Bloggang.com : Keng

Bloggang.com : weblog for you and your gang

Minerva : Update !!

หวั่น 10 ก.ย. โลกถึงจุดจบ! เซิร์น เดินเครื่องสร้างหลุมดำ

เอกภพหรือจักรวาลประกอบขึ้นจากอะไร ?

มักเป็นคำถามพื้นฐานของมนุษย์เล็กๆ ที่อยากจะเข้าใจในกำเนิดของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างพยายามไขปริศนาเรื่องนี้กันอย่างไม่หยุดหย่อน ล่าสุด องค์กรวิจัยนิวเคลียร์ (European Organization for Nuclear Research) แห่งยุโรป หรือ เซิร์น (CERN) ก็ประกาศว่าจะดำเนินการทดลองครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์โลก เพื่อถอดรหัสของโลกเชิงกายภาพ และไขปัญหาว่าเอกภพประกอบขึ้นด้วยอะไร รวมถึงค้นหาคำตอบว่า จักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยมีนักฟิสิกส์กว่า 2,000 คน จากกว่า 30 ประเทศ และงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านปอนด์ หรือ 260,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การทดลองดังกล่าว จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ บริเวณพรมแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส แถบนครเจนีวา ซึ่งได้มีการสร้างอุโมงค์ขนาดยักษ์ขดเป็นวงกลมยาว 18 ไมล์ ลึก 300 ฟุต และทำการหย่อนเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคขนาดใหญ่ หรือ Large Haldron Collider (LHC) ที่ใช้เวลาสร้างกว่า 19 ปี ลงไป ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อวนใต้ดิน ความยาวประมาณ 27 กิโลเมตร และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 175 เมตร ทดลองเร่งความเร็วอนุภาคด้วยแม่เหล็กนับร้อยๆ ตัว จากคนละด้านของท่อ ให้อนุภาคโปรตอนวิ่งเข้าชนกัน ด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง ซึ่งเป็นเหมือนการจำลองการเกิดบิ๊กแบง

ถ้าทุกอย่างลงตัวสสารจะกลายสภาพ เนื่องจากการปะทะกันอย่างรุนแรง จนกลายเป็นกลุ่มพลังงานมหาศาล ซึ่งจะควบแน่นกลายเป็นอนุภาคแปลกๆ ต่อไป และบางชนิดอาจไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจของการทดลองฟิสิกส์ของอนุภาค คือ การเอาสิ่งโน้นมาชนกับสิ่งนี้แล้วรอดูผลที่เกิดขึ้นก็เท่านั้นเอง

ภายในอุโมงค์จะมีเครื่องมือต่างๆ ในการตรวจสอบเศษชิ้นส่วนที่กระเด็นออกมาจากการปะทะ โดยเครื่องมือชิ้นใหญ่ที่สุด คือ แอตลาส (ATLAS) ซึ่งสูงเท่ากับตึกเจ็ดชั้น และชิ้นที่หนักที่สุด คือ ซีเอ็มเอส (Compact uon olenoid: CMS) ซึ่งหนักกว่าหอไอเฟล!!!

นอกจากการไขความลับของเอกภพ การทดลองครั้งนี้ ยังเป็นการพิสูจน์ ทฤษฎีอนุภาคพระเจ้า หรือ "God Particle" หรือ "Higgs Boson" ของ ศ.ปีเตอร์ ฮิกส์ นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอ ระบุว่า อนุภาคนี้มีอยู่จริง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายออตโต รอสเลอร์ นักเคมีชาวเยอรมัน ให้ความเห็นว่า แม้ "แอลเอชซี" จะได้ชื่อว่า เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา ทว่า มันมีโอกาสสร้างหลุมดำ ที่จะกลืนกินทุกสิ่งอย่างเข้าไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเนื่อง เป็นลูกโซ่ไปยังอวกาศและเวลา

ดังนั้น กลุ่มของรอสเลอร์ จึงยื่นคำร้องต่อที่ประชุมด้านสิทธิมนุษยชนยุโรป เพื่อขอระงับการทดลอง โดยให้เหตุผลว่า "เป็นการละเมิดต่อสิทธิ์การดำรงชีวิตและละเมิดสิทธิ์ในการมีครอบครัว"เนื่องจากหวั่นว่า เมื่อเดินเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่แล้ว จุดจบของโลกจะมาถึง ซึ่งภาพจินตนาการฝันร้ายที่สุดของมนุษย์ตามความเห็นของรอสเลอร์ หากเกิดความผิดพลาดจากการทดลอง มี 2 แบบ คือ

