(วันที่สอง) เริ่มตะลุยเที่ยวแบบไม่บันยะบันยัง
วันนี้ เริ่มต้นด้วยการนั่งบัสมายังสวนสัตว์ Cleland ไฮไลท์ ก้อคือออออ.....เจ้าโคอะล่า นั่นเองงงงงงง.....ด้านหน้าทางเข้ารอยเท้านัวเนีย ไปหมด การันตีได้ว่า มาถึงแน่แท้ สวนสัตว์ Cleland ของเรา จิงโจ้ กระจายอยู่ทั่วๆ ค่ะ พร้อมจะเข้าหาเรา เพื่อขอแบ่งอาหารเม็ดแรกๆก้อตื่นเต้นนะ หลังๆ ชักจะเยอะ ไม่ต้องเข้ามาก้อด้ายยยยบ่นหา มองหา จิงโจ้สีขาว ...สุดท้ายก้อเจอจนได้ เค้าแยกมานอนใต้ต้นไม้ใหญ่ กินเก่งเชียว ตัวจิ๊ดเดียว กินๆๆวิ่งมาแต่ไกล....ใกล้ตัวแล้ว ระยะประชิด ดอกไม้สวยๆริมทางเดินฟ้าสวยๆ กับ สองขาหลังคามุงจาก มองยากอยู่เนอะ เพราะว่า ไกลจังพักสายตา ก่อนพบกับ ไฮไลท์ เจ้าค่ะป๊ามมม ป๊ามมม ป๊ามมม ป่ามมมมมมม.....ตุ้ม ต๊ะ ตุ้ม ตุ้ยต้วม เตี้ยม ไต่ลงมาอย่างช้าๆ เจ้าหน้าที่พามาทักทายให้สัมผัสใกล้ชิด โคอะล่า เต็มๆ หน๋ำใจไปเลยเนอะ จากนั้น ก่อนจะไปกันต่อ เราเติมพลังด้วยข้าวเหนียว หมูทอดโรยหน้าด้วยหอมเจียวแสนอร่อย อ่ะ อ่ะ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ข้าวเหนียวจริงๆ หุงกันเอง โดยแท้จริงเชียว น่ามั่กๆ ขอบอกว่า หมักหมูไว้ก่อนจะทอด นุ๊มมม นุ่ม ส่วนหอมแดงเจียว แม้จะไม่กรอบ เหมือนตอนแรกทอด แต่ก้อคงความหอมอร่อย ไม่เปลี่ยน อันนี้ ซื้อค่ะ Hotdog with chilli sauce AUD$3.60 คนไทยยังบอก..เผ็ดมากเลยกินอิ่ม อร่อยจนปากมันแล้ว ก้อนั่งๆ งีบๆ รอเวลากลับเข้าเมืองค่ะ กล้องเพี้ยนไปเพี้ยนมา จนตัดสินใจซื้อกล้องตัวใหม่ซะเลย ขี้เกียจลุ้นว่า จะใช้ได้หรือเปล่า จากนั้น นั่งรถเลยไป port ADL เป็นท่าเรือค่ะ และมีตลาดนัดทุกวันอาทิตย์ เสียดายว่า วันที่เรามาเป็น วันจันทร์ ตลาดปิด!!!!แต่จริงๆแล้ว หวังจะมาดูปลาโลมา ซึ่งนั่งอยู่นานสองนาน ไม่มีใครยอมเสียสละโผล่พ้นผิวน้ำให้เราได้เชยชม :(ชมบ้าน ชมเมือง แทนก้อด้ายยยยยยมีล้อมรั้วให้เข้าไปชมก่อทรายเปนรูปนั้น-นี้ด้วย แต่ค่าผ่านประตูค่อนข้างแพง ก้อเลยแอบๆดูจากข้างนอกแทน ปิดท้ายด้วย....เรือและน้ำ ยืนยันว่า เป็นท่าเรือค่ะ โปรดติดตาม วันที่สาม ใครชอบ สตอ.... เอ่ออออ สตรอว์เบอรี่ ชนิดที่ เก็บเองจากต้นล่ะก้อห้ามพลาด เลย ค่ะ แล้วเจอกัน
(วันแรก) ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ไปยังดินแดนที่ใครคนหนึ่งรออยู่
