ไปเกาะล้านมาแย้วจ้า 1 - 3 พ.ค. 52 ภาค 1

Create Date : 05 พฤษภาคม 2552 Last Update : 5 พฤษภาคม 2552 12:07:14 น. Counter : 1079 Pageviews.		3 comment
Share Tweet

มาต่อรวบยอด กระบี่ - พีพี - หาดนพรัตน์ฯ - วัดถ้ำเสือ 25 - 27 มค 52 ภาคจบ

ตื่นเช้ามาวันที่ 26 มกราคม ตอน 7 โมงเช้า ปรากฏว่า จะสายแล้ว มีนัดไปเกาะพีพี ตอน 8 โมง มี sms มาเตือนว่า วันนี้มีทัวร์ one day trip กับ agency ดีนะถ้าไม่ sms มาหลับยาวแน่ ๆ

ที่มาของ agency นี้ ได้มาจากเพื่อน ๆ ที่โพสต์ไว้ในเวปพันทิพย์แล้วเราก็โทรไปก่อนวันที่จะไป 1 วัน อิอิ วางแผนไว้ใกล้มาก ๆ พี่เขาใจดีลดค่าทัวร์ไปเกาะพีพี ด้วย Speed boat เรางี้ดีใจมาก

ตอน 7.30 เขาโทรมาหา เราดันบอกเขาไปว่า ตื่นแล้วคะ นึกว่าจะโทรมาเร่ง ไหนได้ เขาถามเบอร์ห้องให้กับคนที่มารับ จะได้เรียกถูก

ตอน 7.45 รถมารับที่โรงแรม แต่ยังไม่ได้กินข้าวเลย เลยขอกินข้าวเช้าก่อน ออกประมาณ 8.00 น อันนี้ช่วยไม่ได้นะ ตอนที่บอกเราไว้จะมารับตอน 8.00 - 8.15 มีหลักฐานนะ อิอิ ท่าทางเขาจะไม่ค่อยพอใจที่ต้องรอนัก

นั่งรถไปรับคนโน้น คนนี้หลายที่จนเต็มคันรถตู้ เอาไปส่งที่ท่ารถของ เกาะพีพีทัวร์ โอ้เรานี่ช่างไม่รู้เลยเหรอว่า เขาหาบริษัทอะไรให้ แบบว่าดีใจขึ้นมาอีกเพราะรู้สึกจะเป็นทัวร์ที่ดีที่สุดของที่นี้เลย

มาถึงแบบจะคันแรก ๆ เลยนะ แหมจะมาเร่งอะไรเรา มานั่งสักพักเขาก็เรียกขึ้นเรือเพื่อเดินทาง ของ เกาะพี พี จะได้ไปก่อนเพื่อนเพราะอยู่ไกลที่สุด

มานั่งบนเรือ นี่เพื่อนร่วมชะตาชีวิต มีคนไทย 5 คน นอกนั้นฝรั่งหมดเลย



ออกจากท่าเรือแถว ๆ หาดนพรัตน์ธารา มารับคนที่โรงแรมเซนทาร่า มีวิวด้วย

โฉบไป โฉบมาก็มาถึงเกาะแรก เกาะไม้ไผ่ รูปเรือ กับน้ำทะเลใส ๆ ที่เกาะไม้ไผ่ สวยไหมอะ


เขาพากันลงเล่นน้ำ เราไม่ลง เห็นว่าน้ำค่อยข้างลึก แล้วจอดแค่ 45 นาทีถ้าจำไม่ผิด


เดินทางต่อมาที่อ่าวใกล้ ๆ กับพีพีแล้ว เป็นอ่าวที่เวลาตอนเย็นเวลาน้ำลดจะเป็นคล้าย ๆ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ แต่ไม่มีที่จอดเรือนะคะ



ออกจากอ่าวก็มาเจอถ้ำไวกิ้ง น้ำที่นี่ใสมากกกกก เป็นที่ ๆ เขาจะเก็บรังนกกัน น่าจะมีคนมานอนเฝ้า แบบว่ารังนก แพงมากไง