แบบแรก มีการเตือนภัยถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น อาจเป็นช่วงเวลา 1 เดือน โลกจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง ไม่มีเหตุผลใดๆ ประกอบ เพราะแผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นจากรอยเลื่อนอีกแล้ว แต่จู่ๆ มันก็ไหว และไหวในทุกๆ พื้นที่ แม้ไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อน

แรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารบ้านเรือนจะถล่มราบเป็นหน้ากลอง น้ำทะเลเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว เกิดมหันตภัยสึนามิขนาดยักษ์ พัดถล่มพื้นที่ตามชายฝั่งทะเล ฆ่าผู้คนนับล้าน จากนั้นจุดจบของโลกที่แท้จริงจึงมาถึง

โลกเริ่มมีรอยแยกขนาดใหญ่ ลาวาร้อนจัดใต้พื้นปฐพีไหลขึ้นมานองเต็มพื้นดิน มหาสมุทร จนท้องทะเลเดือดพล่าน เกิดเฮอริเคนขนาดยักษ์หลายลูกกระหน่ำโลก สิ่งก่อสร้างทุกชนิดพังทลาย ต้นไม้หักโค่น ภูเขาสูงถล่มลงมา เพราะแผ่นเปลือกโลกแตก

ทุกอย่างบนโลก ไม่ว่าจะเป็นหินนับล้านๆ ตัน น้ำ อากาศ ชีวิตทุกชีวิต ถูกดูดเข้าไปในแรงดูดที่มองไม่เห็นแต่มีพละกำลังมหาศาล ถ้ามองลงมาจากอวกาศเบื้องบนจะเห็นว่า โลกสีฟ้าขาวไหลลงไปในหลุมดำด้วยความเร็วเพียงพริบตาเดียว

แบบที่ 2 คือ ไม่มีเวลาสำหรับการเตือนภัยใดๆ และเป็นหายนะที่รุนแรงกว่าแบบแรก โดยภายในเวลา 1 ใน 20 ของวินาที โลกทั้งใบจะหายไปจากจักรวาล จากนั้นอีกไม่ถึง 2 วินาที ดวงจันทร์จะหายไปด้วย 8 นาทีต่อมา ดวงอาทิตย์จะแตกเป็นเสี่ยง ตามด้วยดวงดาวทั้งหมดในระบบสุริยจักรวาล

การทำลายล้างขยายวงจากโลกของเราไปด้วยความเร็วแสง ทำให้มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ในจักรวาลอื่นตายไปด้วย และไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่จะหยุดยั้งหายนะนี้

ขณะที่ "เซิร์น" ออกมาโต้ว่า ไม่มีทางที่หายนะจะเกิดขึ้นกับโลกแน่นอน เพราะการเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี เป็นการเร่งให้อนุภาคชนกันก็จริง แต่การชนกันของ "อนุภาคโปรตอน" ชนกันที่ระดับใกล้ความเร็วแสงนี้ มีพลังน้อยกว่าอนุภาคที่ชนกันในธรรมชาติเป็นอย่างมาก

และ หากการชนกันของอนุภาคทำให้โลกหายนะแล้ว การชนกันของอนุภาคในธรรมชาติของโลก ที่เกิดขึ้นยาวนานกว่าหมื่นล้านปี นับตั้งแต่เกิดบิ๊กแบงก์เมื่อ 13,700 ล้านปีก่อน ก็จะทำให้โลกวินาศไปนานแล้ว นอกจากนี้ รังสีคอสมิกที่มาจากนอกโลก อันเกิดจากการชนกันของอนุภาค จนเกิดพลังงานที่สูงกว่าเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซีมาก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ทำให้เกิดผลร้ายแก่โลกแต่อย่างใด

ส่วนข้อวิตกที่ว่าจะเกิดหลุมดำกลืนกินโลก เซิร์น ก็ชี้แจงว่า หลุมดำขนาดเล็กที่เกิดจากการชนกันของอนุภาคจะหายไปในเวลาอันสั้น เพราะหลุมดำที่ว่านี้เกิดขึ้นจากการชนกันของ "ควาร์ก" และ "กลูออน" ซึ่งอยู่ในอนุภาคโปรตรอน ดังนั้น จึงสลายไปอยู่ในรูปของอนุภาคที่สร้างหลุมดำนั้นขึ้นมาได้ ช่วงอายุของหลุมดำเล็กจึงสั้นมากๆ

อย่างไรก็ตาม แม้นักวิทยาศาสตร์หลายคนเกรงว่า อาจก่อให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่กลืนพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกหายไปทั้งหมด หรือท้ายที่สุดแล้วการลงทุนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาทเพื่อหาจุดกำเนิดของจักรวาลอาจลงท้ายด้วยการที่ไม่พบอะไรเลย …ถึงกระนั้น ก็ไม่อาจหยุดความสนใจใคร่รู้ของมนุษย์โลกได้.