เสาร์ที่ 12 มกราคม 2551 17.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น เรา เหินฟ้า....โดยมีจุดหมายอยู่ที่ SYD ออสเตรเลียอิ่มอร่อย กับมื้อเย็นที่สูงและเร็วที่สุด (ประมาณ 37000 ฟุตและ 1000 กม./ชม. )ตบท้ายด้วย ไอติมวอลล์ Mega เป็นวานิลลาเคลือบด้วยช็อคโกแลตผสมอัลมอนด์ ดึกๆยังมีแจกส้มอีกรอบด้วยแน่ะหลังจากนั้น ดูหนังไปพลาง หลับๆตื่นๆ สลับกันไป ก่อนถึงซิดนีย์ประมาณ 1.45 ชม. ก้อเริ่มปลุกด้วยผ้าร้อน ต่อด้วยอาหารเช้าชุดใหญ่ ประกอบด้วย นมสด 1 ขวด เสิร์ฟพร้อมมูสลี น้ำส้ม 1 ถ้วย เดนิสสับปะรด 1 ชิ้น โยเกิร์ต 1 ถ้วย ผลไม้รวม 6 อย่าง แล้วก้อ ชา/กาแฟร้อน เยอะจนกินไม่หมดเลยล่ะ ล้อแตะพื้น ตามเวลาเป๊ะ แต่....กว่าจะได้ลงจากเครื่อง นานมาก นานจนไปต่อ Domestic flight ที่บุ้คเอาไว้ไม่ทันแต่ที่เคาน์เตอร์ก้อเปลี่ยนเปนไฟลท์ถัดไปให้เลย และแล้ว .....12.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น เราก้อมาถึงยังดินแดนที่เคยได้ยินเพียงชื่อ7524 กม.จากกรุงเทพ ถึง ซิดนีย์ และอีก 1166 กม. จากซิดนีย์ ถึงที่นี่ ...........เมือง Adelaide, South Australia...........จากเสียงตามสาย...ใครหนึ่งคน คนนั้น ...จะยืนรอตรงนี้ ...แล้ว...ก้อจริงตามคำกล่าว...แล้ว...........เราก้อเจอกัน หัวใจพองโต แต่ยิ้มได้แค่จางๆ เพราะเมาเครื่องตอนจะ landingเล่นเอาต้องวิ่งเข้าห้องน้ำก่อน จึงค่อยไปรับกระเป๋า 55...แสนดีจริง มี PepsiMax ของโปรดมารอท่าด้วย (กับแช่เย็นที่บ้านอีก 1 ขวดใหญ่) นั่งแท๊กซี่ (ที่ซึ่งมี GPS ทุกคัน) กลับมาที่บ้าน เย้...ได้อาบน้ำเสียที จากนั้นออกไปฟู้ดแลนด์และร้านขายสารพัดของเวียตนามใกล้บ้านกลับมากิน Dumpling และขนมจีบที่บ้าน เถาองุ่นหลังบ้าน ผลเยอะ ระเกะระกะ เสียแต่ไม่มีใครใส่ใจดูแล ตะบองเพชร ต้นหญ่ายยยย มากๆ อยู่หลังบ้านอีกเช่นกันท้องฟ้า ฟ้าสวย มีเครื่องบินพาดผ่านเป็นระยะๆต้นอะไรไม่รุ มีเป็นระยะๆบนทางเท้าแทบจะทุกถนนทุกสายมีแรงแล้วนี่ ป่ะ..ออกไปปั่นจักรยานแถวบ้านกัน นี่..แม่น้ำ ทอร์เร้นสอีกมุมนึง....เลนของจักรยานคันน้อย แต่ยิ่งใหญ่สำหรับเราสวย...ย......ย...........เย็นตา เย็นใจ นก เป็ด ห่าน หงส์ หรืออะไรก้อแล้วแต่ ที่สวนนี้ ช่างเชื่องและเข้าหาคนเก่งเป็นที่หนึ่งนี่ก้อด้วย เดินกุบกับๆเข้ามาวันแรก...ที่แสนจะไกลไทย แต่เราใกล้กันโปรดติดตามตอนต่อไป.....