แล้วเขาก็พามาดำน้ำกลาง ๆ ทะเล ใกล้ ๆ กับพีพีดอน



หลังจากนั้นก็พามาที่อ่าวมาหยา พี่ไกด์บอกว่าเมื่อก่อนไม่มีใครมาเที่ยวตั้งแต่มีหนัง the beach ก็มีคนมาเที่ยวเยอะมาก



รูปนี้ได้พี่ใจดีแถวนั้นถ่ายให้คะ เห็นตัวจริงแล้ว แทบกระอักเลือดด้วยความสวยสยอง อิอิ


อันนี้มานั่งพักกัน แบบว่ามีที่บังแดดด้วย พอนั่งไปเย็น ๆ ทรายเปียก ๆ เย็น ๆ อิอิ



มาที่เรือ เขาก็พากันไปกินข้าวที่เกาะพีพีดอน ตอนเที่ยงยี่สิบ หิวมาก ไม่ได้ถ่ายรูปอาหาร ไปคนเดียวอายเขา นั่งกินเป็นโต๊ะประมาณ 10 คนได้ มีต้มยำกุ้ง ไก่ทอด ผัดผัก ผัดไก่ อาหารรสชาติกลาง ๆ ออกจะจีน ๆ ประมาณว่าใครก็กินได้อะคะ ก็อร่อยคะ กินไปสองจาน อุ๊บ

นี่เป็นท่าเรือใหญ่เกาะพีพี แต่ว่าเรือเราจะจอดเรียง ๆ ตามริมทะเลคะ


วิวที่เกาะพีพี ที่เราไปกินข้าว แล้วเดินออกมาด้านหลังเป็นอ่าวใหญ่ ๆ


กลับขึ้นเรือ ปรากฏว่าน้องคนไทย 2 คนมาช้าจะ 20 นาที ก็อายฝรั่งนะคะ เพราะเขามาตรงเวลาไม่เคยเลทเลย จากที่สังเกตตั้งแต่เช้า แล้วคนไทยมาเลทนี่ อิฉันก็อายแทนอะคะ เขาจะหาว่าคนไทยไม่รักษาเวลาหรือเปล่า

สุดท้ายมาดำน้ำที่ พีพีเลย์ เกาะนี้ลิงเยอะ เขาบอกว่าห้ามขึ้นไปที่เกาะ เพราะมีแต่ลิงนิสัยไม่ดี


แถวนี้มีเรือใบจอดเต็มเลย



สักพักก็กลับกันแล้วคะ มาถึงที่หาดนพรัตน์ ก็ประมาณสี่โมงเย็น



เรือจะเข้าจอดที่ท่าแล้วนะ



ยังไม่มืดเราก็ยังไม่กลับ ไปเที่ยวหาดนพรัตน์ต่อ ให้รถไปส่งที่หาด

นั่งหาอาหารทะเลกิน แล้วก็เดินเล่นไป กินโรตีกล้วยหอม อร่อยดี ส้มตำนี่แซบมาก ๆ แต่ก็แพงนะ 50 บาท ยำปลาหมึก 80 บาท กุ้งทอด 80 บาท
มานั่งพักริมทะเล วิวสวย ๆ



ตอนเย็นน้ำจะลง ลงไปไกลมากเป็นกิโลเลย แล้วก็จะเป็นดินโคลนแบบนี้อะเดินไปไม่ถึงน้ำทะเลซะที เหนื่อยก่อน เจอเด็ก ๆ มาหาหอยกาบเล็ก เขาบอกว่าเอาไปกินได้ด้วยแหละ



และแล้วก็หมดวัน มืดแล้วกลับไปขึ้นรถเข้าตัวเมืองต่อ

ตอนนั่งรถก็เอาหนังสือที่แนะนำเกี่ยวกับร้านอาหารออกมาดู มีฝรั่งคนหนึ่งถามว่าให้ช่วยอะไรไหม ถามเป็นภาษาไทยด้วยนะ เราดันตอบภาษาอังกฤษ บอกว่า No I'm just looking for a resterant . ตอบเสร็จตกใจ
ถามเขาไปว่าพูดไทยได้เหรอคะ