ที่มา : //hilight.kapook.com/view/28644
โพส : นายบัญชา อยู่ยงศิลป์ 5131601374 Law Sec 02

Create Date : 09 กันยายน 2551

Last Update : 9 กันยายน 2551 23:21:09 น.

Counter : 462 Pageviews.

6 comment

Share
Tweet

ถกร่วม3ฝ่ายสรุป แนะสมัคร "ยุบสภา-ลาออก"

ประชุมร่วมรัฐสภา-ฝ่ายค้าน-รัฐบาล มอบงาน “สุรพงษ์" คุย "สมัคร" ชี้มีทางออก "ยุบสภา-ลาออก" "ปู่ชัย" เชื่อนายกฯลาออกปัญหาก็ไม่จบ ด้าน"ประสพสุข"ไม่ละความพยายามเตรียมหาคนกลางถก"พันธมิตร" อภิสิทธิ์”ระบุทุกอย่างอยู่ที่“สมัคร”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม 3 ฝ่ายระหว่าง สภาผู้แทนราษฏร วุฒิสภา และฝ่ายค้าน โดยนายประสพสุข บุญเดช ประ ธานวุฒิสภา แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงความคืบหน้าในการเจรากับผู้บัญชาการทหารบก และกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ได้ตั้งคณะทำงานประสานงานขึ้นมาคณะหนึ่งจำนวน 8 คน

เพื่อร่วมปรึกษาหารือในการทำงาน โดยล่าสุดได้พบพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.โดยการประสานงานของพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช และพล.ร.อ.ณรงค์ ยุทธวงศ์ ส.ว.สรรหา

ซึ่งได้สรุปสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นขณะนี้ โดยพล.อ.อนุพงษ์ ได้แสดงความห่วงใยและอยากให้ทุกฝ่ายยึดความมั่นคง และประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก หันหน้าเข้าหากัน ถอยคนละก้าว

ทั้งนี้ทางทหารได้ยืนยันหนักแน่นคือ ทหารจะไม่ใช้กำลังในการสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯและทหารจะไม่ทำการปฏิวัติ รัฐประหาร โดยเห็นว่าวิธีการทางรัฐสภาเป็นแนวทางแก้ปัญหาดีที่สุด

ส่วนพันธมิตรฯนั้นได้ประสานไปแล้วแต่ยังไม่มีการพบปะเจรจากันเพราะจังหวะ เวลาไม่เอื้ออำนวย แต่ก็รอเวลาโดยที่เปิดประตูกว้างเป็นผู้เจรจาต่อไป

นาย ประสพสุข กล่าวว่า จากข้อมูลและข้อคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆจึงเห็นว่าทางออกที่จะแก้ปัญหาความขัด แย้งการเมือง ทุกฝ่ายควรลดทิฐิ และเสียสละเพื่อประเทศชาติ ถอยคนละก้าว โดยเสนอแนวปฏิบัติ 3 แนวทางคือ 1. นายกรัฐมนตรี ควรประกาศลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้มีการตั้งรัฐบาลใหม่ที่ทุกที่ทุกฝ่ายรับได้

หรือนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ 2. พันธมิตรฯต้องเคารพและปฏิบัติอยู่ภายใต้กฎหมายและยุติการชุมนุม และ 3. ส่วนแนวทางเรื่องการทำประชามติที่นายกฯเสนอ คณะทำงานเห็นว่า ไม่น่าจะปฏิบัติได้ตอนนี้

พรรคการเมืองเสนอ"สมัคร"ลดอุณหภูมิ

เมื่อเวลา 15.00 น. ภายหลังจากที่ฝ่ายนิติบัญญัติพร้อมด้วยแกนนำพรรคการเมืองหารือร่วมกันเกือบ 3 ชั่วโมงต่อมานายมั่น พัธโนทัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยว่า

ที่ประชุมได้มอบหมายให้นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและเลขาธิการพรรคพลังประชาชนไปหารือกับนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้นายกฯและรัฐบาลลดอุณหภูมิลงบ้าง

