ผู้สร้าง ปีเตอร์ แพน เด็กชายตัวน้อยที่ไม่ยอมโต เขาสูงแทบไม่ถึง 160 ซม. และคิดว่าเป็นเพราะความเตี้ยทำให้เอื้อมหญิงสาวไม่ถึงสักราย ในปี 1894 เขาป่วยหนักมาก เกรงว่าจะตายอย่างเสียเชิงชาย จึงรีบขอแต่งงานกับแมรี แอนเซล ดาราสาวสวยที่แสดงในบทละครที่เขาแต่ง เธอตกลงแต่งงานด้วย แต่แล้วในระหว่างฮันนีมูน บาร์รีกลับไม่ยอมสานสายสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาให้แนบแน่นลึกซึ้ง ความรักของทั้งคู่จึงจบลงอย่างค้างเติ่งไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งเหมือนในเทพนิยาย ที่แท้ปีเตอร์ แพน ตัวพ่อผู้ไม่ยอมโตก็คือผู้ประพันธ์นั่นเอง
#6 ลูอิส คาร์รอล (Lewis Carroll)
ศาสตราจารย์วิชาคณิตศาสตร์ และนักเขียนหนังสือเด็กที่กลายเป็นวรรณกรรมอมตะรวมถึงเรื่อง อลิซในแดนมหัศจรรย์ เขาไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้หญิงเลย แม้ว่ามีครั้งหนึ่งเคยมีข่าวฉาวกับดาราชื่อ เอลเลน เทอร์รี่ แต่ดาราสาวปฏิเสธ และบอกว่า เขาชอบฉันเหมือนกับที่เขาชอบใครก็ตามที่มีอายุเลย 10 ขวบขึ้นไปนั่นแหละ
#7 เอ็ดการ์ เดกาส (Edgar Degas)
จิตรกรและประติมากรแนวอิมเพรชชั่นนิสม์ผู้นี้เป็นที่อิจฉาของหนุ่มๆ เพราะวัน ๆได้นั่งจ้องมองหญิงเปลือยในอ่างอาบน้ำคนแล้วคนเล่า แต่ว่าฟ้าย่อมยุติธรรม เขาไม่ได้เพลิดเพลินบันเทิงตานักหรอก น่าจะเป็นเพราะเขาสิ้นไร้สมรรถภาพทางเพศ นอกจากนี้เขายังมีมุมมองที่ต่างจากหนุ่มทั้งโลกโดยสิ้นเชิง มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อมีคนถามว่า ทำไมคุณถึงวาดภาพหญิงสาวได้น่าเกลียดพิลึก? เขาตอบว่า ก็เพราะพวกผู้หญิงส่วนใหญ่มันน่าเกลียดน่ะสิครับ!
#8 จอร์จ เฟรเดอริค แฮนเดิล (George Frideric Handel)
คีตกวีชาวเยอรมันมีชีวิตส่วนตัวที่เก็บงำมิดชิด เมื่อพระเจ้าจอร์จที่ ๒ ซึ่งทรงเป็นผู้
อุปถัมภ์ ได้ถามว่าทำไมเขาถึงไม่ขวนขวายหาภรรยา แฮนเดิลตอบว่า ผมไม่มีเวลาสำหรับเรื่องใด ๆ นอกจากดนตรีขอรับ แต่จริง ๆ แล้ว ครั้งหนึ่งเขาก็เคยมีเวลาไปร่วมประสานสายตากับเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงและนักร้อง ชื่อโจฮันน์ แม็ทเธอสัน วันหนึ่งในระหว่างการแสดงละครเพลง แฮนเดิลกับเพื่อนสวาทก็มีปากเสียงกันว่าใครจะเล่นฮาร์พสิคอร์ด แล้วก็เกิดต่อยเตะกันกลางวงดนตรี
#9 ซอเรน คีร์เคอการ์ด (Soren Kierkegaard)
นักปรัชญาชาวเดนมาร์กผู้มีสายตาหยั่งลึกไปถึงในมุ้ง เขาครุ่นคิดพิจารณาแล้วก็ประกาศว่าความสัมพันธ์ทางเพศเป็นสิ่งที่สกปรก น่ารังเกียจอย่างยิ่ง เขาเคยบอกว่า ผมมีความสลดหดหู่ใจสำหรับภรรยาที่แสนซื่อสัตย์ ตอนอายุ 24 ปีเขาเคยตกหลุมรักเด็กสาววัย 14 ชื่อ เรจิเน ออลเซน และได้หมั้นกันสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะถอนหมั้น แต่เขาก็ไม่เคยลืมเธอได้ ตลอดเวลาหลายปี เขาพยายามดึงหัวใจเธอกลับมา โดยการเขียนหนังสืออันเต็มไปด้วยปรัชญาข้อคิดลึกซึ้งหมอง ๆ หม่น ๆ ให้เธอ จนต่อมาเขาได้กลายเป็น บิดาแห่งปรัชญาอัตถิภาวนิยม ไปโดยไม่ตั้งใจ ถึงแม้เธอไม่เคยหวนกลับมาหาเขา แต่เขายังคงรักเดียวใจเดียวไม่เสื่อมคลาย พร้อมกับมอบมรดกทุกอย่างให้เธอแต่เพียงผู้เดียว
#10 มหาตมะคานธี (Gandhi)
ในช่วงอายุ 30 กว่า คานธีได้แต่งงานกับแม่ม่ายลูกติดและทำให้เธอประหลาดใจด้วยการสาบานต่อหน้าฟ้าดินว่า จะรักษาพรหมจรรย์ไว้ตลอดชีวิตพร้อมกับอธิบายว่า การมีอำนาจควบคุม ของเหลวสำคัญ ในร่างกายจะช่วยเสริมส่งพลังทางจิตวิญญาณ อีกทั้งยังทำให้ไม่หมดลมในช่วงจำศีลอดอาหารยาวนาน ในวัย 70 กว่า เขาเซอร์ไพรส์ภรรยาอีกครั้ง ด้วยการจ้างบรรดาหญิงสาวมานวดตามเนื้อตัวและให้มานอนเปลือยกายอยู่ข้าง ๆ เพื่อทดสอบความเป็นบุรุษพรหมจารี สาวกบางคนถึงกับหันหลังให้ด้วยความกระอักกระอ่วน (หรืออิจฉาก็ไม่แน่ใจ) ภายหลัง ท่านคานธีจึงยกเลิกการทดลองพิทักษ์รักษาพรหมจรรย์แบบพิสดารนี้ไปในที่สุด
ที่มา: หลานไดโนเสาร์ (ต่วยตูนส์'พิเศษ ปีที่ 38 ฉบับที่ 452 เดือนตุลาคม 2555)