เขาบอกว่าได้ เขามาอยู่นี่ 10 ปีมาแล้ว
เขาบอกว่าเขาเคยมาทำสารคดีที่อินโด แล้วมาเที่ยวที่กระบี่ เขาบอกว่าเมื่อก่อนแถวนี้เป็นป่าอยู่เลย เขาชอบมากเลยตัดสินใจย้ายมาอยู่เมืองไทย มาจากออสเตรเลีย ตอนนี้เขาปลูกไม้ผลผสม โห ฝรั่งทำสวนได้ด้วยเหรอ อิอิ ปลูกสตอ ทุเรียน มังคุด อะไรประมาณนี้ แล้วเขาก็พูดว่า ทำแบบเศรษฐกิจพอเพียง เรางี้ซึ้ง และ อายแทนคนไทยหลาย ๆ คนเลยที่ไม่เข้าใจเศรษฐกิจพอเพียง พอถึงตัวเมืองเขาก็ Good bye เราไป

ตอนเย็นเรามาถึงห้องก็คึกอยากเดินเที่ยว เดินไปแถวหน้าห้างโวค ซื้อ โรตีมากินอีกแล้ว โรตีเขาอร่อยดี กรอบ ๆ ไม่เหมือนแถวนี้

สักพักก็กลับมานอน คืนที่สองนอนไม่ค่อยหลับเลย กลัวผีมาก ๆ ๆ คืนแรกคือเหนื่อยนอนได้เลย คืนที่สองกลัวผีเพราะไม่ค่อยเหนื่อย เลยนอนไม่หลับอะ แถมกระจกมาจ่อตรงปลายเตียง โอ้ ผีจะออกมาจากกระจกไหมอะ เอาผ้ามาปิดก็หลุด นอนให้หลบจากที่จะเห็นตัวเองในกระจกก็แล้ว

แต่ก็ตื่นเช้าสัก 6 โมง ตื่นมาโทรศัพท์เจ๊ง เซ็งเลยเรา (วันหลังต้องซื้อซองกันชื้นใส่โทรศัพท์ถ้าออกไปเที่ยวทะเลอีกคะ) ออกมาตลาดเช้า หาอะไรกิน แต่ไม่ได้อะไรเลย มากินที่โรงแรมเหมือนเดิม เจอฝรั่งกลุ่มหนึ่งพึ่งมาใหม่ นี่เราก็เลยลองคุยดู พวกเขามาจากเดนมาร์ค ประมาณมาทั้งครอบครัว พ่อแม่ปู่ย่าตายายหลานเหลน

ตัดสินใจไปวัดถ้ำเสือ ตอนเช้า นั่งรถสองแถวไปเป็นรถรอบเมืองสีฟ้า หรือ สีแดงก็ไม่รู้จำไม่ได้แล้ว อิอิ ไปถึงหน้าปากซอยวัดถ้ำเสือ 15 บาทต่อพี่วินไป 20 บาท สองแถวเขาบอกว่าถ้าเข้าไปส่ง 50 บาท หุหุ ดีนะที่ไม่ไปสองแถว

ขึ้นไปถ้ำเสือ ต้องเดินขึ้นไปหลายขั้นบันไดอยู่ แต่ถ้าจะไปจุดชมวิวนี่ต้องขึ้นไปพันกว่าขั้นเลยอะ แค่ไปดูถ้ำก็ขาสั่นแล้ว

ทางขึ้นไปจุดชมวิว เป็นวัดอยู่ข้างบนภูเขาสูง ๆ เลยอะคะ ถ่ายรูปไม่ถึง


นี่คือส่วนหนึ่งของถ้ำ มีถ้ำลอดด้วย พี่ ๆ ที่มาจากสุราษฎร์ เขายุว่าไหน ๆ ก็มาลอดเหอะน้อง เราก็ไปกับเขา หัวไปโคกหินงอกหินย้อยเข้าเต็ม ๆ กลับมาหัวโนเลย แล้วชีวิตเราหลังจากนี้จะรอดไหมนี่ คิดหนัก