และขอให้ฟังทุกฝ่ายบ้างเพื่อสร้างสถานการณ์ทางการเมืองให้ดีขึ้น ในเมื่อต่างคนต่างแข็งกร้าว จึงเห็นว่าควรให้นพ.สุรพงษ์ไปคุยกับนายสมัครเพื่อหาหนทางที่จะอะลุ่มอะลวย กัน ซึ่งอาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ดีขึ้น

"แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่นพ.สุรพงษ์ไปคุยกับนายสมัครแล้วก็จะมีการประชุม อีกรอบเพื่อแจ้งให้ทุกฝ่ายรับทราบผลการเจรจาว่าเป็นไปในทิศทางไหน" นายมั่น กล่าว

ด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวว่า การหารือวันนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างดี มีการมอบหมายให้นพ.สุรพงษ์ไปพูดคุยกับนายสมัคร เพราะทุกอย่างต้องมีทางออกและต้องเป็นไปในทางทีดีและสร้างสรรค์ ผู้ประสานต้องไปเจรจาเพราะมีเงื่อนไขเยอะ

นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ควรยึดหลักการในระบอบประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างก็ต้องอยู่ที่การตัดสินใจของนายกฯ หากนายกฯไม่แก้ไขปัญหาก็แก้ไขไม่ได้ ซึ่งหากนายสมัครแก้ไขปัญหาไม่ได้ก็ควรเปิดโอกาสให้คนอื่นมาแก้ไข หรือไม่ก็ยุบสภาเพื่อให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน

แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็อยู่ที่อำนาจของนายกฯว่าจะดำเนินการ อย่างไร แต่ทั้งหมดก็เป็นการพูดในหลักการของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเห็นว่านายกฯญี่ปุ่นหรือนายกฯแคนาดาก็ลาออกเพื่อแสดงสปิริต

เมื่อถามว่าแสดงว่าที่ประชุมเสนอให้นายกฯลาออกใช่หรือไม่ นายสุวิทย์กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องการลาออกเป็นความเห็นส่วนตัว

ขณะที่นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้ตนไปพูดคุยกับนายกฯ ซึ่งข้อเสนอนั้นมีหลากหลาย ซึ่งการพูดคุยวันนี้ตนไม่รู้สึกหนักใจที่จะไปพูดคุยกับนายกฯและการหารือ วันนี้ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีชิมไปบ่นไป

เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลจับมือกันแน่นเหมือนเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนขั้วใช่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยกัน เราคุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์หลายอย่าง และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่าประธานวุฒิสภาได้เสนอให้มีการยุบสภา นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า อันนี้เป็นเพียงข้อเสนอหนึ่งยังไม่มีการลงมติ วันนี้เป็นเพียงการระดมความเห็น เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยกับพันธมิตรฯหรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ปิดกั้นการเจรจากับกลุ่มใดๆทั้งสิ้น

มอบงาน“สุรพงษ์"กล่อม"สมัคร”ยุบสภา-ลาออก
ภาย หลังการประชุมหารือระหว่างประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภา และ 7 พรรคการเมือง นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา แถลงข่าวร่วมกัน

นายชัย กล่าวว่า รัฐสภาในฐานะตัวแทนของประชาชนได้ปรึกษากันเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน สรุปได้ว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้เลขาธิการพรรคพลังประชาชนไปเรียนนายก รัฐมนตรี ถึงข้อห่วงใยและข้อมูลต่างๆที่ได้มีการพูดคุยกัน

เมื่อได้คำตอบอย่างไรให้มาแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ โดยส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจว่าประธานวุฒิสภาจะเป็นคนกลางที่ประสานประโยชน์ ของทุกฝ่ายได้ แต่การจะให้ทุกอย่างจบภายในวันเดียวคงเป็นไปไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นหมักหมมพอสมควร

ผู้สื่อข่าวถามว่าว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรี ปฏิบัติขัดรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไรต่อไป นายชัย ตอบว่าก็ต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลใหม่หากยังไม่มีกระบวนการยุบสภา

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงต้องให้น.พ.สุรพงษ์ไปแจ้งนายกฯด้วย นายชัย กล่าวว่า ก็ทุกอย่างอยู่ที่นายกฯว่าจะตัดสินใจอย่างไร จึงให้น.พ.สุรพงษ์ไปเรียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องที่จะต้องแก้ไข

เมื่อถามว่ามีข้อเสนอให้นายกฯยุบสภาหรือลาออกใช่หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า แล้วแต่เลขาธิการพรรคพลังประชาชนจะไปปรึกษากับนายกฯเอง เพราะคิดว่าถึงนายกฯลาออกปัญหาก็คงไม่จบ

