ อยากให้ทุกท่านได้ไปเยี่ยมชมกันนะครับ เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพมาก ในส่วนของที่จอดรถไม่เสียงเงินนะครับแต่เหมือนช่วงซื้ออาหารให้ลิงเจ้าลิงเยอะมาก คงอดอยากแน่ถ้าไม่มีคนไปเยี่ยมเยียน และกลับมาพบกันใหม่ใน Blog ถัดไปนะครับ ขอบคุณที่เยี่ยมชมครับ naturenote คนชอบเที่ยวพาลุย วัดพระธาตุดอยคำ@เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยคำ เป็นวัดที่มีความสำคัญในจังหวัดเชียงใหม่ อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร
ประวัติความเป็นมา วัดพระธาตุดอยคำสร้างในสมัยพระนางจามเทวีกษัตริย์แห่งหริภุญชัย โดยพระโอรสทั้ง 2 เป็นผู้สร้างในปี พ.ศ. 1230 ประกอบด้วยเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ศาลาการเปรียญกุฏิสงฆ์ และพระพุทธรูปปูนปั้น เดิมชื่อวัดสุวรรณบรรพต แต่ชาวบ้านเรียกว่า "วัดดอยคำ" พ.ศ. 2509 ขณะนั้นวัดดอยคำเป็นวัดร้าง ต่อมากรุแตกชาวบ้านพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระรอดหลวง พระหินทรายปิดทององค์ใหญ่ พระสามหมอ (เนื้อดิน) ซึ่งนำมาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระธาตุดอยคำ พระธาตุดอยคำนอกจากจะเป็นที่สักการะบูชาของคนท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์อีกแห่งหนึ่งของการบินไทยที่ใช้กำหนดพื้นที่ทางสายตา ก่อนที่จะนำเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่อีกด้วย อ้างอิงข้อมูลจาก : www.//th.wikipedia.org/wiki/วัดพระธาตุดอยคำ เราได้มีโอกาสได้ไปสัมผัสมาจึงเอาภาพมาฝากกันครับ ^^ ถ้าใครเดินทางไปพืชสวนโลกจะสังเกตุเห็นวัดด้านบนพืชสวนโลก นั้นคือวัดพระธาตุดอยคำ  ไปทางขวาของทางเข้าราชพฤกษ์ จะมีป้ายบอกครับ  ตรงมาตามทางเรื่อยๆจะพบกับป้ายนี้ครับ เอารถขึ้นได้ส่วนใครฟิตถ้าจะเดินขึ้นก็มีครับ  ถนนทางขึ้นสักหน่อย ราดยางอย่างดีขึ้นง่ายสบายหายห่วงครับ  ขับขึ้นมาสักพักก็ถึงแล้วมีที่จอดรถมากมาย...พร้อมคนขายของ  ถึงแล้ววัดพระธาตุดอยคำ ^^  สิ่งแรกที่พบจากการเดินเข้ามาเจอพระอุโบสถนี้ก่อนเลย ป้ายการบินไทยซะด้วย  ถัดมาจะเจอกับพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ด้านหน้าวัดหันหน้าไปทางวัด (มุมด้านหลัง)  เดินอ้อมมาอีกนิด  ตรงหน้าเลยขึ้นไปไหว้พระสักหน่อย อ่อที่นี่ไม่มีจำหน่ายธูปเทียนนะครับแนะนำพกมาด้วยจะสบายกว่า  เดินตรงมาทางซ้ายมือจะเจอกับอนุสาวรีย์...กับช้าง  และแล้วก็มาถึงแล้ว วัดพระธาตุดอยคำ ถ่ายป้ายะหน่อย  เดินเข้ามาด้านในก็จะเจอกับองค์พระธาตุ ไหว้พระธาตุอีกสักที  บริเวณรอบๆองค์พระธาตุ  เดินไปเรื่อยๆ...รอบๆ  เดินมาจะพบกับพระพุทธรูปและระฆังมากมาย  เดินถัดมาเจอฆ้องโดยส่วนนี้จะให้ลูบที่ฆ้องใหญ่ถ้ามีเสียงดังจะโชคดี  ตรงมาเรื่อยๆเตรียมเข้าด้านในกันเลย  ด้านหน้าตรงเตรียมลุย  เข้ามาด้านในก็กราบพระกันสักหน่อย  เดินออกมาด้านนอกจะเจอกับจุดชมวิว ซึ่งเป็นลานกว้างและเป็นวิวที่งดงามมากเพราะมองเห็นราชพฤกษ์ด้วย  มีป้ายบอกด้วย งานชมวิววัดพระธาตุดอยคำ  วิวภาพด้านล่างอีกสักภาพก่อนจากครับ  สิ้นสุดการเดินทางสู่วัดพระธาตุดอยคำครับหวังว่าคงมีโอกาสได้ไปเยือนอีกครั้งและอยากให้ทุกคนไปเยี่ยมเยียนครับอีกหนึ่งวัดสุดยอดของเชียงใหม่ครับ สละเวลาเพียงนิดก่อนเข้าราชพฤกษ์ไปไหว้พระทำบุญกันก่อนเที่ยวนะ ขอบคุณที่เยี่ยมชมครับ ^^ พบกันใหม่ใน Blog หน้านะครับ วัดโพธารามมหาวิหาร (วัดเจ็ดยอด)@เชียงใหม่
วัดโพธารามมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือ วัดเจ็ดยอด วัดพระอารามหลวง
ตั้งอยู่ที่ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ประวัติความเป็นมา วัดเจ็ดยอด (พระอารามหลวง) เป็นวัดโบราณและมีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์วัดหนึ่งของอาณาจักรล้านนาไทย กล่าวคือ เป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าติโลกราช รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์มังราย ทรงโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1998 โปรดให้หมื่นด้ามพร้าคต หรือ สีหโคตรเสนาบดี เป็นนายช่างทำการก่อสร้าง ศาสนสถานและเสนาสนะขึ้นเป็นพระอาราม โปรดฯ ให้นิมนต์พระมหาเถระชื่อพระอุตตมปัญญา มาสถิตเป็นอธิบดีสงฆ์องค์แรกในพระอารามนี้ ครั้นนั้นสมัยพระเจ้าสมเด็จติโลกราชได้ทรงสดับพระธรรมเทศนาจากสำนักพระภิกษุสีหล (ศรีลังกา) เรื่องอานิสงส์ปลูกต้นโพธิ์ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ใคร่จะปลูกต้นโพธิ์ จึงโปรดฯ ให้แบ่งหน่อมหาโพธิ์เดิม ที่พระภิกษุสีหลนำมาจากศรีลังกาเอามาปลูกไว้ในอารามป่าแดงหลวงเชิงดอยสุเทพ เอามาปลูกขึ้นไว้ในวัดนี้ เพราะเหตุที่ปลูกมหาโพธิ์ในพระอารามนี้ จึงได้รับขนานนามว่า "วัดโพธาราม"หรือวัดโพธารามมหาวิหาร" อ้างอิงข้อมูลจาก //www.changpuak.org/wad-jedyoud/wadjedyoud-page.html เรามีโอกาสได้เดินทางไปเชียงใหม่จึงจัดทริปไหว้พระ ณ วัดเชียงใหม่ โดยใน Blog นี้จะแนะนำเกี่ยวกับวัดเจ็ดยอดที่ได้ไปสัมผัสมาครับ ติดตามชมภาพกันได้ครับ |
naturenote
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] "naturenote คนชอบเที่ยวพาลุย" บันทึกการเดินทางท่องเที่ยวทั่วไทยและภาพถ่ายแห่งความทรงจำ Link |
|||||||||||||