ไปเจอคนดีเมืองสุราษฎร์ ด้วยแหละคะ พี่เขาใจดี พาเดินรอบเลย เหนื่อยมาก แอบถ่ายตอนพี่เขานั่งสมาธิ




ตอนเดินขึ้นไม่เท่าไหร่ ขาลงนี่ดิ ลงไม่ได้ขาสั่น ก็ได้พวกพี่เสื้อแดง เขาคอยบอกว่าใจเย็น ๆ น้อง หายใจเข้าลึก ๆ พุทโธ ๆ นะ แล้วเขาก็เดินข้าง ๆ เราไป โห เราซึ้งน้ำใจมาก ๆ เลย ไม่นึกว่าจะเจอคนดีได้ขนาดนี้

ถ้ำนี้มีลิงด้วยคะ นั่งอยู่บนถังขยะ คะแต่ว่าแย่งอะไรกันก็ไม่รู้ ขู่กันใหญ่เลย



แล้วเราก็กลับมาในตัวเมืองคะ นี่เป็นวิวตรงเขาขนาบน้ำ แม่น้ำกระบี่ จะออกไปทะเลคะ



สุดท้าย กระบี่เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก

Krabi Lovely Town Lovely People

ตอนเย็นขึ้นรถกลับก็ไม่มีอะไรแล้วคะ กลับมาทำงานตามระเบียบ


Lucky Ft. Colbie Caillat - Jason Mraz Music Code

Create Date : 05 มีนาคม 2552 Last Update : 7 มีนาคม 2552 8:04:55 น. Counter : 1257 Pageviews.		3 comment
Share Tweet

กระบี่ 25 - 27 ม.ค. 52 ตอนที่ 2 อ่าวนาง - เกาะทับ

พอมาถึงที่อ่าวนางแล้ว เดินไปเจอฝรั่งแก้ผ้ากันตรึม จะยกกล้องไปถ่ายก็กลัวโดนด่าว่าอนาจาร อิอิ

พอดีใส่แว่นกันแดด เขาเลยไม่รู้กันว่าเราแอบมอง และ แอบปาดน้ำลาย 555

เดินดูไปสักพักเห็นพี่ ๆ ที่เขานวดแผนโบราณ มองเราแล้วเมิน ๆ คงรู้ว่าเป็นคนไทย ถ้าเป็นฝรั่งคงจะเรียกแล้วอะดิ

เราก็ดูว่าจะเรียกหางยาวได้ที่ไหน ก็เห็นมีตู้ขายตั๋วอยู่ นึกว่าไม่บริการคนไทยเพราะเขียนแต่ภาษาอังกฤษ

ไม่เห็นใจคนไทยที่ไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษเลยนะ แบบว่าอ่านไม่ออกเฟ้ย ก็เห็นฝรั่งถาม ฟังออกแฮะเรา ก็เลยถามตามบอกไปทะเลแหวกเท่าไหร่

เขาบอกสามร้อย จ่ายตังค์นี้ แล้วเดินไปทางโน้นเลย เอาใบนี่ไปให้เขา ก็ไปตามเขาบอก

เย้ ได้ไปแล้วเรา ทะเลแหวกสุดที่รัก รักที่สุด สุดที่จะปรารถนา เดินตามฝรั่งไปมีสัก 6 คนได้ในเรือ หัวเรือที่เราไปคะ



วิวระหว่างทาง ก็เป็นเช่นนี้ ไม่รู้เรียกว่าอะไรกันบ้างเกาะทั้งหลายที่ผ่านไปมา ไม่รู้จะถามใคร พี่คนขับเรือก็อยู่ไกล