และการทำประชามติก็ยังไม่สามารถทำได้แต่ปัญหาของประชาชนทั้งประเทศเป็น เรื่องใหญ่ หากทุกฝ่ายยังประจันหน้ากันอยู่ เศรษฐกิจของประเทศมีแต่ทรุดลงทุกวัน ต่างประเทศก็ไม่เชื่อมั่น

เมื่อถามว่ามีข้อเสนออะไรไปยังพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือไม่ นายชัย ตอบว่า ไม่กล้าบังอาจ เมื่อถามว่ามีข้อเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ได้สอบถาม 6 พรรคร่วมรัฐบาลแล้ว เขาร่วมมือผนึกกันแน่น ไม่มีพรรคใดถอนตัว ขณะนี้เราขอร้องให้ทุกฝ่ายถอยคนละก้าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเสนอชื่อนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยเป็นนายกฯคนต่อไปหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบ อยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลว่าจะมีมติอย่างไร

เมื่อถามว่าการประชุมร่วมกันของฝ่ายนิติบัญญัติและพรรคร่วมรัฐบาล ครั้งนี้ถือว่าล้มเหลวหรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ไม่ล้มเหลว บรรยากาศของบ้านเมืองจะเริ่มดีขึ้นเพราะลูกเห็บตกแล้ว และทันทีที่ต่างฝ่ายต่างถอยคนละก้าวก็ควรจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้แล้ว

ด้านนายประสพสุข กล่าวว่าแม้จะได้รับการปฏิเสธจากแกนนำพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตยในการเจรจา แต่ตนก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจะหาทางให้คนกลางที่คิดว่าคุยกับพันธมิตรฯได้เป็นผู้ไปเจรจาแทน

อภิสิทธิ์ระบุทุกอย่างอยู่ที่“สมัคร”
นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรง เพราะยังมีความเสี่ยง

โดยตนได้แสดงความห่วงใยในกรณีที่ จ.อุดรธานี อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักเรื่องการไปประชุมหรือการพบปะพูดจาปราศรัยที่อาจเพิ่ม ความรุนแรงได้อีก ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งได้เร่งให้หาข้อยุติก่อนความรุนแรงจะบานปลายออกไป แต่บางฝ่ายเห็นว่าถ้าปล่อยเวลาออกไป จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายและแก้ไขได้ง่ายขึ้น

เมื่อถามถึงการที่นายชัยระบุว่ากระบวนการแก้ปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัว นายกฯ จะหมายความถึงการยุบสภาหรือการที่นายกฯลาออกใช่หรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า อำนาจตรงนี้อยู่ที่นายกฯ ไม่มีใครสามารถไปบังคับหรือตัดสินแทนนายกฯได้

ทั้งนี้มีความพยายามจะเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งเราไม่ได้ปฏิเสธ แต่เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องไปดูว่าจะเจรจาในกรอบใด เพราะที่ผ่านมา การพยายามเจรจาของประธานวุฒิสภายังไม่ได้รับกรอบการเจรจาจากรัฐบาล

ต่อข้อถามว่าได้พุดคุยถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานะ ของนายสมัครในคดีการจัดรายการชิมไปบ่นไปด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดถึงขั้นนั้น แต่ทุกฝ่ายเห็นว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการรัฐสภา

ซึ่งคนที่จะมาเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารจะต้องมาจากเสียงข้างมาก ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการพูดถึงการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง และไม่ได้คิดไปไกลกว่านั้น เพียงแต่พูดให้ทุกคนได้รับทราบว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องสรรหาผู้มาเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่าคาดหวังหรือไม่ว่าจากการหารือในวันนี้ สถานการณ์จะคลี่คลายหรือจะคงอยู่อย่างนี้ต่อไป ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ตนยังเป็นห่วงอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดว่าฝ่ายค้านและวุฒิสภาเป็นตัวประกอบ เพราะเราทำตามหน้าที่ และรัฐบาลก็เรียกร้องให้ทุกอย่างอยู่ในระบบ

ต่อข้อถามว่าการเจรจาดังกล่าวดูจะยืดเยื้อเกินไปหรือไม่ เพราะสถานการณ์ขณะนี้มีความรุนแรงต่อเนื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าไม่เจรจา จะปล่อยตามสภาพหรืออย่างไร ซึ่งถ้าปิดช่องทางการเจรจาไปเลย ก็จะเป็นสิ่งที่อันตราย แต่เมื่อมีการเจรจาก็ต้องมีความตั้งใจของทั้ง 2 ฝ่ายที่จะหาข้อยุติร่วมกัน ซึ่งตรงนี้ยังไม่เกิด จึงดูเหมือนว่ายังยากอยู่