เขาใหญ่ สวย สงบ ก่อนกลายร่างเป็น ค่ายอพยพ
และถึงแม้ จะกลายร่างเป็น ค่ายอพยพ ในช่วง countdown ก้อยังคงเป็น ค่ายอพยพ ที่เต็มไปด้วยความสุข ปีนี้ เหตุที่ได้ ขึ้นไปก่อน ปีใหม่ เนื่องจาก ชวน ครอบครัวไปด้วยกันพ่อกับแม่ จะได้ สะดวกในการใช้ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แล้วก้อได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอย่างเต็มที่ เต็มปอด ทริปนี้ ฝากผีฝากไข้กัน 5 คนค่ะ แม่และพ่อ ผู้ใจดี หอบเอาอาหารมาฝาก เจ้าเม่นอ้วน และ ฝูงกวางยามค่ำคืน อย่างไม่ตั้งใจ ตัวเอง น้องสาว (ฝาแฝด) แล้วก้อน้องที่น่ารักอีกคนนึง กางเต้นท์เสร็จ ก้อได้เวลาล้อมวงทานมื้อเที่ยง ได้แก่ ไก่ย่าง ไก่ทอด (ที่เตรียมมาชนกัน) ผัดมาม่าเรียบร้อยแล้ว จึงมุ่งหน้าไปสู่ น้ำตกเหวนรก แฮ่กๆ อลังการ สมกับความเหนื่อย กว่าจะเห็นภาพเบื้องหน้า สวยๆอย่างนี้ ต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อยทางเดิน..ทอดสู่...เหวนรกร่มรื่นสองข้างทางเดิน เฮ่ออออ....ลงมาถึงเบื้องล่าง ได้ยังไงเนี่ยไม่อยากคิดถึง ตอนตะกายกลับขึ้นไปเล้ยยย... เพื่อนข้างทาง ระหว่างทางไป เขาเขียวและ ผาเดียวดาย ยังถกกันอยู่ว่า เก้ง รึว่า กวาง เค้าว่า เก้งงงงง นาาาาา.... แต่ตัวนี้ กวาง แน่ๆ อวดดอกสวยอย่างไม่เกรงใจฟ้า ที่ยอดเขาสูงที่สุดในภาคกลาง "ยอดเขาเขียว"ผาเดียวดาย....ทอดสายตาชมทิวเขาเบื้องหน้า เพียงไม่นาน ก้อรู้สึกถึง ความเดียวดาย สมชื่อค่ะ....จากนั้น เราทั้ง 5 ก้อกลับมาที่เต้นท์ ลำตะคอง อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว รีบอาบน้ำเป็นการด่วน ทำอาหาร ย่างเนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไส้กรอก แสนจะมีความสุข (และอร่อยด้วย)คืนนั้น เต้นท์ของเรากลายเปน โรงอาหาร ของ เจ้า เม่น ตัวอ้วน และ ฝูงกวาง อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้น เก็บอาหารแล้ว ก้อยัง มาแงะ มางัด เอาไปกิน จนได้ซิตื่นเช้า คิดว่า น้ำท่วมเต้นท์ ที่ไหนได้ น้ำค้างแรงมากๆ แรงกว่าหลายๆที่ ที่เคยไปมา Tarp ยังเอาไม่อยู่เลยวันนี้ มีผู้โชคดีเห็น.....คู่รัก นกเงือก....ด้วยเล่นเอา คนบางคน (ที่ไม่ได้เห็น) บ่นกระปอดกระแปด ไปท้างงงวัน ยามเช้า กับอาหารเช้า บางส่วนบรรยากาศรอบๆ ชนิดไม่ต้องมีคำบรรยายเกิดเป็นน้ำตกเล็กๆ ณ ลำตะคองสะพานแขวน หลังพิพิธภัณฑ์ โยกเยกสุดๆ เล็กน้อยก่อนจบทริปจบแล้วค่ะ เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพนะคะ
......เกษตรแฟร์......ณ ไร่สุวรรณ ปากช่อง
ช่วงหน้าหนาวของทุกปี ก้อได้เวลาของงานเกษตรแฟร์ ณ ไร่สุวรรณ ปากช่องซึ่งเปนส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลิ่นข้าวโพดร้อนๆหอมๆลอยมาเตะจมูก และเชื้อเชิญเราไปในทันที ว่ากันด้วยเรื่องของข้าวโพดข้าวโพดแนวน่ารักๆบรรยากาศพลบเย็น พลบค่ำ รายล้อมด้วยแปลงข้าวฟ่าง ข้าวโพด ผัก และดอกไม้อื่นๆ สุดด้านโน้นเปนขุนเขา ตะวันกำลังจะหลบหลังเขา...กำแพงเห็ด นานา ชอบ ชอบ ดอกไม้จีนสดๆ คุ้นแบบแห้งในชามแกงจืดมากกว่าเนอะ ตะกร้าลงชันยา นำมาแสดงได้น่ารัก ตะเกียงน้ำมัน สวยๆ เค้าวางกันที่พื้นเลย บรรยากาศร้าน ดูคลาสสิก เหนแล้ว อดใจถ่ายรูปไม่ได้แสงสวย ยามค่ำคืนรั้วก้อยังเป็นข้าวโพดเล้ยยยย...ตะเกียงน้ำมัน บรรจุอยู่ในท่อนไม้ตัดแต่งอีกทีนึง ให้ภาพสวยๆ แก่เรา ปิดท้ายด้วย ไม้ประดับที่เปิดร้านขายกันในงาน เค้าขายกันด้วย ไอเดียแล้วเนอะ สมัยนี้ ใครจะมางานล่ะก้อยังทันนะคะ มีถึง วันอาทิตย์ที่ 16 ธค. นี้ค่ะ .....
**---โดดงานครึ่งวันเกิด ขึ้นเขาใหญ่ ซะงั้น---**
...............HBD cake made by my dear sister.......................อุณหภูมิยามเช้า เนี่ยพื้นราบนะ แล้วบนเขาใหญ่จะเท่าไรกันน้า...พิพิธภัณฑ์เดิมๆ มากี่ครั้งๆ ก้อไม่เปลี่ยนชอบค่ะมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือพิมพ์ ทอดสายตาสู่ภายนอกสะพานไม้นำท่านไปสู่ระเบียงด้านหลัง เขียวได้ใจจริงเชียวหลงกลร้านจำหน่ายของที่ระลึก คว้ามาเป็นสมบัติส่วนตัวเจอเก้งกวาง 3 จุดด้วยกัน ที่แรกคือ กวาง 1 ฝูงบริเวณร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ ในภาพคือจุดที่สอง ที่ผากล้วยไม้ ขณะเราแวะปูเสื่อทานมื้อเที่ยง มีอีกตัว นอนสบายอยู่หน้าห้องน้ำ และสุดท้าย เก้งตัวเล็กๆเขาสวยๆยืนอยู่ริมถนน เจอขากลับ น้ำตกผากล้วยไม้ ใช้สำหรับย่อยอาหาร เพราะต้องออกแรงเท้าเดินมาประมาณ 1 กม.น้ำตกผากล้วยไม้ในวันที่มีแต่เรา สวยเหมือนเดิมตั้งใจไว้ว่าจะขึ้นไปนอนเต้นท์ท้าลมหนาวกัน ช่วงปีใหม่ แล้วเจอกันนะคะ