เปิดหนังสือ เที่ยวทั่วไทย กับนายรอบรู้ พอเปิดหนังสือก็เปียกทันที่แบบว่าน้ำทะเลกระเด็นใส่ ก็เลยช่างเหอะ ไม่เห็นจำเป็นต้องรู้ทั้งหมดนี่นา

รูปวิวข้างทาง สวย ๆ






พอมาถึงที่เกาะก็ทำตัวไม่ค่อยถูกแบบว่าจะทำอะไรก่อนดี ทำแล้วใครจะว่าอะเปล่านะ



จริง ๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องแคร์ใคร นึกในใจ คนเหล่านี้คงเห็นเราครั้งนี้ครั้งเดียว จะทำอะไรก็ทำเต็มที่ไปเลย

ก็เลยแก้ผ้ากลางเกาะเลย อิอิ หมายถึงกางเกง ให้เหลือแต่กางเกงว่ายน้ำ ส่วนเสื้อ ไม่กล้าแก้ออกหมด อายเป็นเหมือนกันนะ

แล้วก็เอาขาจุ่มลงไปในทะเล แบบกล้า ๆ กลัว ๆ ลงไปแล้วทรงตัวไม่อยู่เลยขึ้นมาทำใจ

ไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ถ่ายรูปโน่นนี้ไปมา



เขามาเที่ยวกันเป็นหมู่คณะ เล่นน้ำกันสนุกสนานเฮฮา แต่ตูมาคนเดียว จะสนุกเหรอ ๆๆๆๆ พี่คนขับเรือถาม



มองไปข้างหลังจุดนี้แหละจะเป็นจุดที่เป็นทะเลแหวก เรามาดูทะเลแหวกกันว่าแหวกแบบไหน แหวกยังไง




รูปแรกที่เริ่มแหวก ก็พอเดินไปได้ แต่ลำบากนิด ๆ เพราะน้ำยังอยู่ สักพัก ก็จะแค่เข่า แล้วก็จะแค่ข้อเท้า


ตอนเริ่มที่เดินไปได้ประมาณบ่าย สองกว่า ๆ จนเย็น บ่ายสี่โมงก็จะแหวกที่สุด

จะแหวกไม่เหมือนกันทุกวันคะ ขึ้นกับเวลาน้ำขึ้นน้ำลงสูงสุดของแต่ละวันนั้น ๆ คงเคยได้ยินพยากรณ์อากาศที่ว่า

น้ำลงเต็มที่เวลา... น้ำขึ้นเต็มมที่เวลา....ซึ่งเป็นอิทธิพลมาจากพระจันทร์เต็มดวง ไม่เต็มดวงด้วย

ตอนไปเป็นตรุษจีน ช่วงพระจันทร์เต็มดวงจ้า



เมื่อแหวกเยอะ ๆ พี่ ๆ คนขับเรือก็จะเอาเรือไปจอดเป็นแนวให้รู้ว่านี้คือทะเลแหวก





ต่อไปเป็นความซนของเรา ไปเล่นกับน้องปลาเสือ เอาขนมปังให้น้องปลา โดนน้องปลาจิ๊กขา เจ็บเลย น้องหอยมือเสือตัวใหญ่มาก ๆ ๆ ๆ





วิวที่เกาะทับสวยดีนะ แม้จะเป็นเกาะเล็ก ๆ ก็ตาม




ซวยเลยเรา แบตหมด อดถ่ายรูปต่อเลย เศร้าจัง

และแล้วก็เดินทางกลับไปที่เรือ เบอร์ 79 เพื่อกลับไปนอน มาที่เรือตอนบ่ายสี่โมงกว่า กลับถึงฝั่งตอน 5 โมง

นั่งรถอ่าวนางกลับ ไปที่ตลาดนัดวันอาทิตย์ใกล้ ๆ โวค ซื้อข้าวยำ กับทอดมันไปกิน

กินเสร็จอาบน้ำนอน เป็นไข้ด้วยแหละ กินยานอนอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ไปเที่ยวพีพีต่อ

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552 Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 13:25:52 น. Counter : 980 Pageviews.		0 comment
Share Tweet