"ผมรู้สึกหนักใจและเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้อย่างไร เพราะยังมองไม่เห็นว่ามีวิธีใดจะเป็นหลักประกันได้ว่าสามารถคลี่คลาย สถานการณ์ได้ และเห็นได้ชัดว่าประชาชนมีความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจและสังคม แต่การทำให้แต่ละฝ่ายพยายามเข้าใจอีกฝ่ายยังมีน้อยมาก

คือ ต่างฝ่ายต่างมองในมุมของตัวเอง ซึ่งนี่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ไม่ใช่ในกลุ่มผู้นำเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนด้วย ผมคิดว่าถ้าสามารถทำให้สังคมสมานฉันท์ได้ ต้องเริ่มต้นจากการพยายามเข้าใจคนอื่นก่อน มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯก็ไม่มีความเชื่อมั่นว่ากระบวนการทาง รัฐสภาจะสามารถแก้ปัญหาได้ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า ถ้าไม่ใช้ระบบนี้แล้ว จะใช้เครื่องมือใด ที่เราทำทั้งหมดรวมถึงการที่นายประสพสุขได้พบผบ.ทบ. คือ เราไม่อยากให้การปฏิวัติและการใช้ความรุนแรงเป็นคำตอบ

ผู้สื่อข่าว ถามถึงข้อเรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับคนทำงาน ถ้าเขามั่นใจว่ายกเลิกแล้ว สามารถควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา ก็ทำได้ เพราะการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ทำให้เศรษฐกิจได้รับความเสียหาย

Create Date : 08 กันยายน 2551

Last Update : 8 กันยายน 2551 21:32:15 น.

Counter : 301 Pageviews.

1 comment

Share
Tweet

สกอ. ให้มหาวิทยาลัยดูแล นิสิต-นศ. หยุดเรียนชุมนุม เตือนระวังหมดสิทธิ์สอบ

สกอ.ส่งหนังสือขอมหาวิทยาลัยร่วมมือสอดส่องความสงบเรียบร้อย ทำความเข้าใจนักศึกษาถึงสถานการณ์บ้านเมือง ชี้หากหยุดเรียนแล้วเวลาเรียนไม่พอ อาจต้องเสียเวลาสอบซ่อมเรียนซ้ำ ขอให้คิดถึงอนาคตด้วย ยืนยันไม่ห้ามแสดงความคิดเห็นทางการเมือง
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ได้ทำหนังสือถึงมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ขอความร่วมมือให้สอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อยของนิสิตนักศึกษา และชี้แจงให้นักศึกษาเข้าใจสถานการณ์บ้านเมือง โดยเฉพาะภายหลังการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องในการดูแลของมหาวิทยาลัยโดยตรง ซึ่งอาจมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งไม่ไปเรียน แต่ไม่ได้หมายความว่ามหาวิทยาลัยต้องประกาศหยุดเรียน ซึ่งในช่วงนี้เพิ่งผ่านการสอบกลางภาค และกำลังเข้าสู่การสอบปลายภาค นิสิตนักศึกษาที่ไม่ไปเรียนแล้วปรากฏว่าเวลาเรียนไม่เพียงพอตามระเบียบ อาจต้องเสียเวลาเรียนซ้ำหรือสอบซ่อมอีก

นายสุเมธ ยืนยันว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไม่ได้ออกกฎห้ามนักศึกษาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และคิดว่าไม่เป็นการผิดต่อระเบียบทางวินัยของสถาบัน แต่ควรคำนึงถึงอนาคตในเรื่องการเรียนด้วย และต้องระวังจะถูกชักจูงไปโดยไม่เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงเหมือนกรณีชุมนุมนักศึกษาในอดีต เพราะเวลาและสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว

ด้านนายวิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงการที่นิสิต นักศึกษารวมกลุ่มกันออกมาชุมนุมและมีการนัดหมายจะหยุดเรียนในวันที่ 9 – 11 กันยายนนี้ ว่าถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่นิสิต นักศึกษา สามารถทำได้ อีกทั้งการเรียนในระดับอุดมศึกษาถือเป็นการสร้างคนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ จึงให้สิทธิเสรีภาพโดยเชื่อว่านิสิต นักศึกษาเหล่านั้นเขามีความรู้ มีความคิด มีปัญญาเป็นของตัวเอง

