ฝึกให้เชื่อง...............

เคยมีบทความหนึ่ง ซึ่งผมอ่านนานแล้ว แต่ก็ยังน่าสนใจอยู่
ของคุณ รุ่ง ทุ่งสว่าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศึกษา ที่พูดถึงระบบการศึกษา และมันเหมือนกับของประเทศไทยซะเหลือเกิน และเมื่อผมอ่านแล้วทำให้เริ่มเข้าใจ เกี่ยวกับระบบศึกษาเมืองไทย และอเมริกาว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ พวกเรามาดูกันที่ละข้อ

1.เพื่อปลุกฝังลักษณะการแสดงปฎิกิริยาที่ควรต่อผู้ทรงอํานาจ
-การที่เด็กฟังคําสั่งครูหรือหัวหน้าชั้นโดยไม่กล้าเถียงก็ถือว่าเป็นความสําเร็จก้าวแรกของสถาบันการศึกษาแล้วกระมัง ข้อนี้สําคัญมากครับ เพราะถ้าเด็กกล้าที่จะท้าทายระบบอํานาจกันตั้งแต่ยังเล็กแล้ว เมื่อเขาโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ จะไม่ยากที่จะควบคุมหรอกหรือ

คำขยายของผม ถ้าเราลองสังเกตให้ดีว่ามันจริงเป็นอย่างมาก ทำไมพวกเราไม่กล้าเถียงครู เพราะว่าเรากลัวคนที่มีอำนาจ หรือทำไมกล้าเถียงคนมีอำนาจ เพราะเราโดนปลูกฝั่งให้เชื่อคำสั่งของคนที่มีอำนาจนั้นเอง ซ้ายก็ซ้าย ขวาก็ขวา

2.เพื่อปลุกฝังลักษณะความคิดและจิตสํานึกของเด็กให้คล้ายคลึงกันมากที่สุด
- ทําให้บุคลากรโดยรวมนั้นบริหารง่ายและเดาใจได้ ในสหรัฐอเมริกานั้นเด็กเขาต้องท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง ความหมายของการเป็นชาวอเมริกัน "Freedom" "Democracy" "Peace" (แม้ว่าคําว่า "Peace" นั้นจะถูกใช้เป็นเหตุผลในการทําสงครามที่บ่อยที่สุดก็ตาม) จริงๆแล้วพี่ไทยเราก็มีคํัา 3 คําไว้ปลุกใจเด็กไม่แพ้เขาเหมือนกันนะ

คำขยายของผม อย่าแปลกใจว่าทำไม ชาวอเมริกันถึงมีความต้องการอิสระ ชอบคิดว่าตัวเองใหญ่ซะเหลือ เพระว่าสามคำนี้ ที่เขามาตั้งแต่เรียน ประถมจนถึง High school ถ้าใครอยากเข้าใจเรื่องคำพวกนี้ ให้ไปหาเรื่อง Far and away ดูจะแล้วเข้าใจ ส่วนของพี่ไทยก็มีสามคำ ใครนึกออก ก็จะเข้าใจโครงสร้างประเทศไทย และจะเข้าใจว่าทำไม ช่วงนี้ถึงมีคนอยากไล่นายกซะเหลือเกิน เพราะว่าไปยุ่งทั้งสามอย่าง
3. เพื่อค้นหาบทบาทของเด็กที่จะมีต่อสังคม
อันนี้ทําได้โดยใช้การสอบและเก็บคะแนนครับ ใครได้คะแนนสูงก็แปลว่าผู้นั้นทําตามเป้าหมายข้อที่ 1 และ 2 (ที่กล่าวมาข้างต้น) ได้ดียิ่งนัก

คำขยายความผม การสอบเปรียบเสมือนวัดความรู้ของเด็กเพื่อจะดูว่า เด็กถนัดแนวไหนแล้วก็จับยัดเข้าไปอยู่ในแผนกและสาขาเพื่อบริษัท

4. เพื่อแบ่งแยกเด็ก
เมื่อค้นหาบทบาทได้แล้ว ก็ต้องแบ่งแยกเด็กตาม "ความสามารถ" ของเด็กที่จะตอบสนองความต้องการของระบบอํานาจ ที่เป็นอยู่ แต่การแบ่งแยกเด็กเพียงอย่างเดียวนั้นก็ไม่ต่างจากการสับพริกหยวกให้เป็นชิ้นๆ คือว่าโดยรวมแล้วพริกหยวกที่ถูกสับแล้วก็ยังเผ็ดอยู่ดี คราวนี้จะทํายังไงให้พริกหยวกนั้นไม่เผ็ดเล่า ?
-คำขยายของผมก็เหมือนกับข้อที่ 3 ที่ว่าไปแล้ว คือเอาเด็กมาเพื่อรับใช้ระบบองค์กรรัฐ และธุรกิจ

5. การคัดเลือก
ใช่ครับ หน้าที่อีกอย่างหนึ่งของโรงเรียนก็คือการคัดเลือกเด็ก ....คงเหมือนกับการคว้านเอาส่วนที่เผ็ดของพริกนั้นออกจากส่วนที่ไม่เผ็ดละกระมัง ผมยังจําคําคมของครูแนะแนวของ ผมได้เลย "จัน...เธอนะ ควรเรียนวิศวฯ หรือช่างกล....จบออกมาจะได้หางานเอาง่ายๆ อย่าไปสนใจสังคมหรือการเมืองเลย เดี๋ยวจะโดนเขาจับเข้าคุกเปล่าๆ" ผมเกือบจะถามครูแนะแนวแล้วว่า "เขา" ที่จะมาจับผมเข้าคุกคือใครกัน และพวก "เขา" เหล่านั้น ทําหน้าที่ต่างจากครูประจําชั้นหรือไม่

-คำขยายความ ลองคิดดูว่า ครูเราจะตัดสินเราจากตรงไหน อย่างแรกเลยคือผลการเรียน อย่างที่สองเลย ความคิด ความอ่านของเรา ครับ

6. เพื่อสร้างผู้บริหารมวลชน

ระบบโครงสร้างดังกล่าว เอื้อให้เกิดผู้บริหารกลุ่มน้อย ที่ถูกคัดเลือกโดยระบบอํานาจปัจจุบันให้เป็นผู้คุมอํานาจและบริหารในอนาคต พวกเขาจะถูกสอนให้รู้จักการจัดการมวลชนกลุ่มใหญ่ ที่จะถูกระบบคัดเลือกให้เป็นผู้ใช้แรงงาน

คำขยายความ เมื่อจบออกมาแล้ว ก็จะมีผู้รับใช้ระบบทุนนิยม อันได้แก่พนักงาน พนักงานนี้ร่วมแรงงานชั้นสูง เช่น
วิศวกร หมอ และอื่นๆ

นี้คือภาพสะท้อนการศึกษาในปัจจุบัน ผมถึงเข้าใจแล้วว่า ทำไม นักวิทยาศาสตร์หลายๆ คน สมัยก่อนจึงต่อต้านระบบการศึกษา เหลือเกิน และเข้าใจว่าทำไม บิล เกตต์ ถึงลาออก



Create Date : 03 ธันวาคม 2548
Last Update : 3 ธันวาคม 2548 21:30:39 น. 0 comments
Counter : 136 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

Tarnold
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนง่ายๆสบายๆ และอยากแชร์ความรู้กับทุกคน
[Add Tarnold's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com