กระบี่ 25 - 27 ม.ค. 52 ตอนที่ 1 สายใต้ - อ่าวนาง

มาเล่าใหม่ด้วยความเซ็ง เมื่อคืนพิมพ์ไปตั้งเยอะ เน็ตตัด กลับมาหายเกลี้ยง วันนี้ไม่รู้จะเล่าได้เหมือนเดิมอะเปล่า
ไปรอขึ้นรถที่สายใต้ใหม่วันที่ 24/1/52 นั่งรถ 170 ไป พนักงานเเก็บตังค์ เห็นเราสพายเป้ ก็ถามใหญ่ว่าไปเที่ยวที่ไหน
เราดีใจได้ไปเที่ยวเลย ยิ้มใหญ๋ ตอบเขาอย่างมีความสุข อย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ไปถึงสายใต้ตอน ทุ่มหนึ่ง ตกลงว่าเราต้องไปรอรถถึง 2 ทุ่มสี่สิบ แต่รถออกประมาณสามทุ่ม
นั่งรถป 1 นอนไม่ได้เลย แอบปวดขาด้วย ไปถึงกระบี่ตอนเช้าประมาณ 7.45 น.
แต่เขาปลุกให้ตื่นตั้งแต่ 5 โมงเช้าได้ จะปลุกทำไมนะ นอนก็นอนไม่ค่อยหลับ แต่ก็ดีได้มาเจอหมอกตอนเช้า
ไม่น่าเชื่อว่าภาคใต้จะมีหมอกด้วย ไม่ใช่มีแต่ ฤดูร้อน กับฤดูฝนเหรอ ตื่นมายิ้ม ดีใจที่สุดเลย

มาถึงสถานี บขส กระบี่ ด้วยความไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าถึงแล้ว จนเขาบอกว่ารถหมดระยะ
บขสเล็กกว่า บขสรถต่างอำเภอของบ้านเราซะอีก พอลงรถ เย้ !! ถึงแล้ว กระบี่ เมืองในฝันที่ชาตินี้ต้องมาให้ได้
โทรไปติดต่อที่บริษัท กระบี่อินฟอร์เมชั่น ที่เราได้ให้เขาเอาตั๋วมาให้กับทัวร์เที่ยวเกาะพีพี
ก็เขาบอกว่าถ้ามาถึงก็ให้โทรไปบอก พอโทรไปเขารับแบบงง ๆ แบบว่าคุยกับอีกคน พอโทรไปเป็นอีกคน
บอกว่ามาถึงแล้ว ให้เอาตั๋วมาให้หน่อย แบบว่าจะไปเปลี่ยนตั๋วกลับวันที่ 27 เย็นแทน 27 เช้า

นั่งรถจากบขสมาที่หน้าโวค แล้วนั่งวินไปที่ เทพรัตน์ ลอร์จ ที่นอนของเรา ค่าเสียหาย 15 + 15 บาท
เสียค่าโง่นิดหน่อยที่จริงอยู่ใกล้ ๆ กันเอง มาจ่ายค่าห้องเพิ่มเติม 1400 บาท จากที่จองไว้ และ ได้จากเวป Hotelclub 1 คืน
ที่จริงราคาถูกกว่านี้ มารู้ตอนที่เปิดเวปดูหลังจากไปมาแล้ว อะนะ แต่ก็ช่างเหอะ ตก 700 บาทต่อคือ ก็โอเคละ
นี่คือหน้าตาห้องที่ไปพัก





น้องเจนจาก กระบี่อินโฟร์เมชั่น มาหาที่ที่พัก เขาใจดีมากพาไปเปลี่ยนตั๋วที่ บ. ลิคไนท์ทัวส์ เราเปลี่ยนจากตั๋ว ป 1 เป็น VIP ทันที ราคา 920 บาท
นั่งมอไซด์วนรอบตัวเมืองนิดหน่อย ชี้ให้ดูที่ขึ้นรถ แนะนำที่นั้นนี่ คืออะไร
ไม่รีรอ รีบอาบน้ำเพื่อไปอ่าวนาง เพื่อ ไปสุสานหอย กับ ทะเลแหวก วันนี้ฉันต้องได้ดูทะเลแหวก แบบแหวก สุด ๆ ด้วย
นี่คือวิว ตรงหาดนพรัตน์ธารา อ่าวนาง ตอนขาไป พี่ที่กระบี่อิน ฯ โทรามาถามว่าจะไปอ่าวนางไหม เขากำลังจะไป จะได้ไปด้วยกัน