"มศว คงไม่ปิดการเรียนการสอนในวันที่ 9–11 กันยายน เชื่อว่านิสิต นักศึกษาบางส่วนอาจหยุดเรียนไปร่วมชุมนุม ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่เข้าห้องเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผมให้นโยบายไปยังรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาศักยภาพนิสิต ให้ประสานไปยังองค์การนิสิต สภานิสิต ชมรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้ดูแลนิสิตที่ไปร่วมชุมนุมด้วย" นายวิรุณ กล่าว

อธิการบดี มศว แนะนำว่า ไม่ว่าจะไปรวมกลุ่มกับฝ่ายใด ขอให้ใช้ความรู้เป็นฐานสำคัญและจงใช้ปัญญา โดยมีสติเป็นหางเสือที่จะนำเราไปเข้าร่วมกิจกรรมและจงมองประเทศชาติในอนาคตเป็นเป้าหมายหลัก หากมีความรุนแรงใดๆ เชื่อว่านิสิต นักศึกษาต้องมีวิจารณญาณในการดูแลตัวเอง ส่วนหนังสือเวียนที่ขอร้องให้สถาบันศึกษาตักเตือนนิสิต นักศึกษาไม่ให้ออกไปร่วมชุมนุมนั้น ทาง มศว ยังไม่ได้รับหนังสือเวียนอย่างเป็นทางการ

ที่มา : สำนักข่าวไทย MCOT วันที่ 7 กันยายน 2551
โพส : นายบัญชา อยู่ยงศิลป์ 5131601374 Law Sec 02

Create Date : 08 กันยายน 2551

Last Update : 8 กันยายน 2551 21:33:30 น.

Counter : 310 Pageviews.

3 comment

Share
Tweet

ผบ.ทอ. แนะถอยคนละก้าว แก้วิกฤตการเมือง

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ เสนอแนะทุกฝ่ายถอยคนละก้าว เพื่อแก้วิกฤตการเมือง

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการหารือของผู้บัญชาการเหล่าทัพ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าไม่มีนัยใด ๆ ทหารพยายามเป็นกลาง ส่วนแนวคิดที่จะให้คนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ยยุติปัญหา จะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนที่ 2 ฝ่ายยอมรับ และยังเห็นว่าทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ควรยึดถึงแต่การแพ้ชนะ ควรถอยคนละก้าว และคำนึงถึงประเทศเป็นสำคัญ

นอกจากนี้ ยังได้รับทราบว่า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มีความเป็นห่วงกรณีนักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหว

ที่มา : สำนักข่าวไทย MCOT วันที่ 8 กันยายน 2551
โพส : นายบัญชา อยู่ยงศิลป์ 5131601374 Law Sec 02

Create Date : 08 กันยายน 2551

Last Update : 8 กันยายน 2551 11:17:06 น.

Counter : 327 Pageviews.

4 comment

Share
Tweet

วันนี้หลายฝ่ายเร่งหารือแก้ปัญหาวิกฤตบ้านเมือง

หลังจากก่อนหน้านี้ 6 พรรคร่วมรัฐบาล ได้หารือมีข้อสรุปจะอยู่ร่วมกันแก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองต่อไป พร้อมสนับสนุนการทำประชามติ รวมถึงเปิดสภาร่วมให้ทุกฝ่ายได้แสดงความเห็น
อย่างไรก็ตาม เมื่อยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางการแก้ปัญหารวมถึงติดข้อกฎหมายต่างๆ ทำให้วันนี้ 6 พรรคร่วมรัฐบาล นัดหารือร่วมกันอีกครั้ง

ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติประกอบด้วย ตัวแทน 3 ฝ่าย คือประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา และผู้นำฝ่ายค้านฯ จะหารือเช่นกันที่รัฐสภา หลังมอบหมายให้แต่ละฝ่ายไปเจรจาเพื่อหาทางออกของประเทศ ในการประชุมนัดแรก

ที่มา : สำนักข่าวไทย MCOT วันที่ 8 กันยายน 2551
โพส : นายบัญชา อยู่ยงศิลป์ 5131601374 Law Sec 02

Create Date : 08 กันยายน 2551

Last Update : 8 กันยายน 2551 10:59:44 น.

Counter : 268 Pageviews.

1 comment

Share
Tweet

1 2 3 4 5 6 7 8

Keng_MFU

Location :
เชียงราย Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

Group Blog

ABOUT US
ระบบการปกครอง
UpdateNews !!!
BIOGRAPHY
เรื่องน่ารู้
เหตุการณ์สำคัญของไทยในอดีต
LINK BLOG:SEC2
War War War
วงการบันเทิง
สภาพอากาศไทยในวันนี้
ทันโลกกีฬา

All Blogs

สกอ.เผยคนไทยเรียนประวัติศาสตร์น้อย
บุญลือ เผยข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี อาจารย์ฉาวมหาวิทยาลัยรัฐมากสุด
ในหลวงให้ซื่อสัตย์ บ้านเมืองจะอยู่รอด
สุเทพ เชื่อปัญหาความขัดแย้งยังไม่จบ
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ สมัคร ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี
หวั่น 10 ก.ย. โลกถึงจุดจบ! เซิร์น เดินเครื่องสร้างหลุมดำ
ถกร่วม3ฝ่ายสรุป แนะสมัคร "ยุบสภา-ลาออก"
สกอ. ให้มหาวิทยาลัยดูแล นิสิต-นศ. หยุดเรียนชุมนุม เตือนระวังหมดสิทธิ์สอบ
ผบ.ทอ. แนะถอยคนละก้าว แก้วิกฤตการเมือง
วันนี้หลายฝ่ายเร่งหารือแก้ปัญหาวิกฤตบ้านเมือง
พันธมิตรฯ คาดชุมนุมอาจไม่ยืดเยื้อ หากคดีนายกฯ เสร็จสิ้น
สภาทนายความหนุน ผบ.ทบ.ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา
สาทิตย์ นำทีมยื่นประธานสภาฯ ตรวจสอบ รมต.พปช.เกี่ยวข้องม็อบหนุนรัฐบาล
มติ กกต.ยุบ พปช.
สื่อต่างประเทศเกาะติดสถานการณ์ในไทย
แพทย์ขอนแก่นเรียกร้องทุกฝ่ายยุติความรุนแรง ยันไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่
ประภัสร์ ประกาศคว้าชัยชนะสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ทรงศักดิ์ ปัดขึ้นเวที นปก.ปลุกให้ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ
ยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะเพิ่มขึ้นเกือบ 40 คนแล้ว
พันธมิตรฯ ตจว. ขู่เคลื่อนไหวใหญ่ หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม
ผบช.น. เตรียมนำหมายจับไปให้แกนนำพันธมิตรฯ
เตรียมขอศาลออกหมายจับ แกนนำพันธมิตรพรุ่งนี้
อัยการยื่นฟ้องยึดทรัพย์ 'ทักษิณ'
"ทักษิณ"จ้าง"ฟิลฮอลล์"
"อภิสิทธิ์" ชี้การเมืองทำไทยพลาด
เปิดประวัติ เตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศคนใหม่
ชาวบ้านแห่เติมน้ำมันคึกคัก พอใจนโยบาย 6 เดือนลดภาระ
พิพาทไทย-เขมร กระทบต่อภาพลักษณ์ของอาเซียน
อาเซียนตอกหน้ากัมพูชา ร้อง "ยูเอ็น" ทำปัญหาบาน
เชษฐาหลบ! ไม่แจง กังขา ลิเก ไฟใต้
ใต้ยังป่วน! ซุ่มยิงทหารที่กรงปีนัง สาหัส1
แกนนำป่วนใต้แถลงหยุดยิง12.00น.
นายกฯ ฟันธง ปปช.ไม่ถูกกม. ไม่ถวายสัตย์ก่อนทำหน้าที่
จ่อนำเข้าดีเซลราคาถูกรัสเซีย ช่วยรถบรรทุกเดือนละ 3 แสนตัน
ยูเนสโก รับรองแล้วพระวิหารมรดกโลก
ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชัดแถลงการณ์ร่วมขัด ม.190
สมัคร รับเงินช่วยจากจีน 400 ล้านดอลลาร์
จำลองพร้อมยุติชุมนุม ให้ศาลออกคำสั่งลงมา
รวบน้าชายหื่น ข่มขืน 2 หลาน จับอีกราย ที่หาดใหญ่ พ่อขยี้ลูก
จับ 2 นศ. จ่อยิงลูกเต็นท์รถ หลังแชตลวงแฟนไปขืนใจ

Friends' blogs

NoT EasY
ป้ามด
MFULAW51
เด็กน้อย ณ ดอยแง่ม

Webmaster - BlogGang

[Add Keng_MFU's blog to your web]

Links

มหาวิทยาลัย แม่ฟ้าหลวง
AJ.charosville

BlogGang.com

Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.