แต่ช้าไปแล้วนั่งรถแล้วเรา ไปเองดีกว่า เกรงใจเขา (เขาคงนึกว่ามาคนเดียวลำบาก มั้งไม่รู้จักใคร )
แต่การเที่ยวคนเดียวก็เป็นอะไรที่เราชอบ เพราะไม่ค่อยอยากไปกับใคร (ยกเว้นคนรู้ใจ ที่ยังๆไม่มีในตอนนี้ อิอิ)

ขอผ่านไปก่อน เพราะเราจะไปสุสานหอยก่อน ตอนบอกรถว่าไปสุสานหอย ดันบอกผิดว่าไปสุสานหิน
เขาเลยยิ้มให้ซะ สุสานหอยจ้า ไม่ช่ายสุสานหิน (หน้าแตกนิด ๆ )
มาถึงสุสานหอย นั่งรถอ่าวนาง กระบี่ สุสานหอยสีขาว ราคา 60 บาท เสียค่าเข้าชม 20 บาทขาดตัว
วิวด้านบนของสุสานหอย



เที่ยวรอบนี้สวยที่สุดก็รูปนี้ หลังจากนี้ ยังกะผีเสื้อสมุทรเลย กลุ้มใจจริง ๆ

มาดูวิวกันข้างบน เห็นเกาะไก่ไกล ๆ ด้วยแหละ ไก่งวงนะ ได้ข่าวว่าฝรั่งมาเห็นแล้วเห็นรูปร่างหน้าตาเหมือนไก่งวง เลยตั้งชื่อว่าเกาะไก่


เดินลงไปสุสานหอย เดินขึ้นมาผ่านร้านขายของ พวกมุก หอยต่าง ๆ แต่ก็ไม่สนใจ แบบว่าเราเป็นพวกนักอนุรักษ์

จะเอากลับมาก็แต่ความทรงจำดี ๆ กับรูปถ่ายเท่านั้น (เหมือนเป็นคนดีจริง ๆ เลยนะ )

สุสานหอยจ้า







เดินขึ้นมาเหนื่อย มาก ๆ เลยมานั่งกินข้าวผัดปูกับส้มตำ คนไม่ค่อยเยอะ

ไม่ใช่สิ ไม่มีคนเลย เหมือนเราไปเที่ยวคนเดียว นั่งกินไปกินไม่หมด แบบว่าอิ่มใจ ค่าเสียหาย 100 บาท

เดินมาขึ้นรถกลับไปอ่าวนาง 20 บาท เจอพี่ผู้ชายคนหนึ่งบนรถ เขาบอกว่ามาขายผ้าแถวกระบี่ ภูเก็ต

เขาไปซื้อปลาปักกะเป้าที่พอง ๆ มีหลอดไฟข้างใน ราคา 170 บาทจากที่เขาขาย 350 บาท

อวดใหญ่เลย ว่าที่ JJ ขายตั้ง 500 บาท เราแทบจะกดกริ่งลงรถเพื่อไปหาซื้อบ้าง อิอิ

แต่ก็ คิดไป คิดมา อยากดูทะเลแหวกใจแทบขาด ของอะไรไม่เอาหรอก ไปถึงอ่าวนางประมาณ เที่ยงกว่า ๆ

นี่คือหน้าอ่าวนาง มาถึงซะทีเรา




(ตอนต่อไปมาดูทริปอ่าวนาง ทะเลแหวกต่อจ้า)

Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2552 Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2552 14:30:48 น. Counter : 900 Pageviews.		6 comment
Share Tweet